ในอดีตแผนการเล่น 442 เรียกได้ว่าเป็นแผนการเล่นมาตรฐานในฟุตบอลระดับสูงเลยก็ว่าได้ เป็นแผนการเล่นที่มีสมดุลทั้งเกมส์รับและเกมส์รุก โดยในแดนกลางใช้ผู้เล่น Box2Box 2 คน คนนึงรักษาตำแหน่งแดนกลางในขณะที่อีกคนเติมไปช่วยเกมส์รุก

ในการที่จะชิงความได้เปรียบทั้งในเกมส์รุกและเกมส์รับโค้ชได้ทำการ ถอยกองหน้า1คนลงมาที่กองกลาง การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้กองกลาง2คนเดิม สามารถช่วยกันจัดการกองกลางฝั่งตรงข้ามที่เติมเกมส์ขึ้นมาได้ง่ายขึ้น และเปิดโอกาสให้กลางรุกได้ดวล1-1ในจังหวะสวนกลับ อีกทั้งง่ายต่อการรักษาตำแหน่งในแดนกลาง ถ้ากองกลางฝั่งตรงข้ามมาไล่บอลที่แดนกลางก็จะกลายเป็นการเปิดพื้นที่ให้กลางรุกได้เล่น สิ่งเหล่านี้เองทำให้แผนการเล่น 4231 ถูกใช้กันอย่างแพร่หลาย

กลางรุกหรือผู้เล่นหมายเลข 10 ในแผนการเล่นนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งมักจะเป็นตัวคอยจ่ายบอลสำคัญๆและสอดแทรกทำประตูอยู่เสมอ หมายเลข 10 กลายเป็นดาวเด่นประจำทีมโดยมากมักจะเป็นผู้เล่นที่ตัวเล็กแต่เทคนิคดี วิชั่นดี คิดเร็ว แต่มักจะมีปัญหาเมื่อต้องมีการปะทะหรือใช้ความแข็งแกร่ง เลยมักจะถูกวางให้ไม่ต้องช่วยเกมส์รับมากนักและให้โฟกัสที่เกมส์รุกเป็นหลัก

ไม่นานสิ่งต่างๆก็เริ่มเปลี่ยนไป หลายๆทีมนำแผน4231มาใช้ กลายเป็นว่าหลายครั้งที่เป็นการเจอกันเองระหว่าง 4231vs4231 นั่นส่งผลให้พื้นที่และเวลาของกลางรุกที่เคยมีนั้นถูกจำกัดลงไปเพราะต้องถูกประกบจากผู้เล่นกลางรับ2คน หลายทีมก็พยายามจะใช้4231ต่อไป แต่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่กำลังมา

โค้ชต้องการให้ผู้เล่นที่มีเทคนิคดีที่สุดในทีม มีเวลาและพื้นที่เล่นกับบอลให้ได้มากที่สุด นี่ส่งผลให้กลางรุกเดิมต้องถอยลงไปลึกกว่าเดิมเพื่อหนีจากกลางรับ2คนของฝั่งตรงข้าม ส่งผลให้เกิดแผนการเล่น 433 กลายเป็นแผนการเล่นพื้นฐานโดยมีบาซ่าเป็นผู้นำเทรน อีกทั้งทีมใหญ่ๆหลายทีมหากลางรุกดีๆไม่ได้ สิ่งเหล่านี้ทำให้ inverted winger ถูกใช้มากขึ้นโดยจะเข้าไปเล่นในพื้นที่เดิมที่กลางรุกเคยเล่น และตำแหน่งกลางรุกก็กลายเป็นตกยุคไปอย่างรวดเร็ว

ฟุตบอลในปัจจุบันมีการเล่นที่เร็วขึ้นและใช้ทักษะทางกายภาพมากขึ้น ทีมจึงไม่สามารถแบกผู้เล่นที่ไม่เล่นเกมส์รับได้ ผู้เล่นหมายเลข 10 จึงต้องเจอกับทางเลือก ปรับตัวหรือมองดูเกมส์วิวัฒผ่านเขาไป

ผู้เล่นกลางรุกส่วนใหญ่เลือกที่จะปรับตัว โดยเล่นในตำแหน่งที่ลึกลงไปหรือไม่ก็ออกไปเล่นด้านข้าง