5555 ไม่ใช่ไบอะไร นั่นแน่นอนฮะ ผู้ชายกันปกตินี่แหละ

กับมัน ผมก็สนิทที่สุดเพราะมีหลายๆเรื่องครับ อย่างเมื่อ ก่อนจบมหาลัยผมทะเลาะกับที่บ้านรุนแรงมาก ยังหนีไปนอนบ้านมัน เป็นอาทิตย์เลย

ผมว่าเพื่อนท่าน ท่านรู้นิสัยดีสุดในนี้นะ เอาจริงๆผมอยากให้ท่านบอกเพื่อน ให้มาตั้งกระทู้ในนี้ด้วยซ้ำ แบบเล่าเหตุการณ์มาเลย จะได้ตัดสินกันถูก

ส่วนในมุมของท่าน ผมคิดน่าจะมีปมอะไรในใจกับท่านหรือเปล่า แบบว่าท่านเคยผิดนัดสำคัญกับเขามาระยะนึงแล้วหรือป่าว ผมเข้าใจ คนเราโตขึ้น ภาระหน้าที่การงาน ยิ่งท่านมีครอบครัวแล้ว ลองนึกดูว่าหลังแต่งงานท่านอาจจะลดความสำคัญเพื่อนคนนี้ลงไปหรือป่าว ซึ่งมันก้เป็นเรื่องปกติของทุกคนที่มีความรับผิดชอบในฐานะหัวหน้าครอบครัวนะ ซึ่งเพื่อนท่านถ้าเข้าใจตรงนี้ได้ ก้ไม่น่าจะงอแงอะไรเบอร์นี้หรอก

หากในมุมของเพื่อนท่าน อาจจะสนิทกับท่านที่สุด จนอาจจะคิดว่าพอท่านมีครอบครัวแล้วจะไม่แคร์เค้าแล้ว แบบที่เค้าชอบล้อกันว่า ลืมเพื่อนๆ อะไรแบบนี้ เพราะความคิดผมนะ อายุจะสามสิบแล้ว คนที่เราจะคุย จะเฮฮา ไร้สาระได้ ทำตัวเป็นเด็กได้น่ะ มีเหลือไม่กี่คนหรอก ไม่พ่อแม่ แฟน ก้เพื่อนรักเพื่อนสนิทสมัยเรียนนี่แหละ

ลองให้เวลาเป็นตัวช่วยดูท่าน พออะไรๆเย็นลงลองปรับความเข้าใจกัน เวลา 20ปีที่ผ่านมา มันต้องมีอะไรที่พวกท่านผ่านกันมามากมายแน่นอนครับ

มันไปทุกงานของทุกคนครับ

ไม่ใช่แน่นอนฮะ 5555

ถ้าผมจะผิดก็คงเป็นเรื่องที่ผมไม่ให้ความสำคัญอะไรกับวันงานพวกนี้เลยครับ งานผมต่อให้พวกมันไม่ได้มาสักคน ผมก็ไม่ได้คิดมากอะ ว่างก็มา ไม่ว่างก็ไม่ว่ากัน แต่ละคนมีงานการทำเยอะแยะ ตรงนี้ละมั้งฮะที่มองต่างกัน เพื่อนผมแม่งไปงานของทุกคนหมด

ถ้างั้น คำขอโทษของผมไงๆก็คงไม่มีความหมายอีกใช่มั้ยฮะ
ผมเองก็คิดว่ามันคงน้อยใจละมั้ง แต่ไม่คิดว่าจะแสดงออกรุนแรงแบบนี้

เหตุการณ์​ไหนที่ท่านรู้สึกว่าเพื่อนเปลี่ยนไหมอีกไหมครับ

ท่านมีfbเพื่อนหนิ​ หลังแต่งงานไปเขาเป็นยังไงบ้างครับ

ถ้าตามที่ท่านเล่ามาผมว่ามันเหมือนจะมี​ missing piece (ข้อมูลบางอย่างที่หายไปครับ)

เพื่อนสนิมที่คบมา20ปี​ แค่ไม่ไปงานแต่ง​ คือโกรธขนาดจะต่อยกันขนาดนี้ผมว่าแปลกๆครับ

เรื่องเงินมีสิทธิ์​ไหมครับ​ เราใส่ซองน้อยไป​ หรือ​ เรายืมเงินเขาแล้วไม่คืน​ หรือ​ มีใครไปเป่าหูเขาให้ผิดใจ

สำหรับผมคือไม่มีนะ ไม่ได้เข้าไปดู fbมันเลยปกติมันก็ไม่ค่อยอัพอะไร
หลังงานคือไม่ได้คุยกันเลยสักคำ

ถ้าให้ผมเดาคงเป็นเพราะ ผมจะไม่ค่อยว่างไปงานเพื่อนคนอื่นๆเลยละมั้งครับ ผมไปงานราวๆ 50% ของคนในกลุ่ม ถ้ามันนัดกันหรืออะไร ผมจะไม่ว่างราวๆ 80% เพราะงานผมเยอะจริงๆ ถ้าว่างไม่มีอะไรผมถึงจะไปครับ นี่ละมั้งครับ ผมถึงบอกผมว่า มึงจะไม่อาใครเลยรึไง

ถ้าผมเป็นท่านเลิกคบไปตั้งแต่รอบแรกแล้ว ผมว่าแบบนี้มันงี่เง่าเกินถึงจะสนิทกันมากก็เถอะ คือโตแล้วอะ พอมีครอบครัวแล้วคนเราก็มันมีสิ่งที่ต้องรับผิดชอบ

ผมเลิกคบตั้งเเต่กระชากคอเสื้อเเล้วอะครับ เเล้วอีกอย่างถ้าฟังจากท่านเราเรื่องมันเล็กมากๆเลยนะครับ และผมว่าท่านกับเพื่อนควเจอเรื่องเเรงกว่านี้มาเเน่ ไม่น่าเดือดดาลขนาดนั้น งานเเต่งท่านไม่ได้ไม่ไปสักหน่อย ไปก็ไป พาที่บ้านไปด้วยอีก จะเอาไรอีก คบมายี่สิบปีเเต่จะต่อยเพื่อนเนี่ยนะ ขอโทษที่เเรงนะเพื่อนท่านไหวป่าววะ ไม่ไหวก็ไปหาหมอ

ความเป็นเพื่อนมันจบตั้งแต่การกระทำในบ้านเพื่อนของท่านวันนั้นแล้วครับ

อายุ30 ทำตัวเป็นเด็กอนุบาลไปได้ ทิ้งระยะห่างกันสักพักครับ ให้ได้ใช้เวลาดึงสติตัวเอง

คิดเล็กคิดน้อยไป ปกตินิสัยผู้ชายกันมันจะไม่ใช่อย่างนี้นา แปลกๆไปสักนิด แต่ก็อยากฟังจากเพื่อนโดยตรงมากกว่า
แต่ถ้าไม่มีอะไรนอกเหนือจากนี้ เป็นตามที่เล่ามา ผมก็คงไม่คบต่อนะ ปกติไม่ถึงขั้นกระชากคอเสื้อกันขนาดนั้นหรอกเพื่อนกัน

ผมว่าเพื่อนท่านความคิดเหมือนเด็กอะ

สำหรับผมแค่มางานแต่งช้า แล้วท่านก็อธิบายเหตุผลที่เข้าใจได้ เป็นผมผมจบ อาจจะโกรธ แต่ก็ไม่เก็บมาเป็นประเด็นให้ทะเลาะกันเสียเวลา

กระชากคอเสื้อก็เกินไป แล้วเรื่องไปเที่ยวเนี่ย ยิ่งโตขึ้นภาระเยอะขึ้น ถ้าเป็นผมไปไม่ได้ก็คือไปไม่ได้ อ้างไรก็แล้วแต่ แต่ก็เข้าใจกัน

เป็นคนที่เวอร์มากเพื่อนท่าน เลิกคบดีล่ะ