ในที่สุดก็เข้าใจว่าทำไมแต่ละลีคถึงไม่เคยมีแนวคิดยกเลิกฤดูกาลหน้า
จากข่าวของล่าสุดของ ss ตามกระทู้นี้
http://www.soccersuck.com/boards/topic/1868827
อ้างอิงจาก:
เป็นที่เข้าใจว่าเส้นกำหนดในสัญญากับบริษัทผู้ถือสิทธิ์ในการถ่ายทอดสดสำหรับฤดูกาลนี้คือวันที่ 16 กรกฎาคม ซึ่งหากเตะเลยเวลาดังกล่าวจะทำให้พรีเมียร์ลีกสูญเงินราว 762 ล้านปอนด์
บริษัทผู้ถือสิทธิ์ถ่ายทอดในอังกฤษอย่าง สกายสปอร์ต และ บีทีสปอร์ต ต้องการความชัดเจนอย่างเร็วที่สุด เนื่องจากตอนนี้สมาชิกที่จ่ายเงินติดตามนั้นทยอยยกเลิกกันไปจำนวนมาก
“ถ้าเราไม่จบฤดูกาลนี้เราต้องคืนเงินราว 750 ล้านปอนด์ให้บริษัททีวี”
“แต่ถ้าเราไม่เล่นฤดูกาลหน้าเลย เราอาจจะเสีย 3 พันล้านปอนด์”
ถ้าผมจับประเด็นจากข่าวนี้ไม่ผิดที่ ผู้บริหาร พรีเมียร์ให้ข้อมูลนี่ค่อนข้างชัดว่าประเมินตัวเลขละเอียดยิบไว้หมดแล้ว
1. ถ้าเตะไม่จบฤดูกาลภายใน 16 ก.ค. ต้องคืนเงินราว 762 ล้านปอนด์ เท่ากับกำหนดเส้นตายไปในตัวว่าต้องพยายามจบให้ได้ภายใน 16 กค. ไม่งั้นไปเตะต่อและจบหลังจากนี้ก็ไม่ได้ประโยชน์เพราะต้องคืนเงินบริษัททีวีไปแล้วซึ่งถ้าดูจากสาเหตุแล้วจะเจรจาเลื่อนกับบริษัททีวียากเพราะลูกค้าที่ซื้อแพคดูบอลปัจจุบันทยอยยกเลิกไปจำนวนมากแล้ว เท่ากับบริษัททีวีการสูญเสียรายได้เกิดขึ้นไปแล้วและคงเรียกเงินคืน 762 ล้านถ้าเกินเส้นตาย 16 กค.
2. ยังไงก็ตามถ้าไม่ถึงที่สุดจะไม่ยกเลิกฤดูกาลหน้า และยินดีรอถึง ตุลาคม ที่มีความเป็นไปได้ที่จะเตะกันจบเพราะไม่งั้นรอบนี้จะสูญเสียเงิน 3,000 ล้านปอนด์เลย
ดูจากข้อมูลเรื่องผลประโยชน์ล้วนๆ ไม่ดูเรื่องฟุตบอลหรือเรื่องอื่น
คือ ถ้าผู้บริหารพรีเมียร์ต้องเลือกมีโอกาสทิ้งฤดูกาลนี้ มากกว่ายกเลิกฤดูกาลหน้ามากกว่าเพราะเรื่องเงินล้วนๆ ครับ
ซึ่งจากโมเดลนี้เลยทำให้เข้าใจแล้วว่าทำไมผู้บริหารลีคอื่นหรือยูฟ่าถึงไม่เห็นแนวคิดยกเลิกฤดูกาลหน้าเพื่อรอฤดูกาลนี้แข่งจบเลยเพราะคือ ต่อให้ไปเตะต่อได้แต่คือ ต้องคืนเงินบริษัททีวีไปแล้วนี่เอง