ต่างกัน แต่ไม่ได้เยอะขนาดนั้นน่ะ ก็ต้องตอบคำถามให้ได้ ว่า W ทำไม

ถ้าเหตุผลดูฟังขึ้น ก็พอมีสิทธิเบียดได้น่ะ

สำหรับคนทั่วๆไปสำคัญมาก และหลายๆเคสสำคัญกว่าชื่อมหาวิทยาลัยด้วยซ้ำ
เมื่อก่อนเรียน ม.ดัง เป้อ จบแค่ 2.0x ยังเบียด 3.00 ของ ม.ไม่ดังได้สบาย
เดี๋ยวนี้ไม่ได้แล้วครับ ถ้าเป้อคือหางานยากเลย 3 ปีก่อนผมเคยอยู่ในทีมทำ มคอ
ภาควิชาผมนี่ตัดวิชาที่ได้เกรดยากๆออกจากหลักสูตรไป 2 ตัวอ่ะ ละมีการปรับ
วิชายากๆบางตัวจาก 4 หน่วยกิตเป็น 3 ด้วย เพราะว่าผู้ประกอบการ/ผู้ใช้บัณฑิต
รีเควสมา + ภาควิชาก็เห็นพ้องด้วย เพราะ

1. ถ้าเด็กมีคุณภาพแต่เกรดต่ำจะถูกมองข้ามทันทีต้องเสียเวลาพิสูจน์ตัวเอง

2. ตัดโอกาสทุนศึกษาต่อ ร้อยละ99 จะให้กับเด็กที่เกิน 3.00 คือต่อให้บจาก ม.ดัง
แต่ไม่ถึง 3.00 ก็ริบหรี่ละ ตรงกันข้ามถ้า ม.ไม่ดังแต่เกรดถึงก็มีโอกาสได้สูง

3. ความเลื่อมล้ำระหว่าง ม. ลดลง ยกตัวอย่างภาควิชาผมปี 38 มีเครื่องแมค
ใช้ทำแลปแล้ว ในขณะที่ยุคนั้นคนยังแยกคอมกับทีวีไม่ออกเลย แต่ตอนนี้เด็ก
ป.2 ก็ใช้แมคเป็นแล้ว ไม่ต้องรอสอบเข้าม.ดังให้ได้ก่อนถึงจะมีโอกาสใช้

4. การแก้ปัญหา หรือเทคนิคที่ใช้ในการทำงานต่างๆ เมื่อก่อนวิธีมันจะไปรวม
อยู่ที่ ม.ดังๆ แต่ตอนนี้ทุกอย่างมีในเนต ใครๆก็หาได้

ปล. ไม่ใช่ทุกคณะจะเป็นแบบนี้นะ การปรับตัวของแต่ละคณะก็ต่างกัน
ไม่ใช่ว่าจะให้ไปปล่อยเกรดคณะแพทย์หรือวิศวะ แบบนั้นมันก็ไม่ได้

ผมได้สัมภาษณ์ วิศวกร มาประมาณ 5 ปี

บริษัทก็ระดับต้นๆ ของประเทศ บอกเลยว่า

ทางบุคคลเขาจะคัด มาให้คุณเอง ยกเว้นจะมีเด็กเส้น

เขาจะพิจารณา สถาบัน เกรด เป็นหลักน่ะ

ที่เหลือก็อยู่ที่ทางเรา จะเลือกใคร

เป็นสิ่งที่บอกถึงความรับผิดชอบต่อหน้าที่ ณ เวลานั้น ได้ระดับหนึ่งครับ

เกรด
บางองค์กร ก็มีความหมายมาก คุณจะไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะสมัครเข้าไปเลย
บางองค์ดร ก็อาจจะไม่มีความหมายเลย ถ้าเป็นบริษัทที่มีการพูดคุยถึงลักษณะงานที่เขาต้องการขณะนั้น และคุณมีสิ่งที่เขาต้องการ

ชื่อมหาลัย ก็มีส่วน แต่ไม่ทั้งหมด ที่ทำงานผมเจอคนจบมหาลัยดัง ๆ หลายคน ลักษณะนิสัย ตรรกะแปลก ๆ จนหัวหน้าบ่นไม่น่ารับมาก็มี (องค์กรใหญ่ คนหลักหมื่น)

แล้วแต่คณะนะผมว่า อย่างคณะผม เกรดไม่จำเป็นเลย ไปวัดกันตอนสอบเข้ารับราชการอย่างเดียว ห้องผมคนเกรดเยอะๆเพราะทำงานส่งเยอะแต่สอบไม่ค่อยติด ส่วนพวกหลังห้องมาเรียนแหน่ไม่มาเรียนแหน่ แต่หัวดี งานส่งไม่เยอะ ตอนสอบบรรจุราชการ พวกท้ายห้องติดกันตรึม555

บอกเลย จบใหม่เกรดสำคัญที่สุด ไม่มีอะไรแสดงคุณสมบัติของเราได้ดีกว่าเกรดครับ

สำคัญในการสมัครงานบางบริษัทบางองค์กร แต่ไม่ใช่สิ่งที่กำหนดความสำเร็จของชีวิตทั้งหมด

ผมนี่เสียดาย เรียนรามสมัยเกรด GPF โคตรเสียเปรียบมหาลัยอื่นมากๆ

แล้วถ้าจบ ม.รัฐ มีชื่อหน่อย เกรดประมาณ 2.5 กับ จบ ม.เอกชน มีชื่อ เกรด 3.25+ นี่เค้าจะเรียกรับใครครับ

จากประสบการณ์ เกรด 3 ขึ้นไป มักจะไม่ค่อยประสบปัญหา ส่วนใหญ่จะมองว่าเกรดเกินสามค่อนข้างโอเคร อยู่ในเกณฑ์ที่บริษัทส่วนใหญ่รับได้ ยิ่งเยอะกว่าสามยิ่งเป็น benefit ส่วนเพิ่ม แต่ถ้าตำ่กว่าสามลงมา เริ่มมีผลต่อการพิจารณา สมมุติมีใบสมัครสัก 10 ใบ เกินสามไปซะแปด อีกสองได้ราว 2.5 2.8 ก็อาจจะเรียกมาเฉพาะพวกเกรดเกินสามก็ได้ ถือเป็นการคัดกรองเบื้องต้น ต่อให้ทำงานมาแล้วกี่ที่ก็เถอะ บางทีก็หนีไม่พ้น ถ้าสมมุติออกไปสมัครเข้าบริษัทที่มีการแข่งขันสูง คนสมัครเยอะ สุดท้ายก็หนีไม่พ้นการคัดกรองเบื้องต้นผ่านเกรดกับชื่อมหาลัยอีกอยู่ดี

สังคมนี้ แม้จะไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ คุณก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า เด็กจากมหาลัยดีๆ เกรดดีๆ มักจะมีความรับผิดชอบมากกว่าและเก่งกว่า แม้จะไม่ทั้งหมดแต่เท่าที่เจอก็ตอกย้ำความเข้าใจส่วนนี้ได้ ดังนั้นมันเลยกลายเป็นมาตรฐานไปโดยปริยาย

ผมว่าสำคัญนะครับ ถือว่าเป็นใบเบิกทางเลยแหละ เกรด&มหาลัย เค้าพิจารณาควบคู่กันไป (ยิ่งสีของมหาลัยผมบอกเลยว่ามีผลจริงๆโดยเฉพาะ บ ใหญ่ๆ) ก่อนที่จะพิจารณาอีกทีตอนสัมภาษณ์บุคคล
มันคือการที่เราจะมีโอกาสในหนทางต่างๆที่มากขึ้น(ใน กรณีที่ไม่มีเส้นสาย)

ส่วนตัวผมคิดว่าเกรดมันบ่งบอกได้ถึงความรับผิดชอบของเราในช่วงเวลาที่เรียนมหาลัยอะครับ

เกรดดีมันก็มีภาษีเยอะกว่าอยู่แล้วครีบ

แล้วแต่ที่เนอะ
1.สอบราชการบางที่อาจจะกำหนดเกรดไว้ เป็นคุณสมบัติเบื้องต้น
2.เอกชนบางทีก็อาจจะมีค่าเกรด เกียรตินิยมอันดับ 1 ได้เพิ่ม 5,000 บาท เกียรตินิยมอันดับ 2 เพิ่ม 3000 บาท

รพ.เอกชนแห่งหนึ่ง หัวหน้าแผนกเขาบอกว่ารับเฉพาะคนที่เกรดเฉลี่ย 3.75 ขึ้นไป เพราะถือว่าบุคคลนี้ มีพร้อมทุกอย่าง ไม่ต้องเทรนงานมาก เขาพร้อมทำประโยชน์ให้องค์กรอย่างเต็มที่ ส่วนที่กำหนดเกียรตินิยมอันดับ 1 ได้เพิ่ม 5,000 บาท เกียรตินิยมอันดับ 2 ได้เพิ่ม 3,000 บาท เขียนไว้เพื่อให้จูงใจคนเก่งมาสมัครเยอะๆ แต่เงื่อนไขเขาคือถ้าไม่เกียรตินิยมอันดับหนึ่งก็ไม่รับ ถือว่าพวกนี้เป็นคนไร้คุณภาพเข้ามาจะต้องเสียทรัพยากรในการสร้างบุคคลอีก เกรดน้อยเป็นแค่ข้ออ้างของพวกที่ ขาดความพร้อม

อยู่ที่คณะที่จบมาด้วยครับ

มากที่สุดในสามโลก