อันนี้เป็นความคิดของผมนะครับ ผมเองก็ไม่ทราบว่ามีคนเขียนไปหรือยัง หรือมีคนคิดแบบผมไหม ถูกผิดอย่างไร ขออภัยด้วยนะครับ หลังจากที่ได้ดูมารอบที่2นั้น ผมสรุปได้ดังนี้ครับ

ประเด็นที่ผมจะสรุปคือประเด็นที่ โจ้กเกอร์ คิดไปเองทั้งหมดหรือเปล่า??

1.จากตอนต้นเรื่องคือ เราจะเห็นฉากที่โจ้กเกอร์นั่งคุยกับผญผิวสีที่เป็นคนจ่ายยา ถ้าจำกันได้ จะมีฉากที่ผญผิวสีคนนี้ ถามโจ้กเกอร์ประมาณว่ารู้สึกยังไง โจ้กเกอร์ก็ตอบกลับไปว่า ‘ผมอยู่ในนั้นยังรู้สึกดีกว่า’ พร้อมกับตัดภาพไปที่สถานที่แห่งนึง ห้องสีขาว ใส่ชุดสีขาว ยืนเอาหัวกระแทกประตูอยู่

ซึ่งผมเดาว่าเป็นโรงพยาบาลเกี่ยวกับจิตเวช ทำให้เกิดคำถามในใจว่า แล้วโจ้กเกอหนีออกมาได้ยังไง ออกมาตอนไหน

2.ตอนท้ายเรื่อง คงจะมีคนที่งงว่า ทำไมโจ้กเกอร์ถึงกลับมาอยู่ในห้องสีขาวที่เดิม ใส่ชุดเหมือนตอนเริ่มเรื่องเลย ซึ่งคิดว่าน่าจะเป็นสถานที่เดียวกับที่เกริ่นไปตอนต้นเรื่อง

จากตอนนี้ก็ทำให้เกิดคำถามในใจอีกว่า โจ้กเกอร์เข้ามาอยู่ในนี้ได้ยังไง โดนจับมาหรือเปล่า??

3.จากข้อ1และข้อ2นั้น มีจุดที่เหมือนกันอยู่สองจุดคือ
จุดแรก : โจ้กเกอร์อยู่ที่ห้องสีขาวห้องเดิมตั้งแต่เริ่มเรื่อง จนจบเรื่อง ซึ่งหมายความว่า ‘เขาไม่เคยออกไปไหนเลยตั้งแต่แรกแล้ว’ แสดงว่าทั้งหมดคือสิ่งที่เขาคิดไปเอง
จุดที่สอง : คือเราไม่ทราบสาเหตุว่าเขาออกมาจากรพนั้นได้อย่างไรตอนแรก และไม่ทราบสาเหตุว่าเขาเข้าไปอยู่ในรพนั้นได้อย่างไรตอนจบ การที่เราไม่ทราบสาเหตุ ก็เพราะว่า เขาอยู่ที่นั่นมาโดยตลอดแน่ๆ

โดยมีประเด็นซัพพอตคือคำถามของหมอผิวสีผญในตอนจบ ซึ่งเป็นคนละคนกับตอนเริ่มเรื่อง ถามโจ้กเกอร์ประมาณว่า รู้สึกยังไง หัวเราะอะไรอยู่ โจ้กเกอร์ตอบดงกลับไปว่า ‘หมอไม่เข้าใจผมหรอก ผมกำลังคิดเรื่องตลกอยู่’ พร้อมทั้งทำหน้ายิ้มกรุ้มกริ่ม ตรงนี้ทำให้ผมมั่นใจว่า เขากำลังคิดเรื่องทั้งหมดเล่นๆในหัวตัวเองอยู่นั่นเอง

ซึ่งมีบางประเด็นบอกว่าโจ้กเกอร์โดนจับมา และเวลาผ่านมานานแล้ว เนื่องจากเห็นว่าโจ้กเกอร์ดูอ้วนขึ้น

ผมนั่งดูรอบ2อย่างตั้งใจว่า โจ้กเกอร์อ้วนจึ้นจริงไหม สำหรับผมคือไม่เลย ถ้าอ้วนขึ้นก็น้อยมากๆไม่น่าจะใช่ประเด็นอะไรเลย

อีกอย่างคือผมมั่นใจว่าโจ้กเกอร์นั้นไม่ได้โดนจับ เพราะ ถ้าโดนจังคงนั่งอยู่ในคุกไปแล้ว ที่มีความคุ้มกันแน่นหนาแน่นอน เรื่องจากก่อคดีอาชญากรรมระดับประเทศขนาดนั้น ไม่น่าจะมาอยู่ในโรงบาลจิตเวชอย่างแน่นอน สังเกตได้จากตอนโดนไล่จับที่โรงบาล คนไล่จับไม่ได้มีแาวุธอะไรเลย เป็นการไล่จับกันตัวเปล่าๆชัดๆ

ตามความเข้าใจผมคือ

1

2

3

ใส่ว่าสปอยด้วยสิท่านเด๋วโดนแบนหรอก

ตามความเข้าใจผมคือ

1

2

3

1.คือเคยเข้าโรงบาลมาก่อนแล้ว แล้วน่าจะอาการดีขึ้นเลยออกไปใช้ชีวิตปกติได้โดยการกินยา

2.น่าจะโดนจับมาจากหลังเหตุการณ์จราจลนั่นแหละ

3.ต้องทำคงามเข้าใจก่อนครับว่า Gotham แม่งคือเมืองคนบ้า พวกตัวโกงบ้าๆเนี่ย เข้าออกอาคัม่กันเป็นว่าเล่นครับ เป็นที่ประจำของพวกอาชญากรจิตเวชเลย ต่อให้ทำผิดไรว่าก็เห็นโดนจับมาไว้ที่นี่กันประจำ

ปล. ถ้าทำให้เป็นแค่ความคิดไปเองนะ จะกลายเป็นหนังห่วยเลยอ่ะครับ บอกตรงๆ มุกนี้คือไม่น่าเอามาทำหนังแล้ว โคตรเก่า

Joker มันมีหลาย Origin แล้วแต่ตัวมันเล่า
หนังที่เราดูอยู่อาจจะเป็นแค่เรื่องหนึงที่มันเล่ามาเป็นหนังก็เป็นได้

ถ้าเล่าอีกอาจจะเป็น...

จริงๆชื่อแจ็ค เนปิเออร์ ตกลงไปในสารเคมีเลยเพี้ยน
จริงๆชื่อเจอโรม วาเลสก้า มีพี่ชื่อเจอราไมอาห์

ผมพึ่งดูยังเข้าใจว่าเป็นเรื่องที่​โจ๊กเกอแค่คิดไปเองเหมือน​จขกท​ ว่ามาเลยครับ​ เพราะเหมือน​เขาบอกว่าเขากำลังคิเรื่องสนุกอยู่อาจจะเป็นสิ่งที่ตัวเองวางแผนที่จะทำก็ได้​ แล้วสาเหตุที่มาอยู่ในนี้ก็คงเพราะมีอาการทางจิต​ โดยรวมหนังสนุกดี​ครับ

ตามความคิดผมนะครับ

มันไม่มีเป็นแค่เรื่องมโนอยู่แล้วครับ
ต้นเรื่องแกแค่ป่วยครับดูจากบทสนทนากับท่าทางได้ ตอนจะจบนี่ความบ้ามาเต็มเลยไม่มีความหงอแบบช่วงแรกเลย
แกโดนจับครับตอนหลังจากตื่นมาบนกระโปรงรถซักพักเราจะได้ยินเสียงไซเรนก่อนตัดเข้าห้องขาว
ท่านดูสองครั้งแต่ท่านจำบทสนทนาที่อาเทอร์คุยกับเจ้าหน้ามี่โรงบาลบ้าไม่ได้หรอครับที่อาเทอร์ถามว่ามีอาชญากรบ้างไหมแล้วเจ้าหน้าที่ตอบว่ามี นั่นแหละครับที่หนังหยอดไว้อ้างอิงว่าทำไมถึงโดนจับมาเข้าโรงบาลบ้าไม่ได้เข้าคุก

ถ้าอย่างงั้นโทมัสเวย์นก็ยังไม่ตาย แบทแมนก็ยังไม่ถือกำเนิดเหรอครับ

นี่มันก็ไม่ใช่หนังกำเนิดแบทแมนอยู่แล้วนิครับ

ฉากนี้ผมว่ามีเพื่อให้แฟนๆ dc ได้รู้สึกว้าวเล่นๆ ได้มีอะไรให้คิดถึงการเชื่อมโยงฟินๆกันแค่นั้นด้วยซ้ำ

"หมออยากฟังเรื่องตลกมั้ยล่ะ เรื่องตลกของผมก็คือหมอกำลังจะตายไงละ"

ผมมองว่าตอนท้ายเรื่องมันประมาณนี้นะ ก็คือในที่สุดโจ๊กเกอร์มันก็เจอเรื่องตลกที่สุดในชีวิตของมันแล้ว หลังจากที่หนังมันปูมาทั้งเรื่อง จนตัวเอกได้ปลดแอ็กจากการฆ่าคนครั้งแรก จากคนที่ไม่เคยมีตัวตนในสายตาใคร จนได้เป็นที่ยอมรับในสังคม(ในความคิดของโจ๊กเกอร์) สุดท้ายโจ๊กเกอร์ก็สามารถยิ้มได้อย่างมีความสุข(คนบ้า) คหสต.นะครับ

เรื่องนี้ไม่ได้จำเป็นว่าบรูซจะต้องเป็น เเบทเเมนในอนาคตนะครับ
เขาเขียนใหม่ ตีความใหม่ เล่าใหม่ โดยวาคิน เเละ ฟิลิป ทอดด์ผู้กำกับเท้่านั้น
เเกบอกว่าทำตามใจวาคินหมดเลย เพราะไม่มีวาคินไม่มีโจ๊กเกอร์ เวอร์ชั่นนี้

เรื่องนี้ไม่ครอวโอเวอร์ ไม่อิงหนังเรื่องอื่น หรือคอมมิคไหนๆเลยครับ เล่าใหม่100%

ฉากแบบนี้เค้าเรียกว่าทำเผื่อไว้ครับ หนังโดนตัดออกเกือบครึ่ง ชม.
ถ้ามันมีความหมายแค่นั้นเป็นผมตัดฉากนี้ออกแล้วเอาฉากโดนบูลลี่ใน รพ. ไว้ดีกว่า

ผมก็คิดงั้นนะ
จริงบ้าง ไม่จริงบ้าง
เเต่เรื่องไม่จริงไม่ได้มีเเค่สองฉากที่หนังเฉลย

ตั้งเเต่รู้ว่าอาเธอร์ป่วยเป็นเห็นภาพหลอนเเบบนั้น
ผมก็ระเเวงทั้งเรื่องเเล้วครับ ว่าอันไหนนะจิง อันไหนจะไม่จิง