นักเตะเทศบาล
Status:
: 0 ใบ
: 0 ใบ
เข้าร่วม: 19 Oct 2009
ตอบ: 108
ที่อยู่: The Bridge
โพสเมื่อ: Thu Feb 21, 2019 19:56
เกมส์เสมอตัวแต่เสียดายที่แอนฟิลด์(บทความ)
เกมส์เสมอตัวแต่เสียดายที่แอนฟิลด์
จบไปแล้วนะครับสำหรับเกมส์บิ๊กต์แมตช์ประจำสัปดาห์ของรายการยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีค ระหว่างเจ้าบ้านหงส์แดงลิเวอร์พูลเปิดรังแอนฟิลด์รับการมาเยือนของเสือใต้บาเยิร์นมิวนิคทีมดังจากเยอรมัน ผมยอมรับว่าไม่ได้ดูแมตช์นี้แบบสดๆแต่ก็มาดูเทปย้อนหลังเพื่อจะวิเคราะห์ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างหลังจากห่างหายไปจากเพจไปนานเนื่องจากภาระงานที่ค่อนข้างเยอะ
นัดนี้เจ้าบ้านลิเวอร์พูลจัดชุดที่พวกเขามั่นใจว่าดีที่สุดในขณะนี้ ลงสนามขาดแต่เพียงกองหลังตัวเก่งอย่างเฟอร์กิลฟานไดค์ที่ติดโทษแบนเพียงคนเดียวเท่านั้นโดยเจอร์เก้นคล็อปได้แก้ปัญหาโดยการนำฟาบิญโญ่ถอยไปเล่นเซนเตอร์ตัวกลางแทนตำแหน่งที่ขาดไป ส่วนทางด้านบาเยิร์นมิวนิคนั้นก็จัดตัวผู้เล่นตามแผนของพวกเขาซึ่งวันนี้ขาดเจอโรมบัวเต็งกองหลังตัวแกร่งเช่นเดียวกับลิเวอร์พูล สิ่งที่น่าสนใจสำหรับเสือใต้วันนี้ก็คือ3แนวรุกโคมองเลวานดอฟกี้กนาร์บี้จะสามารถสร้างความอันตรายให้แก่ลิเวอร์พูลได้มากแค่ไหนหลังจากที่ช่วงหลังๆรอบเบนและริเบรี่เริ่มโรยราไปแดนกลางเป็นฮาเมสธิอาโก้และฆาบีมาร์ติเนชผมได้เห็นแผงกลางแล้วก็รู้สึกหวั่นๆว่ากลางแบบนี้จะสู้ความดุดันพละกำลังของลิเวอร์พูลได้หรือไม่
จากนั้นก็ได้เวลาเริ่มการดวลแข้งระหว่างทั้งสองทีมรูปเกมส์เป็นไปตามคาดที่เจ้าบ้านเลือกที่จะเปิดหน้าบุกเพื่อหวังที่จะทำประตูโดยหลังจากเกมส์ดำเนินไปได้สักพักหนึ่งรูปทรงการเล่นเป็นลิเวอร์พูลที่ดูดีกว่าครองบอลบุกได้มากกว่าสร้างสรรค์โอกาสได้มากกว่าเพียงแต่ว่าจบสกอร์ไม่เฉียบขาดเท่านั้นเอง
มีสิ่งหนึ่งที่วันนี้พลพรรคลิเวอร์พูลทำได้ดีคือการเพรสบอลสูงใส่การขึ้นเกมส์ของบาเยิร์นมิวนิค โดยเฉพาะเวลาที่ทีมดังจากเยอรมันจะเซตบอลไปทางแบ็คซ้าย-ขวา ปีกฝั่งนั้นๆของลิเวอร์พูลจะเข้าบีบทันทีและแบ็คกับกองกลางจะเข้ามาช่วยบีบสูงปิดตัวที่จะมารับบอลจนจะเห็นได้หลายครั้งว่าบาเยิร์น มิวนิคต้องส่งคืนกลับไปให้นอยเออร์อยู่บ่อยครั้งเนื่องจากปฎิเสธไม่ได้ว่าแนวทางการบีบบอลของลิเวอร์พูลวันนี้เป็นแบบแผนที่เตรียมการมาอย่างดีและค่อนข้างได้ผลแต่ทีมเยือนก็ไม่ได้นิ่งเฉยปล่อยให้ถูกบีบกดดันจนทำอะไรไม่ได้โดยใช้การวางบอลของนอยเออร์ไปให้คนที่ไม่ได้ถูกบีบกดดันแทนหรือเตะโด่งยาวไปให้ดาวเตะอย่างเลวานดอฟกี้(Lewandowski)
จริงๆแล้วผมแอบผิดหวังเล็กๆ ว่าจะได้เห็นการเปิดเกมส์บุกของทั้งสองฝั่งแต่ก็ไม่รู้ ว่าด้วยการวางแผนที่มาเล่นแบบนี้หรือความผิดพลาดของบาเยิร์นที่วันนี้สามแนวรุกของพวกเขาไม่ได้รับการสนับสนุนที่ดีพอ หลายครั้งเวลาหนึ่งในสามตัวรุกของบาเยิร์นได้บอลแทบไม่มีกองกลางหรือแบ็คเติมขึ้นมาช่วยเลยโดยเฉพาะกองกลางที่แทบจะปักหลักอยู่กลางสนามเพียงอย่างเดียวทำให้การขาดกองหลังตัวหลักของลิเวอร์พูลแทบไม่มีปัญหาใดๆมากนักเมื่อสามารถรุมกินโต๊ะแนวรุกของบาเยิร์นมิวนิคได้
จังหวะสำคัญที่น่าจะพลิกโฉมเกมส์ได้(turnpoint) โอกาสสุดสำคัญนี้เกิดขึ้นกับทั้งสองทีมเรียกได้ว่าหากคว้าโอกาสไว้ได้นั้นผลการแข่งขันและรูปเกมส์จะออกมาแตกต่างจากนี้แน่นอนโดยจังหวะที่โจเอล มาติปสกัดบอลไม่ดีกำลังจะเข้าประตูตัวเองโชคยังดีที่บอลมันพุ่งไปโดนตัวอลิสอน เบคเกอร์(Alisson Becker)พอดิบพอดี ผมดูตอนแรกคิดว่าเลวานดอฟกี้(lewandowski)เป็นคนยิงติดเซฟด้วยซ้ำไป ถือว่ารอดจากการเสียประตูทีมเยือนไปอย่างหวุดหวิดผมเชื่อว่าหากลิเวอร์พูลเสียประตูนี้ไปจะต้องเหนื่อยอย่างมากแน่นอนที่จะเข้ารอบต่อไป ส่วนโอกาสของลิเวอร์พูลก็มาจากจังหวะบอลแฉลบมาเข้าทางซาดิโอ มาเน่ ได้แปบอลจ่อๆหน้าประตูแต่กลับยิงออกข้างไปเสียดื้อๆยอมรับครับว่าการหันหลังกลับมายิงอาจจะไม่ใช่ลูกยิงที่ง่ายนักแต่โอกาสที่จะได้ยิงจ่อๆแบบนี้หาได้ยากยิ่ง ฉะนั้นลูกนี้ควรจะเป็นประตูที่ทำให้ลิเวอร์พูลได้เปรียบแต่ก็เป็นที่น่าเสียดายที่มันไม่เกิดขึ้น
ดังนั้นเมื่อทั้งสองทีมไม่สามารถคว้าโอกาสไว้ได้ก็ต้องสู้กับเวลาที่เหลือต่อไปโดยครึ่งหลังมาผมเห็นค่อนข้างแน่ชัดแล้วว่าบาเยิร์นมาตั้งรับจริงๆผมเข้าใจว่าพวกเขาคงมั่นใจเกมส์นัดหน้าในบ้านของพวกเขาว่าจะสามารถชนะได้อย่างแน่นอนดังนั้นขอไม่เสียประตูไว้ก่อนเป็นพอ อีกฝั่งหนึ่งลิเวอร์พูลก็มาบุกเต็มตัวมิดฟิลด์อย่าง ไวจ์นาดุมและเกอิต้าผลัดกันเติมไปช่วยเกมส์รุกบ่อยครั้งร่วมกับปีกและแบ็คที่เติมเข้ามาเรียกได้ว่าแผงกลางลิเวอร์พูลตอนนี้แทบจะเก็บกินไว้ได้หมดแล้วที่ขาดอย่างเดียวคือจังหวะจะโคนที่จะทำประตูมองอีกแง่หนึ่งก็เหมือนบาเยิร์นเปิดให้ครองเกมส์ก็จริงแต่ก็กันพื้นที่สุดท้ายไว้ได้ดี
การเปลี่ยนตัวของลิเวอร์พูลโดยการส่งมิลเนอร์(Milner) โอริกิ(Origi) เจอร์เก้น คล็อปคงเห็นแล้วว่าบาเยิร์นมิวนิคแพ็คเกมส์รับแล้วยากที่จะเจาะเข้าการนำมิลเนอร์มาเก็บกวาดบอลแถวสองให้ทีมครองบอลบุกได้ต่อเนื่องและนำกองหน้าอาชีพลงมาอย่างน้อยๆลูกโหม่งหรือพักบอลโอริกิน่าจะทำได้ดีกว่าเฟอร์มิโน ก็เป็นการแก้เกมส์ที่เข้าใจได้ ส่วนการเปลี่ยนตัวแก้เกมส์ของบาเยิร์นมิวนิคนั้นส่ง ริเบรี่(Ribery) เรนาโต้ คาราบาว ซานเชส (Renato Sanches) และราฟิญญ่า(Rafinha)ลงมา รายแรกนั้นเป็นการเปลี่ยนมาหวังที่จะใช้ความเก๋าของริเบรี่ในการสวนกลับสร้างสรรค์โอกาสแต่ด้วยรูปเกมส์ที่ไม่เป็นใจนักบอลยาวจากหลังมาหน้าไม่ค่อยเข้าเป้าเสียเท่าไหร่และยังโดนรุมแย่งบอลทำให้ริเบรี่ลงมาทำอะไรแทบไม่ได้ส่วนซานเชสนั้นลงมาแทนฮาเมสที่เป็นกองกลางตัวรุกแน่นอนว่าการเล่นแนวรับไม่ใช่สไตล์ของเขาอยู่แล้วการเน้นผลแล้วส่งกองกลางสายพละกำลังมาสู้กับลิเวอร์พูลเป็นสิ่งที่คิดถูกแล้วส่วนราฟิญญ่าผมมองว่าเป็นการซื้อเวลาช่วงท้ายเกมส์มากกว่า
สุดท้ายจบการแข่งขันไปด้วยสกอร์0-0แบบบัวไม่ช้ำน้ำไม่ขุ่นของทั้งสองฝ่ายโดยทีมเยือนน่าจะเป็นฝั่งที่พึงพอใจในผลสกอร์เพราะพวกเขาได้เล่นในบ้านนัดหน้าโดยมีกองเชียร์หรือผู้เล่นคนที่12รออยู่ที่อลิอันซ์ อารีน่า เรียบร้อยแล้ว
แน่นอนเจ้าบ้านที่มีโอกาสมากมายแต่ทำไม่ได้อย่างหงส์แดง ลิเวอร์พูลก็ต้องรู้สึกผิดหวังและเสียดายที่ไม่สามารถชิงความได้เปรียบจากนัดแรกเอาไว้ได้ อย่างไรก็ตามแม้จะยิงประตูไม่ได้แต่สิ่งที่สำคัญกว่าการได้ประตูคืออย่าลืมว่าลิเวอร์พูลไม่เสียประตูทีมเยือนในนัดนี้สำหรับผมที่ไม่ใช่แฟนบอลของทั้งสองทีมผมยังคิดเลยว่าลิเวอร์พูลทำได้ดีแล้วเพราะนัดหน้าพวกเขาจะได้กองหลังตัวเก่งอย่าง ฟาน ไดจ์ มาคุมแผงหลังเช่นเดิม
ขึ้นชื่อว่าการแข่งขันย่อมมีคนแพ้คนชนะและทุกการแข่งขันผู้ชนะมักเป็นฝั่งที่ทำได้ดีกว่าฝั่งที่แพ้อยู่เสมอดังนั้นแมตช์หน้าที่บาเยิร์น มิวนิค จะเปิดบ้านรับการมาเยือนของลิเวอร์พูลนั้นต้องรอดูแล้วละครับว่าใครจะทำได้ดีกว่ากัน?
#เจรจาภาษาบอล
พอดีใส่รูปไม่ได้ครับเนื่องจากทำในโทรศัพท์ขออภัยในความไม่สะดวกนะครับ
ฝากเพจเจรจาภาษาบอล
https://www.facebook.com/%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B8%A3%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%A5-892038647645832/
แก้ไขล่าสุดโดย marykabin เมื่อ Thu Feb 21, 2019 20:04, ทั้งหมด 1 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ