กะลังงงเลยว่ากัญชามันจะมีผลอะไรขนาดนั้น ก็ยังต้องตามผลต่อไปว่ามาจากใครอยู่ดี

ไม่ใช่ทุกคนแต่ก็มีไงท่าน อย่างข่าว ป. ตอนโน่นน่ะ

คอมเม้นในทางยอมมันเยอะเลย(ถึงจะจริงหรือเล่นก็เถอะ)

มันก็เลยเกิดคำถามไงว่า ดาราเขาจะมามอมให้เสี่ยงทำไม

คนที่น่าจะยอมๆก็น่าจะมีเยอะนี่ อะไรแบบนี้มากกว่า

แต่ถ้าจะมองอีกมุมก็เข้าใจได้นะ
ถ้าจะมองมุมที่ว่า ง่ายๆมันน่าเบื่อ แบบนี้อาจจะท้าทายกว่าบลาๆ

ผมว่าเข้าใจกันผิดจนเกินกว่าเหตุมากกว่า

เยลลี่ คงมีส่วนผสมของกัญชาแหละ >> ต้องตรวจว่าของใคร?? ใครยื่นให้?? หรือน้องหยิบมาชิมมาลองเอง

น้อง นศ. อาจจะไม่เคยได้รับสารตัวนี้ เลยคิดว่าอาจโดนมอม ซึ่งจริงๆมันอาจจะเป็นอาการทั่วไปของคนที่เคยลองครั้งแรกก็เป็นได้ หรือไม่ก็แพ้สารตัวนี้

ส่วนตัวคิดว่าน่าจะจบกันที่ขอโทษขอโพยกันมากกว่า ไม่น่าจะมีอะไรยาวไปกว่านี้ครับ

นอกจากจะสืบหาที่มาของเยลลี่นั่นแหละ ไม่ดาราก็รุ่นพี่ซวยอ่ะ

แต่ผมแปลกใจอย่างนึงนะ ทำไมไม่เห็นพาดพิงถึงรุ่นพี่เลย และรุ่นพี่ก็ไม่มาโพสแก้ต่างอะไรด้วย ผมว่าเหมือนดาราซวยที่อยู่ในที่เกิดเหตุเฉยๆ เพราะคนเรียกแกร็บก็เป็นรุ่นพี่เองอีกต่างหาก ซึ่งมีการกล่าวอ้างว่ารุ่นพี่โทร.แจ้งคุณพ่อของน้องด้วย อยากรู้จังว่าใครโกหก

ไอ้ตัวพี่ที่ทำงานที่พามานี่ล่ะที่ผมสงสัยที่สุด ตามที่ผู้หญิงโพสต์ คือผู้ชายเป็นคนเรียกแกร็บแต่ไม่ได้เรียกไป รพ แต่เรียกไปที่ปักหมุดที่อื่น แถมตอนชวนมาก็บอกว่าอย่าไปบอกใครอีก มันดูมีพิรุธเยอะยังไงไม่รู้

เยลลี่กัญชานี่ผิดกฏหมายเต็มๆ ไม่แปลกที่จะไม่ยอมรับง่ายๆ เสียอนาคตง่ายๆเลย

เห็นว่าคุก 5 ปี ในโลกสวย จริงๆเหตุการณ์พูดแทบจะใกล้เคียงกัน ติดแค่กัญชาเป็นของใคร? เท่านั้นเอง ไอ้รุ่นพี่นี่ก็น่าสงสัยด้วย

อย่าพึ่งออกตัวแรงกันนะ เงิบมาเยอะแล้ว

เอาง่ายๆในโลกนี้ไม่มีการมอมจะจัดด้วยกัญชา มันไม่ได้ส่งผลทางนั้นเลย

ถ้าที่ฟ พูดจริงว่า หลังจากออกร้าน
นศ. กับรุ่นพี่ก็เรียกแกร๊บกันเองไปกันเองปักหมุดกันเอง

แล้วจะมาหาว่าฟ มอม ได้ยังไงว่า
ทั้งที่ ฟ ก็ไม่ได้พาไป แบบเคสมอมยาอื่นๆเอง

เบื้องหลังมีเพียงหนึ่งเดียยว

รุ่นพี่ที่ทำงานไปลองชอคเกอแลตสายเขียวที่ฮอลแลนด์
กินแรกๆไม่รู้สึกไรเลยสั่งเพิ่ม สุดท้ายต้องให้พนักงานหิ้วปีกไปขึ้นรถ สภาพแย่ทุกคน

อาจจะไม่ได้ตั้งใจมอมหรอก แต่ต้องถามว่า ไอเยลลี่กัญชาอะไรนั่นมันเป็นของใคร ใครเป็นคนเอาให้น้องกิน แล้วมันถูกกฎหมายในไทยไหม ถ้าผิดต้องมีมาตรการลงโทษอะไรหรือเปล่า