โค้ชหระ ให้สัมภาษณ์ถึง สาเหตุที่ ทีมชาติไทย u-18 ทำผลงานได้ต่ำกว่ามาตรฐาน


ที่มา เพจฟุตบอลทีมชาติไทย

วันที่ 16 สิงหาคม 2562 เวลา 17.30 น. ณ ท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง ฟุตบอลชายทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี เดินทางกลับถึงประเทศไทย เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังเสร็จสิ้นภารกิจการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน ที่นครโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม

โดย อิสสระ ศรีทะโร หัวหน้าผู้ฝึกสอน ช้างศึก U18 กล่าวว่า "รายการนี้ก็เป็นรายการหนึ่งที่น้องได้ปะสบการณ์ จากการเตรียมตัวที่ผ่านมา ตั้งแต่เราไปจีนครั้งก่อน ทุกคนอยู่ในฟอร์มที่ดี หลายๆคนที่ได้แชมป์ และ รองแชมป์ยูธ ลีก ก่อนมาเก็บตัว รายการนี้ก็ไม่คิดว่าผลจะออกมาแย่ขนาดนี้"

"หลายๆคนดร็อปลงไป เราก็เข้าใจ แต่ฟุตบอลก็น่าจะออกมาดีกว่านี้ จริงแล้วๆน้องที่ไปด้วยกัน 80 เปอร์เซ็นต์ ถือว่าเป็นตัวหลัก แต่คนที่ได้ไปด้วยกัน มีประสิทธิภาพ แต่ก่อนหน้านี้กราฟช่วงแรกมันดี อย่างที่จีน และกับสโมสร นักเตะตัวหลักชุดนี้เกือบทั้งหมด ผ่านเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ ยูธ ลีก ภายในประเทศ"

"เรารู้อยู่แล้วว่าฟอร์มต้องดร็อปลง และคิดว่าเราน่าจะเอาตัวรอดได้ โชคดีที่ไม่มีใครเจ็บ แต่ร่างกายอาจจะล้า บางคนก็ยังทำได้ดี จากฟอร์มที่ได้ดู คนที่จะได้ไปต่อก็มีประมาณ 12 คน ที่เหลือก็ต้องดูรายละเอียด ว่าที่ดร็อปลงเพราะอะไร ตัวหลักหลายคนฟิตสมบูรณ์ แต่พอไปเจอหญ้าใบใหญ่ หรือสภาพสนามที่หนืดทำให้เขาดร็อป เราก็คุยกันแล้ว ซึ่งเขาก็ได้ประสบการณ์ที่ดี"

"เราวางแผนระยะยาว ในชิงแชมป์อาเซียน เราก็อยากได้ผลงานที่ดี แต่เมื่อปีก่อน ผลงานก็ไม่ดี ไปบรูไน ผลงานไม่ดี แต่พอปลายปีในชิงแชมป์เอเชีย เราก็ทำผลงานได้ดี เพราะเราต้องการวางแผนระยะยาว ผลงานก็ทิ้งไปไม่ได้ เราก็อยากได้ แต่มันไม่ออกมาตามที่เราคาดหวัง"

"ทัวร์นาเมนต์นี้เราประสบความสำเร็จเรื่องการเข้าทำ ทั้งรายการเรามีโอกาสจากห้านัด ทั้งหมด 75 ครั้ง แต่เราเปลี่ยนเป็นประตูได้เพียง 6 ประตู เรายิงระยะ 2-6 หลา ทั้งหมด 13 ครั้ง แต่เราได้ประตูจากระยะนั้นแค่ 2 ประตู เท่านั้น เราก็รู้ว่าเราบกพร่องอะไร เสียประตูจากอะไร เราก็ต้องมาแก้ไข ส่วนรายบุคคล เราก็มีสถิติ"

"ทุกครั้งที่ผมรับงาน ปีก่อน ผมเน้นแค่ชิงแชมป์เอเชีย รายการก่อนหน้านี้คือการพัฒนา แต่ว่าทางฝ่ายเทคนิคจะเห็นตรงกันหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล อย่างในแมตช์ที่เจอออสเตรเลีย ตัวของ การ์เลส โรมาโกซา ก็ได้เดินทางไปชม เขาก็ให้การแนะนำ และขันน็อตแนวรับ จนเราไม่เสียประตูสองนัด แต่ว่าเราก็ยิงได้น้อยไปหน่อย ทุกอย่างมันอยู่ที่สถานการณ์เฉพาะหน้า"

"ถ้าทุกคนได้ดูบอล ทุกคนจะรู้ว่าทำไมเราไม่มีแต้ม ทำไมเราทำได้ไม่ตามเป้า นัดแรกกับสิงคโปร์ เรามีโอกาส 16 ครั้ง คู่ต่อสู้มี 4 ครั้ง นัดที่สองเราดร็อปลงมา แต่เราก็ยังเหนือกว่า เรามี 16 ครั้ง เขามี 6 ครั้ง เราพลาดให้เขา มันเป็นอุบัติเหตุของฟุตบอล ผมไม่อยากโทษสนาม ผมเข้าใจน้องๆ เพราะสมัยผมเป็นนักเตะก็เคยเล่นสนามแบบนี้ มันก้าวขาไม่ออก สุดท้ายมันก็วัดที่เรื่องของสภาพจิตใจ"

"เกมกับออสเตรเลีย สนามดีขึ้นมาหน่อย ทุกคนก็ทำได้ดี เกมกับออสเตรเลีย เรามีโอกาส 18 ครั้ง หลังจบเกม โค้ชออสเตรเลีย บอกว่า เราน่าชนะเขา 6-3 ด้วยซ้ำ พวกเขาโชคดีมาก ที่เราทำไมได้"

"ที่นู่นเราพักในโรงแรมเดียวกัน เราก็แบ่งปันประสบการณ์กัน สุดท้ายเราก็พูดถึงแนวทาง ประชุมกับฝ่ายเทคนิคอีกครั้ง ทุกคนต่างมีหน้าที่ เรามีคอนเซปต์แบบนี้ เตรียมทีม ปัญหามันคืออะไร เราก็ต้องไปคุยเรื่องปัญหา"

"รายการนี้ที่ผมพลาด คือผมไม่ได้ไปดูสนามแข่งขันด้วยตัวเอง เรารู้แค่คร่าวๆ ว่าสนามโอเค แต่สุดท้าย เราเจอสนามที่ไม่ได้มาตรฐาน เราจะเห็นภาพ ออสเตรเลีย เจอกับ มาเลเซีย ในสนามนั้น พวกเขาแพ้มาเลเซีย 0-3 คือมันไม่ได้ เราไม่อยากโทษสนาม เพราะสถิติบอกชัดเรามีโอกาสมากกว่า แต่เราทำไม่ได้"

"การเตรียมทีมก็ต้องพูดคุย เพราะอย่างกัมพูชา ก่อนมาทัวร์นาเมนต์ เขาไปเก็บตัวที่ญี่ปุ่น 1 เดือน และมาเวียดนามก่อนแข่งขัน 1 สัปดาห์ เราจะต้องทำอย่างไร และขันน็อตอย่างไรให้พร้อม"

สำหรับทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี ยังมีทัวร์นาเมนต์ สำคัญ ต่อเนื่องในระหว่างวันที่ 2-10 พฤศจิกายน 2562 ในการแข่งขนฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือก รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี ที่ กรุงพนมเปญ ประเทศ กัมพูชา ระหว่างวันที่ 2-10 พฤศจิกายน 2562

โดยการแข่งขันรายการดังกล่าว ไทย อยู่ร่วมสายกับ บรูไน, หมู่เกาะนอร์เทิร์นมาเรียนา, กัมพูชา และ มาเลเซีย ซึ่งมีโปรแกรมการแข่งขันดังนี้

วันที่ 4 พฤศจิกายน 2562 ไทย พบ บรูไน ที่สนาม โอลิมปิค สเตเดียม กรุงพนมเปญ
วันที่ 6 พฤศจิกายน 2562 ไทย พบ หมู่เกาะนอร์เทิร์นมาเรียนา ที่สนาม โอลิมปิค สเตเดียม กรุงพนมเปญ
วันที่ 8 พฤศจิกายน 2562 ไทย พบ กัมพูชา ที่สนาม โอลิมปิค สเตเดียม กรุงพนมเปญ
วันที่ 10 พฤศจิกายน 2562 ไทย พบ มาเลเซีย ที่สนาม โอลิมปิค สเตเดียม กรุงพนมเปญ

เอาแค่เรื่องสัมภาษณ์ สัมภาษณ์ได้ค่อนข้างดีมากผิดคาดเลยแฮะ

คือสัมภาษณ์แบบมีสมองอ่ะ ไม่เหมือนประเภท โย่ง โต่ย พวกนั้นสัมภาษณ์ห่วยแตกสุดๆ

แต่เป็นโค้ชต้องออกมายืนสั่งกระตุ้นลูกทีมหน่อยเหอะ โค้ชหนุ่มๆขนาดนี้นั่งม้านั่งอย่างเดียวไม่ไหวนะ

(นัดหลังๆไม่ได้ดู ถ้าแกปรับเปลี่ยนแล้วก็ขออภัย)

จากที่ดูภาพรวมผมก็ว่าทีมชุดนี้ใช้ได้นะ ไปแบบไม่ฟูลทีม
สนามแย่มาก ระหว่างทัวร์นาเมนก็เห็นการปรับแท็กทิคให้เห็น
แต่ยังไงก็ขอให้คุมต่อจนถึงทัวร์นาเมนชิงแชมป์เอเชียไป
ได้เจอกับ เขมรและมาเลย์อีกรอบ คงได้เห็นผลงานจริงๆ
ของโค้ชและนักเตะ ถ้ายังไม่ดีขึ้นก็คงถึงเวลาต้องเปลี่ยน
แต่ถ้าให้เปลี่ยนตอนนี้เลย บอกเลยเรากลายเป็นมาเริ่มใหม่
ตอนก่อนทัวร์นาเมนใหญ่ ไม่น่ารอด

เปลี่ยนโค้ชไหมครับ

เอาแค่เรื่องสัมภาษณ์ สัมภาษณ์ได้ค่อนข้างดีมากผิดคาดเลยแฮะ

คือสัมภาษณ์แบบมีสมองอ่ะ ไม่เหมือนประเภท โย่ง โต่ย พวกนั้นสัมภาษณ์ห่วยแตกสุดๆ

แต่เป็นโค้ชต้องออกมายืนสั่งกระตุ้นลูกทีมหน่อยเหอะ โค้ชหนุ่มๆขนาดนี้นั่งม้านั่งอย่างเดียวไม่ไหวนะ

(นัดหลังๆไม่ได้ดู ถ้าแกปรับเปลี่ยนแล้วก็ขออภัย)

นัดส่งท้ายเจอมาเลย์ทดเจ็บครึ่งแรก เพื่อนปาดบอลมาถึงหน้าโกลล์โล่งๆคนเดียวระยะ แค่ไม่ถึงเมตรน่าจะได้พวกแปโด่งข้ามคานได้เฉย ไม่งั้นสกอร์คงเพิ่มอีกลูกละ

ทัวร์นาเมนต์นี้น่าผิดหวังจริงๆ แต่ไม่มีใครไม่เคยล้มเหลว เป็นกำลังใจให้ทั้งโค้ช ทีมงานและนักเตะ เอาประสบการณ์ที่ได้ไปพัฒนาต่อไป

สนามมีผลจริงๆนะ สัมภาษณ์ด้วยเหตุและผลจริงๆยอมรับข้อผิดพลาดแต่ไม่รู้จะได้โอกาสไหมนะ เพราะผลงานแย่จริงๆ

เอาตรง ๆ นะ ชุดนี้โอกาสเข้าทำเยอะจริง ๆ ลูกแบบโล่ง ๆ ไม่เกิน 5 หลาหน้าโกล์เนี่ย มีแทบทุกนัด นัดเจอสิงคโปรก็ อชิตพลพลาด นัดสองเจอเขมรก็ กันตภณพลาด บวกกับ เบอร์ 14 ภูชิสต์ หลุดไปเดี่ยวกับโกล์ก็หลายลูก นัดเจอออสก็บุกได้นะแต่จบไม่ลง แถมเจอออสสวนมากลายเป็นโดนง่าย ๆ ซะงั้น โกล์ก็แถมให้เขาไปอีกลูกแบบงง ๆ ส่วนนัดเวียดนามคือรัดกุมเล่นได้ดีกว่าเวียดด้วยแต่เหมือนเดิมจบไม่ลง ส่วนนัดสุดท้ายนี่ก็เล่นตามมาตรฐาน แต่โอกาสจบก็อย่างที่เห็น เหน่ง ๆ หน้าโกล์แปข้ามคาน ธนา อีซอ อีกลูกก็เบอร์ 14 แต่ที่สงสัยคือเราไม่มีกลางที่ทะลุทะลวงเลย เหมือนมีกลางเป็นแค่สไตล์เฟล็ทเชอร์อะ ประคองเฉย ๆ เคาะบอลไปมา พอถึงหน้ากรอบเขตโทษเหมือนไม่มีจินตนาการการเข้าทำต้องส่งออกปีกตลอด หรือไม่ก็เคาะสั้น ๆ กับกองหน้าแล้วเขาก็มารุมกินโต๊ะแย่งบอล

คือ เห็นจ่อๆหน้าประตูแล้วไม่เข้าเยอะมาก

โดยเฉพาะกองหน้าตัวสูงๆนี่แบบ จากด่ากลายเป็นขำอะ

ได้โอกาศตลอดโค้ชหระแต่ไม่เคยทำได้ดีเลยซักครั้งเดียว

รอบนี้ถ้ายังอยู่ก้หนังเหนียวเกิน

ลูกชาร์จจ่อๆ แม่งยิงข้ามคานเห็นแล้ว อยากให้ เด็กยิงอย่างนั้นสักสามชั่วโมงจนจำ เข้าไปในสายเลือดเลย แต่ละลุก เอากุเจี๊ยวฟาดให้โดนบอลยังเข้าเลย

เอาจริงๆผมกผ้เห็นตามนี้นะ ผลแข่งอาจจะกากจริงแต่เนื้อหาในเกมแต่ละเกมเราสร้างโอกาสยิงได้เยอะมาก อย่างเกมเจอออสเตรเลียมันมีจังหวะที่ต้องเป็นประตูจ่อๆหน้าโกลตั้งสามสี่เม็ด เอาง่ายๆว่าทุกนัดจะมีลูกทีแบบหน้าโกลแค่เอาหรรมสะกิดยังเข้าอยู่เกมละสองสามครั้งแต่เรายิงออกแบบบัดซบมาก แล้วเกมรับก็อย่างที่เห็นสามเกมแรกรั่วเละเทะแต่สองเกมหลังยืนกันแน่นจริงถ้าเป็นไปตามที่อิสระบอกว่าโรมาโกซ่ามาติวเกมรับให้นั่นแปลว่าประธานเทคนิคค่อนข้างมีของอยู่นะ

เด็กชุดนี้มีปัญหาเรื่องจังหวะจบ ไม่มีความเด็ดขาดเลย คือนั่งดูเล่นไม่ได้แย่ แต่ที่แย่คือยิงประตูกันไม่เป็น ถ้าจะให้มากกว่านี้บอลต้องอยู่บนเส้นแล้วแหละถึงจะยิงเข้า เผลอบนเส้นยังเตะวืดได้เลย โอกาสแต่ละนัดนี่มีให้ล่อเป้าตลอดหลายครั้งด้วย

คราวนี้มันก็จะกระทบมาที่ชุดใหญ่อีกอนาคตมันก็ไม่มีพวกกองหน้าอีกตามเดิม กองกลางแทบจะเหยียบกันตายแต่กองหน้าที่ฝากผีฝากไข้ได้นี่ดูไม่มีอนาคตเลย

ผมเชื่อว่าถ้ามีการกระตุ้นทีมบ่อย ทีมจะดีกว่านี้ครับ สู้กันต่อไปครับ

พูดดีแต่แนวรับเรารั่วมากไง เฮ้อ

จริงๆแต่ละเกมโอกาสเยอะมากก
แต่ทำประตูไม่ได้เอง
ถ้าดูแต่ผล ก็คงบอกว่าห่่วยอ่ะ
แต่ถ้าดูเกมจริงๆ ผมว่าเราโอเคอยู่นะ