ชื่นชมในการทำหน้าที่ แต่การกระโดดออกมาจากอาคารก่อนที่มันถล่มไม่ใช่วิธีที่ดีเลย โดยเฉพาะกับอาหารหอบังคับการบินแบบนี้ที่มีพื้นที่โดยรอบเป็นที่ไม่มีหลังคาคลุม

จริงๆยืนรอสถานการณ์บนนั้นแหละ จะโดดก็ต่อเมื่อพื้นที่ยืนมันพัง
แต่เขาคงตกใจที่เห็นชั้น 4 พัง ในขณะที่เขาก็อยู่ที่ชั้น 4 คงควบคุมสติไม่ได้แล้วละ (ไม่ง่ายที่จะควบคุมสติในเวลาแบบนั้น)

การจะถูกซากอาคารทับก็คือต้องอยู่ภายในอาคาร แต่หอบังคับการบินมีพื้นที่โล่งโดยรอบ เต็มที่ก็ลงไปพร้อมๆตึกแต่ก็มีโอกาสที่จะไม่ถูกทับ

คนโบราณสอนไว้ เด็กบ้านนอกที่เคยปีนต้นไม้หรือทำแคร่ทำห้างบนต้นไม้ จะถูกสอนว่าถ้ากิ่งไม้หักให้ลงไปกับกิ่งไม้ อย่าโดดก่อน ไม่งั้นจะโดนกิ่งไม้ทับ

สุดยอดมากกครับ

น่ายกย่องจริงๆ

เข้าใจแหละครับ ในตอนนั้นใครมันจะไปคิดอะไรทัน

แต่สิ่งที่เขาคิดคือ คนอื่น นับถือจริงๆ

เอาไงดีครับเนี้ยยยยโคตรกลัวว อาทิตย์หน้า มีบินไปทำงานใหญ่ที่ อินโดฯ ด้วยย

เครียดดเลยยงานก็ต้องทำ ชีวิตก็กังวล


ปล. #RESPECT ครับ ฮีโร่ตัวจริง

ถามหน่อยสิครับ
ถ้ายังไม่ได้รับอนุญาตจากหอบังคับการบิน (ซึ่งเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินแบบในกรณีนี้) กัปตันก็ไม่มีสิทธินำเครื่องเทคออฟเหรอครับ

ผมเข้าใจว่าถ้าฉุกเฉินจริงๆจังๆสามารถทำได้โดยพลการนะ แต่มันจะมีความเสี่ยงและความปลอดภัยต่ำ และเสี่ยงอันตรายสูงเลยทีเดียว เพราะข้อมูลมันจะขาดไปจากทางกราวด์

ไปของค้นหามาได้ความราวๆนี้อ่ะ เหมือนทางกราวด์จริงๆจะเป็นคนกำหนดและควบคุมการเข้าออกทั้งหมดในสนามบินนักบินแค่ทำตามอีกที
นักบินจะต้องติดต่อกับเจ้าหน้าที่หอบังคับการบิน เพื่อขอติดเครื่องยนต์และขอ Push Back (การดันเครื่องถอยหลัง กรณีจอดเทียบอาคารผู้โดยสาร) เมื่อเครื่องพร้อม ก็จะติดต่อ Ground Controller อีกครั้ง เพื่อขอขับเคลื่อน (Taxi) สำหรับวิ่งขึ้นในลำดับต่อไปและเมื่อเครื่องบินใกล้ถึงรันเวย์ การควบคุมก็จะถูกโอนต่อให้กับหอบังคับการบิน (Local Controller หรือ Tower)

หากทุกอย่างเรียบร้อยและปลอดภัย Tower ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมการขึ้น-ลงของเครื่องบินทั้งหมดในสนามบินนั้น จะอนุญาตให้นำเครื่องขึ้นได้ ด้วยประโยคที่ว่า “Cleared for Takeoff” โดยจะมีการแจ้งความถี่วิทยุใหม่ให้กับนักบินได้รับทราบ เพื่อใช้ในการติดต่อหลังจากนำเครื่องขึ้นแล้ว โดยความถี่ใหม่นี้เป็นของ Departure Controller (เจ้าหน้าที่ควบคุมเครื่องขาออก) ซึ่งประจำการอยู่ที่ TRACON (Terminal Radar Approach Control) ขณะเดียวกันนักบินจะเปิดใช้งานอุปกรณ์ที่เรียกว่า Transponder ทำหน้าที่ตรวจจับสัญญาณวิทยุที่เข้ามา แล้วส่งสัญญาณพร้อมข้อมูลที่เข้ารหัสแล้วตอบกลับไป อันประกอบด้วยข้อมูลเที่ยวบิน ความสูง ความเร็ว จุดหมายปลายทาง โดยจะไปปรากฎบนหน้าจอเรดาร์ของเจ้าหน้าที่ควบคุม แต่สำหรับเครื่องสมัยใหม่ อุปกรณ์นี้จะทำงานโดยอัตโนมัติ

Departure Controller จะให้ข้อมูลกับนักบินถึงระยะห่างจากเครื่องบินแต่ละลำ พร้อมกับกำหนดทิศทาง ความเร็ว เพดานบิน ซึ่งนักบินต้องปฏิบัติตาม หรืออาจจะแจ้งให้นักบินนำเครื่องบินไปตามเส้นทางขาออกมาตรฐาน (SID : Standard Instrument Departure) จนกระทั่ง Departure Controller เห็นว่าเครื่องเข้าสู่เส้นทางที่ต้องการแล้ว หรือมีความปลอดภัยแล้ว ก็จะส่งต่อการควบคุมให้ ศูนย์ควบคุมการจราจรทางอากาศตามเส้นทางบิน (Area Control) ซึ่งจะมีการแบ่งเขตการทำงานไว้ชัดเจน ทำหน้าที่คอยดูแลจนกระทั่งเครื่องบินนั้นเดินทางถึงที่หมาย หรือพ้นเขตประเทศไปแล้ว

RIP

ผมสงสัยว่าทำไมเขาต้องต้องเอาขึ้นบินให้ได้ ถ้ามองในความเป็นจริงถ้าไม่ปล่อยขึ้นบินมันอันตรายยังไงอะครับ เพราะ รันเวย์เครื่องบินมันเป็นที่โล่งไม่น่ามีอะไรพังลงมาทับได้นะในความคิดของผม

หัวใจโคตรยิ่งใหญ่

เพราะรันเวย์กำลังจะแตกจากแรงสะเทือน ทำให้เครื่องบินไม่สามารถขึ้นบินได้ คนจำนวนหลายร้อยก็จะติดอยู่บนรันเวย์ เพราะเทคออพไม่ได้ แล้วถ้าเกิดซึนามิซัดเข้ามา อาจเป็นอันตรายได้ครับ คนที่บนหอการบินจะส่งสัญญาณบอกว่า จะต้องขึ้นลงรันเวย์ไหน ปลอดภัย เพราะกัปตันไม่มีทางเห็นว่ารันเวย์ไหนจะปลอดภัยหากจะเทคออฟ

นับว่าเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่มากครับ สำหรับการกระทำในครั้งนี้