สวัสดีครับ ผมไม่รู้จะแนะนำอะไรยังไงดี เอาเป็นว่าขอเกริ่นคร่าว ๆ แล้วกัน
ผมมีโอกาสได้ย้ายมารับราชการที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน จากคนแดนใต้ มาอยู่ดินแดนลับแล (อันนี้เป็นนิยามของผมเอง เพราะเข้ายากออกยาก อิอิ คุณต้องฝ่าหุบเขาและโค้งนับพันจึงจะเข้าไปยังดินแดนแห่งนี้ได้)
ก็ปฏิญานตนว่า ก่อนจะย้ายกลับบ้านเกิด การมายังดินแดนที่ใหม่สำหรับใครหลาย ๆ คนสิ่งที่ผมจะเอาไปบอกต่อคือ จะทำให้คนข้างนอกรู้จักแม่ฮ่องสอนมากยิ่งขึ้น หรือก็คือเที่ยวแล้วโม้ (หรือบอกต่อ)นั่นเอง
----------------------------------------------------------------------------------------
เอาเป็นว่านี่คือคนนอกมาบอกต่อแล้วกัน ใครมีความพร้อม อยากให้ออกมาเที่ยวกันครับ
คนแม่ฮ่องสอนจะดีใจมากยามที่มีใครไปซื้อของ ๆ เขา เพราะนี่คือจังหวัดที่ยากจนที่สุด แต่มีความสุขที่สุด จากการสำรวจข้อมูลของหลาย ๆ หน่วยงาน (ผมจำไม่ได้แระ เพราะเห็นมาผ่าน ๆ )
สำหรับจังหวัดใหญ่ ๆ มันแค่เศษเงิน แต่แม่ฮ่องสอน บนดอย ร้อยนึงนี่ คุณจะเหมือนกับคนอีกระดับนึงเลยทีเดียว
ผมเคยไปผูกข้อมือเด็กแรกเกิดบนดอย ก็ไม่ได้คิดอะไร พอดีมีแบงค์ 100 ติดตัว ก็ให้ ๆ ติดมือหนูน้อย ปรากฎว่าสีหน้าของคนบนดอยที่แสดงออกนี่มันแบบชัดเจนมาก ผมถามเด็กที่ไปด้วยกัน เขาบอก ที่นี่ แบงค์ 20 ก็หรูแล้ว
ไปทำบุญงานศพ 500 นี่ เหมือนเราเป็น วีไอพีของเขาเลย (อาจจะเล็กน้อยสำหรับบางคน แต่ชนชั้นข้าราชการแบบผม ประมาณนี้คือไม่เดือดร้อนตัวเอง)
ที่นี่คือนิยามใหม่ที่ผมเข้าถึงได้ลึกซึ้งเลยคือ จำนวนค่าเงินของคนเราไม่เท่ากัน (มาก ๆ )จริง ๆ
พล่ามเสียเยอะ ขออภัยครับ อิอิ
วันนี้ผมจะพาไป ดอยพุยโค GO Go go >>>>>>
ปล.ภาพถ่ายทั้งหมดเป็นภาพที่ผมอัพลงเฟซส่วนตัว โดยใช้แค่กล้องมือถือธรรมดา เอาไปแชร์เอาไปอวดกันได้ครับ ไม่มีตามเก็บเงิน 5000 ในภายหลังแน่นอน อิอิ แต่อย่าลืมไปเที่ยวกันนะ
-------------------------------------------------------------------
เริ่มจากระหว่างเดินทาง (เดี๋ยวท้าย ๆ ผมจะให้รายละเอียดอีกทีนะครับ อันนี้เล่าถึงเส้นทางคร่าว ๆ )
หากจะขับรถไปเอง ต้องมีสกิลพอสมควรนะครับ เพราะมันต้องไต่ทางชัน ลูกรัง ถนนหลุ่มบ่อ แถมทางแคบอีก ขับไม่ประมาท อย่าเก๋า ค่อย ๆ ไป รู้กำลังรถเอาอยู่ครับ
ที่สำคัญแนะนำให้เป็นรถยกสูงพวกกระบะครับ แต่ถ้าเก๋งจะลองดูอันนี้ผมไม่แนะนำนะครับ สงสารรถ
ปล.จะมีรถรับจ้างขึ้นไปครับ แต่ได้ถึงลานจอดรถ อีก 840 เมตร ต้องเดินไต่ทางชันไปเอง อันนี้พละกำลังล้วน ๆ
ช่วงแรกจะเป็นถนนนลาดยาง แต่ก็แคบพอสมควร
หลังจากนั้นจะเริ่มเป็นลูกรังแล้ว มีบางจุดที่ลูกรังด้วยไต่เขาด้วย แถมถนนหลุมบ่อด้วย มีออฟชันเสริมสำหรับรถอยากเก่าเร็วคือ ทางพังในลักษณะที่เป็นร่องถนนด้วย รถเก๋งร้องเป็นตุ๊ดแน่ ไม่แนะนำครับ ด้านข้างไม่มีที่กั้นนะครับ ถนนกับเหวล้วน ๆ ระมัดระวังกันด้วย
ผ่านด่านเครียด 1 มาถึงจุดจอดรถ หลับก่อนนะลูกที่เหลือพ่อจะดูแลตัวเอง เดี๋ยวพรุ่งนี้รับงานขา(ขับ)ลง
ตรงนี้จะเข้าสู่ด่านเครียด 2 คือ ต้องเดินไต่ทางเดินขึ้นเขาไปอีก 840 เมตร เป็นทางชันล้วน ๆ แต่ไม่น่ากลัว เพราะจะมีราวจับตลอดเส้นทาง วัดกันที่ความฟิตและพละกำลังล้วน ๆ ไม่ได้น่าซีเรียสเพราะตอนผมไปบนนั้น มีกลุ่มวัยเกษียณไปตั้งแคมป์กันอยู่ เด็ก 4-5 ขวบก็มี เรียกได้ว่าทุกเพศทุกวัย ค่อย ๆ ไต่ไปก็ถึงครับ ไม่ได้แข่งไตรกีฬา ใช้เวลาเดินแบบร่างกายดี ๆ ก็ไม่ถึงช่ัวโมง (น้องเสื้อขาวในภาพนี่อ้วนเตี้ยป้อมเลย แต่ก็เดินถึงประมาณชั่วโมง แวะระหว่างทางหลายหอบ) แต่แนะนำว่า ให้ไปถึงราว ๆ 5 โมงครับ จะได้ทันดวงอาทิตย์ตก สวยม๊วกกกกกกก
สัมภาระนี่จะมีแก๊ง The Avengers รับจ้างหาบขึ้นไป ไป-กลับ 400 มีกำลังก็จ้างกันครับ รายได้จำนวนนี้ ระดับพวกเขายิ้มหน้าบานกันอีกนาน ถือว่าช่วย ๆ กันมาเที่ยว ขอบอกว่าพวกนี้ฟิตมาก ๆ น่าจะหายใจทางเหงือกกันด้วย ตัวนิดเดียว แต่ดูที่หาบแล้วกัน
ปล.ส่วนพวกผมไม่ได้จ้างหาบอะไรเพราะไปกันหลายคน ตามภาพที่ลานจอดรถ คนละขวด เอ้ย! ใบสองใบ
พร้อมแล้วใช่ไหม ไ..... ย..ยย..ยั... ยัง กุยังไม่หาย T_T
ไม่พร้อมก็ต้องพร้อม เพราะเราไม่ได้มานอนที่ลานจอดรถ ไปปปปป
ยาวไป ยาวไป ทางขึ้น
แรก ๆ ก็นิ้วมาเงี๊ย
ระหว่างไต่ขึ้นไปก็จะมีราว มีวิวแต่ละระดับให้สูดหายใจแชะ ๆ กัน
ไม่ใช้ตัวแสดงแทน ว่ากันด้วยอินเนอร์เพียว ๆ
แก๊งเดอะพาวเวอร์กับ...เอิ่ม...นิ้วที่หายไป ...5555 .... ตลอดเส้นทางคือขึ้นอย่างเดียว มีแค่ชันมาก ชันน้อย (แต่จะเป็นชันมากนี่ดิ )
ปล.น้องคนเสื้อขาว ไปได้ราวครึ่งทางเนี่ย เหลือตัวเปล่าแล้ว ต้องช่วยกันแบก ๆ ขึ้นไป ไม่งั้น ..เอิ่ม......คริคริ ศาลาไกล ๆ นั่นไง เป้าหมายเรา อีกนิดเดียว (รึป่าววะ )
อย่าถามอะไร ให้ภาพเหล้าเรื่อง ...
น้อง...เลือกจุดชมวิวถ่ายภาพสวยจัง....
ชมวิวบ้านมึงดิ กุหอบบบบบบบบบบ
หลังไว ๆ นั่นคือผมเอง (จะโม้ว่ายังไหวว่างั้น 5555) เห็นคุณค่าของการเตะบอลเลยมาทริปนี้
เหนื่อยไหม แวะก่อน ซักแชะ
ถึงแล้วโว้ยยยยยยยยยย
เอิ่ม....นั่นก็มาจากข้างในล้วน ๆ ไอ้เสื้อเทา ๆ นั้นคล้าย ๆ เสื้อผมเลย ใครขโมยไปใส่วะ
ระหว่างรอดวงอาทิตย์ตกก็ จัดแจงที่นอนกัน อากาศกำลังดีครับ สดชื่นมาก หายใจทางปอดออกทางตูด ตดมากลิ่นบริสุทธิ์เลย
ไม่ต้องกลัวเหงา พอมีเพื่อนอยู่ แต่ก็ไม่ได้พลุกพล่าน ผมมาช่วงเสาร์ - อาทิตย์คนเลยพอสมควร ราว 30 - 40 เต็นท์ ถ้าวันธรรมดาคนจะน้อยกว่านี้ ราว ๆ 20 เต๊นท์ แต่เชื่อว่าช่วงปลายฝนต้นหนาว คนจะแห่กันมาที่นี่ เพราะมันดังมาซักพักแล้ว
ซิกเนเจอร์ของที่นี่ ต้นเดียวดาย
ทีเด็ดเซทแรกของเรา พระอาทิตย์ตกดินนนนนนนนนน
มาเตรียมเสบียงและนันทนาการในยามค่ำคืน เพื่อรอทีเด็ดชุดสอง คือทะเลหมอกและดวงอาทิตย์ขึ้น
ปล.ที่นี่จะงดใช้เสียงดังประมาณ 4 ทุ่ม นะครับ จะมีเด็ก ๆ หาบของมาบอก เพื่อความเป็นส่วนตัวของคนอื่น ๆ ก็ไม่ว่ากัน ตามนั้น
ทีเด็ดก๊อกสอง ขอยิงยาว ๆ ไปเลยเน้อ.....
ครับจบทริปดอยพุยโคกันไป รีวิวจากกล้องมือถือธรรมดา ๆ ของจริงอลังกว่านี้เยอะครับ
ขอสรุปท้าย ๆ สำหรับคนที่พร้อมจะแพ๊คกระเป๋าแล้วนะครับ
- การเดินทาง วิ่งตาม GPS ไปเลยครับ มันจะมีอยู่ ส่วนเส้นทางในการขึ้นดอย ขับด้วยความระมัดระวังครับ รู้ทักษะ รู้กำลังรถ ปลอดภัย ช้าแต่ชัวร์ยังไงก็ไปถึง ถนนพังเอาเรื่องอยู่ครับ ไม่แนะนำช่วงหน้าฝน อันตราย ลื่นไปนี่ จองวัดได้เลย ถ้าไม่ชัวร์ โทรจองรถท้องถิ่นไปเลยครับ 1500 บาท
- ข้างบนมีห้องน้ำ สะอาดเอาเรื่องอยู่ครับ ขี้เยี่ยวคล่องตูด ดูแลกันอย่างดี
- ฟิตร่างกายนิดนึงก่อนจะมาครับ ขาขึ้นเหนื่อย ขาลงเมื่อย ค่อย ๆ ไต่ ไม่ไหวก็พัก ยังไงก็ถึง
- มีลูกหาบช่วยแบกของไปให้ เราเดินตัวเปล่าชิว ๆ ได้เลย ไปกลับ 400
- แนะนำให้ไปช่วงหน้าหนาว จะได้ฟิวส์หนาวแบบสุดขั้ว อุณหภูมิเลขตัวเดียวก็มี ทะเลหมอกสวยมากกกก พาโนรามา 360 องศา
รายละเอียดเพิ่มเติม ขาดตกบกพร่องอันไหน เม้นท์มาครับ PM มาก็ได้ ยินดีครับ
edit : เดี๋ยวถ้าว่าง จะมารีวิวที่อื่น ๆ ในแม่ฮ่องสอนอีกนะครับ
ผมเที่ยวจนคนแม่ฮ่องสอนมองฆ้อนแล้วว่า ขนาดกูยังไม่เคยไป 555