หลัง "อากิระ นิชิโนะ" เพิ่ง "เสียซิง" พาทีม "ช้างศึก" พุ่งชนความพ่ายแพ้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เข้ามาคุมทีม ต่อ "เสือเหลือง" มาเลเซีย

นั่นทำให้กุนซือเลือดซามูไร โดนวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากแฟนบอลไทย โดยเฉพาะการปรับกระบวนยุทธ์ในตำแหน่งกองหลัง ใช้ ทริงตอง โด, เอเลียส ดอเลาะ และกรกช วิริยอุดมศิริ ลงแทน นิติพงษ์ เสลานนท์ ที่กำลังฟอร์มกระฉูดแตก, ธนบูรณ์ เกษารัตน์ และ ธีราทร บุญมาทัน ที่ติดโทษแบน

ทำให้ "ดอกไม้" ที่ได้รับในวันนั้น กลายเป็น "ก้อนหิน" ปาเข้าใส่ในวันนี้

แต่ทุกอย่างผ่านไปแล้วไม่อาจย้อนคืนมาได้ เหมือนสายน้ำไม่มีวันไหลย้อนกลับ "ช้างศึก" ต้องลุกขึ้นสู้ และเดินหน้าต่อไป แม้จะมีงานที่หนักอึ้งรออยู่

โดยเฉพาะการบุกไปเยือน "เวียดนาม" ที่รั้งจ่าฝูงของกลุ่ม จากการมี 10 คะแนน จากการลงสนาม 4 นัด มากกว่าไทย ที่มี 7 แต้มตามมาเป็นอันดับ 2 ส่วน ยูเออี และ มาเลเซีย ก็ทำแต้มจี้มา มี 6 แต้ม

นั่นแสดงว่าเกมดวลแข้งกับขุนพลตระกูล "เหงียน" ทัพลูกหนังจากสยามประเทศต้องสะกดคำว่า "ชนะ" เท่านั้น หากยังหวังผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก ในด่านต่อไป

ข่าวดีของทีมไทย ในเกมนี้ก็คือจะได้ "ธีราทร บุญมาทัน" แบ็คซ้ายตัวเก่งพ้นโทษแบนกลับมาลงสนามได้อีกครั้ง

แต่การเล่นกับ "เวียดนาม" ชั่วโมงนี้ไม่ใช่งานที่ง่ายเลย เพราะนับตั้งแต่พวกเขาสถาปนาตัวเองเป็นทีมลูกหนังเบอร์ 1 ของอาเซียน พวกเขาสามารถยกระดับไปสู้กับพี่เบิ้มของเอเชียได้อย่างไม่เป็นรองทั้ง ญี่ปุ่น หรือ อิหร่าน

ล่าสุดการเอาชนะ ยูเออี ถือเป็นการยืนยันคำกล่าวนี้ได้เป็นอย่างดี

ต้องมาดูว่า "นิชิโนะ" จะงึดกึ๋นของตัวเองมาสู้กับลูกทีมของ "ปาร์ค ฮัง ซอ" ที่เคี่ยว ดุ บู๊และแกร่งเหลือเกินอย่างไร?

ยิ่งแผนการเล่นของ "นิชิโนะ" ในช่วงหลัง เหมือนเดิมเปี๊ยบ แทบไม่มีแท็คติคอะไรแปลกใหม่ ซึ่งมันง่ายต่อการจับทางจากคู่ต่อสู้

แถมกองหลังก็พร้อมจะเสียประตูได้ทุกเมื่อ

แต่ตอนนี้ยังมีเวลาอีก 2-3 วันให้ "นิชิโนะ" และนักเตะ "ช้างศึก" ปรับตัวและแก้ไขข้อผิดพลาด ไม่แน่ว่าเกมกับ "เวียดนาม" อาจจะมีอะไรดีๆ ให้แฟนบอลต้องร้อง "ว๊าว" ก็ได้

แต่หากผิดไปจากนี้ก็ตัวใครตัวมันละครับ

แถมหลังจากเสร็จภารกิจกับ "ชุดใหญ่" แล้ว "ลุงโนะ" ยังต้องพา "ช้างศึกซีเกมส์" ลงป้องกันแชมป์ที่ฟิลิปปินส์ อีก

ซึ่งการเตรียมทีมตอนนี้เรียกว่า ตามมี ตามเกิด เพราะฝึกซ้อมเรียกความฟิตให้พร้อมสำหรับการเล่นแบบวันเว้นวัน

ส่วน "แท็คติค" การเล่น ก็ต้องรอ "นิชิโนะ" ไปใส่ให้ ซึ่ง "นิชิโนะ" มีเวลาเพียง 2 วัน ก่อนลงสนามนัดแรกกับ อินโดนีเซีย ในวันที่ 26 พฤศจิกายน

อย่าลืมนะครับตอนนี้ชาติในอาเซียน ไม่ได้หมู เหมือนในอดีตแล้ว แม้สมาคมฯ เองจะยืนยันมาตลอดว่าไม่เน้นซีเกมส์ แต่หากพลาดแชมป์ขึ้นมา รับรองว่ารอรับ "ก้อนหิน" จากแฟนบอลได้เลย

ถึงต้องนี้ก็มาติดตามดูละครับว่า "นิชิโนะ" จะแก้ปัญหาเหล่านี้ และพา "ช้างศึก" ทั้งสองชุดเดินไปข้างหน้าแบบไหน

กึ๋น และ ประสบการณ์ ลูกหนังของเขาจะเพียงพอที่พา "ช้างศึก" สร้างความสุขให้แฟนบอลไทยต่อเนื่องหรือไม่?

เพราะหากล้มเหลวทั้งเกมกับ "เวียดนาม" และ "ในซีเกมส์" ไม่แน่ว่า "นิชิโนะ" อาจกระเด็นตกเก้าอี้กุนซือ "ช้างศึก" ก่อนสึกชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี รอบสุดท้ายก็ได้

แต่นั่นเป็นสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น

ส่วนผมเองในฐานะคนไทย ก็ยังคงสนับสนุน และให้กำลังใจทีมชาติไทย เหมือนเดิม

แม้ผลงานของทีมจะออกมาเป็น บวก หรือ ลบ ก็ตาม

หวังว่าคงรู้แล้วนะทุกเกมสำคัญหมดก็ต้องส่งชุดที่ดีที่สุด ประมาทเกินไป

ผมว่านักเตะไทย เหมือนมองตัวเองเก่งกว่าเค้า โดยเหมือนโดนสื่อแหละอวย ส่วนทีมเวียกนามหรือที่เคยอ่อนกว่าเราเค้ากลับผลักดันตัวเองจนแซงไปบ้างแล้วเช่นเวียดนาม แต่เราก็ยังบอกว่าเราที่ 1 ทั้งที่ผลงานในหลายรายการมันบ่งชี้ว่าเค้าขึ้นมาเบียดเราตกลงไปแล้ว และที่สำคัญทำไมเราไม่มีการสร้างกองหน้าขึ้นมาประดับวงการเลย หรือเราใช้แต่กองหน้าต่างประเทศในไทยลีคที่ยึดลำดับดาวซัลโวไม่มีชื่อคนไทยเลย งงว่าทำไมเรายังให้มุ้ยแบก ทั้งที่มุ้ยก็แก่ละฟอร์มก็ไม่นิ่ง มุ้ยเล่นไม่ออกเราควรมีตัวลงไปแทนหรือเสริม เปลี่ยนรูปเกมส์ แต่เราไม่มีเลย

ต้องปล่อยให้แกวางพื้นฐานก่อนซักระยะ

เพราะพื้นฐานบ้านเรากับญี่ปุ่นโคตรต่างกันมากเลย