[Live] : รวบรวมข่าวสารไวรัสโคโรน่า
ผมยอมรับว่าผมเพิ่งตื่นตัววันนี้เองครับ ตั้งแต่ติดตามข่าวมาก็เพิกเฉยมาตลอด แนะนำว่าอย่าประมาณครับ ใครมีข่าวอะไรก็ลงในนี้เลยครับ กระทู้จะได้ไม่เยอะเกินไปในวาไรตี้ ผมเข้าใจแหละมันอันตราย บางท่านตั้งกระทู้ขอคำปรึกษา + เรื่อยเปื่อยแล้วมันตกเร็วเกินไป
ถ้ามีอะไรเด่นๆผมจะขึ้นพาดหัวให้นะครับ
--------------------------------------------------------
---------------------------------------------------------
เว็บเช็คยอดผู้ติดเชื้อว่ามีใครแล้วบ้าง + ประเทศไหน
https://gisanddata.maps.arcgis.com/apps/opsdashboard/index.html#/bda7594740fd40299423467b48e9ecf6
--------------------------------------------------------
ถามตอบเกี่ยวกับไวรัสโคโรน่า (ขอใส่สปอยเพราะเนื้อหาเยอะ)
ถามตอบ..ไวรัสโคโรนา
Spoil
ถาม : ไวรัสโคโรนา มันเพิ่งมาหรือ
ตอบ : ไม่เลย ไวรัสโคโรนา เราพบบ่อยมาก มันก็คือไวรัสที่ก่อโรคหวัดนี่แหละ (ไวรัสก่อโรคหวัดมีหลายชนิด) พบเป็นประจำ ที่พบบ่อย ๆ คือ สายพันธุ์ 229E, OC43 และที่พบบ้างคือ NL63 และ HKU1 อาการก็เป็นหวัด ถ่ายเหลว ที่เราเจอกัน
ถาม : ก็ฟังดูไม่ร้ายแรงนี่ ทำไมถึงน่ากลัว
ตอบ : บางทีเมื่อมันมีการกลายพันธุ์เป็นสายพันธุ์ใหม่ ก็จะมีรูปแบบการติดและการระบาดที่เราคาดไม่ถึง เช่นโรคซารส์และเมอรส์ (SARS-CoV, MERS-CoV) ที่ระบาดเป็นพัก ๆ
ถาม : แล้วมันต่างกับตัวอื่นอย่างไร
ตอบ : ปกติไวรัสโคโรนาจะมีหนามแหลมรอบตัว เอาไว้เกาะกับเซลล์เป้าหมายเพื่อเข้าไปแบ่งตัว เวลามองด้วยกล้องจุลทรรศน์จะเห็นเป็นมงกุฏ ที่มาของ โคโรนา เจ้าหนามแหลมในไวรัสโคโรนาธรรมดาจะชอบติดที่ทางเดินหายใจส่วนบน แต่เจ้าซารส์จะไปติดที่ทางเดินหายใจส่วนล่าง โดยไม่ติดส่วนบน ทำให้มีอาการรุนแรงที่ปอดและหลอดลม จนหายใจล้มเหลว
ถาม : แล้วเมอรส์ล่ะ
ตอบ : เมอรส์ก็เช่นกัน จับกับทางเดินหายใจส่วนล่าง และอาจจับกับตัวรับในลำไส้ด้วย เชื่อว่าไปจับกับโปรตีน DPP4 ในทางเดินหายใจและลำไส้ ส่วนซารส์ไปจับกับโปรตีน ACE2 ด้วยความที่ทั้งสองเป็นรูปแบบใหม่ ทำให้เราไม่รู้จัก กว่าจะรู้จักก็แพร่ไปหมดแล้ว
ถาม : ไวรัสอู่ฮั่นนี้ เหมือนกับซารส์หรือเมอรส์ ไหม
ตอบ : ไม่เหมือนกัน แม้ลักษณะทางกล้องจุลทรรศน์จะคล้ายกัน แต่สายอาร์เอ็นเอ สายพันธุกรรมต่างกัน และรหัสพันธุกรรมต่างกัน เป็นอันใหม่ ปัจจุบันเราตรวจโดยใช้รหัสพันธุกรรมหมดแล้ว อย่างการระบาดตอนนี้ ที่เห็นว่ามาระบาดและพบมากช่วงหลัง เพราะเพิ่งระบุรหัสพันธุกรรมได้นั่นเอง
ถาม : ความรุนแรงเหมือนกันไหม
ตอบ : ขณะนี้ถ้าเทียบกันแล้ว ความรุนแรงยังน้อยกว่าซารส์และเมอรส์ ซาร์สมีคนที่ป่วย 8098 คน ตาย 774 คน ส่วนเมอรส์มีผู้ป่วย 2494 ราย ตาย 858 ราย มีการระบาดข้ามประเทศ ส่วนอู่ฮั่นนั้น อัตราการป่วยอาจจะสูงแต่อัตราการตายยังไม่สูงเท่า
ถาม : การระบาดล่ะ
ตอบ : ไวรัสโคโรนา สามารถติดกับสัตว์และแพร่ในสัตว์ได้ และสามารถแพร่จากสัตว์สู่คนได้ อย่างซารส์ก็เชื่อว่ามาจากค้างคาว เมอรส์ก็มาจากค้างคาวและอูฐ คนไปสัมผัสก็นำเชื้อมา หลังจากนั้น ซารส์และเมอรส์ก็ติดจากคนสู่คน เมื่อมีการติดจากคนสู่คน ทำให้การระบาดมันจะขยายเป็นวงกว้าง
ถาม : แล้วไวรัสอู่ฮั่นล่ะ ระบาดจากคนสู่คนไหม
ตอบ : ซารส์และเมอรส์ ระบาดจากคนสู่คนจริง แต่เกือบทั้งหมดระบาดในบุคลากรทางการแพทย์ที่สัมผัสโรค พบการระบาดในบุคคลภายนอกน้อยมาก ส่วนอู่ฮั่น พบมีการติดจากคนสู่คนในบุคลากรทางการแพทย์ จากข้อมูลเมื่อ 23 มค 2563 นี้แค่หนึ่งราย แต่มีกรณีสงสัยและกักกันอยู่อีก ต้องติดตามต่อไป และส่วนมากคือ หมอพยาบาลที่รักษานั่นแหละ
ถาม : แล้วรักษาได้ไหม
ตอบ : การรักษาโดยทั่วไปคือการรักษาตามอาการและประคับประคอง หากรักษาทันและถูกต้อง โอกาสเสียชีวิตจะไม่สูง ที่พบว่าเสียชีวิตส่วนมากเกิดจากมีโรคประจำตัวมากกว่า มีรายงานการตอบสนองต่อยาต้านโปรตีเอส ที่ใช้รักษาเอชไอวีคือ lopinavir/ritonavir และ ยาต้านการรวมตัวของสารพันธุกรรมอาร์เอ็นเอ remdesivir แต่ก็ยังไม่เป็นมาตรฐานการรักษา
ถาม : แล้วการป้องกันมีไหม
ตอบ : หลักทั่วไปคือ อย่าเข้าไปในแดนระบาด อย่าไปคลุกคลีกับคนที่เพิ่งออกจากแดนระบาด อย่ากินสัตว์แปลก ๆ จากแดนที่ระบาดหรือไม่รู้จัก ล้างมือบ่อย ๆ สวมหน้ากากหากต้องเข้าแดนระบาดหรือใกล้ชิดคนที่ติดโรค รักษาร่างกายแข็งแรง วัคซีนนั้นยังไม่สามารถทำได้
ถาม : แล้วเมืองไทยล่ะ น่าห่วงไหม
ตอบ : ประเทศไทยมีมาตรการการป้องกันและรับมือที่ดีจากประสบการณ์เรื่องซารส์และเมอรส์ สามารถจัดการได้ดี ผู้ป่วยที่รายงานทั้งหมดคือมาจากจีน ยังไม่พบการระบาดจากคนสู่คนในไทย และทุกคนอาการไม่รุนแรง ตอนนี้ยังไม่น่ากังวล ปกติระยะฟักตัวหลังได้รับเชื้อประมาณ 10 วันและอาการก็คืออาการไข้หวัดธรรมดา สำคัญคือ ไปเข้าหรือออกจากแดนระบาดมา คือ ประวัติที่สำคัญที่สุด ให้รีบไปพบหมอ
ถาม : มีอะไรฝากถึงคนอ่านไหม
ตอบ : ข่าวแต่ละที่ออกมาไม่เหมือนกันเลย ขอให้มีสติและวิจารณญานมาก ๆ เวลาติดตามข่าวสาร ติดตามจาก WHO, CDC และ กระทรวงสาธารณสุขเป็นหลัก
-------------------------------------------------------
วัคซีนป้องกัน ไวรัสโคโรน่า คาดพร้อมใช้ในอีก 3 เดือน
นักวิทยาศาสตร์สหรัฐฯ เปิดเผยว่า วัคซีนต้นแบบสำหรับป้องกันเชื้อ ไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ อาจพร้อมใช้ทดสอบในคนอีก 3 เดือนข้างหน้านี้
สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า แอนโทนี เฟาซี ผู้อำนวยการสถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดเชื้อสหรัฐฯ (National Institute of Allergy and Infectious Diseases) และแคทเทอรีน ลุส ผู้ช่วยศาสตราจารย์แผนกโรคติดเชื้อแห่งมหาวิทยาลัยเพนน์สเตต ระบุในวารสารทางการแพทย์ JAMA ว่า นับตั้งแต่เกิดการระบาดของ โรคซาร์ส ในปี 2003 ได้ส่งผลให้ความก้าวหน้าของวัคซีนพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว โดยได้ถอดลำดับจีโนมของ ไวรัสซาร์ส มาเป็นประโยชน์ในการทดสอบวัคซีนดีเอ็นเอระยะที่ 1 ภายใน 20 เดือน และย่นระยะเวลาจนเหลือ 3.25 เดือน ในไวรัสอื่นๆ ดังนั้นจึงคาดว่า น่าจะสามารถพัฒนาวัคซีนต้นแบบสำหรับ โคโรนาไวรัส ได้และพร้อมทดสอบกับคนในอีก 3 เดือนข้างหน้า
นักวิจัย หวังว่าจะสามารถรับมือกับ ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ได้เร็วขึ้น เมื่อใช้เทคโนโลยี mRNA หรือ เมสเซนเจอร์ อาร์เอ็นเอ โดยระบุเพิ่มเติมว่า แอนจิโอเทนซิน-คอนเวอร์ติงเอนไซม์ 2 หรือ ACE2 เป็นตัวรับเด่นสำหรับไกลโคโปรตีนที่โรคซาร์สในมนุษย์ การวิเคราะห์นี้เองที่บ่งชี้ว่า ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ นี้มีความคล้ายคลึงกับกรดอะมิโนในไวรัสซาร์ส และอาจใช้เจ้า ACE2 เป็นตัวรับ นับเป็นนัยสำคัญในการคาดการณ์การแพร่ระบาดของโรคในอนาคตอีกด้วย
การแพร่ระบาดของโรคในมนุษย์ครั้งนี้ ทางสถาบันการแพทย์สหรัฐฯ และ จีน กำลังดำเนินงานร่วมกันเพื่อพัฒนาวัคซีนต่อต้าน ไวรัสโคโรนาสายพันธ์ุใหม่
ในขณะที่ องค์การอนามัยโลก(WHO) ระบุว่า ยังเร็วไปที่จะประกาศให้การระบาดของ ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ในจีนเป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ (PHEIC)