พรีเมียร์ ลีก มีมติเป็นเอกฉันท์ ให้ยุติการแข่งขันชั่วคราวไปจนถึงวันที่ 4 เมษายนเป็นอย่างน้อย หลังการแพร่ระบาดของโคโรน่าไวรัส ซึ่งรวมถึงโปรแกรมของทีมลีกล่าง และทีมหญิงด้วย

การตัดสินใจดังกล่าวเกิดขึ้นหลังรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้ออย่างเป็นทางการในสหราชอาณาจักร กระโดดจาก 134 ไปที่ 596 คนภายในวันเดียว (เสียชีวิต 10 คน) โดย เซอร์ แพทริค วัลลานซ์ หัวหน้าที่ปรึกษาด้านวิทยาศาสตร์ของรัฐบาลประเมินว่า ตัวเลขจริงของผู้ติดเชื้ออาจมากถึง 10,000 คนแล้ว และกำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

แม้จะมีความน่ากังวลดังกล่าวแต่ บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีของประเทศอังกฤษ ยังไม่สั่งให้มีการยกเลิกการแข่งขันกีฬา รวมทั้งงานต่าง ๆ ที่มีการรวมตัวของผู้คนจำนวนมาก ทำให้ พรีเมียร์ ลีก ต้องจัดการกับเรื่องดังกล่าวด้วยตัวเอง

เชิญอ่านประเด็นน่าสนใจต่าง ๆ กันได้เลย...

พรีเมียร์ ลีก ตัดสินใจอย่างไร?

พรีเมียร์ ลีก รวมทั้ง อีเอฟแอล, เอฟเอ ,เอฟเอ วีเมนส์ ซูเปอร์ ลีก และแชมเปี้ยนชิพ ตกลงที่จะเลือนการแข่งขันฟุตบอลทั้งหมดออกไปเป็นเวลา 3 สัปดาห์ จนถึงวันที่ 4 เมษายนเป็นอย่างน้อย หลังการประชุมหารือร่วมกันเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

ทำไมถึงวุ่นวายนัก?

ปัญหาคือสมาคมส่วนใหญ่ได้แถลงว่าพวกเขาจะปฏิบัติตามคำแนะนำจากทางรัฐบาล นั่นคือการพยายามไม่ตื่นตระหนก และดำเนินงานต่อไป โดยหลายฝ่ายคาดว่า บอริส จอห์นสัน จะออกมาตรการต่าง ๆ เพื่อยับยั้งการระบาดของโคโรน่าไวรัส แต่สิ่งดังกล่าวไม่เกิดขึ้น

จอห์นสัน กล่าวว่าการแข่งขันกีฬาจะไม่ถูกเลื่อน เช่นเดียวกับงานที่มีการรวมตัวของประชาชนจำนวนมากก็จะไม่ถูกจำกัด สิ่งดังกล่าวเหมือนเป็นการโยนการตัดสินใจกลับไปให้องค์กรอย่างพรีเมียร์ ลีก ซึ่งเผชิญหน้ากับการเรียกร้องให้มีมาตรการเด็ดขาดจากคนดังอย่าง แกรี่ ลินิเกอร์ และ เพียรซ มอร์แกน

พรีเมียร์ ลีก ไม่ค่อยเต็มใจที่จะทำตามคำเรียกร้อง แต่พวกเขาโดนสถานการณ์บีบบังคับหลังจากที่ มิเกล อาร์เตต้า กุนซืออาร์เซนอล และ คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย ถูกตรวจพบว่าติดเชื้อโคโรน่าไวรัส จนไม่เหลือทางเลือกอื่น

การแข่งขันจะกลับมาเมื่อไร?

พรีเมียร์ ลีก ระบุว่าการยุติการแข่งขันชั่วคราว อาจถูกขยายเวลาออกไปเกินกว่าวันที่ 4 เมษายน และผู้เชี่ยวชาญได้ออกมาเตือนแล้วว่า สหราชอาณาจักร น่าจะเจอกับสถานการณ์วิกฤตที่ย่ำแย่กว่านี้ก่อนทุกอย่างจะดีขึ้น

มีความเป็นไปได้ที่ระยะเวลาที่พรีเมียร์ ลีกกำหนดไว้จะโดนเลื่อนออกไป นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า ยูฟ่า วางแผนเลื่อนการแข่งขันยูโร 2020 ไปเตะกันในซัมเมอร์หน้า เพื่อมีเวลาให้การแข่งขันฤดูกาลนี้ของแต่ละลีกเตะกันจนเสร็จ

คาดว่าประเด็นนี้จะได้รับการอัปเดตอีกครั้งในสัปดาห์หน้า

ลิเวอร์พูล จะได้แชมป์ลีกหรือไม่?

พรีเมียร์ ลีก ไม่เคยมีแผนการรองรับเรื่องโรคระบาดที่ส่งผลกระทบไปทั่วทั้งโลกและทำให้ประชากรทุกคนเจอกับความอันตราย นั่นหมายความว่าออปชั่นต่าง ๆ อาจเกิดขึ้นได้

แม้สิ่งดังกล่าวจะยังคงเป็นแค่ความเป็นไปได้ทางทฤษฎี แต่โอกาสที่พรีเมียร์ ลีก จะงดมอบตำแหน่งแชมป์ถือว่ามีอยู่น้อยนิด โดยคาดว่าพวกเขาเตรียมเร่งหาข้อสรุปโดยเร็วที่สุด ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในอีกไม่กี่สัปดาห์ หรือไม่กี่เดือนหลังจากนี้

แชมป์พรีเมียร์ ลีก จะไม่ถูกริบใช่หรือไม่?

คำถามที่เราได้รับจากคนชื่อ โชเซ่ จากลอนดอนเหนือ ขอบคุณที่ถามเข้ามานะ โชเซ่

คาดว่ารายละเอียดต่าง ๆ จะได้รับข้อสรุปชัดเจนหลังการประชุมของ ยูฟ่า ในวันอังคารนี้ โดยต้องรอการยืนยันว่าจะมีเวลาให้ฟุตบอลลีกแข่งขันกันจนจบฤดูกาล

มีรายงานว่ามีเพียงไม่กี่สโมสรที่ต้องการให้การแข่งขันฤดูกาลนี้เป็นโมฆะ และการทำงานของลีกเป็นการทำงานแบบประชาธิปไตยด้วยการโหวตในที่ประชุม

หากจะมีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ สิ่งดังกล่าวต้องได้รับเสียงสนับสนุน 2 ใน 3 นั่นแปลว่าหากฤดูกาลนี้จะถูกนับเป็นโมฆะ ก็ต้องได้รับเสียงสนับสนุน 14 จาก 20 ทีมในพรีเมียร์ ลีก

นอกจากนี้ยังมีปัญหาเรื่องการถ่ายทอดสดที่สถานีโทรทัศน์ทุ่มเงินเป็นพัน ๆ ล้าน คว้าลิขสิทธิ์เข้ามา หากการแข่งขันไม่ดำเนินต่อ พรีเมียร์ ลีก จะจ่ายเงินคืนหรือไม่? เงินจำนวนมากในส่วนนั้นคือส่วนแบ่งของสโมสร ลีกต้องเรียกเงินคืนจากแต่ละสโมสรหรือเปล่า? ทุกอย่างยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจน

อะไรจะเกิดขึ้นกับนักเตะที่หมดสัญญาหลังวันที่ 30 มิถุนายน?

นี่เป็นเรื่องที่น่าสนใจสุด ๆ นักเตะที่หมดสัญญาช่วงซัมเมอร์ อาจไม่มีสังกัดอีกแล้วขณะที่แข่งขันยังดำเนินต่อ

พวกเขาจะสามารถเจรจาดีลระยะสั้นเพื่ออยู่เล่นจนจบฤดูกาลได้หรือเปล่า? หรือจะมีทหารรับจ้าง ย้ายไปค้าแข้งให้สโมสรอื่นในระหว่างเวลานั้น?

น่าจะทำไม่ได้ ความเป็นไปได้คือวันหมดสัญญาจะถูกเลื่อนออกไป แต่เราไม่สามารถรู้ได้แน่ชัดจนกว่าจะมีการประกาศออกมาจริง ๆ

นักเตะอย่าง วิลเลี่ยน ของ เชลซี และ ยาน แฟร์ทองเก้น ของ สเปอร์ส กำลังจะหมดสัญญากับสโมสร และพวกเขาสามรถโต้แย้งได้ว่าไม่มีข้อผูกมัดที่ต้องลงรับใช้ทีมอีกต่อไป แต่โอกาสของสิ่งดังกล่าวถือว่าน้อยนิดมาก ๆ

ถ้าในกรณีตัดจบเลย

จะมีปัญหาอยู่สองกรณีคือโควต้าบอลยุโรปกับทีมตกชั้น ซึ่งน่าจะเป็นปัญหาเหมือนกันทุกๆลีกยุโรป

ผมว่าวิธีแก้เรื่องโควต้าบอลยุโรป เรื่องนี้ยูฟ่าต้องช่วย โดยการที่งดแข่งบอลสโมสรยุโรปไปเลยในซีซั่นหน้าหนึ่งซีซั่น จะได้ไม่ต้องมีปัญหาแย่งโควต้ากัน ถ้าตัดจบแล้วให้ยึดอันดับตามปัจจุบันก็ไม่แฟร์กับอันดับที่ห้าลงไป เพราะบางลีกคะแนนไม่ได้ห่างมาก แล้วโปรแกรมที่เหลือ บางทีมก็หนักบางทีมก็เบา อย่างแมนยู ผมดูโปรแกรมแล้ว มีโอกาสชนะรวดเลยด้วยซ้ำ

ส่วนเรื่องทีมตกชั้น ก็ให้งดตกชั้นในซีซั่นนี้แล้วให้ซีซั่นหน้ามี22ทีม แต่ละทีมก็จะมีโปรแกรมเพิ่มมาอีกทีมละสี่นัด ซึ่งไม่ใช่ปัญหา เพราะถ้าปีหน้าไม่มีบอลยุโรปกลางสัปดาห์ ก็สามารถยัดโปรแกรมบอลลีกไปใส่แทนได้

ปล.อันนี้หมายถึงเคสตัดจบนะครับ ไม่ใช่โมฆะ

งดแข่งยุโรปทำไม่ได้หรอก รายการของยูฟ่า กับสมาคมฟุตบอลแต่ละลีคไม่ได้เกี่ยวข้องกัน

เรื่องนี้ลีคต้องจัดการเองว่าจะส่งตัวแทนยังไง ไม่ใช่ไปงดแข่ง ยูฟ่าก็ขาดรายได้ดิ

ดูแล้ว ปีนี้ไม่น่ากลับมาแข่งต่อได้ น่าจะตัดจบที่ไม่มีแชมป์(ยกเว้นอังกฤษเพราะแต้มขาด) ไม่มีตกชั้นแต่เพิ่มทีมเข้ามาแทน

ปัญหาอยู่แค่โควต้ายุโรปนี่แหละ ให้ยกเว้นแข่งหนึ่งปี คิดว่าทีมใหญ่หลายๆทีมกระอักเลือดแน่ รวมถึงค่าลิขสิทธิ์ที่ยูฟ่าต้องจ่ายคืนอีก ยูฟ่าไม่เอาด้วยแน่ๆ ให้เดาคิดว่าคงจะเป็นการเตะเพลย์ออฟชิงไปUCLและยูโรป้าแต่จะเตะกันกี่ทีมนี่แหละ หรือไม่ก็ยึดตามปีที่แล้วง่ายดี

สุดท้ายก็มาจากรัฐบาลของประเทศนั้นๆนี่เอง ที่ไม่ตระหนัก หรือประเมินสถานการณ์ผิดพลาด เรื่องมันถึงเป็นแบบนี้ แย่จริงๆ
เรื่องของสัญญาถ้าเป็นไปได้ต้องให้ทางฟีฟ่ากับยูฟ่าลงมาเล่น และทำการยืดเวลาการแข่งของทั้งโลกให้สอดคล้องกัน เวลาการทำสัญญาก็ยืดออกไปพร้อมๆกัน มันก็จะแก้ปัญหาได้ ดูเหมือนจะเป็นเรื่องยาก แต่สถานการณ์ตอนนี้คือของทั้งโลกจริงๆ ไม่ใช่แค่ประเทศใดประเทศนึง ก็น่าจะร่วมมือกันได้ไม่ยาก ที่สำคัญคือแค่หาเจ้าภาพใหญ่เท่านั้นแหล่ะ

ผมเชื่อว่า

ประเด็นหงส์ได้แชมป์ลีกมั้ย?

บนความซวย ก็ยังมีความโชคดีตรงที่ว่าปีนี้ดันเก่งเว่อร์ นำห่างเว่อร์จนประเด็นนี้ เพื่อนร่วมลีกอีก19ทีม น่าจะแมนๆไม่ขัดข้อง และจะว่าไปจริงๆแล้ว คงมีแค่ซิตี้ที่ยังทำคะแนนทันได้ตามความเป็นไปได้ทางตัวเลข (ซึ่งเป๊บยอมนานแล้ว)
....เอ๊ะ หรือว่าจะมีทีมอื่นไหนกล้าไม่แมนอีก?


ประเด็น UCL อันนี้น่าสนใจ ซึ่งผมมองว่า ถ้าแต้มไม่ห่างกันเกิน 9 คะแนน มันมีสิทธิ์แซงกันได้อยู่
อันนี้ น่าจะเป็นประเด็น ว่าถ้าตัดจบ จะเอายังไง เพราะทีมอันดับ5 ก็ถือว่ายังมีความหวัง อาจต้องให้เพลออฟ์กัน
(แต่อันดับ2 น่าจะสบายไปแล้ว)
ส่วนโควตายูโรป้า เอาของเอฟเอคัพตัดมาให้ทีมในลีกเลย

ประเด็น หนีตกชั้น อันนี้ผมว่าต้องยกประโยชน์ให้จำเลย คือรอดหมด
และดันทีมจาก ชปช. ขึ้นมาเล่นด้วย 2ทีม (แล้วปีหน้า ตกชั้น 5ทีม ขึ้นมาเติม3)


แต่ จะดีที่สุดคือ อังกฤษยังไม่หนักเท่าอิตาลี
ถ้าปิดประเทศเอาให้จบ มันมีสิทธิจบภายในเดือนนึงได้ เพราะเป็นเกาะ

ถ้าจบได้ภายในเดือนนึง ก็แค่กลับมาแข่งต่อ แล้วยกเลิก บอลยูโร(เลื่อนไปปีหน้า) กับบอลถ้วยเอฟเอไปก่อน

ตอนนี้สิ่งที่สนมากกว่าหงส์จะได้แชมป์มั้ย... คือเมื่อไรโลกจะคิดค้นวัคซีนป้องกันอีโรคบ้านี่ได้สักที.... สถานการณ์แบบนี้ สำหรับผมมันน่าเบื่อมากๆ... ที่ต้องมานั่งกังวลในทุกๆอย่างในชีวิตหลังจากออกจากบ้าน... รวมทั้งต้องมานั่งเครียดว่า พ่อแม่พี่น้องเราจะติดไหม... เพราะพวกแกแก่แล้ว... ผมโคตรกลัวเลย...



ขอโทษที่นอกเรื่องนะครับ.... แต่ล่าสุดเห็นแว่วๆว่าทางจีนคิดค้นได้แล้ว แต่ก็อยู่ระหว่างทดลองกับคนอยู่ กว่าจะผลิตได้จริงๆ คงร่วมหลายเดือนอยู่... ขอให้ทุกคนผ่านวิกฤตินี้ไปได้นะครับ...

มูรินโญ่ส่งคำถามไปด้วยสินะ ?

ในทางทฤษฏีโปรเซสการอนุมัติใช้แบบสาธารณะจะต้องมีการทดลองในกลุ่มตัวอย่างจำนวนที่มากพอ
และติดตามผลในระยะเวลาที่เหมาะสมว่ามั่นใจได้ว่าจะไม่มี ผลข้างเคียงกับร่างกายมนุษย์ครับ
ยิ่งถ้าเกิดวัคซีนเข้าไปสร้างภูมิคุ้มก้ันที่ไม่สมบูรณ์มีความเป็นไปได้ว่า ไวรัสอาจจะ Evo ขึ้นไปอีกเพื่อความอยู่รอด
แบบนี้จะยิ่งมีความเสี่ยงเหมือนกันครับ เพราะทั้งหมดคือการเร่งรัดใช้เนื่องจากวิกฤติจริงๆ

ไม่รู้ผมมองโลกในแง่ร้ายเกินไปหรือเปล่านะครับ แต่เป็นไปได้ไงที่การแข่งขันในระดับสูงสุดขนาดนี้ของในแต่ละประเทศไม่มีกฎเกณฑ์หรือมาตรการใด ๆ มารองรับกับเหตุการณ์ฉุกเฉินในรูปแบบนี้ ทั้งที่ในเรื่องของโรคระบาด, ภัยพิบัติ หรือเหตุการณ์ไม่คาดฝันต่าง ๆ มันอยู่เคียงคู่กับมนุษย์เรามาอย่างยาวนานมาก ๆ นี่ถือเป็นบทเรียนสำคัญของวงการกีฬาเลยจริง ๆ ครับ หากผ่านเรื่องราวร้าย ๆ เหล่านี้ไปได้ น่าจะมีการร่างระเบียบใหม่ ๆ ขึ้นมาอีกมากมายแน่นอน