'พิออนเท็ค' ยิง 1 จ่าย 1 ! มิลานโหดจัดอัดสปาล 3-0 ลิ่วโคปป้า
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
เรียกว่ากำลังไปได้สวยสำหรับ เอซี มิลาน และระบบใหม่ของพวกเขา วันนี้ได้ คริสตอฟ พิออนเท็ค ศูนย์หน้าที่ปืนฝืดมาพักใหญ่ๆ กลับมาคืนฟอร์มเก่ง ยิง 1 จ่าย 1 ช่วยให้ทีมของเขา เปิดบ้านชนะ สปาล ไป 3-0 ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายใน ศึก โคปป้า อิตาเลีย ไปพบกับ โตริโน่ ในวันที่ 28 เดือนนี้
เอซี มิลาน
Starting Formation: 4-4-2
24.
ไซม่อน เคียร์

82'
7.
ซามู คาสตีลเลโฆ่

63'
5.
จาโคโม่ โบนาเวนตูร่า

75'
ตัวสำรอง
8.
ซูโซ่

63'
39.
ลูคัส ปาเกต้า

75'
46.
มัตเตโอ กับเบีย

82'
ฟุตบอลโคปป้า อิตาเลีย รอบ 16 ทีม
สนาม ซาน ซิโร่
พุธ ที่ 15 มกราคม 2563
กรรมการ ดาวิเด้ เกอร์ซินี่
เอซี มิลาน
3
0
สปาล
1-0 คริสตอฟ พิออนเท็ค 20'
2-0 ซามู คาสตีลเลโฆ่ 45'
3-0 เตโอ เอร์นันเดซ 66'
มิลาน วันนี้เปลี่ยนถึง 7 ตำแหน่งจากเกมลีกที่ บุกไปชนะ กายารี่ 2-0 เริ่มตั้งแต่ตำแหน่งผู้รักษาประตูที่ อันโตนิโอ ดอนนารุมม่า จะได้ลงเป็นตัวจริงแทนน้องชายที่มีอาการบาดเจ็บ ส่วนแผงหลัง ไซม่อน เคียร์ ปราการหลังป้ายแดงก็จะได้ลงประเดิมทันที แนวรุก เป็นโอกาสของ อันเต้ เรบิช ประสานงานกับ ซามู คาสตีลเลโฆ่ และ คริสตอฟ พิออนเท็ค
พิออนเท็ค ได้ซัดทักทายก่อน แต่บอลยังไม่เข้าเป้า
เริ่มเกมมาเป็นเจ้าบ้านได้ทักทายก่อน พิออนเท็ค ได้บอลจาก คาสตีลเลโฆ่ ที่ตรงกลาง ก่อนจะลากไปจบที่หน้ากรอบขวา แต่บอลก็หลุดเสาออกไป
เบนนาเซอร์ วิ่งมาส่องไกล บอลหลุดเสาไปนิดเดียว
จังหวะที่มิลาน ฉกบอลได้จากหน้าปากประตู บอลสุดท้ายที่ เบนนาเซอร์ ได้วิ่งมาซัดด้วยซ้ายเต็มๆ บอลพุ่งแรงหลุดเสาขวาออกไปนิดเดียว
คาสตีลเลโฆ่ ได้หลุดมาเดียว แต่ไม่ผ่าน เบริสช่า
เรบิช จ่ายบอลให้ คาสตีลเลโฆ่ ที่ตรงกลางได้หลุดเดี่ยวมาดวลกับ เบริสช่า ผู้รักษาประตูสปาล แต่บอลไปติดเท้าเลี้ยงไม่ผ่านโดนปัดออกมาได้
พิออนเท็ค หลุดเข้าไปซัดไม่เหลือ! มิลาน นำแล้ว 1-0
จังหวะนี้ เบนนาเซอร์ ที่ตรงกลางสนาม จ่ายบอลทะลุช่องไปให้ พิออนเท็ค ได้บอลหลุดเดี่ยวลากเข้าไปแปด้วยขวาผ่านตัว เบริสช่า เข้าไปตุงตาข่ายไม่เหลือ มิลาน ขึ้นนำไปแล้ว
ฟลอคคารี่ ได้ปั่นหน้ากรอบเข้ามือ ดอนนารุมม่า
ฝั่งทีมเยือน เก็บบอลได้ในกรอบเขตโทษของมิลาน ก่อนบอลสุดท้ายไปอยู่ที่ ฟลอคคารี่ ได้ปั่นด้วยซ้ายในกรอบ แต่บอลก็ยังโค้งเข้ามือ ดอนนารุมม่า รับสบาย
เอสเปโต้ ลากมาซัดเต็มๆ แต่บอลข้ามคานไปไกล
จังหวะสวนกลับของทีมเยือน บอลสุดท้ายที่ เอสเปโต้ ที่ฝั่งขวาได้ลากบอลมาซัดนอกกรอบเต็มๆ แต่บอลเหินข้ามคานออกไปยังไม่ได้ลุ้น
คาสตีลเลโฆ่ ปั่นหาย! มิลาน นำห่าง 2-0
จังหวะที่ พิออนเท็ค พาบอลขึ้นมาตรงกลาง ก่อนจะจ่ายต่อไปให้ คาสตีลเลโฆ่ ที่สอดเข้ามาทางขวาได้จับบอลนิ่มๆแล้วหาจังหวะปั่นด้วยซ้าย บอลโค้งข้ามหัว เบริสช่า เสียบเสาซ้ายเข้าไปอย่างสวย มิลาน นำห่างก่อนจบครึ่งแรก
พิออนเท็ค ซัดเหน่งๆแต่ยังติดเซฟ !
เริ่มเกมครึ่งหลังมาเป็น เรบิช ที่ฝั่งซ้ายกระชากบอลทะลุไปเกือบสุดเส้น ก่อนจะเปิดมาให้ พิออนเท็ค ที่กลางประตูได้ตั้งป้อมซัดเน้นๆ แต่บอลก็ยังพุ่งไปตรงตัว เบริสช่า
เรบิช ได้ซัดจ่อๆก็ยังไม่ผ่านมือ เบริสช่า
จังหวะนี้ เรบิช ได้บอลในกรอบฝั่งซ้าย และครองบอลเลี้ยงเข้าไปหลายจังหวะ สุดท้ายได้จบหน้ากรอบโล่งๆ แต่ก็ยังไปตรงตัว เบริสช่า ปัดออกมาได้
เตโอ เติมมาซัดตู้มหาย! มิลานนำห่าง 3-0
จังหวะนี้ เตโอ เก็บบอลได้และลากมาคนเดียวจากบริเวณกลางสนาม จนมาซัดด้วยซ้ายหน้ากรอบเต็มๆ บอลพุ่งเสียบเสาขวาไม่เหลือ เบริสช่า หมดสิทธิเซฟ มิลานนำห่างสามลูก
ดาโบ ได้ลากมาส่องบ้าง ดอนนารุมม่า ต้องปัดออกหลัง
จังหวะนี้ ดาโบ ได้พาบอลมาซัดด้วยขวาเต็มๆ ที่นอกกรอบฝั่งซ้าย บอลพุ่งแรง ดอนนารุมม่า ต้องปัดออกหลังเป็นเตะมุม
เตโอ สอดมาจิ้มเกือบได้อีก!
ซูโซ่ ที่ฝั่งขวาเปิดบอลแบบกึ่งยิงกึ่งจ่ายปั่นเข้ามา แล้วเป็น เตโอ ที่เติมเข้ามาฝั่งซ้ายในกรอบวิ่งเข้ามาชาร์ทไม่โดน บอลเลยหลุดออกเสาไปนิดเดียว
ดอนนารุมม่า ซุปเปอร์เซฟ! สปาล ยังติดไข่ไม่แตก
วาโลติ พาบอลมาทางฝั่งซ้ายก่อนจะเปิดเข้ามาให้ มูร์เกีย ได้โขกเหน่งๆไม่ถึง 10 หลา แต่ ดอนนารุมม่า ยังซุปเปอร์เซฟกระโดดปัดไว้ได่
กรรมการให้จุดโทษ สปาล ก่อนดู VAR แล้วเปลี่ยนใจ
เปเกต้า ไปล้มตัวสกัดบอลด้วยแขน กรรมการให้เป็นจุดโทษ ก่อนที่ไปเซ็ค VAR อีกครั้งแล้วมองว่านักเตะไม่ได้ตั้งใจใช้แขนช่วยบล็อค
จบเกม เอซี มิลาน เปิดบ้านชนะ สปาล ไป 3-0 ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายใน ศึก โคปป้า อิตาเลีย
คริสตอฟ พิออนเท็ค กลับมาคืนฟอร์มเก่ง ยิง 1 จ่าย 1 ช่วยให้ เอซี มิลาน เปิดบ้านชนะ สปาล ไป 3-0 ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายใน ศึก โคปป้า อิตาเลีย เป็นที่เรียบร้อย
สปาล
Starting Formation: 3-5-2
40.
เนนาด โทโมวิช

65'
95.
ยานโควิช

72'
14.
ไบรอัน ดาโบ

86'
ตัวสำรอง
8.
มัตเทีย วาโลติ

72'
66.
บาสโตสซ์ ซาลามอน

65'
97.
เฟเดริโก้ ซานเชตต้า

86'
แก้ไขล่าสุดโดย hugball เมื่อ Thu Jan 16, 2020 06:46, ทั้งหมด 34 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ