[RE: ขออนุญาต แชร์อีกมุมมองนึงเรื่องพระอุลตร้าแมนนะครับ]
Im Choding พิมพ์ว่า:
ที่ผมมองคือทั้ง 2 อย่างมันไม่ได้มีความหมายใกล้เคียงอะไรกันเลย ultraman คือสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นมาเป็นมายาคติ โอเคจะสื่อว่าเป็นฮีโร่อันนั้นเข้าใจ แต่ไม่ควรจะมาดัดแปลงให้มันเกิดผิดเพี้ยนไปได้ขนาดนั้น เพราะอย่าลืมว่ามุมมองของคนทั่วไปจะให้เหมือนตัวเองไม่ได้ เขาถึงมีศาสนาเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของคนทั่วไป มันไม่ใช่เรื่องของการยึดติดกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง แต่มันคือการเปลี่ยนแปลงอัตลักษณ์ของศาสนาๆนึง คนที่ทำแบบนี้แล้วเรียกว่าอาร์ต คนส่วนใหญ่เขาไม่คิดแบบนั้นเพราะคนเรามันก็คิดไม่เหมือนกัน สำหรับผม ผมก็มองว่าแบบนี้ไม่เรียกสร้างสรรค์
ถ้าเราเข้าใจว่าศาสนาคือเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ อัตลักษณ์ของศาสนายังไงก็เป็นเรื่องสำคัญ
ส่วนที่บอกว่าให้ไปโฟกัสที่การกระทำของพระสงฆ์ในยุคปจบ.อันนั้นก็อีกเรื่อง มันคนละเรื่อง
ตัดเรื่องเหมาะสมไม่เหมาะสมออกไป ผมก็ยังคิดว่าการ super action(อย่างที่เม้นเเรกของหน้าสองว่าไว้) ด้วยการบีบให้ขอขมา กราบขอโทษ ออกมาด่า โวยวาย ร้องทำลายภาพ จนถึงขั้นโร่เเจ้งความ ฯลฯ นั่นเเหละ ยิ่งจะทำให้ศาสนาเสื่อมเร็วกว่า การที่มันจะเสื่อมไปเองเพราะกาลเวลาครับ
การ over protect เเบบนี้มันจะส่งผลให้คนกลัวเเละไม่กล้าเข้าใกล้หรือเปิดใจให้กับศาสนามากเท่าที่ควร
ว่ากล่าวตักเตือนเรื่องความไม่เหมาะสม ผมว่ามันโอเค เเละลงตัวที่สุดเเล้ว ฝั่งคนออกเเบบจะได้รู้ตัว ฝั่งคนติก็ได้พูดในสิ่งที่คิดว่าไม่เหมาะ คนนอกอย่างเราๆก็ไม่ตลกกับการ super action เวอร์วังเกินเหตุเเบบนี้ เเละมันก็เป็นทางออกที่ดีสำหรับทุกฝ่ายกว่าการมาตั้งเป๋นศัตรูทำลายล้างกันให้รู้เเพ้รู็ชนะเเบบนี้
เเถมยังอาศัยจังหวะนี้สอนคติธรรรมเรื่องเมตตาเเละให้อภัยอีกด้วย
องคุลีมารฆ่าคน 999 คนยังได้รับเมตตาจากพระพุทธองค์
เเต่คนบางกลุ่มให้อภัยเด็กที่พยายามจะคิดสร้างสรรค์ไม่ได้ ก็น่าแปลกที่เขาเหล่านั้นอ้างว่าทำเพื่อรักษาศาสนา ทั้งๆที่ยังทำตามสิ่งที่พุทธองค์สอนไม่ได้เลย