ไม่ใช่คนรู้ดีอะไร แต่ก็มีเพื่อนเป็นคนมาเล เค้าก็นิสัยดีมีทัศนะคติดี ไม่เคยเหยียด อิจฉาริษยา
เพื่อนของผมก็มีเพื่อนคนเป็นลาว คนลาวเค้าก็เป็นมิตร
สังคมมันใหญ่ คนไม่ดี คนดีปะปันกันไปอะครับ

ชาติไหนจะเกลียดเรา ผมไม่สนใจ ขออย่าให้ญี่ปุ่นเกลียดเราก็พอ

ก็แค่ประเทศที่ขี้โกงกีฬาหน้าด้านๆ

ผมไม่ให้ราคาคนประเทศนี้มานานล่ะ

เห็นเค้าว่าขุดตอนนี้มันไม่คุ้มแล้วสิครับ เรือมันเร็วขึ้นเยอะ

แคร์ทำไม เอาคนในประเทศก่อนเถอะ

แต่มาเลเเซีย ฟรีวีซ่าเยอะกว่าไทยนะ ไปยุโรป อังกฤษ อิจฉา

ถ้าเขาเหม็นขี้หน้าเรา แสดงว่าเราเหนือกว่า แต่ถ้าเขาไม่มองเรา แสดงว่าเขาเหนือกว่า

เคยไปมาเลย์หลายรอบแล้ว ไม่ได้มีอะไรเลย โฆษณาชวนเชื่อว่าประเทศตัวเองเจริญแล้ว ปัดฝุ่นไว้ใต้พรมยิ่งกว่าไทยแลนด์แดนพัทยาอีก

จีนมาเลย์ที่เคยคุยหลายคน ด่าประเทศตัวเองยับ บอลเตะแม่งเชียร์ไทยบอกหน้าตี๋เหมือนกัน

ไม่มีใครคบได้อย่างจริงจังหรอกครับ ถ้าไม่ใช่เพราะผลประโยชน์ ขนาดคนบ้านใกล้เรือนเคียงยังจะตีกันเล้ย นับประสาอะไรกับประเทศเพื่อนบ้าน

คห 3 สาระล้วนๆครับ ในกระทู้พันทิป
ใครขี้เกียจไปดูในลิงค์ ผมเอามาวางให้

-----------------------------

จะว่าไม่ชอบซะทีเดียวก็คงไม่ใช่ การอิจฉาก็คงมีอยู่ในตัวทุกคนทุกเชื้อชาติ แต่อยู่ที่ว่าจะจัดการและบริหารความคิด ทัศนคติกันอย่างไร
แต่ไม่ต้องแปลกใจหรอกครับ ที่มาเลเซียเขาคิดว่าเขาเจริญกว่าเรา เพราะมาเลเซียเขามีอะไรที่เหนือกว่าเรามาตั้งแต่อดีตแล้ว
ทั้งจีดีพีต่อหัว สภาพบ้านเมือง โครงสร้างพื้นฐาน แถมมีบุญเก่าทั้งน้ำมัน ก๊าซ ดีบุก แถมเป็นลูกรักอังกฤษ ปั้นให้เป็นเมืองท่า ตั้งเป้าเป็นเมืองท่าใหญ่ที่สุดในเอเซีย ขนาดคนไทยสมัยก่อนก็ยังรู้ๆกันโดยทั่วกันว่ามาเลเซียเจริญกว่า เจ้านายเชื้อพระวงศ์หรือบุคคลในวงการเมือง เวลาจะลี้ภัย ส่วนใหญ่ก็เลือกไปปีนัง เพราะใกล้ไทยและเป็นเมืองที่เจริญ สะดวกสบาย
แต่ในตอนนี้เราไล่บี้เขามาเรื่อยๆ จนอยู่ในระดับที่ไม่ต่างกันนัก
และอย่าลืมว่าคนมาเลเซีย(ที่เป็นเชื้อมาลายู ไม่ใช่เชื้อจีน เชื้อแขก)ค่อนข้างชาตินิยม อะไรที่เราดีกว่าเขา เขาก็จะแสดงออกมาเช่นนั้น

แล้วยิ่งรูปการณ์ตอนนี้มันกดดันมาเลเซียเขาค่อนข้างมาก เพราะไทยเดินหน้าปิดจุดอ่อนของตัวเองอย่างต่อเนื่อง
ทั้งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน รถไฟฟ้า รถไฟทางคู่ รถไฟความเร็วสูง มอเตอร์เวย์ ท่าเรือบก ท่าเรือน้ำลึก สร้างสนามบินใหม่ ขยายสนามบินเดิม
เร่งเครื่องการวิจัย จัดตั้งกระทรวงการอุดมศึกษาวิจัยและนวัตกรรม แก้จุดอ่อนเรื่องอุดมศึกษา แยกหน้าที่ของมาลัย กำหนดนโยบายใหม่ ไม่ให้เปิดคณะแข่งกัน แต่ไปเน้นความถนัดเฉพาะด้าน เช่น มหาลัยวิจัย(จุฬา มธ. มหิดล มทส. ม.เทคโนโลยีต่างๆ) มหาลัยท้องถิ่น(ม.ราชภัฎ) มหาลัยขยายโอกาส(ราม มสธ.) และรวมหน่วยงานวิจัยที่เป็นเบี้ยหัวแตกให้ทำงานสอดรับกัน รวมถึงเป็นฐาน R&D ให้กับภาคเอกชนด้วย และอัดฉีดงบวิจัยเพิ่ม
ชูอีอีซี สร้าง New S-Curve เลขาอีอีซีออกโรดโชว์ตลอดและได้รับความสนใจมากด้วย จีน-ญี่ปุ่นก็จะจับมือลงทุนร่วมกัน โดยมีพื้นที่อีอีซีเป็นเป้าหมายแรก (ต้องขอบคุณทรัมป์ที่นำชิ้นปลามันมาให้) โครงการโครงสร้างพื้นฐานในอีอีซีก็ผ่านการอนุมัติหมดแล้ว อยู่ระหว่างเปิดประมูลทั้งหมด อย่างวันนี้ก็มีเปิดขายซองประมูลท่าเรือแหลมฉบัง เฟส3 และรถไฟความเร็วสูงจะรับซองประมูลวันจันทร์ที่ 12นี้ รวมถึงดิจิทัลพาร์คไทยแลนด์ กับวังจันทร์วัลเลย์ ที่ขยายโรงเรียนกำเนิดวิทย์ เป็น สถาบันสิริวิทยเมธี ที่ผลิตคนป้อนตลาดแรงงาน New S-Curve โดยเฉพาะ

และถ้าดูเรื่องหยุมหยิมที่มาเลเซียชอบเอามาแขวะเรา ก็ต้องบอกว่าเราก็ไม่ได้อยู่เฉย เพียงแต่ต้องใช้เวลาครับ
เช่น เรื่องภูมิทัศน์เมือง ความสะอาดเรียบร้อยของบ้านเมือง อันนี้เราก็กำลังลงมืออยู่ กฟน.กำลังไล่เอาสายไฟลงดินตามแผน กทม.รออนุมัติโครงการนำสายสื่อสารลงดิน(ในเขตที่ไม่จำเป็นต้องนำสายไฟลงดิน) จัดระเบียบแม่ค้าแผงลอย ปรับปรุงภูมิทัศน์ 6 ย่านสำคัญ จัดระเรียบคลองชุมชนเสื่อมโทรม ยิ่งมีห้างธรรมดาๆ(คนมาเลย์เขาว่างั้น) แต่แบรนด์ดังๆระดับโลกพากันมาเปิดตัวกับห้างนี้ ความรู้สึก"เสียเปรียบ"มันก็ยิ่งทวีขึ้น

เรื่องที่มาเลเซียเขาชอบเกทับ เช่น จีดีพีต่อหัวอะไรพวกนี้ ก็จะเห็นว่าเขาก็ไม่ค่อยเอามาเกทับแล้ว เพราะปี58 ก็ชัดเจนว่าจีดีพีต่อหัวของมาเลเซียสูงเพราะน้ำมัน ปีนั้นมาเลเซียยังสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจด้านอื่นได้เท่าหรือดีกว่าปี57 แต่ราคาน้ำมันในตลาดโลกตกต่ำลง จีดีพีรวมหายไป 4หมื่นล้านดอลล่าร์ จีดีพีต่อหัวหดเหลือ 9พันกว่าดอลล่าร์ จากเดิม1.1หมื่นดอลล่าร์
ในขณะเดียวกันมีรายงานเรื่องเศรษฐกิจนอกระบบของไทย ที่เป็นตัวฉุดจีดีพีต่อหัวของคนไทยให้ต่ำกว่าความเป็นจริง เพราะคนไทยเป็นคนชาตินึงที่มีกิจกรรมทางเศรษฐกิจนอกระบบสูงมาก สูงเกือบ50%ของจีดีพีรวม ทั้งตลาดนัดตลาดสดตลาดอินดี้ ร้านข้างแกงอาหารตามสั่ง หาบเร่แพงลอย ค้าออนไลน์ ฯลฯ วันๆนึงมีมูลค่าทางเศรษฐกิจหมุนเวียนอยู่มหาศาล แต่ดันไม่ถูกนับรวม นึกง่ายๆอย่างเจ๊ไฝ ตั้งแต่อดีตขายอาหารได้เงินวันละเท่าไหร่ แต่รายได้ของเจ๊ไฝไม่เคยนับรวมในระบบเศรษฐกิจเลย

พอมาเป็นแบบนี้คนมาเลเซียเขาก็รู้สึกว่ากำลังถูกเบียด และปัญหาภายในเขาก็มากมาย พูดไปเดี๋ยวจะกลายเป็นว่ามารู้ดีเรื่องชาวบ้าน มาอวยประเทศตัวเองแล้วไปแขวะเพื่อนบ้าน ถึงแม้จะมีการเลือกตั้งและได้ตุนมหาธีร์มา แต่ตุนนั้นไม่ใช่ซูเปอร์ฮีโร่ ที่จะมากอบกู้ได้ทุกสิ่งอย่าง คนมาเลเซียจึงคิดไม่ตกด้วยประการฉะนี้แล

เจอป้านั่งรถมาด้วยลืมคาดเข็มขัดที่มาเล
ตำรวจเรียกเห็นรถผมทะเบียนไทย
“ This is not Thailand!!!”
พร้อมชี้ไปที่ belt ที่นั่งป๊าผม
เงิบ

พอๆกันทั้งสองประเทศแหละ ขึ้นชื่อว่าอาเซียน ไม่มีประเทศไหนดีกว่าใครนักหรอก

แล้วเราดีนักหรอ .....

ปสด ละเกิน

อาเซียนทั้ง 10 ประเทศ ร่วมมือกันอย่างหลวมๆอยู่แล้วครับ ใครๆก็รู้ เพราะไม่ได้มีอะไรคล้ายคลึงกันเลยนอกจากภูมิอากาศ ตัวอย่างเช่น

- หลาย 10 ปีก่อน มาเลเซียปล่อยโฆษณามาตัวนึง ส่งเสริมการท่องเที่ยว "Malaysia truly Asia" มั้งครับถ้าผมจำไม่ผิด โดยอ้างว่ามาเลเซียนั้นประกอบด้วยคนหลากหลายเชื้อชาติ มาเลย์-มาเลย์, มาเลย์-จีน, จีน ฯลฯ ทันใดนั้นเองอินโดนีเซียโวยทันทีครับ บอกว่าเอาโฆษณานี้ออกซะ เพราะ อินโดนีเซียต่างหากที่มีความหลากหลายทางเชื้อชาติมากกว่าเพราะประกอบด้วยเกาะกว่า 3000 เกาะ มีหลายร้อยภาษา

- ลาว vs ไทย : เราไม่ใช่พี่น้องกันนะครับ เพราะเหตุการณ์ช่วงสมัย ร.2 เปลี่ยนมาเป็น ร.3 เจ้าอนุวงศ์ผู้นำแห่งอาณาจักรล้านช้าง (ลาว) มองว่านี่เป็นโอกาสแล้วที่จะแยกตัวออกจากการเป็นเมืองขึ้นของไทย จึงก่อกบฎเจ้าอนุวงศ์ขึ้นมา สุดท้าย ร.3 สั่งปราบปรามเด็ดขาด เวียงจันทร์ราบเป็นหน้ากลอง สังเกตุได้ว่าแทบจะไม่มีโบราณสถานเหลืออยู่เลย เจ้าอนุวงศ์โดนตัดคอประหาร ภายหลังลาวจึงสร้างอนุสาวรีย์เจ้าอนุวงศ์ขึ้นในฐานะ Hero ของประเทศแล้วให้ชี้มือมาที่ประเทศไทยนั่นเอง (ถ้าท่านเป็นลาว จะนับไทยเป็นพี่น้องไหมครับ)

จากตัวอย่างจึงไม่แปลกอะไรที่ 10 ประเทสนี้จะไม่มีความจริงใจให้กัน และแข่งขันกันเองอย่างดุเดือดครับ

อ่านไปอ่านมา นี่มันกระทู้ประวัติศาสตร์ชัดๆ