แม่ผมก็เป็นครับ เมื่อสงกรานต์ปีที่แล้ว ที่ทราบว่าเป็น มะเร็ง รีบพามารักษาเลยครับ

โชคดีที่ได้เข้ารักษาที่ ศิริราช แล้วแฟนผมก็ทำงานอยุ่ที่ศิริราชด้วย แม่ผมเป็น มะเร็งเยื้อบุช่อง

ท้อง สเต็จ3 ครับ แผนการรักษา เจาะน้ำในท้องออก ให้คีโมจนกว่า มะเร็งจะลดลง

ช่วงให้คีโมให้ผัก+ผลไม้ปั่นให้แม่ทานครับ (ส่วนประกอบ แอปเปิ้ลเขียว เสาวรส ผักกาดแก้ว

แครอท มะเขือเทศ น้ำผึ้ง ) ไม่ต้องใส่น้ำหรือน้ำแข็งเลยครับ ให้ทานทุวันค่อยจิบไปเรื่อยๆ

จนช่วงสักเข็มที่ 8 ประมาณ ช่วงพฤศจิกา อาจารย์หมอก็นัดมาผ่าตัด การผ่าตัดคือ ขูดพนัง

ท้อง ที่มันนูนออกมาออก แล้วก็เอายาคีโม มาแช่ในท้อง แล้วใช้เครื่องวนอยุ่มนท้อง ชั่วโมงนึง

ตอนนี้แม่ผม หายปกติแล้วครับ แต่ก็ยังต้องมีการไปพบแพทย์อยู่ ในระยะ 5ปี หมอนัด 3เดือน

ครั้ง เพื่อเฝ้าระวัง



มาขอเป็นกำลังใจให้ครับ ตอนผมรู้ข่าวผมก็ขวัญเสียไประยะนึงเลย แต่ผมเชื่อในหมอศิริราช

และแม่ผมก็กำลังใจดี กำลังใจ คือส่วนที่สำคัญที่สุดครับ ผมเชื่อนะ ถ้าไม่มีกำลังใจ

แม่ผมก็ไม่หาย


สู้ๆครับ เหนื่อยหน่อย แต่ ต้องสู้

เพราะมันมีข้อบังคับเรื่อง ข้อมูลคนไข้ครับ(เช่น ชื่อ สกุล เลขบัตร ที่อยู่ ที่สำคัญคือคำวินิจฉัยครับ)

ทำให้แต่ละโรงพยาบาลไม่สามารถลิ้งค์ข้อมูลหากันได้ รวมถึงการส่งอีเมลล์ครับ ซึ่งมีโอกาสในการทำให้ข้อมูลคนไข้รั่วไหลได้ครับ

ของผมอาจจะไม่เกี่ยวโดยตรงนะครับ แต่อยากแชร์

แม่ผมเป็น มะเร็งปอดระยะ 2 ตอนนี้ตัดปอดออกไปบางส่วน ปลอดภัยแล้ว เฝ้าดูอาการ

ตอนที่รักษาก็มีปัญหาช่วงกำลังตรวจและรักษาตลอด ทั้งรอคิวตรวจ รอสแกน รอคิวผ่าตัด , ( รพ รัฐ) แค่อยากจะแนะนำเฉยๆครับว่า ทำทุกอย่างให้เร็วที่สุด อันไหนจ่ายได้เพื่อลดขั้นตอนและเวลา จ่ายครับ, เคสท่าน ก็โทรหาหมอเลยจะไปเอา mri เอง จะบิน จะขับก็จัดไป 2-3 วัน ก็เร่งไปครับ,

โรคมะเร็งไม่น่ากลัวอย่างที่คิดครับ คนชอบ panic , แต่เราต้องรักษาให้ทันท่วงทีครับ อย่าไปรอ

มารักษาโรงบาลใหญ่ๆ ได้มาตรฐานในกรุงเทพ ก็ดีนะครับ บางโรงพยาบาล ที่ผมไปหาในกรุงเทพยังมั่ว
มากเลยครับ พ่อผมรักษาโรคมะเร็งที่จุฬาครับ หายดีแล้วครับผม

ท่านต้องเข้าใจสิทธิผู้ป่วยก่อนคับ ประวัติผู้ป่วยเป็นความลับของผู้ป่วย ห้ามเปิดเผยถ้าผู้ป่วยไม่ยินยอมและทำหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรก่อนถือเป็นแนวทางปฏิบัติทั่วไป ใครปล่อยหลุดออกมาเค้าฟ้องกันหมดตัวเลยนะคับ ดังนั้นที่ท่านบอกว่ายุคไอที ส่งไลน์ เมลล์ได้แต่ไม่มีใครทำคับ ถ้าท่านอยากรักษาไวๆก็กลับไปขอประวัติมาครับเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด แต่ถ้าไม่สะดวกก็รออีก 3 อาทิตย์ก็ได้คับถ้าไม่มีอาการอะไร โรคมะเร็งมันใช้เวลานานพอสมควรมันไม่ลามไวขนาดนั้หรอก ลองคิดดูว่ากว่าจะเป็นมะเร็งมันใช้เวลานานขนาดไหน

อย่างที่ท่านอื่นว่าครับ ที่เค้าไม่ส่งให้ทางไลน์เป็นเรื่องความลับทางการเเพทย์

ส่วนการรักษาท่านยอมตีรถกลับไปเเม่สอดเถอะ ไม่อยากให้เสียเวลา เเต่ถ้าท่านจะตรวจที่พิษณุโลกมันจะช้าเกินไป รพ.รัฐขั้นตอนมันช้ามากอยู่เเล้ว ซึ่งท่านน่าจะใช้สิทธิบัตรทองหรือประกันสังคมอยู่

เเต่ถ้าเป็นผมผมจะพาเเม่ไปตรวจที่เอกชนก่อนเพราะมันเร่งผลได้ง่ายเเละไวกว่ามาก เเล้วเอาผลมาให้หมอที่พิษณุโลกเพื่อเร่งการรักษา

ส่วนการรักษาผมไม่เเนะนำให้เข้ารักษาเอกชนในกรณีที่เป็นโรคที่ต้องการรักษาระยะยาวเเละต้องมีการตามอาการอย่างโรคมะเร็ง ไม่งั้นมีล้านหมดล้าน มีสิบล้านหมดสิบล้าน เเค่ค่าคีโมก็ไม่รู้เท่าไหร่เเล้ว ค่าห้องอีก

เเนะนำให้ไปรักษาโรงพยาบาลศูนย์หรือโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยที่ท่านสะดวก อย่างที่บอกว่าการรักษามันต้องต่อเนื่อง เอาที่ๆท่านสะดวกเเละเพรียบพร้อมดีกว่า มะเร็งเเนวทางการรักษาไม่ได้ต่างกันมากนักหรอกครับ เเต่ถ้าท่านอยู่กรุงเทพตัวเลือกจะเยอะหน่อยเเค่นั้น

สุดท้าย มะเร็งปากมดลูกระยะ 1 ไป 2 ผมเชื่อว่ารักษาให้หายขาดได้ครับ เเม่เพื่อนสนิทผมเคยเป็นรักษาจนหายเเต่ต้องติดตามดูอาการตลอดก็ผ่านมา 10 กว่าปีละครับ (เเม่เพื่อนตรวจมะเร็งที่สมิติเวชส่งตัวต่อไปรพ.จุฬา)

จากเคสนี้ท่านอย่าคาดหวังจากการดำเนินงานของรพมากครับ จากประสบการณ์ตรงหลายๆรพที่คนไข้เยอะๆเค้าไม่ได้แคร์อาการคนไข้เท่าไร ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรใดๆก็ตาม ซึ่งแม่ผมก็ป่วยโรคเดียวกันกับแม่ของจขม และเจอเคสคล้ายๆกันคือตัดชิ้นเนื้อไปตรวจแต่เครื่องอ่านผลไม่ได้อะไรก็ไม่รู้ ไล่ให้แม่ผมไปตรวจใหม่ รอคิวตรวจอีกเดือน และหลังตรวจนัดเจอหมออีกเดือน ซึ่งโรคนี้มันรอไม่ได้ หมอรพนี้ (รพรัฐชื่อดังย่านนทบุรี) ก็ไม่มีความรับผิดชอบใดๆ เลยทำเรื่องย้ายรพไปธรรมศาสตร์ หยิบแฟ้มคนไข้ออกมาเองเลย 5555 ที่นี่โอเคมากครับ พยาบาลหมอใส่ใจดีมาก ตรวจใหม่รวมนัดผ่าใช้เวลาเดือนนิดๆเองครับ

ผลการรักษามะเร็งนั้นต้องแข่งกับเวลาครับ ยิ่งรีบยิ่งดี เพราะมันรักษาหายได้ครับ ยิ่งเป็นมะเร็งส่วนที่ตัดออกได้เลยยิ่งหวังผลได้ง่าย กรณีที่เป็นระยะเริ่มต้น ยังไม่ลุกลาม โอกาสหายขาดยิ่งเยอะ เพราะฉะนั้นถ้าให้แนะนำผมว่าท่านพาแม่ไปรพอื่นที่พร้อมรักษาดีกว่ารอ รพ เดิมครับ ในกรุงเทพ ผมยังแนะนำธรรมศาสตร์นะ เพราะคนไข้ไม่เยอะ คิวไม่เยอะเท่าศิริราช หมอเก่งๆก็เยอะ ดูแลค่อนข้างดีครับ ถ้าจ่ายสด ค่าผ่าน่าจะอยู่ที่ราวๆ 50-100 k (อันนี้กรณีผ่าลำไส้) ไม่รวมค่าห้องครับ ยังไงก็ขอให้คุณแม่หายไวๆนะครับ อย่ากังวล อย่าเครียด และให้ท่านมานอาหารเสริมที่เสริมภูมิต้านทานเยอะๆ เช่น neo moon ลองเซิร์ชดูนะครับ

ถ้าพอมีเงินเข้าพิษณุเวชก่อนเลย ได้หมดเจ้าของไข้แล้วค่อยไปต่อเนื่องที่พุทธชินราช..
แต่ถ้าจะรักษาพุทธชินราช คอนคีโมให้พยายามถามหาหมอนฤชยา พัฒนา ไม่แน่ใจว่ามะเร็งปากมดลูกท่านดูด้วยไหมหมอคนนี้รักษาคีโมแม่ผมหายมาแล้ว (แม่ผมมะเร็งท่อไต)
สู้ๆ ครับตั้งสติ

ควรจะรีบทำทุกอย่างให้เสร็จด้วยตัวเองครับ

พึ่งคนอื่นไม่ได้ต้องพึ่งตัวเองครับ มะเร็งระดับ 1-2 ยังรักษาหายได้

ยิ่งช้ายิ่งเสียงครับ

ผมแนะนำลองฟังดูนะครับ

จากประสบการณ์รักษามะเร็งของคนในครอบครัวนะครับ
ถ้าใช้สิทธิต่างๆของรัฐ ต้องรอคิวนานมากกกกก เช่น พวก 30บาท หรือสิทธิประกันสังคม
แนะนำว่าหากพอมีกำลังให้หาหมอ รพ. รัฐดังๆ อย่างจุฬา ศิริราช ฯลฯ เวลานอกราชการ จะเจออาจารย์หมอเก่งๆประสบการณ์สูงๆคอยตรวจครับ

เป็นกำลังใจให้ครับ ขอให้คุณแม่หายไวๆ