นิชิโนะ ฉายเดี่ยว ใช้ Staff คนไทยทั้งหมด
"สมาคมฯ พร้อมให้การสนับสนุนการทำงาน นิชิโนะ ทั้งการเตรียมความพร้อมของทีม ของรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี และชุดใหญ่ ในทุกเรื่องที่เป็นหน้าที่สมาคมฯ สมาคมฯ ให้ความมั่นว่า จะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ และไม่ยอมให้ใครแทรกแซงการทำงานของนิชิโนะ ซึ่งไม่ใช่แค่นิชิโนะ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา นโยบายของสมาคมฯ ยึดเป็นหลักการสำคัญ ผู้บริหาร หรือ คนของสมาคมฯ จะไม่แทรกแซงการทำงานของโค้ช หวังว่าแฟนบอลและสื่อมวลชนจะให้การสนับสนุน นิชิโนะ ในการเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย"
"(เรื่องการสนับสนุนเรื่องสตาฟฟ์โค้ช) อย่างที่เรียนข้างต้น ความรับผิดชอบของสมาคมฯ เราจะทำอย่างเต็มที่เพื่อให้การทำงานของนิชิโนะ ดำเนินไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ เมื่อเป็นความต้องการของทางโค้ช ที่ต้องการจะทำงานกับโค้ชไทย ทั้งผู้ช่วยและสตาฟฟ์โค้ช ก็เป็นความปรารถนาดี ของนิชิโนะ ที่จะพัฒนาฟุตบอลไทยอย่างเป็นระบบ"
"ในวันข้างหน้าเขาจะอยู่หรือไม่อยู่กับฟุตบอลไทย เขาก็จะวางประสบการณ์ ความรู้ และพัฒนาฟุตบอลไทยต่อไปในอนาคต ด้วยความสนับสนุนและปราศจากการแทรกแซงจากสมาคมฯ ผมเชื่อว่าความสามารถและประสิทธิภาพของนิชิโนะ จะสามารถนำทีมชาติไทยไปสู่เป้าหมาย ที่สมาคมฯ แฟนบอล และทุกท่านต้องการให้ได้"
แกสัมภาษณ์ด้วยว่าเป็นความตั้งใจของแกที่จะทำงานร่วมสตาฟฟ์โค้ชชาวไทย ซึ่งเป็นความคาดหวังในตอนนี้
แต่ก็ยังไม่แน่ ถ้าหากคุณเห็นว่าในอนาคตมีสตาฟฟ์ชาวญี่ปุ่นมาเพิ่ม แสดงว่าพลังของเค้าคนเดียวมันไม่พอ
(เห็นบับเบิ้ลเคยบอกว่าที่รอแกนานเพราะเรื่องไปหาคนมาช่วยนี่แหละ แสดงว่าแกคงไม่ได้คนที่ไว้ใจมาเลยฉายเดียวเลย)
เอาตรงๆ ถ้ามีทีมงานของนิชิโนะ 2-3 คน แล้วมีสตาฟฟ์ชาวไทยไปแทรก ผมโอเคนะผมบอกมาตลอด
แต่ถ้าแบบนี้นี่น่าเป็นห่วงเลย นึกภาพสัปดาห์นึงนิชิโนะไปดูบอลได้แค่ 1-2 คู่ แทนที่จะมีผู้ช่วยแกแยกกันไปหานักเตะ
ถ้ามาคนเดียวแบบนี้แสดงว่าต้องใช้การแนะนำนักเตะจากสตาฟฟ์คนไทยเป็นอัตราส่วนที่เยอะมาก เพราะเวลาแกมีแค่นี้
ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับโค้ชไทยเหมือนกันว่าจะใช้วิธีการแนะนำนักเตะแบบเดิมๆรึเปล่า... คนคุ้นเคย คนเข้าระบบ บลาๆๆ
ต้องลุ้นกันอีกว่าใครเป็นสตาฟฟ์โค้ช แม่งเอ๊ยขออย่าให้เป็นพวกแบบนั้นเลยเหอะ
ปล. วันนี้เปิดหัวด้วยการไปดูเมืองทอง-เชียงราย ดูดิ๊ว่าจะถูกใจ สารัช หรือ พิธิวัต มากกว่ากัน