โอเคตามนั้น! เผยแผนการซื้อขายนักเตะของแมนซิตี้ซัมเมอร์นี้
แมนซิตี้มีข่าวกับนักเตะมากมาย ไม่ว่าจะด้วยเพราะเอเยนต์อยากจะทำกำไร หรือแค่ปั่นข่าวสร้างโปรไฟล์ให้นักเตะตัวเองก็ตาม
แต่สุดท้ายแมนซิตี้จะมีนักเตะใหม่เข้ามาแค่ 2 คนเท่านั้น (กรณีที่ไม่มีนักเตะตัวหลักย้ายออก) แมนซิตี้ไม่ต้องการจะทุ่มเงินเหมือน 2 ปีที่แล้ว
ในช่วงก่อนที่จบฤดูกาลที่ผ่านมา Pep, Txiki (ผู้อำนวยการฟุตบอล) และ Soriano (ประธานสโมสร) ได้วางแผนการซื้อขายนักเตะไว้เรียบร้อยแล้ว
ใจความหลักก็คือจะไม่มีการผ่าตัดใหญ่ทีม เนื่องจากขุมกำลังของทีมตอนนี้ลงตัวแทบจะลงตัวทุกตำแหน่ง (ยกเว้นตำแหน่งที่ตัวหลักย้ายออกไป นั่นคือ Kompany และตำแหน่ง Fernandinho ที่ทราบกันดีว่ายังหาตัวแทนไม่ได้)
นอกจากนี้ยังมีเหตุผลเกี่ยวกับกฎการเงิน FFP ที่ตอนนี้แมนซิตี้กำลังถูกสอบสวนอยู่ ดำเนินการยังไม่เรียบร้อย นั่นก็ทำให้การใช้จ่ายต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ
และเหตุผลที่สำคัญอีกเรื่องหนึ่งที่แมนซิตี้เล็งนักเตะไว้แค่ 2 ตำแหน่ง ก็เพราะว่านักเตะตัวหลักไม่ (น่าจะ) ย้ายออก
จริง ๆ แล้วแผนการซื้อขายนักเตะได้เริ่มมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ที่สามารถขาย Diaz, Angus Gunn, Rabbi Matondo, Pablo Maffeo, Joe Hart, Jason Denayer Olarenwaju Kayode และ Bersant Celina รวมแล้วทั้งหมด 54 ล้านยูโร
แมนซิตี้มีข่าวอย่างต่อเนื่องกับ Bruno Fernandes กองกลางทีมชาติโปรตุเกส และ Joao Felix กองหน้าดาวรุ่ง แต่นั่นเป็นเพียงข่าวลือเท่านั้น แมนซิตี้ไม่ได้สนใจที่จะเสริมในตำแหน่งกองกลางตัวรุกและกองหน้าแต่อย่างใด ถ้าจะให้พูดแบบชัดเจนเลยก็คือ ซัมเมอร์นี้แมนซิตี้ไม่ได้ต้องการแนวรุกเลยแม้แต่ตำแหน่งเดียว
การกลับมาจากอาการบาดเจ็บของ Kevin De Bruyne ก็เหมือนกับได้นักเตะระดับโลกเข้ามาเสริมทีม ในขณะที่ Gundogan ก็มีผลงานดีขึ้นเรื่อย ๆ มีส่วนร่วมพาทีมคว้าทุกแชมป์ในประเทศ และ Foden ได้ลงสนามบ่อยขึ้น เห็นแววที่จะพัฒนาเป็นตัวหลักได้ไม่ยาก
Bernardo ก็ขึ้นมาเป็นนักเตะคนสำคัญอีกคนไปแล้ว D. Silva ยังสามารถเล่นเกมระดับสูงได้อย่างน้อย ๆ อีก 1 ปี และก็ยังมี Mahrez ที่ Pep ยังเชื่อใจว่าจะสามารถปรับตัวได้ เหมือนอย่างที่ Bernardo ทำได้ สิ่งเหล่านี้ทำให้เห็นชัดเจนว่า Pep ไม่ได้ต้องการนักเตะในแนวรุก (ถึงแม้ Sane จะย้ายออกก็ตาม)
ในส่วนของกองหน้า Pep ยังพอใจในผลงานของ Jesus ที่ทำผลงานได้ไม่แย่ (โดยเฉพาะล่าสุดลงเล่นให้ทีมชาติบราซิลไป 2 นัด ยิงไป 3 ประตู) และ Aguero ที่ปีนี้เป็นปีทองของเขา ลงเล่นทุกรายการ 46 นัด ยิง 32 ประตู แอสซิสต์อีก 10 ดังนั้นตำแหน่งกองหน้าก็ยังไม่จำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน
ตำแหน่งที่ต้องการนักเตะเข้ามาอย่างมากก็คือ holding midfielder เนื่องจาก Fernandinho ที่มีอายุครบ 34 ปี และ Gundogan นักเตะที่พอจะเล่นตำแหน่งนี้ได้ ก็ยังไม่ต่อสัญญาใหม่ รวมถึงเรื่องที่เขาไม่ได้ต้องการเล่นในตำแหน่ง holding midfielder นี้อีกด้วย
Rodri กองกลางแอตมาดริดวัย 22 ปี คือเป้าหมายอันดับหนึ่งที่ Pep อยากจะได้เข้ามาร่วมทีมในตำแหน่ง holding midfielder และแมนซิตี้ก็ยินดีจ่าย 62 ล้านปอนด์เป็นค่าตัวให้กองกลางรายนี้
แต่ทุกอย่างย่อมมีความเสี่ยง (เหมือนที่ผ่านมา) แมนซิตี้ก็ยังจับตามอง Tanguy Ndombele กองกลางของลียง ที่ทำผลงานเข้าตาในรายการ UCL เกมที่เจอกับแมนซิตี้
นอกจากนี้ก็ยังมี Marcos Llorente กองกลางของเรอัลมาดริดเป็นอีกหนึ่งในเป้าหมายเช่นกัน
แต่ปัญหาก็คือ แมนซิตี้จะต้องแข่งกับแมนยูไนเต็ด, ปารีส และบาเยิร์น ในการคว้าตัว Rodri เป้าหมายอันดับหนึ่งเข้าทีมให้ได้ในซัมเมอร์นี้
นอกจากข่าวกับกองกลาง แมนซิตี้ก็มีข่าวกับตำแหน่งแบ็กซ้ายอยู่เรื่อย ๆ โดย Ben Chilwell มีข่าวมาตั้งแต่ยังไม่จบฤดูกาลจนถึงวันนี้ แต่แมนซิตี้ก็ยังไม่ได้ต้องการเสริมในตำแหน่งนี้ เพราะว่ายังมี Mendy และ Zinchenko อยู่
จริง ๆ แล้วตำแหน่งแบ็กขวาน่าจะมีโอกาสซื้อเพิ่มมากกว่าแบ็กซ้ายด้วยซ้ำ เพราะ Danilo ต้องการลงเล่นมากกว่านี้ และถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ๆ แมนซิตี้ก็เล็ง Aaron Wan-Bissaka เป็นตัวแทน Danilo ไว้แล้วเช่นกัน
และตำแหน่งที่แมนซิตี้ต้องเสริมอย่างแน่นอนนั่นก็คือเซ็นเตอร์แบ็ก เพื่อทดแทน Kompany ที่เพิ่งอำลาสโมสรไป
Maguire ดูจะเป็นเป้าหมายอันดับหนึ่ง เพราะแมนซิตี้ก็ต้องการเพิ่มนักเตะโควต้า home-grown ไปด้วยในตัว แต่เลสเตอร์ตั้งราคาไว้ที่ 90 ล้านปอนด์ ทำให้แมนซิตี้ดูเหมือนจะต้องเปลี่ยนเป้าหมายใหม่
จากในตอนแรก Otamendi ต้องการย้ายออกเพื่อลงเล่นให้มากขึ้น แต่เมื่อ Kompany รีไทร์ไป นี่อาจะเป็นโอกาสทำให้เขาได้ลงเล่นมากขึ้นกว่าฤดูกาลที่แล้ว
นอกจากนี้แมนซิตี้ก็มีแผนที่จะโปรโมตดาวรุ่ง Eric Garcia และ Philippe Sandler ขึ้นชุดใหญ่ แต่ไม่ว่ายังไงก็จะยังต้องมีนักเตะซีเนียร์ไว้ประคองเกมรับของทีมแทน Kompany อยู่ดี
ทั้งหมดนี้คือเหตุผลและที่มาที่ไป ถึงแผนการซื้อขายนักเตะของแมนซิตี้ ที่วางไว้แค่ 2 ตำแหน่ง คือ holding midfielder และ center back
ที่มา : MEN
ส่วนตัวผมเห็นด้วยนะที่จะซื้อแค่กลางรับกับเซ็นเตอร์แบ็ก ฟูลแบ็กกับตัวรุกถ้าได้มาจริงก็ถือเป็นของแถมให้แฟนบอล