เฮ้อ...แย่จริงๆ น่าจะบอกไปตามตรง เค้าจะได้เตรียมตัวรักษาและป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่เชื้อ...

ขอเป็นกำลังใจให้เพื่อนท่านหายป่วยเร็วๆนะครับ

มีส่วนมาก ทั้งข่าวชุมชนไม่รับผู้ป่วยที่รักษาหายแล้ว ทั้งข่าวชุมชนต่อต้านโรงแรมที่กักกันตัว กลายเป็นคนไม่กล้าเปิดเผยประวัติกลัวสังคมรับไม่ได้

ไอ้พวกที่ปกปิดข้อมูล พอมันรักษาหายใจตั้งหาข้อมันด้วยจะดีมาก มันต้องมีบทลงโทษทางกฎหมายที่ชัดเจนได้แล้วกับเคสแบบนี้ มันไม่ใช่รายแรก แต่มันหลายรายแล้วที่ปกปิดข้อมูลกับเจ้าหน้าที่

ไม่รู้จะพิมพ์ด่าไรมัน มันคงไม่ได้อ่าน

เอาเป็นว่าให้กำลังใจเพื่อนท่านละกันครับ สู้ๆครับ ขอบคุณครับ

หน้ากาก N 95ก็ไม่มีให้ใช้ ทั้งๆที่แค่บอกประวัติให้คนอื่นระวังตัวมันก็ไม่ยอมทำ

* จริงๆ ถ้ามีบทลงโทษหนักๆ พวกจงใจปิดประวัติการเดินทางออกมานี่นะ แม่งบอกความจริงหมดอะ เชื่อผมเหอะ


คนไทยมันงี้จริงๆ ใช้ไม้อ่อนก็เหยาะแหยะ ต้องใช้ไม้แข็ง


ดูขนาดเคสอะไรไปถ่ายรูปรถตัวเองบนทางด่วนอะ ขนาดเขามีเวลาชัดเจนแล้วนะ ห้าวเป้งจริงๆ แม่งวัวล้วนๆ

มีคนถามมาว่า กฏหมายมีมั้ยในการจัดการกับพวกนี้

กฏหมายอ่ะมีครับ ไม่ใช่ว่าไม่มีถ้าจำไม่ผิด ปรับ 2 หมื่น จำคุก 6 เดือนมั้ง

แต่มันคือเรื่องบังคับใช้กันภายหลัง หลังจากที่เค้ารักษาหายไปแล้ว

ปัญหาคือ ความเสียหายที่เกิดขึ้นอ่ะ มันใหญ่เกินกว่าที่ค่าปรับ กับการจำคุก ที่กฏหมายกำหนดให้ลงโทษ ครับ

แล้วอีกอย่าง ที่ออกมาโพส ในฐานะหมอ ไม่ได้ต้องการเอาคนพวกนี้ไปลงโทษหรอก ไม่รู้จะลงโทษไปทำไม เจอมาบ่อยแล้วพวกทำผิดกฏหมาย หมอก็แค่ก้มหน้าก้มตารักษาไป (ยกตัวอย่างพวกเมาแล้วขับ)

เรื่องบุคลากรติดโรคอ่ะเรื่องนึง

แต่บุคลากรที่ไม่ติดโรค และต้องโดนกักตัวอ่ะ

ถ้ามันเกิดขึ้นเยอะๆ มันก็ทำให้ความสามารถในการรับคนไข้ของประเทศเราลดลง

เมื่อใดก็ตามที่คนป่วย เอาชนะความสามารถในการรับคนไข้ของประเทศเราแล้ว

อัตราการตายของคนไทยจะเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด

อยากให้เห็นความสำคัญตรงนี้มากกว่า

ปัญหาที่พบเห็นได้ชัด

พวกนี้ไม่กล้าพูดความจริง

น้องผมทำงานพยาบาลศิริราช ให้คิดเสมอ ผู้ป่วยอาจมีเชื้อ

ต้องเซฟตนเองอยู่เสมอ

ไม่บอกหมอ มันไม่อยากหายหรือไง

งง ใจ

เอาจริงๆ ผมก็โคตรจะไม่เข้าใจ ว่าไอ่พวกปกปิดประวัติ มันจะปิดทำแมวไร

อย่างแรก บอกไปเลยให้ละเอียด เค้าก็จะได้ไปตามอะไรกันถูก

ใครเคยเจอเรา เราอาจจะเอาไปติดอะไรใครบ้าง ซึ่งผมก็ไม่เห็นว่าเราจะเสียหายอะไรเลย

อย่างที่สอง ถ้าเราเสี่ยงจริง เค้าก็จะดูแลเราเป็นพิเศษ สมมติผมเคยไปอิตาลีมา

เค้าคงดูแลผมเป็นพิเศษ มากกว่าคนที่ป่วยปกติแน่ หมอพยาบาลอาจจะระวังเรามากขึ้น

อาจจะกลัวในการเข้าใกล้สัมผัสเรามากขึ้น แต่แล้วไงฟระ

คิดยังไง ก็เป็น Win-Win นอกจากจะได้ช่วยสังคม ช่วยบุคลากรทางการแพทย์ ยังได้ช่วยตัวเองอีก

ดีกว่าให้หมอคิดว่าเราไม่เป็นไร แต่สุดท้ายเป็นขึ้นมา แล้วเชื้อมันลามไปนู้นนี่ ทรมานกว่าเดิมอีก

แทนที่จะได้เป็นเคสเร่งด่วน ได้ตรวจเร็ว ได้รักษาเร็ว ละถ้าไม่เป็นจริงๆ เดี๋ยวก็ได้กลับบ้านเลย

ไม่ใช่เค้าจะกักเราไว้เป็นเดือนๆ อะไรนานขนาดนั้น

ต้องคุกอย่างเดียว

ข้างบ้านผมไปประเทศเสี่ยงมา ขังตัวเองในบ้านจะครบ 14 วันละครับ ตอนแรกก็นึกว่ามันหายไปไหน มีคนส่งข้าวส่งน้ำให้ทุกวันถึงรู้

ปกติมันเป็นคนไม่สุงสิงกับคนในชุมชน ตอนนี้แม่งโคตรนับถือมันเลยว่ะครับ

คือจะปิดข้อมูลกับคนที่ช่วยตัวมึงเองทำไม ไม่เข้าใจ...

ภาระชิบ

ทำให้หมอ พยาบาล คนทำงานหน้างาน ทำงานลำบาก

สันขวานจริง

กี่รายต่อกี่รายแล้ว ไอ้พวกคนไข้กากๆแบบนี้ ทำคนอื่นเดือดร้อน มีปัญญารับผิดชอบอะไรบ้างก็ไม่รู้

ขอให้เพื่อนท่าน หายไวๆนะครับ รวมถึงขอส่งกำลังใจให้บุคคลากรทางการแพทย์ที่ต่อสู้อยู่กับสิ่งเหล่านี้ด้วย

ภูเก็ต ก็มีเคสปกปิดข้อมูลแบบนี้อยู่ ทำวุ่นวายกันทั้งโรงพยาบาล เวนแท้ๆ