เมื่อกลางดึก ของวันที่ 21 มี.ค. นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เขต 1 พิษณุโลก โพสต์เฟซบุ๊ก เป็นภาพจดหมายที่เขียนด้วยลายมือของตัวเองถึงพี่น้องประชาชนชาวพิษณุโลกเขต 1 มีใจความสรุปว่า ขอความไว้วางใจเลือกตนเข้าไปทำงานเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาของประเทศ
โดย นพ.วรงค์ ได้เน้นย้ำสาระสำคัญด้วยการขีดเส้นใต้เน้นๆเอาไว้ ความว่า ขณะนี้เป็นที่ทราบว่าประเทศของเราต้องเผชิญปัญหาต่างๆ ผมยืนยันกับพี่น้องทุกท่านว่า ทุกสิ่งทุกอย่างผมจะเอาประโยชน์ของประเทศเป็นที่ตั้ง จะต้องช่วยผลักดันแก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชน ตลอดจนผลักดันประเทศให้พ้นปัญหาวิกฤตทางการเมือง และพร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับทุกฝ่ายที่ “รักชาติ รักบ้าน รักเมือง”
ก่อนหน้านี้ นพ.วรงค์ เดจกิจวิกรม ได้เป็นหนึ่งในผู้สมัครชิงตำแหน่ง หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โดยมีผู้แข่งขันกันถึงสามคน ประกอบด้วย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ – นายอลงกรณ์ พลบุตร และ นพ.วรงค์ โดย นพ.วรงค์ มีคะแนนแพ้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ไปแบบเฉียดฉิว
นอกจากนี้ นพ.วรงค์ ยังมีนายนายถาวร เสนเนียม อดีตแกนนำ กปปส. เป็นทีมงานร่วมกันหาเสียงชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค โดยมีกระแสข่าวอยู่ช่วงเวลาหนึ่งว่า กลุ่มที่เคยเป็นแกนนำ กปปส. จะเข้ามายึดพรรคประชาธิปัตย์ ท่ามกลาง การปฏิเสธของแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ ว่าไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด
https://www.khaosod.co.th/election-2019/news_2335459
เริ่มซักนาทีที่ 12
วรงค์ออกมาแบบนี้ผมว่าน่าจะสามารถตีความได้เลยนะว่า พร้อมจะหนุนประยุทธ์
การเมืองภายในพรรคประชาธิปัตย์ก็มีปัญหามากๆเหมือนกัน อำนาจของมาร์คคือแบบสั่นคลอนมาก
เพราะการโหวตหัวหน้าพรรคมาร์คชนะเพียงแค่นิดเดียว วรงค์นี่เท่าที่ฟังก็คือขั้วของสุเทพนั่นแหละ
ยิ่งคิดว่าเรื่องหนุนใครเป็นมติพรรค บอกเลยว่าประชาธิปัตย์ไม่น่าไว้ใจอย่างแรง จุดยืนไม่มีอ่ะ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ คว้าชัยชนะในการหยั่งเสียงโหวตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เสียง 67,505 คะแนน ตามด้วย นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม จำนวน 57,689 คะแนน และนายอลงกรณ์ พลบุตรได้ 2,285 คะแนน รวม จำนวนผู้มา ลงคะแนน ทั้งหมด 127,479 คน
https://news.thaipbs.or.th/content/275613