โลร็องต์ กอสเชียลนี่ อดีตปราการหลังอาร์เซนอล ตัดสินใจต้องการย้ายจากถิ่นเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ไม่ใช่เพียงเพราะต้องการกลับไปค้าแข้งในช่วงปลายในบ้านเกิด แต่หากเป็นเพราะมีอีก 2 ปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการตัดสินใจในครั้งนี้


กองหลังวัย 34 ปี อำลาจากทีมปืนใหญ่เมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา แบบจบไม่สวยเมื่อประท้วงไม่เดินทางกลับมารายงานตัวซ้อม บีบให้ต้นสังกัดต้องปล่อยตัวให้ย้ายไปบอร์กโดซ์

ก่อนหน้านี้ กอสเชียลนี่ ออกมาแจงเหตุผลว่า ต้องการย้ายเพราะอยากกลับไปเล่นในบ้านเกิดอีกครั้ง แต่ล่าสุด the Athletic ออกมาเปิดเผยว่า จริงๆแล้วยังมีอีก 2 ปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจครั้งนี้ ซึ่งเป็นปัญหาที่เกี่ยวข้องกับอูไน เอเมรี่

อย่างแรกเลย กอสเชี่ยลนี่ กังวลใจไม่รู้ชะตากรรมว่าจะได้รับปลอกแขนเป็นกัปตันทีมต่อไปหรือไม่ หลังเอเมรี่ ไม่ยอมตัดสินใจในเรื่องนี้เสียที

ต้องรอจนกระทั่งถึงกลางเดือนสิงหาคมจึงตัดสินใจ ซึ่งจากนั้น อิวาน กลาซิดิส บอร์ดบริหารคนสำคัญก็ดันมาอำลาสโมสรไปอีก ส่งผลให้กอสเชียลนี่ไม่แน่ใจในเรื่องสัญญาฉบับใหม่

เนื่องจากสัญญาฉบับใหม่ดังกล่าวได้เคยมีการพูดคุยเบื้องต้นกันไปแล้ว ว่าจะให้กอสเชียลนี่ อยู่เป็นทีมสต๊าฟฟ์เรียนรู้งานโค้ชต่อไปเลยหลังจากรีไทร์จากเกมลูกหนัง

แต่พอ กลาซิดิส ที่ดีลเรื่องนี้ไว้กับเขาย้ายออกไป ทำให้กอสเชียลนี่ไม่มั่นใจในอนาคตของตัวเองและเริ่มรู้สึกไร้ค่าลงไปทุกที


ความรู้สึกนี้มีเพิ่มมากขึ้นเมื่อตอนที่เขาหายเจ็บเอ็นร้อยหวายกลับมาสู่ทีมช่วงเดือนธันวาคม เมื่อเขารู้สึกได้รับการจัดการที่ไม่ดีจากเอเมรี่

ปกติในยุคของเวนเกอร์ มีการปรับตารางการเล่นของกอสเชียลนี่ อย่างเหมาะสมไม่กระทบกับปัญหาบาดเจ็บที่เอ็นร้อยหวาย และเพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงใช้การฉีดยาระงับความเจ็บก่อนลงสนาม

แต่ในสมัยของ เอเมรี่ ไม่ได้ดูแลกอสเชียลนี่ตรงจุดนี้ เมื่อเขามุ่งเน้นไปที่ผลงานมากกว่า ใช้งานปราการหลังชาวฝรั่งเศสอย่างหนักหน่วงทันทีหลังจากหายจากอาการบาดเจ็บกลับมา

โดยหลังจากเจ็บยาวไป 7 เดือน กอสเชียลนี่กลับมาลงเล่นนัดแรกพบ คาราบัค ในยูโรป้าลีก และ 3 วันหลังจากนั้นเขามีส่วนร่วมในเกมที่ชนะเซาแธมป์ตัน

จากนั้นเขาถูกเลือกลงเล่นพบแบล็คพูล ในเกมเอฟเอ คัพ รอบ 3 เพียง 4 วันหลังจากเล่นเต็ม 90 นาทีในเกมพบฟูแล่ม ขณะที่ตัวหลักคนอื่นๆได้พัก

สุดท้ายเกมนั้น กอสเชียลนี่ ต้องถอนตัวก่อนหน้าเกมจะเริ่มเพราะเจ็บหลัง แต่หลังจากนั้นเขาได้เล่นอีก 9 นัดในรอบ 6 สัปดาห์ ซึ่งรวมถึงนัดชิงชนะเลิศยูโรป้าลีก ที่แพ้ให้กับเชลซี

จพอมีความสนใจที่มีเข้ามาจากจีนและฝรั่งเศส ทำให้กอสเชียลนี่ปฏิเสธไม่ร่วมเดินทางออกทัวร์ปรีซีซั่นที่สหรัฐอเมริกา กดดันให้ทีมปืนต้องปล่อยตัวเขาย้ายทีมสมใจที่ราคา 5 ล้านปอนด์ให้กับบอร์กโดซ์

ฉากถอดเสื้อยังคงติดตา

มุมนึง กอส ก็ทำไม่ถูกที่ไปแสดงออกขนาดนั้น

อีกมุมก็สะท้อนปัญหาความไม่ชัดเจนในอะไรต่างๆของอุไน อะไรต่างๆมันคงน่าอึดอัน จนถึงกับทำให้ นักเตะที่แทบไม่เคยเรียกร้องอะไรและทุ่มเทมาตลอด เป็นได้ขนาดนั้น

ค่อยๆ มีข่าวจากนักเตะเก่ามาถึงอุไนเรื่อยๆละ

รอพวกชุดปัจจุบันย้ายออก หรืออุไนย้ายออก
น่าจะมีข่าวถึงโค้ชคนนี้เยอะ คงจะมันน่าดู

ในส่วนการส่งลงสนามติดๆกันอันนี้เราเช็คได้ว่าจริงไม่จริง ในเมื่อโค้ชสั่ง ก็นะ ฟังดูแล้วไม่ค่อยดีจริง จากอนาคตสดใสกลายเป็นไม่มีอะไรแน่นอน แถมยากลำบากอีกต่างหาก ชีวิตเปลี่ยนเลยทีเดียว แต่สิ่งที่กอสเลือกทำนั้นก็คนละส่วนกัน ถึงอนาคตจะไม่แน่นอน แต่ตอนนั้นคุณก็ยังเป็นกัปตันทีมอยู่

ทุกวันนี้ดูแล้วปัญหาเยอะเหลือเกิน นอกสนามเราอาจไม่รู้มาก แต่ในสนามมันห่วยมาก นักเตะหลายคนพังเพราะแผนการเล่นแปลกๆของแกนี่แหละ

นึกไปถึงช็อตนี้ มีเบื้องหลังอะไรหว่า



แถมบอร์ดยังนิ่งยังให้โอกาสอยู่อีก

สำหรับผม ถอดเสื้อนี้เบามากเลย ถ้าเทียบกับเคสอื่น

หนักสุดของปืน คงเป็นผู้กองสินะ รายนั้นถึงตายได้เลย

ถ้าเป็นประเทศแถบอเมกาใต้ ให้ตายเถอะ อย่างเหีัยม...

พอข่าวออกแบบนี้อาจจะจริงหรือไม่จริงก็ได้
แต่ก็ทำให้ได้รู้ว่า เบื้องหลังการย้ายทีมมันต้องมีอะไรมากกว่านั้นแน่ๆเป็นเรื่องจริง

ปล.เข้าใจบอสเวงเกอร์เลยว่าเรื่องฟุตบอลเป็นเรื่องมากกว่านั้นจริงๆ
เรื่องผลงานในสนามแกอาจดรอปๆไปแต่เรื่องนอกสนามนี่สุดจริงๆ

ผมว่าส่วนหนึ่งเพราะเป้าหมายต่างกันครับ ยุคแวนเกอร์มีเวลาทำทีมระยะยาว หน้าที่หลักจึงชัดเจนกว่า เซ็นสัญญาต่อสัญญาง่ายเพราะไม่เคยเปลี่ยนโค้ชบ่อย

แต่มายุคเอเมรี ให้เวลา2ปี เป็นงานระยะสั้นที่มีเป้าหมายชัดเจน ทำอะไรได้ก็ต้องทำครับ จะเข็นลงจนเจ็บก็ต้องทำ เผลอๆสัญญานักเตะที่ตัวเองเซ็นยังไม่ทันหมดก็โดนไล่ออกแล้ว

สงสารและเข้าใจกอสเซียนี่ ควรจะลาจากกันได้ดีกว่านี้