ไม่เคยเคืองหรือโกรธที่อยากไปบาร์ซ่า แต่โ กรธที่ตอแหล บีบน้ำตาแกล้งเจ็บหลัง บีบให้สโมสรไม่ได้อยากทำ โกรธที่ทิ้งทีมไปกลางคัน
ยอมรับและขอบคุณที่เล่นอย่างเต็มที่ตลอดในช่วงเวลาก่อนหน้านั้น แต่ก่อนย้ายทำให้กองเชียร์โคตรเสียความรู้สึก ถ้าย้ายไปตอนจบซีซั่นจะมีแต่คนรักและไม่มีคนเกลียดเลย แต่เมื่อทำแบบนั้นมันแสดงถึงความไม่เป็นมืออาชีพเอาซะเลย ตัวอย่างก็มีให้เห็นเยอะแยะ โรนัลโด้งี้ที่ย้ายไปมาดริดตอนจบซีซั่น ดูดิทุกวันนี้แฟนบอลแมนยูยังรักและคิดถึง หรือกรณีที่เกิดหลังสุดเลยก็อาซาร์
ถ้าคุณมีสัญญาทำงานให้ที่ๆนึงคุณก็ควรที่จะทำงานของที่ๆนั้นให้เสร็จเรียบร้อยก่อน ไม่ใช่ทิ้งงานนั้นไปกลางทางแล้วทิ้งขี้ไว้ให้คนอื่นตามแก้ไขตามซ่อม

คูตี้ได้ตามความฝันแล้ว

แต่ว่าฝันดี หรือ ฝันร้ายล่ะ

เจ็บใจตรงไปกลางฤดูกาลแหละ เอาจริงๆ

ผมเชื่อว่า หลายๆ คนรู้ครับ ว่าอะไรเป็นอะไร

แต่เค้าไม่ชอบในการกระทำของ คนคนนึงแค่นั้น

และหลายๆคนก็ยังเข้าใจผิด และชอบมายัดเยียด ต้องคิดแบบ คนนั้นคนนี้

แฟนบอลก็มีสิทธิที่จะไม่ชอบการกระทำนั้น

นักบอลก็มีสิทธิที่จะอธิบาย หรือ แฟนคลับออกมาชี้แจงแทน ได้

แต่ไม่ใช่ว่า พออธิบายแล้ว แล้วแฟนบอลที่ไม่ชอบ เค้าไม่เปลี่ยนความคิด แล้วพวกคุณก็ไปตราหน้าแฟนบอลที่เค้าไม่ชอบการกระทำนี้ว่า พวกไม่เปิดใจโน้นนี้นั้น

มันก็เหมือนเราไม่ชอบอะไรบางอย่าง ทำไงมันก็ไม่ชอบ

ก็แค่นั้น

ส่วนตัวผม ก็ เรื่องคูตี้ นี้ ก็มองในแง่ดี ที่ เอาเงินจากการขายเค้า มา แปลงเป็น VVD และ อลิซอน

มันก็โอเค ใน เรื่องความรู้สึกนะ

ถ้าจำไม่ผิด ความจริงค่าตัวvvdนั้นทีมเตรียมไว้อยู่แล้วครับ ไม่ได้เกี่ยวกับเงินจากคูตี้เลย ความจริงได้ต่ำกว่า75ล้านอีก แต่แค่ไปแอบคุยกับนักเตะก่อนเลยทำให้เซาท์โกรธแล้วโดนโก่งค่าตัว

อย่าเอาผมไปเทียบครับ ผมไม่เห็นแก่ตัวขนาดนั้น

ถ้าจะเทียบคูตี้กับพนักงานบริษัท ต้องใช้คำว่า

"เป็นหัวหน้าแผนกคนสำคัญ ที่มายื่นใบลาออกตอนเช้าแล้วออกไปตอนเย็นเลย โดยไม่สนสี่สนแปดอะไรทั้งนั้น ทั้งๆที่บริษัทกำลังจะต้องเข้ารับการตรวจสอบมาตรฐานการทำงาน"

อ่านทั้งหมดนี้ ที่ผิดจริงๆ ก็คือตรง งอแงและหาเรื่องลางานแค่นั้น

เรื่องตั้งเป็นแกนหลัก เรื่องหาคนแทนไม่ได้ เป็นเรื่องของบริษัท และหัวหน้าที่ต้องจัดการแก้ปัญหา ไม่เกี่ยวกับตัวพนักงานเลย ถ้ายื่นใบลาออกแล้วก็คือออก แต่ก่อนออกก็ต้องทำตัวให้มืออาชีพ (ซึ่งคูตี้ทำไม่ได้) แค่นั้นเอง

ทิ้งไว้กลางทางไม่พอ ออกลูกงอแงขี้แย เจ็บหลัง คือมารยา แบบนี้ ผมดูไม่ใช่วิถีมืออาชีพ เค้าทำกัน ดูอย่างรุ่นพี่ ที่ ออกไปแบบ คนรักก็ซัวเรซ สู้เพื่อทีมก่อนออกแบบ หล่อๆ ไม่เข้าใจ บาร์ซ่าบีบ หรือกดดันให้รีบย้ายไปหรือยังไง ถึงต้องทำตัวขนาดนั้น เข้าใจทีมในฝัน แต่ ทีมปัจจุบัน คุณก็ต้องเต็มที่ให้ถึงที่สุด

ใช่ครับ คนเรามีความฝันอย่างที่ท่านว่าเลยครับ พวกเราก็แซวกันแรงไปด้วยหล่ะ

ขอให้โชคดีในเส้นทางด้วยครับ

ลิเวอรืนี้กลางตรงไหน
ใหญ่ต้นๆของโลกละนะ

ก็ไม่เห็นไม่มีใครมองว่ามันเป็นเทวดานะครับ

หลายคนชอบเอานักฟุตบอลมาเทียบกับพนักงานทั่วๆไปซึ่งมันโคตรต่างกัน มันไม่ได้เหมือนกันเลยซักนิด ไม่เข้าใจว่าเอามาเทียบกันได้ไง

นักฟุตบอลนี่คือบุคคลมีชื่อเสียงนะ ไม่ได้ลงเตะและรับตังไปวันๆ แต่มีแฟนบอลคอยสนับสนุนคอยเชียร์อยู่ ยิ่งเป็นตัวหลักยิ่งเป็นคนที่แฟนบอลคาดหวังเอาไว้ เรื่องการย้ายทีมแน่นอนว่าแฟนๆย่อมต้องผิดหวัง แต่ใช่ว่าจะไม่เข้าใจเพียงแต่ว่าต้องวางตัวให้ดีไม่ใช่นึกอยากไปก็ทำตัวงอแงจะไปให้ได้ ดูเคสที่ผ่านมาก็แม็คไกวนี่แหละ อยากย้ายแต่คือแล้วแต่สโมสรว่าจะขายมั้ย ส่วนสโมสรก็ชัดเจนว่าต้องราคานี้แล้วปล่อยแน่นอน พอแมนฯยูยื่นไปมันก็วิน-วินทั้ง3ฝ่าย

ลาออกอะไรละค้าบ เพิ่งต่อสัญญา 5 ปี เซ็นเองกับมือ ไม่ใช่จะมาลาออกง่ายๆนะทแผนปรีซีซั่นเขาทำมามีคุณเป็นแกนหลัก นี่มางอแงเอาตอนจะแข่ง ก่อน 1 อาทิตย์ เหมือนคุณทำโปรเจคบริษัทพังเลย

พนักงานลาออกคนเดียว โปรเจคบริษัทพังก็ต้องโทษบริษัทล่ะครับ หลายๆ บริษัท CEO ลาออกเค้ายังดำเนินโปรเจคต่อได้เลยครับ นี่โลกการทำงาน ชีวิตจริงๆ เลยนะ

ส่วนถ้าคิดว่าบริษัทจะเสียหายจากการลาออก ก็เขียนค่าปรับไว้ครับ คนจะออกคุณจะห้ามเค้าได้ไง แต่ถ้ามันทำให้คุณเสียประโยชน์ คุณก็ได้ค่าปรับไปแทน

บาร์ซ่าก็เหมือนบริษัทๆ นึงนี่แหละครับ
ทำงานไม่เข้าเป้า เค้าก็หาวิธีบีบเราออก
เท่านั้นเองครับ ถ้าอยู่ไม่ได้ ก็ต้องหาที่ทำงานใหม่