[RE: [NFL]วิเคราะห์เรื่อยเปื่อยหลัง 2019 NFL Draft]
จับตาดูเจ้าตูบปีนี้ให้ดี
พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ ปีนี้บรรดานักวิเคราะห์ต่างมองว่าโอกาสที่จะได้เห็น Cleveland Browns เข้ารอบ Playoff มีมากถึง 52% เลยทีเดียว ทั้งๆ ที่ปีที่ผ่านมาพวกเขาให้โอกาส Browns ได้เข้ารอบไว้เพียง 9% เท่านั้น นั่นอาจจะเพราะพวกเขาปรามาสการดราฟต์ Baker Mayfield เอาไว้มากพอสมควร แต่ผลพวงจากการดราฟต์บ่อยๆ บวกกับเทรดไปเทรดมา ทำให้ Browns สามารถสะสมสตาร์เอาไว้เต้มทีม และตอนนี้ผลของมันก็เริ่มผลิออกแล้ว Baker Mayfield, Odell Beckham Jr., Jarvis Landry, Nick Chubb, Myles Garrett, Denzel Ward, Greedy Williams และคนอื่นๆ อีกมากมาย เรียกว่าสตาร์ล้นทีมสุดๆ ในปีนี้ John Dorsey, GM ของทีมควรได้รับ credit มากที่สุดแล้วตั้งแต่การเข้ามารับตำแหน่งของเขา Browns แทบจะเปลี่ยนไปเป็นคนละทีมกับช่วงก่อนหน้านั้น ปีนี้ถ้ามือใหม่มาดู NFL ครั้งแรก ไม่รู้จะดูทีมไหน ผมก็แนะนำว่าคุณดู Cleveland Browns ได้เลยครับ รับรองถูกใจแน่นอนมีครบทั้งเกมวิ่ง เกมขว้าง และเกมรับที่ดุดัน
.
.
-------------------------------------------------------------
.
.
โปรแกรมการแข่งขันที่ไม่เป็นใจให้ Jon Gruden
.
ไม่ต้องแปลกใจถ้าหากว่าเราอาจจะไม่เห็น Jon Gruden ประสบความสำเร็จในการคุมทีม Oakland Raiders อีกปี เพราะว่าปีนี้โปรแกรมของ Raiders ค่อนข้างหนักกว่าใครเพื่อน ลำพังแค่เพื่อนร่วมสาย AFC West ก็อ้วกแล้วสำหรับปีนี้ ไม่ว่าจะเป็น Denver Broncos, Kansas City Chiefs หรือ Los Angeles Charger ไปกลับ 6 เกม ไม่รู้ว่าจะเก็บ W ได้กี่เกม ขณะที่โปรแกรมนอกสายปีนี้มีคิวต้องเผชิญหน้ากับ Minnesota Viking, Green Bay Packers, Chicago Bears, Houston Texans, Indianapolis Colts รวมไปถึง New York Jets ในเวอร์ชั่นที่อัพเกรดมาเต็มสูบ เรียกว่าเจอโปรแกรมหนัก 12 จาก 16 เกม ดีไม่ดี มีโอกาสได้เห็น #Tank for Tua!!! ก็ได้นะ
.
.
ขณะที่ Raiders ยากขนาดนี้ กลับกันแชมป์เก่า New England Patriots กลับเป็นทีมที่ปีนี้ได้โปรแกรมค่อนข้างง่ายที่สุดแล้ว เพื่อนร่วมกลุ่ม AFC East แม้ว่า Buffalo Bills กับ New York Jets จะอัพเกรดมา แต่ก็ยังเทียบขุมกำลังของ New England Patriots ไม่ได้ ขณะที่โปรแกรมในภาพรวมเอาจริงๆ ก็มีเพียง Pittsburgh Steelers, Cleveland Browns, Philadelphia Eagles, Houston Texans, Dallas Cowboys และ Kansas City Chiefs เท่านั้นที่ดูว่าพอจะทำให้เหนื่อยได้บ้าง แต่ก็อนุมานเบื้องต้นว่าคงแพ้ไม่ถึง 4 เกมหรอกมั้ง จริงมั้ย
.
.
---------------------------------------------------------------------------------
.
.
ดาวรุ่งที่ดราฟต์มาในวันที่ 3 ใครมีโอกาสได้เกิดบ้าง
จากสถิติเก่าๆ ผู้เล่นที่ถูกดราฟต์มาในวันที่ 3 (รอบ 4-7) เรียกว่ามีน้อยมากที่จะสามารถเบียดขึ้นตำแหน่งตัวจริงและสามารถฉายแสงในลีกได้สำเร็จ เรียกว่าค่าเฉลี่ยไปถึง 5% ของดราฟต์คลาสนั้นๆ ด้วยซ้ำ แต่ก็มีหลายคนที่สามารถแจ้งเกิดได้สำเร็จ และกลายเป็นผู้เล่นระดับ Top ของลีกได้ เอาง่ายๆ ลองยกตัวอย่างตัวดังๆ ที่มาจากการดราฟต์ในวันที่ 3 แล้วกลายเป็นซุปเปอร์สตาร์
- Tom Brady, QB, 2000/round 6(199th)
- Antonio Brown, WR, 2010/round 6(195th)
- Richard Sherman, CB, 2011/round 5(154th)
- Jason Kelce, C, 2011/round 6(191th)
- Josh Norman, CB, 2012/round 5(143th)
- David Bakhtiari, LT, 2013/round 4(109th)
- Tyreek Hill, WR, 2016/round 5(165th)
อะไรอย่างนี้เป็นต้น เรียกว่าเป็นกลุ่มเพชรในตมอย่างแท้จริง ซึ่งถ้ากลับไปดูจะพบว่ามักจะเป็นผู้เล่นที่ได้รับโอกาสเพราะตัวจริงเจออาการบาดเจ็บรบกวน หรือเป็นตำแหน่งที่ทีมยังหาตัวจริงไม่ได้ พอได้รับโอกาสก็สามารถแสดงผลงานออกมาได้ดีจนทำให้ได้รับความไว้วางใจให้ลงสนามอย่างต่อเนื่อง ทำให้กลายเป็นตัวหลักที่ทีมไม่สามารถขาดได้ในระยะยาว เรามาดูกันดีกว่าว่ามีใครบ้างที่มีโอกาสเป็นเพชรในตมบ้าง
.
1. Maxx Crosby, DE, Raiders (round 4(106th))
การขาดหายไปของ Khalil Mack ส่งผลกระทบเยอะกว่าที่คาด ปีที่แล้วทั้งปี Raiders เก็บได้เพียง 13 sacks แม้ว่า Raiders จะดราฟต์ Clelin Ferrell มาในลำดับที่ 4 ก็จริง คำถามก็คือในทีม Raiders เนี่ย ไม่มี DE ที่ไว้ใจได้เลยซักคน Arden Key, Josh Mauro เรียกว่ายังพูดได้ไม่เต็มปากว่าดีพอจะเป็นตัวจริง สำหรับการตัดสินใจดราฟต์ Maxx Crosby นั้นเราเดาว่าน่าจะเป็นการตัดสินใจของ Mike Mayock ที่เลือกที่จะเก็บตัวที่ไม่คิดว่าจะหลุดมาวันที่ 3 ก่อนเพราะเห็นแล้วว่าตำแหน่ง Defensive End ของทีมยังอ่อนอยู่มาก Maxx Crosby เป็นดาวรุ่งจาก Eastern Michigan ที่ตลอด 2 ปีที่เป็นตัวจริงที่มหาวิทยาลัย ทำไป 18.5 sacks
แน่นอนว่าอดีตผู้เล่นของ Eastern Michigan มีโอกาสได้ลงสนามมากแน่ๆ ในปีนี้ เพราะ Raiders กำลังต้องการใครซักคนที่จะมาการันตีตำแหน่ง DE ทั้ง 2 ฝั่ง และ Crosby ก็มีศักยภาพในการกดดัน QB ฝั่งตรงข้ามค่อนข้างมาก เขาทำให้คู่ต่อสู้เสียไปถึง 8 fumbles ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา และเรามักจะเห็นเขาวิ่งไล่หลังคู่ต่อสู้เพื่อรวบหรือตบให้บอลหลุดจากมือ ทำให้คู่ต่อสู้เสีย fumble จากทางด้านหลังอยู่บ่อยครัง
หลักๆ แล้วเจ้าตัวอาจจะต้องเพิ่มน้ำหนักอีกหน่อย ถ้าจะเล่นในลีกได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะต้องยอมรับว่าในระดับมหาวิทยาลัยเขาไม่ค่อยได้เจอคู่แข่งที่เก่งมาก แต่ที่ Raiders เขาจะเป็นหนึ่งในตัวความหวังคนใหม่ เพราะเวลานี้เขามีโอกาสมากพอๆ กับทุกคนในทีม เพราะคนที่เหลือในทีมก็ไม่ได้มีใครการันตีมือ 1 จริงๆ ซักคน
.
.
2. Greg Gaines, DT, Rams (round 4(134th))
ตัวนี้น่าจะมีโอกาสแจ้งเกิดนะ เพราะการที่ Los Angeles Rams ตัดสินใจเทรดอัพกระโดดขึ้นมาถึง 28 ลำดับเพื่อชิงดราฟต์ Greg Gaines นั่นต้องมีนัยยะอยู่พอสมควรแหละ เพราะการที่ทีมไม่มีการเซ็นต์ Nose Tackle มาเพิ่มหลังจากปล่อยตัว Ndamukong Suh ซุปตาร์ที่เช่ามาใช้งานอยู่ 1 ปี Greg Gaines มีศักยภาพในการป้องกันเกมวิ่งที่น่าทึ่ง และมีแววว่าจะดีกว่า Suh ด้วยซ้ำ ปีที่แล้วเขาเป็นเบอร์ 1 ของกลุ่ม PAC-12 เพราะหยุดเกมวิ่งได้ถึง 36 ครั้ง ดังนั้นเขาน่าจะโอกาสถูกวางให้เป็นตัวจริงตั้งแต่สัปดาห์แรก เพราะ Sean McVay ก็บอกว่า “ผมรู้สึกว่าเขาน่าจะเป็น Nose Guard ที่เราตามหาอยู่ และน่าจะเล่นเข้าระบบของเราได้เป็นอย่างดี” ขณะที่ Wade Philips, DC ของทีมก็บอกกับ Greg Gaines ในคืน draft night ว่า “มาเลยไอ้หนุ่ม เรามีที่สำหรับนาย นายรู้ใช่มั้ยว่า Ndamukong Suh ไม่อยู่กับเราแล้ว นั่นแหละที่ของนาย”
.
.
3. Gary Jennings Jr., WR, Seahawks (round 4(120th))
ล่าสุดเป็นข่าวครึกโครมไม่น้อยหลังจากที่ทีมตัดสินใจปล่อยตัว Doug Baldwin ปีกนอกตัวเก่งของทีมออกไป หลังจากเจ้าตัวทดสอบสภาพร่างกายแล้วไม่ผ่าน แน่นอนว่า Doug Baldwin เป็นปีกคนสำคัญของ Seahawks ถ้าจะบอกว่าไม่กระทบเลยก็คงเป็นไปไม่ได้ ปีที่แล้ว Baldwin รับบอลไป 27 ครั้งกับอีก 4 ทัชดาวน์ โอเคว่า Tyler Lockett ปีกนอกอีกคน อาจจะต้องรับบทหนักไปพลางๆ ระหว่างที่รอดาวรุ่งเติบโต แน่นอนว่าปีนี้ Seahawks ดราฟต์ปีกนอกมา 2 คน คือ D.K. Metcalf และ Gary Jennings Jr. แต่ในความรู้สึกของเราเราสนใจในตัวของปีกนอกจาก West Virginia มากกว่า เพราะว่าสรีระของเขามันครบสมบูรณ์สำหรับตำแหน่งปีกนอกเลย ทั้งเรื่องความเร็ว ความสูง 6’1” รวมไปถึงผลงานปีที่ผ่านมากับ West Virginia เขารับไป 54 ครั้ง ทำไป 917 หลา กับอีก 13 ทัชดาวน์ ในตำแหน่งปีก Slot
การมาของเขาน่าจะสร้างความเปลี่ยนแปลงในทีม Seattle มากพอสมควร เพราะที่ผ่านมา Seahawks มี Baldwin หรือ Lockett ประจำตำแหน่งปีกริมเส้นเป็นเรื่องปกติที่เห็นกันมาตลอด แต่ Jennings เป็นปีก Slot ซึ่งเราไม่ได้เห็น Seahawks มีปีก Slot เด่นๆ อีกเลยนับตั้งแต่ Golden Tate ย้ายออกไป ปีนี้ Jennings น่าจะต้องแย่งตำแหน่งแข่งกับ Jaron Brown, David Moore รวมไปถึง D.K. Metcalf คู่แข่งจากดราฟต์คลาสร่วมรุ่นนั่นแหละ
.
.
4. Anthony Nelson, DE, Buccaneers (round 4(107th))
เจอข่าวช็อกไปเต็มๆ สำหรับสลัดแดง หลังจาก Jason Pierre-Paul, DE ตัวเก่งของทีม เรียกได้เกือบเต็มปากแล้วว่าน่าจะปิดเทอมแล้วสำหรับฤดูกาล 2019 แม้จะบอกว่ายังมีโอกาสกลับมาได้ก็ตาม นั่นทำให้เกิดคำถามแล้วว่าใครล่ะ จะสามารถมาทดแทน JPP ได้ บรรดาแก๊งค์ pass-rushing group ของ Tampa ในเวลานี้เหลือเพียง Noah Spence, Carl Nassib, Shaq Barrett และ Anthony Nelson ดาวรุ่งจาก Iowa นั่นแปลว่าโอกาสในปีนี้ของเขาก็มีไม่น้อยทีเดียวที่จะได้รับโอกาสลงสนาม เพียงแต่อาจจะมีการปรับเปลี่ยนนิดหน่อย เพราะ Buccaneers ปีนี้น่าจะปรับมาเล่นในระบบ 3-4 defense ตามสไตล์ถนัดของ Todd Bowles, Defensive Coordinator คนใหม่ของทีม
จากระบบใหม่ที่ถูกวางโดย Todd Bowles อาจจะทำให้เขาได้รับโอกาสมากขึ้น Jason Licht, GM ของทีมกล่าวไว้ว่าบางทีทีมอาจจะให้เขาลองเล่นในตำแหน่ง outside linebacker ก็ได้ เพราะทีมก็กำลังต้องการผู้เล่นในตำแหน่งนี้อยู่
.
.
5. Tony Pullard, RB, Cowboys (round 4(128th))
แน่นอนว่าถ้า Ezekiel Elliott ยังอยู่ ยังไง Cowboys ก็แทบการันตีตำแหน่งตัวจริงให้เขาแทบทุก snap อยู่แล้ว แล้วไหนล่ะที่สำหรับ Pollard ที่เราสนใจนั่นก็คือ เขาเป็นผู้เล่น hybrid ที่สามารถเล่นได้ทั้ง running back และ receiver เพราะตอนที่เล่นให้ Memphis ก็เห็นแล้วว่าสามารถทำได้ดีทั้ง 2 ตำแหน่ง และเรามองว่าเขาน่าจะสามารถเบียดตำแหน่งของ Tavon Austin ได้ ทำให้เขาจะสามารถมีที่ยืนร่วมกับ Elliott ได้ รวมทั้งเป็นแบ๊กอัพชั้นดีให้กับ Zeke ด้วยเช่นกัน
“ผมว่าเด็กคนนี้เป็นอะไรที่แตกต่างจากผู้เล่นคนอื่นๆ ของทีมเรานะ” Stephen Jones รองประธานสโมสรให้สัมภาษณ์กับสื่อ
.
.
6. Darius Slayton, WR, Giants (round 5(171th))
Giants ต้องเริ่มมองคนที่จะมาเป็นกลุ่มรับบอลของทีมมากขึ้น หลังจากที่เทรด Odell Beckham Jr. ปีกเบอร์ 1 ของทีมออกไป แม้ว่าพวกเขาจะตัดสินใจเซ็นต์ Golden Tate มาในตลาด FA แต่อย่าลืม Tate เป็นปีก slot Giants ยังคงขาดปีกที่รับบอลในแนวลึก เพราะแต่เดิม Beckham คือ 1 ในปีกที่รับบอลแนวลึกที่ดีที่สุดของลีก แต่ปีกมีชื่อที่ทาง Giants เหลืออยู่คือ Tate หรือ Sterling Shepard ไม่ใช่ปีกสไตล์นั้น Darius Slayton ปีกนอกดาวรุ่งจาก Auburn เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย Slayton มีสปีดนี่ยอดเยี่ยม (4.39 วินาที ในการทดสอบวิ่งสปริ้นท์ 40 หลา) และมีระยะเฉลี่ยในการรับบอลอยู่ที่ 20.3 หลาต่อ 1 การรับบอล นั่นเพราะว่าเขารับบอลที่มีขว้างไกลมากกว่า 50 หลา ถึง 8 ครั้ง ตลอด 3 ปีที่เล่นให้กับ Auburn
ในผัง depth chart แน่นอนว่าสื่อมองว่าเขาน่าจะเป็นสำรองของ Tate และ Shepard ทำให้เขามีคู่แข่งอย่าง Corey Coleman, Cody Latimer, Bennie Fowler และ Alonzo Russell แต่ไม่ว่าคำถามใหญ่ของ Giants ที่ว่าระหว่าง Eli Manning หรือ Daniel Jones ใครจะเป็นตัวจริงในปีหน้าก็ตาม Giants ต้องการ receiver อย่างน้อยๆ ก็ 2 คนสำหรับไปรับบอลแนวลึก เพื่อเป็นการดึงความสนใจของทีมรับฝั่งตรงข้าม เพื่อไม่ให้ไปโฟกัสกับการป้องกัน Saquon Barkley แค่คนเดียว
.
.
7. Ryquell Armstead, RB, Jaguars (round 5(140th))
แน่นอนแหละว่า Jacksonville ไม่ได้ดราฟต์มาเพื่อเป็นมือ 1 แน่ๆ ตราบใดที่พวกเขายังคงมี Leonard Fournette อยู่ แต่ก็นั่นแหละ เราเริ่มเห็นถึงอาการบาดเจ็บออดๆ แอดๆ ของ Fournette มาได้ซักระยะแล้ว และถ้าเขาไม่ได้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ Armstead ก็น่าจะได้รับโอกาสลงสนามในปีนี้อยู่
Fournette พลาดการลงสนาม 3 เกมในปีแรกที่ถูกดราฟต์มา และในปีล่าสุดเขาก็ไม่ได้ลงสนามถึง 7 เกม และยังมีปัญหาเรื่องความประพฤติหลังจากที่ไปมีเรื่องกับผู้เล่นของ Bills ในช่วงท้ายฤดูกาลก่อน แถมยังเริ่มมีอาการไม่ค่อยพอใจทีมสตาฟโค้ช หลังจากถูกจับนั่งอยู่ที่ม้านั่งสำรองในเกมสุดท้ายของฤดูกาลที่แล้ว Ryquell Armstead อดีตตัววิ่งของ Temple ทำผลงาน combine ในการวิ่ง 40 หลา ไว้ที่ 4.45 วินาที
อย่างแย่ที่สุด, Armstead ก็อาจจะได้รับโอกาสเป็นตัววิ่งในดาวน์ 3 เพื่อรอโอกาสไปก่อนในปีแรก ขณะที่คู่แข่งแย่งตำแหน่งของเขาก็มี Benny Cunningham, Thomas Rawls, และ Alfred Blue
อำนาจ ความเชื่อ ความรัก คือ 3 สิ่งที่ตรรกะมนุษย์ไม่สามารถอธิบายได้ ดังนั้นอย่าถามว่าทำไมกับเรื่องพวกนี้