แล้วเป็นถึง บก. เมิงไม่รู้จริงๆเหรอครับว่า มันเป็นประเด็นร้อนกันอยู่อ่ะ?

เหยียดแล้วเจือกไม่แมนอีกนะ

พวก2แง่2ง่าม สื่อน่าจะเอาชัวไปเลย ให้ขาวๆ ไม่ใช่เทาๆ
ลึกๆรู้อยู่แก่ใจแหละ

ลูกาคูแพงแต่ถ้าว่าตามผลงานก็คุ้มค่า
เชื่อว่าแฟนอินเตอร์ส่วนมากไม่คิดว่าแพง

ถูก-แพง กับ คุ้ม-ไม่คุ้ม นี่มันคนละประเด็นหรือเปล่าครับ ผมดูอินเตอร์ทุกเกมส์ครับ ไม่ได้บอกว่าไม่คุ้ม แต่ที่ผมสื่อคือราคา 75ล้านยูโร นี่คงไม่เรียกว่าราคาย่อมเยานะครับ

และที่สำคัญมันไม่ได้ตรงคอนเซปวันลดราคาสินค้า Black Friday แต่อย่างใด

พาดหัวสุ่มเสี่ยง เรียกแขก เจตนาจริงๆเป็นอย่างไรไม่รู้ แต่ถ้ามองในแง่ความคุ้มค่ากับฟอร์มปัจจุบัน
ลูกากูก็ดูคุ้มค่าอยู่ ถ้าเทียบกับนักเตะที่ย้ายค่าตัวสูงพอๆกันอย่าง เปเป้ อาซาร์ กรีซมันน์

สอบถามครับว่าทำไมคนผิวสีถึงค่อนข้างเซ้นซิทีฟกับเรื่องของสีผิวมากมันมีที่มาอย่างไรครับ

อย่างส่วนตัวผมถ้าฝรั่งมาเรียกเยลโล่มังค์กี้ผมก็เฉยๆนะไม่ได้รู้สึกอะไร

คำว่า Black อยู่ตรงลูกากูเลย ก็ไม่แปลกที่จะโดนมองแบบนั้น

ทำไมผมอ่านคำชี้แจงของ บก 2-3 รอบแล้วยังไม่เข้าใจว่าทำไมต้อง black friday ล่ะ

ประเด็นนี้ผมว่าพลาดเองแล้วออกมาแถมากกว่ามั้ง

การจะเหยียดหรือไม่เหยียดไม่ได้อยู่ที่ตัวคนส่งสารเลยครับ มันอยู่ที่ผลกระทบทางความรู้สึกของคนที่ได้รับสาร
กาลครั้งหนึ่งไทยเราก็เคยมีประเด็นแบบนี้ เกี่ยวกับคำที่ทางการใช้เรียกเกษตรกรว่ารากหญ้า ทางการเค้าเหยียดไหมครับ ไม่เหยียด ตั้งใจชูว่านี่คือส่วนสำคัญส่วนหนึ่งของประเทศ แต่คนฟังเป็นไงครับ รู้สึกไม่ดี ปัจจุบันทางการยังเปลี่ยนไปใช้คำว่าระดับฐานรากแทนเลยครับ
เรื่องแบบนี้มันละเอียดอ่อน ท่านอาจเฉยๆ ท่านอาจสนุก ผมโดนเรียกหำน้อยๆ มันอาจดูปกติ แต่ตัวผมเองโคตรนอยด์ เพราะดันน้อยจริงๆ

ประเด็นคือ รู้ว่าจะมีข้อขัดแย้งแบบนี้ แต่ละเลยที่จะใส่ใจ หลีกเลี่ยงไม่ให้เกิด

ที่ผมเคยอ่านมามันคือการเหยียดประมาณว่าพวกผิวดำไม่ใช่คนครับ อารมณ์ประมาณว่า พวกกูเป็นคน พวกมึงเป็นสัตว์ เป็นทาส อะไรแบบนี้ คือเหยียดความเป็นมนุษย์นั้นละ

คือสมัยก่อนมันแบ่งแยกกันโหดอะ พวกคนกำยังเข้าห้องน้ำคนขาวไม่ได้เลย ขนาดขึ้นรถเมย์คนดำต้องลุกให้คนขาวนั่งเลย ถ้าไม่ลุกโดยตำรวจจับ เขาถึงได้ต่อต้านกันถึงขนาดนี้

ผมเข้าใจประเด็นท่านนะ ว่า Black Friday คือของลดราคาของถูก
แต่อย่างว่าล่ะคนพาดหัวข่าวมันก็พยายามโยงให้เข้ากับช่วงเทศการ
ยังไงดีล ลูกากู สมอลลิ่ง ก็ถือว่าเป็นการซื้อที่ดีมากๆ มันก็พอโยงกับช่วงเทศการได้อยู่

หรือจริงๆในใจเขาอาจจะเหยียดหรือพาดหัวข่าวให้หมิ่นเหม่ก็ได้
แต่ผมว่ามันก็ยังพอกล้อมแกล้มอ้างได้แหละ

อีกหน่อยคงต้องเปลี่ยนชื่อเป็นเทศกาล white friday

ใช้คำ black Friday แล้วเอาลูกากู กับ สมอลริ่งขึ้น เหมาะไม่เหมาะไม่รู้รึไงง

ปัจจุบันยังมีแบบนั้นอยู่ในสังคมทั่วไปไหมครับ (ไม่นับพวกลัทธิ หรือพวกกลุ่มคนสุดโต่งนะครับ) แบบถ้าไปเดินตามท้องถนนทั่วไปจริงๆอะ

เพราะถ้าไม่เป็นแบบนั้นแล้วพวกเด็กๆรุ่นใหม่ๆก็น่าจะไม่เคยเจอเรื่องที่โดนแบ่งแยกกีดกันทางสังคมโดยตรง แต่ทำไมเด็กรุ่นใหม่ๆก็ยังเซ้นซิทีฟกับเรื่องนี้ไม่แพ้คนรุ่นก่อนเลย