ถ้าคุณควบคุมคนดูไม่ได้ ก็เลิกใช้โซเชี่ยลเถอะครับ
ผมหมายถึง ยังไงคุณก็คุมเขาไม่ได้หรอกครับ

-ที่แน่ๆคือมันก็ใช้พลาสติกลดลง เช่นถุง 1 ใบปกติใช้พลาสติก 100% ก็เหลือสัก 50 % แต่แลกมาด้วยการที่รีไซเคิลไม่ได้ (มั้ง ผมไม่แน่ใจว่าที่ผมเห็นมันใช่ไอ้สปันนี่หรือเปล่านะ)
-เราเลิกใช้พลาสติกไม่ได้หรอก จะให้ใช้ใบตองแทนก็ใช่เรื่อง ทางเลือกของพวกมักง่ายมักจะเอาพลาสติกไป composite กับของอื่น มันก็ดีในแง่ใช้น้อยลง แต่ life cycle มันก้จะสั้นเพราะของพวกนี้ recycle ยาก (แยกพลาสติกออกจากของที่ผสมไปยาก) ตัวอย่างของที่แยกง่ายที่สุดคือกล่องนม (จริงๆกล่องนมเป็นวัสดุประกอบในแง่ประโยชน์ด้วย แต่ผมเลือกอันนี้เพราะเห็นภาพและมันเป็นชั้นๆแยกง่าย) ที่ไม่สามารถแยกพลาสติกเคลือบออกจากอลูมิเนียมและกระดาษได้ง่าย (ไม่คุ้มที่จะแยกด้วย) วิธีการง่ายที่สุดคือใช้มันดิบๆแต่เก็บกลับมาให้หมดนั่นแหละ

น่าจะหน่วยงานใกล้เคียงกับแฟนผมแน่ๆ รณรงค์ใหญ่เลย ผมว่าใช้ชีวิตลำบากขึ้นนะ ล่าสุดไปตลาด ทอ. ห้ามใช้ถุงพลาสติกหิ้ว ซื้อแกงมาก็ใส่ถุงผ้าไปซึ่งส่วนมากแกงพวกนี้เวลาตักแล้วก็อาจจะมีหกมีเลอะมันก็มีกลิ่นที่ถุงผ้า ต่อไปคงต้องหากล่องมาใส่แกงแทนละ

ผมทำงานราชการนะ เฟสผมไม่รับเพื่อนที่ทำงานเลย แถมตั้งค่าให้เฟสผมเห็นแค่เพื่อนด้วย ส่วนไลน์ ผมแทบไม่โพสต์อะไรใน time line เลย

ทำเพจดีกว่าครับ ได้ทำในสิ่งที่เราอยากจะทำได้เต็มที่

เฟซผมนี่ไม่ลงอะไรเลยที่เป็นความเห็นส่วนตัว ลงแค่รูปเปล่าๆเท่านั้น เพราะมันอันตรายที่ทำให้คนในที่ทำงานตีความแง่ลบได้ง่ายมาก และนำไปกลั่นแกล้งได้

ขอบคุณครับ แต่หน่วยงานผมมันกึ่งๆ วิชาการกึ่งๆ ปฏิบัติ และดิจิตอล คอนเทนท์ มีหน่วยงานที่เขารู้จริงทำอยู่แล้ว ผมเลยแชร์เป็นส่วนใหญ่

บอกตรงๆ ว่าผมไม่ค่อยอินกับงานสิ่งแวดล้อมเท่าไหร่ เพราะวิธีการทำงานและการโยนให้ผู้ปฎิบัติคือประชาชนทำ และหลอกเขาเป็นส่วนใหญ่นี่แหละ ผมว่างานมันควรเป็น regulator ตามกฎหมายดีกว่า

เป็นกำลังใจให้นะครับ แต่ผมขอแนะนำไว้สักหน่อย

การทำงานราชการ ผมว่าไม่ว่าจะเป็นส่วนไหนก็ตามในระดับปฏิบัติการ เรื่องสำคัญเป็นเรื่องทัศนคติครับ เพราะว่าจะประเมินอะไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นเครื่องมือแบบไหน สุดท้ายก็อยู่ที่ว่า เค้าชอบคุณแค่ไหนเท่านั้นเอง เพราะงั้นผมแนะนำว่าถ้าไม่จำเป็นการไม่โพสต์อะไรเลยจะดีที่สุดครับ หรือ โพสต์อะไรที่ไม่เกี่ยวไปเลยจะดีกว่าครับ ไม่งั้นอาจจะเป็นการสร้าง ภาพลักษณ์ตัวเองในแง่ลบต่อผู้บริหารได้ ซึ่งอาจจะย้อนกลับมาทำร้ายตัวเองในอนาคตได้ครับ

ผมเอง ในรอบขั้นเงินเดือนที่ผ่านมายอมรับว่าไม่พอใจมากเลยนะ (ไม่เคยหืออืออะไร แต่ได้มาเหมือนเค้าแบ่งเศษเนื้อข้างเคียงมาให้) ใจน่ะ อยากโพสต์ด่าแบบไม่ไว้หน้านะ แต่สุดท้ายมาคิดได้ เราทำไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้น เงียบไว้ดีกว่า เอาไว้อีกสัก 10 ปี เราเป็นผู้ใหญ่ในองค์กร เราจะทำอะไรอีกเรื่องหนึ่ง

สู้ๆๆเป็นกำลังใจให้นะครับ

ผมไม่แน่ใจว่าเขารู้ไหม แต่ถึงจริงเขาก็คงโกรธที่หักหน้าเขา แต่ผมคิดไกลกว่านั้นคือ เกิดมีคนรู้แล้วมาโพสมันจะแย่ คือความเชื่อมั่นหน่วยงานรัฐจะต่ำไปอีก

ปัญหาของพลาสติกไม่ใช่อยู่ที่ตัวมันเลยครับ มันอยู่ที่การเอามาใช้ผิดประเภท หรือพยายามผสมสารหลอกลวงให้มันย่อยสลายเป็นชิ้นเล็กไป จนเป็น micro plastic ซึ่งมันจะแก้ยาก คราวนี้แหละเรื่องใหญ่

คนดียากจะเจริญเติบโตหรือเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ต่างจากการทำงานหรือธุระกิจของตัวเองหรือบริษัทที่ดีมีทางเลือกมากกว่า ถ้าอยากเป็นคนดีก้อต้องอดทนครับ ขอให้สู้ต่อไปเป็นกำลังใจให้ครับ

ขอบคุณครับ และก็เข้าใจที่บอกด้วย รอบที่ผ่านมาเขายังใจดีให้ผมอยู่กลางๆ ส่วนรอบหน้าไม่แน่

ก็เอาเถอะครับ ผมเคยเสนอวิธีการประเมินแบบโปร่งใสแล้ว แต่เขาไม่เอา จะเอาเกณฑ์ตัวเองไปสวมทับกับเกณฑ์กลาง หรือแม้แต่พวก หน.ที่ให้ร้ายผมก็ได้ เอาจริงๆ ผมยอมนะ สู้กันสักตั้ง

ผมเชื่อว่าถ้าอยู่บนความถูกต้อง มันจะมีความโดดเด่นและแคแรคเตอร์ชัดเจนว่าเราคืออะไร ผมว่าการไม่สูญเสียตัวตนคือเรื่องสำคัญ ส่วนความก้าวหน้า..ก็ปล่อยไปตามอนาคต

สมัยนี้คนให้ค่ากับสื่อออนไลน์กันเยอะนะ บางครั้งมันก็มากเกินไปซะด้วยซ้ำ

ในfbควรมีแต่เพื่อนจริงๆครับ คนที่ทำงาน หัวหน้า ลูกน้อง ไม่ควรมีเฟสบุคเลย ปัญหาตามมาเยอะมากกก

ผมก็คิดเหมือนท่านเลย micro plastic นี่ละปัญหาใหญ่ที่คนยังไม่ค่อยรับรู้ ยิ่งตอนนี้มีถุงพลาสติกยี่ห้อนึงซึ่งหาซื้อได้ง่ายตามห้างและมีโฆษณาทีวีด้วย บอกว่าเป็น ถุงหูหิ้วรักษ์โลก ย่อยสลายได้ แต่ผมดูแล้วบอกว่าทำมาจากเม็ดพลาสติก HDPE ยังงี้มันจะไม่กลายเป็นการเพิ่มปัญหา micro plastic หรอกหรือ

ปล. สำหรับท่านใดที่สนใจเรื่องถุงพลาสติกย่อยสลายได้ (แบบปลอดภัยไม่กลายเป็น micro plastic) ลองศึกษาตามลิ้งค์นี้ดูนะครับ

https://www.facebook.com/ERIC.CU.FC/posts/1524269701002257/

https://themomentum.co/would-degradable-plastic-save-the-world/

ขอบคุณครับ ผมชักคันมือล่ะ ขอนำข้อมูลไปต่อยอดและเขียนบทความวิชาการไปตอกหน้าผู้ใหญ่ และให้ความรู้ประชาชนหน่อย

-จะถุง 100% PE หรือ composite PE ถ้าปล่อยให้สลายเองมันก็จะผ่านการเป็นไมโครทั้งสิ้น วิธีที่สิ้นคิดที่สุดแต่ง่ายและดีที่สุดคือเผาครับ ทุกอย่างกลับสู่ CO2 ตาม cycle มัน
-แต่ของแนว green ตอนนี้มันมี 2 อย่างที่ต้องคิดคือ 1ทำจากธรรมชาติ และ2ย่อยสลายได้ ทำมาจากธรรมชาติไม่จำเป็นต้องย่อยสลายได้เช่นทำน้ำมันจากน้ำตาล หรือของที่ย่อยสลายได้ก็ไม่จำเป็นต้องมาจากธรรมชาติเช่น พวก PBS ที่พวกบริษัทด้านปิโตร top2 ของเรากำลังเห่อนั่นต้นทางน่าจะมาจากน้ำมันแต่ย่อยสลายได้ ดีที่สุดคือมาจากธรรมชาติและย่อยสลายได้เช่นใบตอง
-การเผามันดีไม่มี microplastic แต่มันดันไม่ดีในภาพรวมเพราะเพิ่ม CO2 ในระบบด้วยเพราะการที่เราเอาของเริ่มต้นที่อยู่ผิดที่เช่นน้ำมันดิบมาใช้ (เราไม่อยากให้มันอยู่ใน cycle ให้มันอยู่ใต้ดินอ่ะดีแล้ว)
-การจะเผาได้เราต้อง 1ทำของที่ไม่ย่อยสลายก็ได้ แต่ขอให้เริ่มจากคาร์บอนในระบบที่หมุนเวียนอยู่ตลอดเช่นง่ายสุดคือพืช 2มีพืชหรือของที่ทำให้ cycle ของคาร์บอนมันหมุนเวียนได้คล่องเช่นลด CO2 ด้วยการปลูกต้นไม้บนโลกให้มากเป็น buffer ต่อยอดเอาพืชมาทำพลาสติก แล้วเผาพลาสติกทิ้งให้เป็น CO2 อีกครั้งจนครบ cycle
-ทุกอย่างที่ว่าไปคนในวงการรู้ แต่เป็นไปได้ยาก เพราะเศรษฐศาสตร์และมนุษย์มักง่ายเสมอ