สงสารคนที่อยู่ข้างหลัง ด้วยความหวังว่าจะให้ผู้เสียชีวิตคอยดูแลตอนแก่เฒ่า
ปล. เหมือนเคยอ่านประมาณว่า เราไม่มีทางเข้าใจความรู้สึกคนอื่นได้ เพราะแต่ละคนมีภูมิต้านทานที่ไม่เท่ากัน เรื่องแค่นี้ของเราอาจเป็นเป็นเรื่องใหญ่ในมุมมองของเค้า

จะตายทั้งทียังลำบากเพื่อนร่วมอาศัยอีก

เรื่องอกหักเนี่ยผมผมเคยมีเพื่อนแบบนี้แหละจะเป็นจะตาย ผญทิ้ง ทุกวันนี้มันย้อมกลับไปมันก็ขำว่าตอนนั้นมันเป็นยังไง ตอนนี้มีแฟนดีๆไปแล้ว

เพื่อนเก่าผมเองครับ เคยสนิทกันตอนช่วงม.ปลาย แต่ก็ห่างหายกันไปจนกลายเป็นคนแปลกหน้ามานานแล้ว แต่พอรู้ข่าวก็จุกอยู่ดี

หลับให้สบายนะโอ๋ คิดถึงความกวนตีนของมึงเสมอ

เฮ้อ มันมีคนเดียวหรือไง ผญ เนี่ย แฟนเขานะมีคนเดียวก็จริงแต่มันมีคนอื่นอีกเยอะ ออกไปหาสิ มาทำแบบนี้สงสารแม่อาม่าเอ็งไหมเขาเลี้ยงเอ็งมากี่ปี ต้องมาเสียแกไปเพราะ...

เราไม่ใช่เค้าเราไม่รู้หรอก

ว่าเค้าเจออะไรมาบ้าง

ชีวิตคนไม่ได้เหมือนกันทุกคน

เราไม่ได้อยู่จุดนั้นเราพูดได้

RIP ครับ

เราไม่ใช่เค้าเราตัดสินไม่ได้หรอก นี่ข้อนึง

ส่วนอีกข้อนึงผมว่าเค้าไม่คิดสั้นหรือชั่ววูบหรอก คิดมาพักนึงแล้วจากข่าวก็บอก พยายามมาครั้งนึงแล้วด้วยซ้ำ

อยู่ กท หรอครับ

สิ่งที่น้องขาดคือประสบการณ์ชิีวิตมั้ง
ถ้าเคยอกหักมาก่อนบ้างอาจจะไม่คิดแบบนี้
แต่เรื่องโรคซึมเศร้าผมยังเข้าไม่ถึงจุดนั้น
แต่ถ้าอารมณ์ดาวน์นี่ตอนวัยรุ่นเป็นบ่อยไปเคยคิดว่าอาการตัวเองแบบนี้ใกล้เคียงโรคซึมเศร้าไหมหนอหรือแค่ปัญหาที่เราคิดไม่ออกแก้ไขไม่ได้กันแน่ แบบตายแล้วไปไหน? อนาคตคืออะไรอยู่ไปทำไม? พ่อแม่ตายไปจะอยู่กับใคร? หญิงคนนี้ไม่รักโลกโคตรเศร้า บลาๆๆ

พวกบูชาความรักก็จะเปนแบบนี้แหละ

เคสนี้ไม่ได้เปนโรคซึมเศร้าจาก กรรมพันธ์
แต่เปนแค่ภาวะซึมเศร้า จากความเสียใจในความรัก
เมื่อภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ธรรมชาติก็คัดสรรให้จากไป

ด้วยความเป็นห่วง​ แฟนที่เลิกนี่หวังว่าคงไม่ซึมเศร้าตามนะครับ

จริงๆผมมองว่าถ้าข่าวจะเสนอว่าผู้เสียชีวิตเป็นโรคซึมเศร้า​

ไม่ควรจี้แค่ประเด็นเลิกกับแฟนครับ​ สังคมที่ไม่เข้าใจจะโทษว่าเป็นเพราะแฟน​ เพราะแท้จริงแล้วโรคซึมเศร้า​ืไม่มีใครผิดหรอกครับ

เพียงแต่สังคมต้องรับผิดชอบร่วมกัน

สื่อก็เป็นส่วนนึงนะครับ​

จากที่สัมผัสกับโรคนี้ ผมว่าซึมเศร้ากับคิดสั้นมันคือ subset เดียวกันนะ คิดสั้นมันน่าจะมาจากสมัยก่อนที่คำว่าซึมเศร้ายังไม่ถูกนิยาม และเป็นมุมมองจากคนนอก ก็จะเรียกคนฆ่าตัวตายว่าคิดสั้น ประมาณนั้น

ซึ่งผมว่าคนที่ฆ่าตัวตายส่วนใหญ่ไม่ได้คิดสั้นแบบอารมณ์ชั่ววูบหรอก ที่บอกว่าชั่ววูบน่าจะเป็นจากมุมมองคนปกติมองเข้าไปมากกว่า แต่จริง ๆ คนที่คิดจะฆ่าตัวตายไม่ว่าจะนิยามคนนั้นว่าเป็นโรคซึมเศร้าหรือไม่ มักจะผ่านเหตุการณ์ที่ทำให้เกิดความคิดจะฆ่าตัวตายย้ำอยู่อย่างนั้นหลายครั้งนะ จนไปถึงจุดนึงที่ตัดสินใจจะทำจริง ๆ

และผมคิดว่าคนที่ฆ่าตัวตายเขาไม่ได้หาข้ออ้างเพื่อจะตายหรอก แต่ระบบความคิดมันพาให้เขาคิดแบบนั้นจริง ๆ ว่าตายไปคงจะดีกว่า เราคงเอาระบบความคิดของคนปกติไปตัดสินคนที่คิดฆ่าตัวตายว่าเขาหาข้ออ้างหนีปัญหาคงไม่ได้หรอกมั้ง สถานการณ์คนเราก็ไม่เหมือนกัน สภาพแวดล้อมที่ถูกเลี้ยงดูมาจนโตก็ไม่เหมือนกัน บางคนสภาพจิตใจปกติแข็งแรง บางคนสภาพจิตใจก็มีปมบางอย่างที่ขาดหายไป

อย่างเคสคนอกหักแล้วฆ่าตัวตาย ถ้ามองอีกมุม ในอดีตเขาอาจจะมีปัญหาบางอย่างจนมองไม่เห็นความรักจากครอบครัว และโหยหาความรักจากใครสักคนมาทดแทน พอโตมาแล้วมีแฟนก็รู้สึกว่าคนนั้นคือความรักที่ตามหา ได้รู้สึกว่าตัวเองมีค่าเพราะมีคนรักเรา แต่สุดท้ายพอความรักนั้นหายไปก็เหมือนทุกอย่างในชีวิตมันพังลง ซึ่งถ้าเป็นระบบความคิดคนปกติทั่ว ๆ ไปก็จะมองว่าความรักจากแฟนมันก็เป็นแค่ subset นึงที่เราได้จากครอบครัวหรือคนใกล้ชิด เสียไปไม่ตายก็หาใหม่ได้ อะไรแบบนั้น

จริง ๆ ไม่ต้องถึงขั้นคนเป็นโรคซึมเศร้าก็ได้ คนปกติทั่ว ๆ ไปเวลาอกหักยัง hurt ไม่เท่ากันเลย บางคนแปบ ๆ หาย บางคนเสียใจอยู่เป็นเดือน ๆ

ผมพูดกะแฟนแบบนี้เปี๊ยบเลย

เค้าเขียนจดหมายไว้ นี่คือเราถ่ายรูปเอามาให้ทุกคนในโลกอ่านได้เลยเหรอ

มันควรจะเป็นเรื่องส่วนตัวในครอบครัวหรือคนใกล้ชิดของเขาไหม
ทำไมจะต้องทำข่าวแบบสนองนี้ดความเผือกขนาดนั้น

จะเซ็นเซอร์ชื่อทำไมถ้าจะเปิดข้อความในจดหมายขนาดนี้วะ

อธิบายได้ดีเลยครับ อ่านจดหมายดูแล้วรู้เลยว่าเค้าคงผ่านอะไรมาหลายๆอย่างจนรับในชีวิตที่ตัวเองเป็นอยู่ไม่ได้แล้ว (ขาดประสบการณ์ขาดภูมิคุ้มกัน) ความคิดที่ว่าตัวเองไม่มีประโยชน์อะไรต่อโลก ไม่มีประโยชน์ต่อคนรอบข้างหายไปซะยังจะดีกว่า ความคิดชุดนี้มันคือมุมมองอีกด้านที่คนนอกอย่างเรามองอย่าง "ทำไมไม่คิดถึงพ่อแม่หรือคนข้างหลังบ้าง" เพราะว่าเค้าคิดแล้วว่าไม่มีเค้าพ่อแม่คนรอบข้างน่าจะอยู่ดีมีความสุขมากกว่า