สะกิดติ่งบอลไทย : ‘ซามูไรสไตล์’ ความหวังใหม่ ‘ช้างศึก’
คราวนี้คงจะชัวร์ 100 % แล้วนะครับ สำหรับแม่ทัพ “ช้างศึก” คนใหม่ หลังจากที่ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้ประกาศแต่งตั้ง อากิระ นิชิโนะ นั่งเก้าอี้คุมทัพอย่างเป็นทางการ คุมทั้ง ชุดใหญ่ และ ยู-23 ไปพร้อมๆ กัน
พร้อมยืนยันว่า กุนซือซามูไร จะนั่งแถลงข่าวยืนยันด้วยตัวเองบนแผ่นดินถิ่นเกิด ประเทศญี่ปุ่น ในวันที่ 19 กรกฎาคมนี้ (หวังว่าจะไม่มี “ดราม่า” รอบสอง)
หลายคนบอกว่า นี่คือ “ความหวังใหม่” ของทัพ “ช้างศึก” จากโปรไฟล์ที่สวยหรู ดูดี มีสง่า ราศีจับ เงาวับทีเดียว
“ซามูไรสไตล์” รายนี้ ปัจจุบันอายุ 64 ปี ในอดีตเคยเป็นผู้เล่นตำแหน่งกองกลางให้กับสโมสร ฮิตาชิ (ซึ่งปัจจุบันได้เปลี่ยนชื่อเป็น คาชิวา เรย์โซล) ตั้งแต่ปี 1978-1990 โดยตลอด 12 ปี ลงสนามทั้งหมด 143 นัด ยิงไปทั้งสิ้น 29 ประตู นอกจากนี้ยังเคยมีชื่อติด ทีมชาติญี่ปุ่น ในช่วงปี 1977-1978 โดยได้โอกาสลงเล่นทั้งหมด 12 นัด ยิงไป 1 ประตู
หลังประกาศแขวนสตั๊ดปี 1990 ในวัย 35 นิชิโนะ ก็ได้ก้าวสู่เส้นทางสายโค้ชทันที โดยเริ่มคุมทีมชาติญี่ปุ่น รุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี ต่อด้วย ทีมชาติญี่ปุ่น รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี และมีส่วนพาทัพซามูไรชุดดังกล่าวคว้าสิทธิ์ไปลุยโอลิมปิก ในปี 1996 ที่สหรัฐฯ
โดยโอลิมปิกครั้งดังกล่าว นิชิโนะ ได้สร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการพลิกเอาชนะ ทีมชาติบราซิล ที่อุดมไปด้วยแข้งดังอย่าง โรนัลโด, โรแบร์โต คาร์ลอส, ริวัลโด, เบเบโต 1-0 ในนัดเปิดสนาม ที่สังเวียนออเรนจ์ โบว์ล ไมอามี่ จนถูกขนานนามว่า “Miracle of Miami”
หลังจากคุมทีมชาติ อากิระ ก็เริ่มหันมาคุมทีมสโมสร ในเจลีก โดยเริ่มจากทีมที่เขาเคยค้าแข้งอย่าง คาชิวา เรย์โซล ก่อนพาทีมคว้าแชมป์ เจลีก คัพ ในปี 1999 พร้อมรับรางวัลผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมของเจลีกในปี 2000 ไปครองเป็นครั้งแรก
หลังจากนั้น ก็ได้โอกาสมาคุมทีม กัมบะ โอซาก้า ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มีผลงานโดดเด่นที่สุด หลังพาทีมกวาดแชมป์มากมายทั้ง เจลีก ปี 2005, เจลีก คัพ 2007, เจแปนีส ซูเปอร์ คัพ ปี 2007, เอมเพอร์เรอร์ส คัพ ปี 2008 และ 2009
โดยเฉพาะในปี 2008 สามารถพาทีม กัมบะ โอซาก้า คว้าแชมป์ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก พร้อมต่อยอดไปถึงการพาทีมคว้าอันดับ 3 ศึกชิงแชมป์สโมสรโลก จนได้รับรางวัล โค้ชยอดเยี่ยมของเอเชีย หลังจากนั้น ได้โยกย้ายไปคุมทีมอย่าง วิสเซิล โกเบ ในปี และ นาโกยา แกรมปัส
จนในปี 2018 นิชิโนะ ได้โอกาสกลับมาคุม ทีมชาติญี่ปุ่นชุดใหญ่ ลุยศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบสุดท้าย ที่รัสเซีย แทน วาฮิด ฮาลิลฮอดซิช ที่ถูกไล่ออกก่อนทัวร์นาเมนท์จะเริ่มขึ้น
และในฟุตบอลโลกครั้งนี้ นิชิโนะ ก็ได้สร้างชื่อกระหึ่มด้วยการพาขุนพลซามูไรบลูส์เข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ จากผลงานชนะ โคลอมเบีย 2-1, เสมอ เซเนกัล 2-2 และแพ้ โปแลนด์ 0-1 แต่ต้องไปเจอกับ ทีมชาติเบลเยียม ก่อนจะแพ้ไปแบบน่าเสียดายด้วยสกอร์ 2-3 ทั้งที่ทีมนำไปก่อนถึง 2-0
หลังจบฟุตบอลโลก นิชิโนะ ได้ประกาศยุติบทบาท ก่อนจะก้าวขึ้นไปเป็นประธานเทคนิคของ สมาคมฟุตบอลญี่ปุ่น (JFA)
...มาวันนี้ อากิระ นิชิโนะ กำลังจะต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายแบบสุดขั้วในการคุมทัพ “ช้างศึก”
ไม่ว่าจะเป็น เป้าหมายที่ใหญ่ยิ่ง
การปรับตัวให้เข้ากับ “ไทยแลนด์สไตล์” ที่ต้องเจอกับการเรียกตัวผู้เล่นที่อยากได้ แต่สโมสรบางสโมสรไม่ยอมปล่อยด้วยเหตุผลต่างๆ นาๆ
หรือเรียกตัวมา แต่ขอถอนตัวเพราะเจ็บ แต่พอเกมลีก กลับมาลงวิ่งฉิวให้กับสโมสร
และสำคัญสุดคือ ต้องรับมือให้ได้กับประเทศที่โซเชียลมีอิทธิพลต่ออนาคตของคุณแบบสุดๆ
แฟนบอลไทยยินดีต้อนรับ และขอให้โชคดีครับ
#ช้างศึก #ฟุตบอลทีมชาติไทย #FAThailand
แก้ไขล่าสุดโดย Narueta เมื่อ Thu Jul 18, 2019 09:27, ทั้งหมด 1 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ