Steven Siro Vai หรือที่เราเรียกกันจนติดปากว่า Steve Vai เกิดเมื่อ 6 มิถุนายน ค.ศ.1960 ได้รับอิทธิพลทางการเล่นกีต้าร์มาจากฮีโร่หลาย ๆ ท่าน เช่น
Jimi Hendrix (ความกล้าที่จะสร้างสรรค์)
Jeff Beck (ความไหลลื่นของการเชื่อมต่อระหว่างโน้ตต่อโน้ต)
Brian May (การใส่กลุ่มเสียงประสาน)
Jimmy Page (ความสร้างสรรค์ในการเล่นและเรียบเรียง)
Allan Holdsworth (การเรียงโน้ตที่อยู่เหนือการคาดเดา)
Frank Zappa (การเล่นสำเนียงโน้ตที่พิลึกพิลั่น) เป็นต้น
Steve Vai ซึ่งในขณะนั้นอยู่ในวัย 13 ปี ได้เริ่มศึกษากีต้าร์กับ Joe Satriani จากการแนะนำของเพื่อนร่วมชั้นของเค้าเอง ซึ่ง Joe Satriani ก็คือรุ่นพี่ในโรงเรียนเดียวกับ Steve Vai นั่นเอง ภายหลังต่อมา ทั้ง 2 ก็ได้ดำรงค์ตำแหน่งกุนซือคนสนิทของกันและกันมาจนถึงปัจจุบันนี้
“ตอนนั้นที่ผมนั่งหันหลังชนกับ Joe Satriani บนที่นอนในห้องของเขา และแจมกีต้าร์กันอย่างสนุกสนาน มันช่างเป็นช่วงเวลาแห่งความทรงจำที่ผมมีความสุขมากเหลือเกิน”กล่าวโดย Steve Vai
ซึ่งหลังจากนั้น Vai ก็ได้เข้าเรียนที่ Berklee Colege of music และที่นี่ก็ทำให้เขาได้รู้จักกับ Frank Zappa ผู้ที่เปรียบเสมือนนักวิทยาศาสตร์ในคราบนักดนตรี บ้างก็ว่า Zappa เป็นเหมือนกบฎหัวก้าวหน้า ขณะนั้น Steve Vai ได้หลงเสน่ห์ในดนตรีของ Frank Zappa เข้าอย่างจัง จนถึงขนาดแกะเพลงพร้อมเขียนโน้ตเพลง The Black Page เพื่อส่งไปให้ Frank Zappa เองเลยทีเดียว ( แต่ก็แอบแนบวีดีโอการเล่นกีต้าร์ของตนไปด้วยเหมือนเป็นการออดิชั่นขอเข้าวงไปในตัวเลย) ซึ่งเมื่อได้ฟังเทปการออดิชั่นและดูวีดีโอที่ถูกส่งมา Frank Zappa จึงไม่รีรอที่จะเรียกตัว Steve Vai มาเพื่อร่วมงาน
ซึ่งในช่วงแรก Steve Vai ได้รับหน้าที่ในการแกะและบันทึกโน้ต (music transcriptionist) ในสิ่งที่ Frank Zappa เล่นไว้และในที่สุดเวลาของ อัจฉริยะตัวน้อยจากอิตาลี่ (ฉายาที่ Frank Zappa เป็นผู้ตั้งให้) ก็ได้มาถึง Steve Vai ได้เข้าร่วมเล่นและออกทัวร์ร่วมไปกับวงของ Frank Zappa ในฐานะมือกีต้าร์คู่กาย ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1980-1982 ซึ่งภายหลังจากนั้น การมาถึงของ โซโล่อัลบั้มแรกในชีวิตของเขาก็ได้ถือกำเนิดขึ้น
Steve Vai เกิดเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 1960 ณ.Long Island, New Yorkเริ่ม เรียนกีต้าร์อย่างจริงจังเมื่ออายุ 13 กับ Joe Satriani จากนั้นไปศึกษาด้านดนตรีที่ Berklee School ใน Boston และย้ายมาอยู่ที่ LAในปี 1979 เพื่อเป็นนักดนตรีในวงดนตรีของ Frank Zappa ออกโซโลอัลบั้มแรก Flex-able [1984]และ ในปี 1985เข้าไป แทนที่ Yngwie Malsteenใน AlcaTrazz ซึ่ง มี Graham Bonnet เป็นนักร้องนำ( อดีต นักร้องนำวง RainBow) ออกอัลบั้ม Disturbing the peace [1985]
ต่อมาในปี1986 ย้ายมาอยู่กับ David Lee Roth Band ออกอัลบั้ม 2 มาชุดคือ Eat 'em and Smile [1986] และ Skyscraper [1988]หลัง จากนั้นในปี 1989 มาอยู่กับวง White Snake ออกอัลบั้ม Slip of the Tongue แม้ว่าจะมีชื่อมือกีต้าร์ Adrian Vandenberg ร่วมด้วย (และเป็นคนร่วมแต่งเพลงกับ David Coverdale ) แต่ VAI เป็นคนเล่นกีต้าร์ทั้งหมด เนื่องจาก Adrian ประสบอุบัติเหตุต่อมาในปี 1990 ออกอัลบั้มแห่งประวัติศาสตร์ของโลกกีตาร์ในยุค'90ที่มีชื่อว่า Passion and Warfare ซึ่งอัลบั้มนี้เราถือได้ว่า...เป็นการแจ้งเกิดจุติให้ใครหลายๆคนได้รู้จัก เขาในฐานะเทพเจ้ากีตาร์ตนหนึ่งและหลังจากนั้นอีก 3 ปีคือในปี 1993เขาก็ได้ออกอัลบั้มที่ชื่อว่า Sex and Religien และก็มีตามออกมาอยู่เรื่อยๆสำหรับผลงานของ Steve Vai.
Steve Vai เข้าร่วมเป็นสมาชิกหลักของ G3 คอนเสิร์ตทัวร์ ซึ่งเริ่มต้นในปี 1996 ต่อมาในปี 1999 น้าแกได้ก่อตั้งค่ายเพลงอิสระ Favored Nations ซึ่ง Steve Vai ได้กล่าวจุดมุ่งหมายไว้คือ "...artists that have attained the highest performance level on their chosen instruments" ภาษาบ้านเราคงจะประมาณว่า "เพื่อให้ศิลปินบรรลุผลสูงสุดในเครื่องดนตรีที่เขาเล่น"
ผลงานอัลบั้มโซโล่เดี่ยวของ Steve Vai
1984 Flex-Able
1984 Flex-Able Leftovers
1990 Passion and Warfare
1993 Sex & Religion
1995 Alien Love Secrets
1996 Fire Garden
1998 Flex-Able Leftovers (Re-release)
1999 The Ultra Zone
2005 Real Illusions: Reflections
2012 The Story of Light