[RE: สิ่งที่ยากที่สุดในชีวิตคือการลาออกจากงาน]
โจ๊กเป็ด พิมพ์ว่า:
ตามนั้นเลยครับ "สิ่งที่ยากที่สุดในชีวิตผมคือการลาออกจากงาน"
คือปีนี้มีวางเเผนไว้ว่าจะบอกว่าลาออกจากออฟฟิตเดิม
เพื่อเริ่มงานใหม่ต้นเดือนกุมภา 2019 (ออฟฟิตที่ผมอยู่ต้องเเจ้งก่อน 1 เดือน)
ผมอยู่สตูดิโอดีไซต์ขนาดกลางที่ดังอันดับต้นของไทย
เป็นซีเนียสถาปนิก พึ่งได้ขึ้นตำเเหน่งตอนต้นปีที่ผ่านมา
ที่นี้ผมมาตัดสินใจตอนต้นเดือนนี้ว่า ผมอยากจะขยับขยายย้ายงาน
ไปสตูออกเเบบขนาดใหญ่ ผมเลยตัดสินใจทำเล่มผลงาน
ผมก็ยื่นไปออฟฟิตที่เลือกไว้เเค่ออฟฟิตเดียว ไม่เกิน 1 วันเขาก็ติดต่อมา
เรียกเข้าไปสัมภาษณ์วันรุ่งขึ้น สัมภาษณ์ไป 2 ชม. เขาก็ให้ HR
เอาเอกสารมาให้เซ็นสัญญา ซึ่งการันตรีโบนัส 3 เดือน มีสวัสดิการ
กองทุน ตรวจสุขภาพ ประกันสังคม ประกันชีวิต (ตามฐานของออฟฟิตใหญ่)
ซึ่งให้เงินเดือนผมตามที่ผมขอไปไม่มีการต่อ ผมเลยตัดสินใจทันทีที่จะเซ็น
(สัญญาจะไม่สมบรูณ์ต่อเมื่อผมไม่ออกจากออฟฟิตเก่า
เเล้วเเจ้งออฟฟิตใหม่ว่ามาทำงานไม่ได้ เพราะยังไม่ใส่วันเริ่มงานในสัญญา)
ซึ่งออฟฟิตปัจจุบันจะมีประกันสังคม โบนัส 1-2 เดือน เท่านั้น
เพราะเป็นออฟฟิตขนาดกลาง
ทีนี้วันนี้ผมไปบอกว่าลาออกกับออฟฟิตเดิม หลังจากประเมินประจำปี
ผมเลยบอกขอลาออก เขาก็ถามจนรู้เหตุผล ซึ่งกว่าผมจะบอกลาออกได้
ผมทำใจนานมาก เพราะที่นี้สังคมดี งานที่ผมทำก็ดี
เเต่ติดที่สวัสดิการเเละเงินเดือน ที่ปรับขึ้นตามอัตราบริษัท
ทีนี้เขาเลยยื้อผมให้เงินเดือนตามที่ใหม่ ไม่มีการต่อ
เขาเลยบอกให้ตัดสินใจอาทิตย์หน้ามาว่ากัน เดี๋ยวเขาจะมาคุยด้วย
เเล้วตอนเย็น HR ก็โทรมาบอกว่าออฟฟิตจะสู้ตามเงินเดือนที่ใหม่
เขาไม่อยากเสียผมไป
มันเลยเป็นการตัดสินใจที่ยากมากๆ เพราะออฟฟิตใหม่บอกว่าถ้าผมตกลง
เดือนมกรา 2019 ผมต้องไปเรียนโปรเเกรมเรวิดที่เป็นโปรเเกรมออกเเบบตัวใหม่
เขาจะจัดคอร์ดให้เรียน ซึ่งในระยะเวลาโปรผมต้องทำเป็น เพราะอยู่ในสัญญา
มันเป็นการปรับตัวครั้งใหญ่ของผมเลย
ทางเลือกคือ
1. ไปที่ใหม่สวัสดิการดีกว่า เงินเดือนได้ตามที่ขอ เเต่ต้องปรับตัวใหม่
ใช้โปรเเกรมใหม่ ซึ่งย้ายงานมีความกดดันเเน่นอน
- สวัสดิการ ประกันสังคม โบนัส 3 เดือน กองทุน ตรวจสุขภาพ ประกันชีวิต
- ส่งเรียนโปรเเกรมใหม่ ที่อนาคตทุกบริษัทสถาปนิกต้องเปลี่ยนมาใช้
- มีโปรเเกรมพัฒนาวิชาชีพทุกเดือน เช่นเรียนโปรเเกรม อบรม
- ไปดูงานต่างประเทศ ตามที่ศึกษาคือยุโรป
- สังคมใหม่ เพื่อนร่วมงานใหม่
2. อยู่ที่เดิมสวัสดิการได้น้อยกว่า เงินเดือนอัพให้ตามที่ใหม่ ไม่ต้องปรับตัว
ใช้โปรเเกรมเดิม ไม่มีความกดดันจากการย้ายที่
- สวัสดิการ ประกันสังคม โบนัส 1-2 เดือน
- พาไปดูงานต่างประเทศ ที่ผ่านมาไปในโซนเอเชีย
- สังคมเดิม เพื่อนร่วมงานเดิม
ปล. ผมอายุ 29 ปี
/ มีเเนวโน้มว่าออฟฟิตเก่าจะให้เยอะกว่าออฟิตใหม่วันวันที่เรียกคุยอีกรอบ
/ ผมเคยย้ายงานเเค่ 1 ครั้ง ออฟฟิตเเรกอยู่ 1 ปี ออฟฟิตนี้อยู่มาจะเข้าปีที่ 5
รบกวนข้อความคิดเห็นครับ
แนะนำอย่างนึงครับ เวลาที่เก่าcounter-offerมา
หลายๆครั้งไม่ใช่เพราะเค้าอยากได้เราอยู่ต่อหรอก
แต่เป็นเพราะเค้าหาคนใหม่ไม่ทัน หลายๆคนดีใจว่าบริษัทเห็นค่า
เลยเล่นตัวทำอีกครั้งที่สอง บอกเลยครั้งนี้เค้าวางแผนรอไว้แล้ว
ถ้าถามผมนะ อย่าไปกลัวครับ ย้ายเพื่อเรียนรู้สิ่งใหม่ๆดีกว่า
ยิ่งความรู้ที่เกี่ยวกับโปรแกรม มันพัฒนาตลอดเวลา รู้ไว้ก่อนดีกว่า
สมัยผมเคยใช้โปรแกรมคำนวณระดับโลก(แต่แพงมาก)
ตอนนั้นผมคิดว่าต่อให้เก่งขนาดหลับตาคลิกได้ แต่สุดท้ายถ้าที่ใหม่เค้าใช้โปรแกรมอื่นก็จบ
มันเลยทำให้ผมตัดสินใจลาออกไปที่ใหม่ที่เค้าใช้โปรแกรมที่ผมอยากเรียนรู้
อีกทริคนึงคือผมมักจะดูตำแหน่ง+บริษัทที่อยากเข้าไปทำงานในอนาคต(ตำแหน่งสูงกว่าปัจจุบัน)
เพื่อดูว่าความรู้ความต้องการของตลาดเปลี่ยนไปรึยัง เรื่องนี้แหละทำให้ผมรู้ว่า
ควรใช้โปรแกรมไหนเป็น จึงจะหางานได้หลากหลายขึ้น