ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1, 2, 3, 4
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
คอมเมนเตเตอร์
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Oct 2009
ตอบ: 21313
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Oct 22, 2019 15:49
[วิเคราะห์แทคติกเล่าด้วยภาพ] แมนยู1-1ลิเวอร์พูล ศึกแห่งศักดิ์ศรีและการสู้กันของแทคติก
สวัสดีครับทุกท่าน กลับมาอีกครั้งนะครับหลังจากห่างหายไปนาน
กับกระทู้วิเคราะห์แทคติกด้วยภาพ ของผม ที่วันนี้พิเศษหน่อยไม่ได้มีแค่ภาพแล้ว แต่เพิ่ม Gif ขึ้นมา 2 Gif

ที่ไม่ทำเพิ่มเพราะไม่รู้จะทำเพิ่มทำไม เพราะแมนยูเองก็เล่นเดิมๆอะ

ปัญหาเดิมๆ ตั้งแต่นัดวูฟ กับปัญหาเรื่องการเข้าทำ การสร้างสรรค์เกม
แถมการทำแต่ละครั้งก็ใช้เวลานาน ผมก็เลยขี้เกียจทำ 5555

แต่วันนี้ โอเล่ เขาอุตสาห์เปลี่ยนแทคติก !

จาก 4-2-3-1 สุดรัก มาเป็น 5-3-2 ในเกมรับ หรือ 3-4-3 เวลาบุก

ถือโอกาสนี้กลับมาทำสักหน่อยครับ เพราะเกมนี้ถ้าพูดเรื่องแทคติก มันสนุกมากเลย
ทั้งแมนยูลิเวอร์พูล เรียกได้ว่าสู้กันด้วยแทคติกล้วนๆครับ

มีตรงไหนผิดพลาดไปประการใดขออภัยด้วยนะครับ
รวมไปถึงถ้าชอบบทความแบบนี้ก็อย่าลืมแผล่บให้เป็นกำลังใจทำต่อหน่อยนะครับ

โดยขอเน้นย้ำว่าผมจะไม่พูดถึงจังหวะที่ลินเดอเลิฟ ทำฟาว ไวนาดุมนะครับ
จะเถียงกันเรื่องนี้ ไปเถียงกันกระทู้อื่นครับ ผมขอพื้นที่คุยกันแค่เรื่องแทคติกโดยรวมของเกมนะครับ ถือว่าขอความร่วมมือ ในฐานะเจ้าของกระทู้






วันนี้อย่างที่ได้บอกไปครับ แมนยูมาด้วยแทคติก 3-4-3
ด้วยการเพิ่ม เซนเตอร์เข้ามา 1 คน โดยก่อนเกมคนที่จะได้ลงคือ ทวนเซเบ้ แต่เจ็บตอนวอร์ม
กลายเป็น มากอส คันนาวาโรโฮ ได้ลงแทน

ลิเวอร์พูลมาด้วยแผนการเล่น 4-3-3 แผนเก่งแผนเดิม แต่สามประสานแดนหน้า ขาดตัวสำคัญอย่าง ซาร่าไป





และนี้คือสถิติที่เกิดขึ้นในเกมครับ ก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่
รูปเกมออกมาตามเนื้อผ้า ยิ่งการที่ ลิเวอร์พูลโดนนำก่อน ก็เป็นฝ่ายขึงเกมรุกและครองบอลมากกว่า แต่โอกาสเข้าทำต้องบอกว่า ออกมาพอๆกันครับ



และจริงๆแล้ว แมนยูที่เหมือนจะเล่นเกมสวนกลับ แต่โอกาสยิงส่วนมากมาจากเกม Open play ครับ


คำถามก็คือ !! ทำไมแมนยูต้องเล่น 3-4-3 ??

ต้องเกริ่นก่อนว่า ลิเวอร์พูลปีนี้ นอกจาก 3 ประสานในแดนหน้าที่ถูกจับจ้องกัน

สิ่งที่เด่นอีกอย่าง และจริงๆเด่นมาก คือการเข้าทำหลักของลิเวอร์พูลครับ

ลิเวอร์พูลปีนี้และที่ผ่านๆมา แบคทั้งสองข้าง เรียกได้ว่า มีจุดเด่นในการ ครอสบอลเข้ากรอบเขตโทษมาก

ทั้ง โรเบิตสันและ TAA เป็น แบคที่เติมเกมเก่ง และครอสเก่ง

โดยเฉพาะ TAA ที่ได้กินเนสบุค บันทึกไว้เรียบร้อยแล้วว่าเป็นกองหลังที่ Assist เยอะสุด ใน 1 ฤดูกาล



และนี้คือสถิติในเกมลีคจนถึงตอนนี้ครับ อันดับ Assist ของทีม โรเบิตสันนำร่วมอยู่ที่ 3 ลูก ตามมาด้วย TAA ที่ 2 ลูก

TAA เองก็มี KeyPass Per game อยู่ที่ 3.3 ลูกต่อ 1 เกม นำมาเป็นอันดับ 1

จากสถิติทั้งสองอย่างก็พอจะเห็นได้ว่า แบคทั้งสองข้าง ของลิเวอร์พูล

มีส่วนสำคัญในการสร้างสรรค์เกมของลิเวอร์พูลจริงอย่างที่ปฎิเสธไม่ได้นะครับ



นั้นเป็นที่มาว่าหลังจากนัดเจอกับนิวคาสเซิล
โอเล่กล่าวอ้างว่า จะไปศึกษาเกมของลิเวอร์พูล ประชุมทีมร่วมกัน วางแผนร่วมกับทีมงานสตาฟโค้ชในช่วงพักเบรกทีมชาติ

จากการกระทำดังกล่าว ตามที่พี่เขาว่า ก็จึงตกผลึกออกมาเป็น แผน 3-4-3 วันนี้ครับ




แน่นอนว่าการส่งเซนเตอร์ลงมา 3 คน ให้ประกบ 1-1 กับ สามประสานในแดนรุก

นั้นทำให้ วิงแบคทั้งสองข้าง สามารถขึ้นไปประกบการเติมเกมขึ้นมาของแบคลิเวอร์พูลได้
ทำให้โรเบิตสันและ TAA ไม่สามารถ มีเวลาครอสบอลได้ถนัดอย่างที่เคยๆมา

จากภาพจะเห็นว่า AWB ในวงกลมฟ้า และ Young ในวงกลมชมพู จะตามประกบ TAA และ โรเบิตสัน กันตั้งแต่ครึ่งสนามเลยทีเดียว
รวมไปถึง ให้ เปเรร่าในวงกลมส้ม พยายามวิ่งเพรส ก่อกวน ฟาบินโญ่อีกแรง ให้ออกบอลยากขึ้น

โดยทิ้ง เจมส์ และ แรช ซึ่งมีความไว ให้ไปดวลกับ มาติป และ ฟานไดค์ เอา


จากภาพจะเห็นว่าการเติมเกมขึ้นไปของแบคลิเวอร์พูลสองข้าง
ทำให้ กองหน้าทั้งสองคนในวันนี้ในจังหวะสวนกลับ มีโอกาสได้ดวล 1ต่อ1 กับ คู่เซนเตอร์ของ ลิเวอร์พูล
ซึ่งทั้งแรชทั้งเจมส์ สองคนมีความเร็ว
และวันนี้ยังมีพื้นที่ในการวิ่งเล่นสวนกลับได้ในทุ่งหญ้าของสนามที่หญ้าสวยที่สุดในพีเมียร์ด้วยครับ


และคู่หน้าแมนยูก็ทำได้ค่อนข้างดี เลี้ยงเอาชนะกองหลังลิเวอร์พูลได้ค่อนข้างบ่อย
โดยเฉพาะแรช ที่วันนี้เล่นดีเป็นพิเศษ เนื่องจากมีพื้นที่ให้เล่น บวกกับการไม่ต้องเป็นกองหน้าตัวเป้าคนเดียว

โดยวันนี้แรชเป็นคนที่มีจำนวนการเลี้ยงเอาชนะคู่แข่งเยอะที่สุดในสนามครับ

โดยปกติ กองหลังลิเวอร์พูล โดยเฉพาะฟานไดค์ จะเก่งมากในการดวล 1-1 กับกองหน้า แต่ไม่ใช่วันนี้ครับ ทั้งมาติปและฟานไดค์ ชนะการดวล 1-1 แค่คนละครั้ง



และสิ่งที่ยิ่งทำให้ลิเวอร์พูลเล่นยากไปอีก คือการ High Press ในครึ่งแรกของแมนยู ที่บีบบอลกันตั้งแต่หน้าโกลลิเวอร์พูลเลยครับ


และแทคติกที่วันนี้ทำได้ดีอีกอย่างหนึ่งก็คือ การดึงตัวประกบของกองหน้าทั้งสองคน

จากภาพจะเห็นว่า เจมส์ในสี่เหลี่ยมแดง ดึง ฟานไดค์ ออกมาด้านนอก
ทำให้ เปเรร่าในวงฟ้า สามารถวิ่งไปในพื้นที่ สี่เหลี่ยมเหลือง ตัดหลัง ฟานไดค์ที่หลุดตำแหน่งออกมา
และสามารถ ใช้พื้นที่ตรงนี้ในการสร้างสรรค์เกมได้ครับ

(ในสปอยเป็นภาพเคลื่อนไหวนะครับ)

Spoil
 


นี้ก็เป็นอีกครั้งนึงที่ แรชดึง ฟานไดค์ออกมาด้านข้าง เปิดพื้นที่ให้เปเรร่ามาสร้างสรรค์เกมได้

โดยส่วนตัวผมคิดว่าการดึงกองหลัง
ที่มีชื่อว่าเก่งที่สุดในโลกตอนนี้อย่างฟานไดค์ออกมาจากการยืนตำแหน่ง
และตัดเขาออกจากการเล่นเกมรับ
น่าจะเป็นอีกนึ่งวิธีในการเจาะเกมรับของลิเวอร์พูลครับ



และนี้ก็เป็นอีกจังหวะสวยๆ ที่เจมส์ดึงฟานไดค์ให้หลุดออกจากตำแหน่งได้
โดยเจมส์วิ่งต่ำลงมาชิ่งบอล


คนที่รับบอลต่อมาคือเปเรร่า โดยในภาพจะเห็นว่า มาติปในวงกลมฟ้า ต้องมา Cover ตำแหน่งของ ฟานไดค์ที่หลุดตำแหน่งไป

ตัวของ โรเบิตสันในวงกลมเหลืองเอง ก็ต้องเตรียมรับมือกับ AWB ที่วิ่งเติมเกมมา

และแรชในวงกลมขาว ก็มีพื้นที่ในการวิ่งตัดหลัง TAA ที่ไม่ทันระวัง แรชฟอดในจังหวะนี้ครับ



จังหวะต่อเนื่องมา ก็จะเห็นว่าทั้ง มาติป และฟานไดค์ หลุดตำแหน่งกันไปหมดแล้ว

ทำให้ เจมส์ และ แรช เป็นสถานการณ์ 2 vs 1

ถ้าเปเรร่ามีวิชั่น ในการสร้างสรรค์เกม มองจังหวะนี้ออกและจ่ายให้ใครคนใดคนหนึ่ง

โดยเฉพาะแรช คิดว่าน่าจะมีโอกาสถึงขั้นจบสกอร์ได้เลยครับ

แต่ก็นะ จังหวะนี้ เปเรร่า แม่งยิงเอง ไอ้เวร

(ในสปอยเป็นกิฟ)

Spoil
 


ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ขอพูดถึง เปเรร่าหน่อยนะครับ

ถึงแม้โอเล่จะเล่น 3-4-3 แต่ตำแหน่งที่ขาดไม่ได้ของโอเล่ เลยก้คือตำแหน่งเบอร์ 10 หรือกองกลางตัวรุก ที่เปเรร่าได้ลงลงเล่นวันนี้

จากสถิติในเกมจะเห็นว่า เจ้าตัวมี Key Pass อยู่ที่ 3 ครั้ง เยอะสุดในทีม



แต่ในขณะเดียวกัน เจ้าตัวก็คือคนที่เสียการครอบครองบอลเยอะสุดในสนามวันนี้ครับ

คือหลายๆครั้ง เจ้าตัวมีการเคลื่อนที่ได้ดี แต่เล่นบอลไม่ละเอียด ขาดการสร้างสรรค์ในบางครั้ง

ผมก็ยังยืนยันคำเดิมนะครับ ตราบใดที่โอเล่คิดจะใช้กลางรุก ก็ต้องซื้อนักเตะเพิ่มอยู่ดี

ในทีมตอนนี้ไม่มีใครดีพอเล่นตำแหน่งนี้ให้แมนยูครับ มีแต่ถูไถ
ละต่อจากนี้ก็คงกลับไป 4-2-3-1 อีกแน่นอน คิดละเศร้ากับตำแหน่งนี้จริงๆ

(ว่าแล้วก็เสียดานบรูโน่เฟอนันเดสตอนซัมเมอร์ )


ครึ่งแรกเรียกได้ว่าเกมแทบจะเป็นไปตามแผนของแมนยูทั้งหมดครับ
และจังหวะที่ได้ประตูนะครับ จากจังหวะปัญหา บวกกับ โรเบิตสันที่เติมเกมขึ้นไป
ทำให้แมคโทมิเนที่ได้บอลสามารถส่งต่อให้เจมส์ ใช้พื้นที่แบคซ้ายของโรเบิตสันได้ครับ



จังหวะส่งและยิงประตู ต้องชมทั้งคนเปิดและคนยิง

การวิ่งเข้าหาบอลของแรชเรียกว่าฉลาดมากครับ มาติปเห็นแรชวิ่งมาแต่ไกล เรียกได้ว่าเห็นมาแต่แรก

และแรชก็ทำท่าทีว่าจะวิ่งไปเสาแรก มาตลอด จนจังหวะสุดท้าย เปลี่ยนทางวิ่งไปเสาสองแทน

ทำให้มาติป เสียจังหวะ และเจมส์เองที่ปกติแทบจะเปิดไม่ผ่านบลอคแรกเลย
ลูกนี้เปิดโค้งอ้อมหลบฟานไดค์ ไปถึงแรชฟอดแตะเบาๆ ลอดตัวอลิซอนเข้าไป





ขอพูดถึงลินเดอเลิฟนิดนึงละกันนะครับ จังหวะนี้ถ้า มาเน่ ไม่แฮนด์บอลไปก่อน
ต้องบอกว่าเป็นการประกบตัวที่เฮงซวยมากครับ

ดูล่กและลนลาน มากๆ ทีมวิเคราะห์ของสกายยังแซวกันเลยว่า

ถ้าไม่แฮนด์มาเน่ ก็ดีแค่ไหนแล้วที่ ไม่แฮนด์ ลินเดอเลิฟ แทน

โดยส่วนตัวปีนี้เจ้าตัวถือว่าฟอร์มต่ำกว่าปีที่แล้วค่อนข้างเยอะ ถึงโดยรวมทั้งเกมอาจจะดูดี

แต่ต้องมีจังหวะ ล่ก ทำพังแบบนี้ตลอดเลย

และก็จบครึ่งแรกไป แบบที่เกมทางด้านแทคติกต้องบอกว่า โมเมนตั้มมาทางฝั่งแมนยูหมดแล้ว



เริ่มต้นครึ่งหลังมา คลอปเองก็ไม่รอช้า เปลี่ยนแทคติกทันที

โดยเปลี่ยนการยืนจาก 4-3-3 มาเป็น 4-2-4 แทน

โดยการ ขยับเฮนเดอสัน ขึ้นไปยืนเสมือน คล้ายเป็นปีกขวา เพิ่มอีกคนหนึ่ง



โดยจากภาพก็จะเห็นว่า ไม่ว่าจะเป็น ยัง หรือ AWB จะขึ้นไปบีบ TAA กับ โรเบิตสัน แบบในครึ่งแรกไม่ได้แล้ว

เพราะการเพิ่มมาของ เฮนเดอสัน และการสลับพื้นที่ไปมาของทั้ง มาเน่ เฟอมิโน่ และ โอริกี้ (ตอนหลังเป็น OX)
เซนเตอร์ 3 คนของแมนยูเอาไม่อยู่แน่เพราะตัวผู้เล่นน้อยกว่า

ยังและ AWB จึงต้องถอยลงมา ช่วยเซนเตอร์ในการเล่นเกมรับมากขึ้นนั้นเอง



จากภาพก็จะเห็นนะครับว่า เฮนเดอสันตำแหน่งยืนตอนนี้ ไม่ใช่ มิดฟิลแล้ว
พอวิงแบคสองข้าง กดดัน โรเบิตสันและ TAA ไม่ได้เหมือนเดิม

ลิเวอร์พูลก็กลับมาครับ ลิเวอร์พูลเริ่มสิ่งที่ตัวเองถนัดที่สุดทันทีคือการ ครอสบอลจากแบคนั้นเอง

โดยโยนจากซ้ายทีขวาที ถ่ายเทบอลจากซ้ายไปขวา ขวาไปซ้ายเปลี่ยนไปเรื่อยๆ
นวดแมนยู ที่ถอยไปรับลึกพยายามจะรักษาสกอร์แทน โดยที่โอเล่ไม่ทำการเปลี่ยนแผนหรือเปลี่ยนตัวใดๆ

จนสุดท้าย คลอปก็เปลี่ยนตัว ลัลลนา ลงมาแทนเฮนโด้ ซึ่ง ลัลลนาเองก็น่าจะเล่นตรงตำแหน่งนี้ได้ดีกว่า เฮนโด้


(ตาแว่น)



จนในที่สุดหวยก็มาออกที่ การเปิดของโรเบิตสัน ที่มีเวลาแต่งบอลมองและเปิดครอสเข้ามาในเขตโทษ ผ่านเฟอมิโน่และลินเดอเลิฟ
ไปถึงลัลลนา แทปอินง่ายตีเสมอ 1-1 ไปในที่สุด



ต้องบอกว่าเป็นจังหวะที่ โรโฮ เองก็พลาด พยายามจะอ่านจังหวะบอลเพื่อไปเคลียร์

แต่ที่ไหนได้ ไม่ถึงบอล 55555555555555555

ทิ้งตัวประกบ อย่าง ลัลลนา ว่างสบายๆ

แมนยูเองก็ไม่รู้ว่าซ้อมเล่นหลัง 3 มาแค่ไหน

จังหวะนี้อาจเป็นการประกบตัวที่ไม่เข้าใจกันของ โรโฮ กับ ยังว่า ใครควรจะเข้าไปปิด ลัลลนากันแน่

ก็รับกรรมไป 1-1 จนได้




โดยสรุปแล้ว ทั้งสองฝ่ายดีกันคนละครึ่ง

ครึ่งแรก แมนยูวางแผนมาดี ปิดจุดแข็งของลิเวอร์พูลในการสร้างเกมรุกได้อย่างหมดจด

อาจมีพลาดบ้างบางจังหวะ แต่โดยรวมแล้วดีกว่าที่คิด จุดนี้ต้องยกความดีความชอบให้ โอเล่และทีมงาน ที่เตรียมทีมกันมาอย่างดี

ลิเวอร์พูลเองในครึ่งแรกพอไม่ได้เล่นเกมของตัวเอง
อาจจะกดดัน สังเกตได้จากจ่ายเสียกันค่อนข้างเยอะผิดปกติ

ครึ่งหลัง ต้องชมคลอป รับไปเลย

กับการเปลี่ยนมายืน 4-2-4 แก้หมากของโอเล่ได้อย่างดี

ทำให้แบคสามารถกลับมามีพื้นที่ในการครอสบอลได้อีกครั้ง

แมนยูเองก็ผ่อนเกมกว่าที่จะเป็น โอเล่เองก็ไม่ได้แก้เกมอะไรสู้คลอปเลย

พูดง่ายๆ ก็คือแทบจะรับรอโดน เลยก็ว่าได้

โดยส่วนตัว ผมคิดว่า ผลเสมอ ถือว่า แฟร์แล้วสำหรับทั้งสองทีมครับ



วันนี้ต้องชมนักเตะแมนยูที่ช่วยกันวิ่งไล่ ทุ่มสุดตัว ไม่ให้เสียหน้า
ก่อนเกมคิดว่าคงแพ้ แต่วันนี้ถือว่าทำได้ดีกว่าที่คิด ทั้งโค้ชและนักเตะ

แมนยูหลังจากนี้ ต้องออกไปเยือนรัวๆ และคิดว่า โอเล่คงกลับไปเล่น 4-2-3-1
งานหนักยังคงมีอยู่ และคิดว่าหนักกว่านัดลิเวอร์พูลอีก
จะเก่งแค่กับทีมใหญ่ไม่ได้

เพราะทีมที่เหลือน่าจะเล่นเกมรับสู้กับแมนยูหมด เพราะเขารู้หมดแล้วว่าแมนยูไม่มีปัญญาจะเข้าไปยิง

หวังว่าการกลับมาขอมาเที่ยว จะทำให้อะไรๆมันดีขึ้นนะครับ เซพโอเล่จ้าาา ถถถถถ


จบแล้วครับ วันนี้อยากจะลองทำ Gif ดู
ก็เลยงมอยู่นานอาจจะมึนๆไปบ้างตอนเขียนกระทู้
ผิดพลาดตรงไหนขออภัยอีกครั้งนะครับ
ขอบคุณที่อ่านจนจบ ขอบพระคุณมากครับ
142
0
หากโดน 242 เรื้อน จะถูกแบน
วายาโม , KopToday , poppucare , max35142 , zasd , Tarwaan , JokeCupZ , noneluck , batihgoal , Little Mac , manmooham , zlatan_db , หม้อแกง&นะโม , MilanBaros , อีไรนี่ กรู , gp901 , SeoYoonYul , pahtaoz , บรรจงร้อยมาลัย , Liverpool @ CNX , Radiant , Fatherblesss , badlovea , romanticer , ditto , เด็กวัด , cmbank , okey116 , โนแลนจอมโกหก , Ool3z , Alles blau , MonkeyD Lucy , zerpenteer , LuLLaZZx , eatsleep , SalmonGuard , scarlett , domy_3950 , Silence , The SkiPPeR , Cesc[4] , EszinZeRo , OkP , lotte , SuperMonkey , GooSEng , นี่แมวงาย , itoonggy , hihiphop , ZwerzyXi , Cookiie` , MANCUNIENX , Seljalands , Mirt3838 , Barcelonistu , LBJR , -1-st mir@cle , Taskung_88 , HenryVarro , error` , BADถั่ว , NarakJad , ฉงน , TripleLife , popoom , Contingency , Believe , Big00X , Legend18 , LuFi3rZe , romagnoli , JackSparrow , grandia2 , ผมเป็นคนชอบJET , meenama , bossa26 , Classico , santaJL , DarkZane , 15thwednesday , Mr.Es , santawa , FlyingFinger , MUPS7 , Dekvok , Forniner_Thailand , BeeValentine , Sir N , AlfaZero , ByeBye , Chal2lotte , Sonic , turbo32 , Zer0s , Cafitiliar , leobeers , After Dark , -Owefil- , nappapong , darkofmurder , K!nG , Hydee , Elizx , ผมว่า , Operator , I R O N. , tknpalmza , Guide_Ja , Sisero , bookbaza , อู๊ดจู๊ด , ira , IzeZzii , Gameyz , Canizarros , Arttillo , BallZa27 , manatsawee23 , ZiLibruM , swensense , rut13 , SaTaNic Worst , สมศรีหมีสดใส , pingziie , 18 , MemberMe , Artilaz , เจ็ทแหมมโจน , pstp , Larc , PECh- , nuni_es , FredRed , NickyTheKop , bankpanda , 2Prasong , ว่าที่แชมป์ยุโรป7สมัย , piyakun , TheBeginningz , bighlerm , quepidkyu , Boulevard
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 Mar 2018
ตอบ: 6880
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Oct 22, 2019 15:52
ถูกแบนแล้ว
[RE: [วิเคราะห์แทคติกเล่าด้วยภาพ] แมนยู1-1ลิเวอร์พูล ศึกแห่งศักดิ์ศรีและการสู้กันของแทคติก]
ยังไม่ได้อ่านนะครับ

แผล่บไว้ก่อน

ชอบมู้แบบนี้ครับ

ทำมาอีกบ่อยๆนะครับ

5
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
คอมเมนเตเตอร์
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Oct 2009
ตอบ: 21313
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Oct 22, 2019 15:59
[RE: [วิเคราะห์แทคติกเล่าด้วยภาพ] แมนยู1-1ลิเวอร์พูล ศึกแห่งศักดิ์ศรีและการสู้กันของแทคติก]
วายาโม พิมพ์ว่า:
ยังไม่ได้อ่านนะครับ

แผล่บไว้ก่อน

ชอบมู้แบบนี้ครับ

ทำมาอีกบ่อยๆนะครับ

 


ขอบคุณครับ
3
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
แขวนสตั๊ด
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Aug 2017
ตอบ: 23143
ที่อยู่: ไม่เอาดิ อย่ามายุ่ง
โพสเมื่อ: Tue Oct 22, 2019 16:17
[RE: [วิเคราะห์แทคติกเล่าด้วยภาพ] แมนยู1-1ลิเวอร์พูล ศึกแห่งศักดิ์ศรีและการสู้กันของแทคติก]
ลูกที่ผีเสียนี่ จารย์ยังอยู่ใกล้ ลัลลาน่า แต่ดันปล่อยซะงั้น

โรโฮก็ปล่อยให้บอลผ่านหน้าง่ายเกิ๊น





เดี๋ยวเดือนใหม่จะมาแผล่บให้นะ



แก้ไขล่าสุดโดย TheBeginningz เมื่อ Tue Oct 22, 2019 16:27, ทั้งหมด 1 ครั้ง
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
อสอหปรส.

ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 22 Jul 2007
ตอบ: 792
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Oct 22, 2019 16:24
[RE: [วิเคราะห์แทคติกเล่าด้วยภาพ] แมนยู1-1ลิเวอร์พูล ศึกแห่งศักดิ์ศรีและการสู้กันของแทคติก]
วิเคราะได้ดีครับ ขอบคุณครับ
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ง.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 10256
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Oct 22, 2019 16:43
[RE: [วิเคราะห์แทคติกเล่าด้วยภาพ] แมนยู1-1ลิเวอร์พูล ศึกแห่งศักดิ์ศรีและการสู้กันของแทคติก]
วิเคราะห์ดีมากเลยครับ

จริงๆก็อย่างที่หลายๆคนรวมถึงผมพูดมาตลอด โอเล่เนี่ยวางแผนก่อนเกมใช้ได้ในหลายๆนัด อย่างเกมนี้เองก็เช่นกัน

แต่ แต่่่่่่่ ทำไมครึ่งหลังมันแก้เกมไม่ได้เลยวะ พออีกฝ่ายแก้เกมปุ้ป แมงจบเลย แทบสู้เขาไม่ได้เลย มันคืออะไร้ นี่ผ่านมากี่นัดแล้วไม่คิดจะพัฒนาส่วนนี้บ้างเลยเรอะ
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

ออฟไลน์
นักเตะอบต.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 24 Jun 2019
ตอบ: 2014
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Oct 22, 2019 16:47
[RE: [วิเคราะห์แทคติกเล่าด้วยภาพ] แมนยู1-1ลิเวอร์พูล ศึกแห่งศักดิ์ศรีและการสู้กันของแทคติก]
จังหวะที่คล๊อปเปลี่ยน ลัลลาน่าลงไป คิดในใจละไอแว่นนี่ก่ะอัดแหลก....ไม่ยับ ก็ยับ
ผมในฐานะคนดูบอลมันส์ๆ ก็อยากจะเห็นโอเล่ มันแก้เกมส์ซะหน่อย
ปรากฏว่า.................
Spoil
ไม่การแก้มีเฮ้ไรเลยครับเกมส์  
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะเทศบาล
Status: เขตห้ามหวง - TOR+
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 03 Mar 2019
ตอบ: 1014
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Oct 22, 2019 16:55
[RE: [วิเคราะห์แทคติกเล่าด้วยภาพ] แมนยู1-1ลิเวอร์พูล ศึกแห่งศักดิ์ศรีและการสู้กันของแทคติก]
ชอบมู้แบบนี้มากๆครับ อยากให้ทำบ่อยๆเลยหากไม่ลำบากเกินไป
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะตำบล
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 22 Dec 2009
ตอบ: 619
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Oct 22, 2019 16:58
[RE: [วิเคราะห์แทคติกเล่าด้วยภาพ] แมนยู1-1ลิเวอร์พูล ศึกแห่งศักดิ์ศรีและการสู้กันของแทคติก]
ผมชอบกระทู้แบบนี้ มีสาระ ได้ประโยชน์
มันจริงมากที่ว่า เกมส์ แดงเดือด นัดนี้ มันสู้กันด้วยแทคติก ที่ต่างฝ่ายปรับมาเพื่อสู้กัน ไม่ว่าฟอร์มก่อนหน้าจะเป็นยังไง ไม่สามารถคาดเดาได้เลย ถือเป็นเกมที่ดีครับ
เป็นกำลังใจ ให้ทำกระทู้ดีๆต่อครับ
3
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
แข้งดัทช์ลีก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 30 Oct 2014
ตอบ: 11892
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Oct 22, 2019 16:59
[RE: [วิเคราะห์แทคติกเล่าด้วยภาพ] แมนยู1-1ลิเวอร์พูล ศึกแห่งศักดิ์ศรีและการสู้กันของแทคติก]
Ool3z พิมพ์ว่า:
วิเคราะห์ดีมากเลยครับ

จริงๆก็อย่างที่หลายๆคนรวมถึงผมพูดมาตลอด โอเล่เนี่ยวางแผนก่อนเกมใช้ได้ในหลายๆนัด อย่างเกมนี้เองก็เช่นกัน

แต่ แต่่่่่่่ ทำไมครึ่งหลังมันแก้เกมไม่ได้เลยวะ พออีกฝ่ายแก้เกมปุ้ป แมงจบเลย แทบสู้เขาไม่ได้เลย มันคืออะไร้ นี่ผ่านมากี่นัดแล้วไม่คิดจะพัฒนาส่วนนี้บ้างเลยเรอะ  


แก้เกมกากจริงครับ เรียกว่าแทบไม่ได้แก้เลยดีกว่า
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
คอมเมนเตเตอร์
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Oct 2009
ตอบ: 21313
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Oct 22, 2019 17:03
[RE: [วิเคราะห์แทคติกเล่าด้วยภาพ] แมนยู1-1ลิเวอร์พูล ศึกแห่งศักดิ์ศรีและการสู้กันของแทคติก]
Ool3z พิมพ์ว่า:
วิเคราะห์ดีมากเลยครับ

จริงๆก็อย่างที่หลายๆคนรวมถึงผมพูดมาตลอด โอเล่เนี่ยวางแผนก่อนเกมใช้ได้ในหลายๆนัด อย่างเกมนี้เองก็เช่นกัน

แต่ แต่่่่่่่ ทำไมครึ่งหลังมันแก้เกมไม่ได้เลยวะ พออีกฝ่ายแก้เกมปุ้ป แมงจบเลย แทบสู้เขาไม่ได้เลย มันคืออะไร้ นี่ผ่านมากี่นัดแล้วไม่คิดจะพัฒนาส่วนนี้บ้างเลยเรอะ  



กุนซือแผนเดียวครับ ทำใจ

ถ้าคิดเข้าข้างก็เพราะตัวเปลี่ยนเกมไม่มีด้วยครับ

แต่ก็นั่นแหละ เลือกลดค่าเหนื่อยละ ขายไปเองนี่
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะอบต.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 16 Feb 2011
ตอบ: 2150
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Oct 22, 2019 17:10
[RE: [วิเคราะห์แทคติกเล่าด้วยภาพ] แมนยู1-1ลิเวอร์พูล ศึกแห่งศักดิ์ศรีและการสู้กันของแทคติก]
แผนตอนเริ่มเกมเป็นแผนที่มีโอกาส โดนทีมอื่นๆ ลอกไปใช้แน่นอนครับ เพิ่มเติมคือ แมนยูไม่ได้มีโอกาสคิดเเก้เกมคอป ตอนแผน 4-2-4 แต่ ทีมอื่น มีเวลาเตรียมทีมใว้สบายๆ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ซุปตาร์ยูโร
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 05 Dec 2016
ตอบ: 22419
ที่อยู่: กลางสนาม
โพสเมื่อ: Tue Oct 22, 2019 17:10
[RE: [วิเคราะห์แทคติกเล่าด้วยภาพ] แมนยู1-1ลิเวอร์พูล ศึกแห่งศักดิ์ศรีและการสู้กันของแทคติก]
คล๊อปก็พยายามแก้ทางผีมาดี ด้วยการไม่เปิดโอกาสให้ผีได้ใช้จุดแข็ง
ในขณะที่ผีสู้แบบไม่มีไรจะเสีย
วิ่งเพรสบ้าคลั่ง
แต่หงส์มาด้วยความไม่อยากแพ้
ในขณะที่หงส์ไม่มีคนแก้เพรสเก่งๆ
โอริกี้ที่หวังให้ใช้ความใหญ่ ก็พึ่งพาไม่ได้

จังหวะ50-50 ที่ดูเป็นใจกับเจ้าบ้าน
เลยทำให้โมเมนตั้มมาทางผีเยอะ

ถ้าไม่มีเหตุการณ์นั้นก็คงจะ0-0แบบเนือยๆ

ถ้าหงส์อดทนในการตั้งเกมรับมากกว่านี้
โดยที่ไม่ต้องเติมให้เสียตำแหน่ง
เล่นครึ่งหลัง0-0 จะได้เปรียบมากกว่า

ผีแพ้ทางบอลสวนเก่งๆ เพราะตัวเอง
ยังไม่มีรูปแบบในการบุก อาศัยจังหวะฉาบฉวย

คล๊อปพยายามปรับการยืนตำแหน่งเล็กน้อย
เพื่อให้ยังคงได้ใช้แทคติกที่ถนัด แต่ก็พลาดจนเสียประตูจนได้ ทั้งๆที่รู้ว่าเจมส์กับแรชมีความเร็ว ก็ยังเปิดพื้นที่ให้

ถ้าหงส์ได้ฟาวล์ในจังหวะที่ควรได้ รูปเกมอาจจะเป็นอีกแบบ
นั่นหมายความว่า การโต้กลับของผีก็จะมีโอกาสน้อยลง

บางทีแทคติกของคล็อปอาจจะถูกก็ได้ ถ้ารายละเอียดเล็กๆน้อยๆมันเป็นใจ
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวซัลโวฟุตบอลโลก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 03 Oct 2007
ตอบ: 43359
ที่อยู่: แขนของทางช้างเผือก
โพสเมื่อ: Tue Oct 22, 2019 17:26
[RE: [วิเคราะห์แทคติกเล่าด้วยภาพ] แมนยู1-1ลิเวอร์พูล ศึกแห่งศักดิ์ศรีและการสู้กันของแทคติก]
งง ว่าคล๊อปทำแผนมาแก้โอเล่ได้แล้วทำไมโอเล่แกไม่คิดปรับแผนรับมือมั่งฟะ นั่งซึมตาเยิ้มอย่างเดียวเลย
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะตำบล
Status: My RORA
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 22 May 2011
ตอบ: 1957
ที่อยู่: ซุ้มม้านั่งสำรอง
โพสเมื่อ: Tue Oct 22, 2019 18:05
[RE: [วิเคราะห์แทคติกเล่าด้วยภาพ] แมนยู1-1ลิเวอร์พูล ศึกแห่งศักดิ์ศรีและการสู้กันของแทคติก]
อย่างน้อยโอเล่ก็กล้าเปลี่ยนแผน
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1, 2, 3, 4
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel