จากที่ฟังโค้ชจุ่นมาโจทย์ยากนะเพราะพวกหน้าใหม่ที่ยังไม่เคยติดทีมชาติเด่นแบบจริงๆ ทั้งฝีเท้าและร่างกายยังไม่เห็นใครเลย ส่วนใหญ่ที่คิดออกคือพวกที่ติดทีมชาติยุคก่อนๆ ไม่รู้ว่าพวก U เด็กนี่นับมั้ยคิดว่าใครบ้างครับ

เงื่อนไข นิชิโนะคือ ให้โค้ชผู้ช่วยหานักเตะที่ยังไม่ติดทีมชาติ

เด็กชลบุรี หายไปไหนหมดไม่ขึ้นมาเลย

มันจะคล้ายๆตอน วินฟรีดเจอศราวุธ มาสุข หรือตอนซิโก้เจอปีโป้อ่ะ(อันนี้ไม่อยากกระแนะกระแหนอะไรนะ แต่มันเป็นกระแสโซเชี่ยลช่วยส่งด้วยตอนปีโป้อยู่T2แล้วเล่นดีตอนเจอเมืองทองนัดเดียวเอง)

ถ้าโจทย์มาแค่นั้นจริงๆ จะว่ายากก็ยาก เพราะยุคนี้ใครฟอร์มดีมันก็ย่อมมีสถิติและอยู่ในสารบบอยู่แล้ว -*-

การจะไปหาช้างเผือก โคตรยากเลย ผมคิดว่ามีหลายคนเลยด้วยซ้ำ แต่คนที่จะไปเห็นนั้นต้องเก่งจริงๆ สายตาต้องดีมากๆ

นักเตะที่จะเป็นเพชรเม็ดงามในอนาคต แมวมอง แม้แต่โค้ช เขาจะมองออกว่าคนนี้สามารถเก่งได้ไหม บางคนก็มีออร่าให้เห็น บางคนก็ดูธรรมดาแต่มันจะมีจุดเล็กๆที่ทำให้เขามองออก


นักเตะระดับท็อปบางคนอยู่ลีกล่างๆ วาร์ดี้อยู่ทีมนอกลีก อัลลี่อยู่ทีมmk ดอน เก็นดูซี่และก็องเต้ ก็ลีกเดอซ์

ผมชอบนิชิโนะตรงที่ถามว่าทำไมจังหวะนั้นคนที่ไปสเก๊าท์เล่นแบบนั้น บ่งบอกว่านิชิโนะไม่ได้สนสถิติมากนัก แต่จะสนวิชั่น การตัดสินใจเป็นหลัก ชึ่งจุดนี้แหละที่ช้างเผือกจะมี

ผมรอโอกาสสิงมุ้ยของทีมผมอยู่ ไม่ติดสักที

ธีรพล เยาะเย้ย ยิงโคตรเยอะ เล่นดีไม่เคยติด

จารย์โน๊ะแกคงอยากให้ออกไปหานักเตะหน้าใหม่ๆ ที่ไม่เคยอยู่ในสารบบ “ เผื่อเจอ “ หรือถ้าเจอจริงๆ ก็คงแค่เรียก

เข้ามาซ้อมก่อน ไม่ได้หมายถึงว่าแทบจะการันตี 23 คนสุดท้ายหรอกครับ เหมือนแกทิ้งการบ้านเอาไว้ให้ทำในตอน

ที่แกกลับญี่ปุ่นด้วยแหละ มันคงเป็นสเต็ป 2 ในการเสาะหาผู้เล่นน่ะครับ หลังจากสเต็ปแรกแกเคยถามแค่ว่า มีใครบ้าง

อยู่ในข่ายทีมชาติ พอจบนัด UAE แล้วพอมีเวลาว่างก็เลยเสาะหาช้างเผือกซะเลย ผมว่าดีมากๆ ด้วยนะ คำพูดแค่นี้

แต่สร้างอิมแพ็คได้ถึงลีกล่างๆ เลยทีเดียว

ปกติลีคใหญ่ๆจะมีฐานข้อมูลสถิตินักเตะอยู่แล้ว
เหมือนเวลาเล่น FM จะมีสถิติหลังจบเกมว่าใครทำอะไรได้เท่าไหร่
ผมว่า นิชิโนะเองก็มีข้อมูลสถิตินักเตะไทยค่อนข้างเยอะทีเดียว
ข้อมูลพวกนี้จะเป็นตัวดึงให้แมวมองต้องไปดูฟอร์ม
แต่สิ่งที่วัดด้วยสถิติไม่ได้คือ ทัศนะคติ ที่ต้องเอามาศึกษากันต่ออีกเป็นรายบุคคล