อีกหน่อยแฟนแมนยูจะชินแบบแฟนปืนไปเองแหละครับ

ไม่มี วิสัยทัศน์ครับ ทำทีมสเปะสปะ ซื้อตัวมั่ว

ดูแค่การจ้างโค้ชก็ได้ครับ มอย ฟัลกัล มู โอเล่

คนละสไตล์กันเลย

ถามนิดนึง ซื้อผู้เล่น เอ็ดลงตลาดเอง ไม่หาตามความต้องการ ผจก หรอครับ

ส่วนเรื่อง ผจก ก็ถูก ตั้งแต่ มอยส์ มาแทน ผมยังแปลกใจ ระดับแมนยู หาคนโปรไฟล์ดีๆ มาทำ ไม่น่ายาก ทำไม เลือก มอยส์

ทุกทีมมีวัฏจักรครับ มีขึ้นก็มีลง วนเวียนไปเรื่อยๆ

มีทั้งแบบ ตามคำบอกและหาเองครับ

ลองดูลักษณะได้ครับ ส่วนใหญ่ เอ็ดชอบสตาร์ดังๆ ขายเสื้อได้เยอะๆ

ฟัลกัล ดิมาเรีย

พวกตัวแปลกๆ ก็แบบ เฟร็ดงี้

ล่าสุดก็ดิบาล่า ผมค่อนข้างมั่นใจว่า ดีลนี้เอ็ด want เอง

ครอบครัวเกลเซอร์ เป็นเจ้าของทีมอเมริกัน ฟุตบอล แทมปา เบย์ บัคคาเนียร์ส มาก่อนมาซื้อแมนยูครับ

ตามที่เอ็ดให้สัมภาษณ์คือฝ่ายแมวมองกับโค้ชคุยกันเอง ตกลงกันได้ก็บอกเอ็ด ถ้าเอ็ดประเมินแล้วว่าซื้อได้ก็ได้ ไม่ได้ก็ไม่ได้ กลับไปหากันใหม่

แต่เรื่องนี้เอ็ดหนีความรับผิดชอบไม่พ้นหรอก ง่ายๆก่อนยุคโซลชา แมนฯยูมีโค้ชกี่คนก็ซื้อแล้วแป๊กมากกว่าปังทุกคน ไม่น่าจะปกติแล้ว ต่อให้เอ็ดไม่ลงมาล้วงลูกเลยก็แปลว่าทีม recruitment อ่อนมากๆ ซึ่งเป็นหน้าที่ของฝ่ายบริหารที่ต้องจัดการ อย่างหงส์นี่ ผอ.ที่รับผิดชอบเรื่องซื้อขายโดนไล่ออกไป 2 คนแล้วนะกว่าจะมีวันนี้ ทีมแมวมองก็เซ็ตใหม่หมด

สัมภาษณ์ล่าสุดเอ็ดบอกว่าตอนนี้เขารู้แล้วว่าแมงมองคนไหนเก่งนี่ยิ่งตลกเลย แปลว่าที่ผ่านมาไม่รู้เลยสิ ยุคนี้ไม่ใช่ 10 ปีก่อนที่ ผจก อยากได้ใครก็ลิสต์มา ทีมซื้อขายก็จัดการให้ เดี๋ยวนี้ทีม recruitment สำคัญมากๆ ต้องช่วย ผจก คิดได้ และเป็นหน้าที่ฝ่ายบริหารที่ต้องจัดการ

ถ้าเอาจากที่เอ็ดเข้ให้สัมภาษณ์เอง

ก็คือ ผจก.ทีม จะลิสท์รายชื่อนักเตะที่ต้องการไปให้ครับ จากนั้นให้เอ้ดเป็นคนประเมินว่าเป็นยังไง (ด้านฝีเท้า ราคา และการตลาด) ถ้าไม่ถูกใจ เอ็ดก็จะไปจิ้มๆตัวอื่นมาให้ทดแทนครับ ซึ่งตอนนั้นก็อยู่ที่ ผจก.ทีม ว่าจะไม่เอาเลยหรือกำขี้ดีกว่ากำตด

ที่เห็นชัดๆ ก็น่าจะตอนน้ามูทำทีมได้ที่ 2 แล้วซื้อตัวได้ส้งติงมากนั้นละท่าน

อ่านๆดู ถ้าไม่บอกว่าแมนยู ผมนึกว่า นโยบาย ทีมระดับกลางๆ

มีการ ซื้อได้ กับซื้อไม่ได้ด้วย

ผมไม่แปลกใจเลย เห็นแฟนๆด่า เอ็ด

นี่ซื้อผู้เล่นหรือ ซื้อหวย

แสดงว่า สปอนเซอร์เยอะๆ หุ้นแพงๆ กำไร เข้ากระเป๋าเจ้าของ

หน้าที่ จัดงบซื้อ ผู้เล่นก็โยนให้ ตาเอ๊ด นี่ จัดการ

ทำไมผมคิดต่าง...ผมว่าแมนยูกำลังมาถูกทาง
โอเล่กำลังดึงสปิริตทีมกลับมา ก็จริงอยู่ช่วงแรกที่โอเล่ชนะรัวๆนั่นคือผู้เล่นระดับท๊อปแต่ไม่มีใจให้สโมสร ผลที่ได้คือชนะช่วงแรก หลังจากนั้นก็เป๋ ช่วงนี้ผมเริ่มเห็นโอเล่เอาลูกหม้อมาดัน..เริ่มเห็นแววดาวรุ่งหลายคน คนไม่มีใจอย่างป๊อกบาก็อยู่ในช่วงเจ็บและได้ลองอะไรต่อมิอะไร ลินการ์ดที่ว่าเป็นลูกรักก็โดนดรอปไปช่วงหลังๆ ซื้อเจมส์มาก็เห็นอยู่ว่ามันมีความมุ่งมั่น
เปเรร่า หรือเฟร็ด ที่ด่าๆกันก็เริ่มโชว์ฟอร์มให้เห็น และที่สำคัญคือมันมุ่งมั่นที่จะโชว์ฟอร์ม แม๊คโทมิเน่ก็โดนดันเต็มตัว แม๊คไกวที่อยากได้นักหนา สโมสรก็จัดมาให้ เดเกอาโกล์ที่เหนียวสุดๆก็ต่อสัญญาให้ในเรทค่าเหนื่อยที่แพงหูฉี่ แล้วเค้าบริหารไม่ดีอย่างไร ให้เวลาโอเล่หน่อยสิ

มันก็ต้องวัดใจกับแฟนบอลนะแหละ ว่าคุณอดทนกันไหวหรือป่าว เอาง่ายๆถ้าทีมคุณไม่ได้ไปแชมเปี้ยนลีคสามปีติด ทนกันไหวหรือป่าวนี่แหละปัญหา

ผมว่าฐานแฟนบอลแมนยูหลายคนคงคุ้นชินกับการมีอยู่ของเฟอร์กี้มากกว่าด้วยหล่ะครับ มันธรรมดาของฟุตบอลมากๆ
เพราะคนๆ นึงไม่สามารถที่จะคุมทีมตลอดไปได้แน่ๆ และต้องอย่าลืมความจริงที่ว่าเฟอร์กี้นี่เก่งจริงๆ
ถ้าในยุคนี้มันมีนักเตะระดับเมสซี่ โรนัลโด้.. เฟอร์กี้ ก็เป็นโค้ชระดับอย่างที่ว่านั่นหล่ะครับ

ผมแฟนเองแฟนหงส์นะ ตอนแกคุมแมนยูอยู่ก็อคติในใจไม่ยอมรับว่าเป็นโค้ชที่เก่งที่สุดหรอก
แต่พอแกวางมือแล้วมองแกในฐานะบุคคลด้านวงการฟุตบอลคนนึง ก็เออ ยอมรับก็ได้วะว่าป๋าแกสุดจริง
ดูจากขุมกำลังนักเตะแมนยูบางปีก็ได้แต่คิดว่า มันแชมป์ได้ไงวะ 55

ผมว่าจริงๆ แมนยูก็เริ่มมาถูกทางแล้ว อยู่ที่ความอดทนของแฟนบอลอย่างที่หลายๆ ท่านในมู้นี้ว่านะแหละครับ ว่ามีความอดทนกันเท่าไร

ถ้าผมจำไม่ผิด 10 ปีที่ผ่านมา ภาระหนี้ยังเท่าเดิมครับ แทบไม่ลดลงเลย

เหมือนเกลเซอร์จ่ายแค่ดอกเบี้ยทุกปี แค่ไม่ให้เป็นหนี้เสียแค่นั้นอ่ะครับ

สนามก็ไม่ได้สร้าง เงินหายไปไหนหมดก็ไม่รู้ คิดละเศร้า

ง่ายๆเลยบอร์ดลิ้วพูลไม่มายุ่งเกี่ยวก้าวก่ายโค้ช เงินอาจจะมีให้ใช้ไม่มาก ต้องขายตัวเก่าก่อนที่จะซื้อเข้ามา แต่ก็เลือกผู้จัดการได้ถูกคนมาก เลือกคนที่เน้นปั้นดินให้เป็นดาวอย่างคล็อปป์มา

ส่วนผีน่ะหรอ บอร์ดล้วงลุกและเป็นธุรกิจมากกว่าฟุตบอลอย่างที่คล็อปป์ได้กล่าวไว้ ไม่งั้นคล็อปปต์อาจจะเป็นคนทีมารับต่อจากมอยส์มากอบกู้ก็ได้ ดวงชะตามันคลาดกันจริงๆ