หงส์กราบขอบพระคุณ!ปุ๊กกี้ยิง+จ่าย'ขมิ้น'โคตรดุเปิดรังเฉือนเรือ 3-2
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
นอริช ซิตี้ ลืมบททีมท้ายตารางพร้อมโชว์ฟอร์มการเล่นระดับเทพไล่อัดแมนเชสเตอร์ ซิตี้ 3-2 โดย ตีมู ปุ๊กกี้ ยังสวมบทพระเอกทั้งยิงทั้งจ่าย ทำให้ เรือใบสีฟ้า ต้องเจอกับความปราชัยนัดแรกในฤดูกาลและถูกลิเวอร์พูลทิ้งไปเป็น 5 คะแนนแล้ว
นอริช ซิตี้
Starting Formation: 4-3-3
18.
มาร์โก้ สตีเปอร์มันน์

89'
7
17.
เอมิเลียโน่ บูเอนเดีย

83'
8.5
ตัวสำรอง
32.
เดนนิส เซอร์เบนี่

89'
-
20.
โจซิป เดอร์มิช

83'
-
พรีเมียร์ ลีก
สนาม แคร์โรว โร้ด
เสาร์ที่ 14 กันยายน 2562
กรรมการ เควิน เฟรนด์
นอริช ซิตี้
3
2
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
เคนนี่ แม็คลีน 18'
ท็อดด์ แคนท์เวลล์ 28'
ตีมู ปุ๊กกี้ 50'
แซร์คิโอ้ อเกวโร่ 45'
โรดรี้ 88'
เป๊บพัก KDB, ขมิ้นพิการ
เป๊บ กวาร์ดิโอล่า กุนซือแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ตัดสินใจดร็อป เควิน เดอ บรอยน์ กองกลางคนสำคัญเป็นแค่ตัวสำรอง โดยแดนกลางให้ โรดรี้, กุนโดกาน และ ดาบิด ซิลบา ประสานงานกัน
ในส่วนเจ้าบ้าน นัดนี้นอกจากเจอของแข็งแล้วขุมกำลังยังไม่สมบูรณ์โดยนักเตะตัวหลักเจ็บอย่างน้อย 8 คน ทำให้ ดาเนียล ฟาร์เก้ ต้องใส่ชื่อผู้รักษาประตูบนม้านั่งสำรองถึง 2 คนด้วยกัน
เรือเปิดเกมขึงตามคาด
รูปเกมหลังผ่านห้านาทีแรกเป็น เรือใบสีฟ้า ที่เปิดเกมรุกบุกจากซ้ายไปขวาของหน้าจอเข้าใส่เจ้าบ้าน แต่ยังไม่มีจังหวะได้ยิงแบบได้ลุ้น
ขมิ้นรัดกุมเรือยังเจาะไม่เข้า
ผ่านไปสิบห้านาที นอริช เล่นกันได้อย่างเหนียวแน่น จังหวะผ่านบอลมีความแม่นยำและมีโอกาสสวนกลับแต่จังหวะสุดท้ายยังขาด ๆ เกิน ๆ
สนุกแล้ว!แม็คลีนโขกเตะมุมส่งเจ้าบ้านขึ้นนำ
นอกจากเจาะไม่เข้าแล้ว ซิตี้ มาโดนเจ้าบ้านทำประตูขึ้นนำจากจังหวะเตะมุมที่ บูเอนเดีย เปิดเข้ากรอบเขตโทษให้แล้วเป็น แม็คลีน วิ่งหนีตัวประกบขึ้นโขกส่งบอลผ่านมือเอแดร์ซอนเข้าไปตุงตาข่าย
กุนโหม่งข้ามคาน
ซิตี้ มีลุ้นประตูตีเสมอจากจังหวะที่ สเตอร์ลิ่ง ครองบอลทางด้านซ้าย ก่อนล็อคเข้าขวาบรรจงตักไปให้ อเกวโร่ หลุดกับดักล้ำหน้าขึ้นโขก แต่กดไม่ลงทำให้บอลเหินข้ามคานออกไป
เรือแย่แล้ว!ปุ๊กกี้ถวายพานแคนท์เวลล์ซัดโล่ง ๆ
วันนี้ นอริช มาอย่างเหนือแล้วมาได้ประตูหนีห่างจากจังหวะสวนกลับที่ ปุ๊กกี้ รับบอลจากเพื่อนหลุดไปทางด้านขวา ก่อนเหลือบมาเห็นแคนท์เวลล์วิ่งทำทางจึงไหลให้ยิงจ่อ ๆ 2-0 แล้วจ้า
ราฮีมโขกชนคาน
อีกหนึ่งจังหวะที่ทีมเยือนน่าได้ประตูตีไข่แตก เริ่มจาก สเตอร์ลิ่ง ตักบอลในกรอบเขตโทษข้ามฝั่งไปให้ แบร์นาร์โด้ โหม่งคืนกลับมาให้ สเตอร์ลิ่ง ได้โหม่งเน้น ๆ แต่บอลพุ่งชนคานพลาดไปอย่างน่าเสียดาย
กุนย่องโขกเรือตีตื้น 2-1
ก่อนหมดครึ่งแรก ซิตี้ มาได้ประตูจุดความหวัง เป็นจังหวะที่ แบร์นาร์โด้ เปิดบอลด้วยซ้ายเข้ามาในกรอบเขตโทษถึงหัว อเกวโร่ ที่แอบอยู่ระหว่างสองเซ็นเตอร์ของนอริชโขกหนีมือ ครูล เข้าไป
โอตาเมนดี้ยึกยักทำเรือโดนลูก 3
จากขึงจะเอาประตูตีเสมอแต่ ซิตี้ กลับมาโดนยิงลูกที่ 3 ต้องโทษโอตาเมนดี้ที่รับบอลจากสโตนส์ในเขตโทษตัวเองแล้วมัวช้าโดน บูเอนเดีย วิ่งมาฉกจากด้านหลัง ก่อนแข้งชาวอาร์เจนไตน์ ไหลไปให้ ปุ๊กกี้ ที่ยืนจังก้ารออยู่จิ้มด้วยขวาผ่านมือเอแดร์ซอนเข้าไปง่าย ๆ
เป๊บนิ่งไม่ไหวส่ง KDB, เชซุส ลงแล้ว
กวาร์ดิโอล่า อยู่นิ่งไม่ไหวต้องทิ้งไพ่ใบเด็ดเปลี่ยนตัว เดอ บรอยน์ กับ กาเบรียล เชซุส ลงมาแทนที่ กุนโดกาน และดาบิด ซิลบา
เรือเกมอึดอัดเปลี่ยน มาห์เรซ ตัวสุดท้าย
วันนี้ นอริช ซิตี้ มาดีเหลือเกิน ปิดเกมรุกของทีมเยือนได้อยู่หมัดแถมยังมีจังหวะสวนกลับน่ากลัว ๆ หลายครั้งทำให้ กวาร์ดิโอล่า ต้องปรับหมากส่ง มาห์เรซ ลงมาแทนที่ แบร์นาร์โด้ ซิลวา
กุนสอดโหม่งข้ามคานอีกแล้ว
ซิตี้ น่าได้ประตูตีตื้นจากจังหวะที่ สเตอร์ลิ่ง พาบอลมาด้านซ้ายแล้วตักเข้าในข้ามหัวกองหลังเป็น อเกวโร่ สอดขึ้นมาโหม่งแต่บอลโด่งข้ามคานออกไป
กุนโขกเสาไกลโดนครูลปัดทิ้ง
ยิ่งใกล้หมดเวลา ทีมเยือนยิ่งพยายามโหมหนักคราวนี้ สเตอร์ลิ่ง ครองบอลอยู่ทางฝั่งซ้ายก่อนครอสไปทางเสาไกลเป็น อเกวโร่ ที่ได้โหม่งอีกครั้งแต่ ครูล ยืนตำแหน่งดีปัดทิ้งออกหลังไปได้
โรดรี้ยิงไกล เรือ ตีตื้น 3-2
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาได้ประตูไล่เป็น 3-2 จากจังหวะที่ เชซุส แปะบอลให้ โรดรี้ นอกกรอบเขตโทษแล้วมิดฟิลด์ชาวสแปนิชกดด้วยขวาทันทีบอลพุ่งหนีมือ ครูล เข้าไปตุงตาข่าย
กุนล็อคปั่นเข้ามือครูล
ซิตี้ ได้ลุ้นประตูตีเสมอจากการเข้าทำของ อเกวโร่ที่เลี้ยงบอลเข้ากรอบเขตโทษก่อนล็อคลองกองหลังแล้วปั่นด้วยขวากะให้หนีมือ ครูล แต่นายด่านชาวดัตช์พุ่งรับเอาไว้อยู่มือ
ขมิ้นทำได้ยัดเยียดความปราชัยเรือนัดแรก
ถือเป็นผลงานระดับมาสเตอร์พีซของเจ้าบ้านที่เล่นกันอย่างมีวินัยทั้งเกมรับและเกมโต้กลับจนเอาชนะแชมป์เก่าอย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ และคว้า 3 คะแนนไปครอง
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
Starting Formation: 4-3-3
11.
โอเลกซานเดอร์ ซินเชนโก้
5
21.
ดาบิด ซิลบา

57'
5.5
8.
อิลคาย กุนโดกาน

57'
5
20.
แบร์นาร์โด้ ซิลวา

73'
6
ตัวสำรอง
26.
ริยาด มาห์เรซ

73'
6
17.
เควิน เดอ บรอยน์

57'
6
9.
กาเบรียล เชซุส

57'
6.5
แก้ไขล่าสุดโดย hugball เมื่อ Sun Sep 15, 2019 07:31, ทั้งหมด 13 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ