มิลาน เอาไปปั๊มตัง ชัดๆ

มีเลวี่อยู่ ผมว่า ไม่พัง แต่ต้องรัดเข็มขัดยาว

หมอนี่ก็ทำเต็มที่หล่ะ ขอบคุณน่ะ

ผมบอกแล้ว พอเวงเก้อ ไม่อยู่ ก็ไม่มีใครอยากอยู่ อาเซน่อล แล้ว เค้ารู้เรื่องภายในหมด

ขนาด อุสมานอฟ ยังตัดใจจะขายหุ้นที่เหลือเลย ยอมเป็นคนไม่มีตัวตนในบอร์ดบริหารทั้งที่ ถือหุ้นอันดับ2

ที่ทนอยู่เพราะเวงเก้อยังอยู่ พอเวงเก้อไป ก็จะขายทิ้งทันที

ช๊อคเหมือนกันนะพี่โล้น โชคดีครับ

ธุรกิจฟุตบอลถ้าทำกันง่ายๆทำไมฟูแล่มถึงไม่ติด top 4 เลยล่ะครับ บางทีการใส่เงินเข้าไปอย่างเดียวมันไม่ตอบโจทย์ทุกอย่างหรอก ลองดูแมนยูเป็นตัวอย่างก็ได้

อีกอย่างผู้จัดการทีมใหม่ยังไม่มีผลงานจะให้ทุ่มเงินให้แค่ไหนดีล่ะครับ? ฤดูกาลแรกก็เหมือนทดลองแก้ไขกันก่อน ถ้าจบฤดูกาลผลงานดีก็ต้องมาคุยกันว่าจะเสริมทีมแบบไหนอีกทีดีกว่าไหม (แต่จะว่าไปที่ซื้อมาใหม่ๆรวมๆกันหลายกะตังอยู่เหมือนกันนะ) แค่เอาให้ทีมกลับมามีลุ้นไป UCL ได้ก็ผ่านแล้วสำหรับ อูไน อเมรี่

ถือหุ้นอันดับ 2 ต้องดูครับว่ามีหุ้นเท่าไหร่ ถ้าอันดับ 1 มี 51% ส่วนอันดับ 2 มี 10% แบบนี้เขาไม่ให้บริหารหรอกครับ พี่แกพยายามจะซื้อหุ้นเพิ่มแต่ไม่มีใครขายให้ ผู้ถือหุ้นคนอื่นๆเขาถือหุ้นแล้วได้ปันผลสบายๆจะขายให้คนอื่นทำไม? เช่นซื้อหุ้นราคา 10 บาท เมื่อ 10 ปีก่อน เดี๋ยวนี้ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นมาเป็น 100 บาท แล้วยังมีปันผลคืนให้ทุกปีตามระดับของผลประกอบการ แถมสโมสรมีรายได้เติบโตตามความนิยมของลีค ถ้าอุสมานอฟพยายามจะซื้อหุ้นเพื่อเข้าไปบริหารจริงๆต้องจ่ายแพงกว่าราคาหุ้น ณ ปัจจุบันนะครับ ส่วนจะต้องจ่ายแพงแค่ไหน ลองคิดดูว่าถ้าคนที่ถือหุ้นอยู่รู้สึกว่าราคารับซื้อไม่คุ้มกับราคาหุ้นที่จะถีบสูงขึ้นไปกับเงินปันผลที่จะได้รับในอนาคต ก็คงไม่มีใครขาย และที่สำคัญถึงซื้อจากคนอื่นได้ครบแต่ถ้าผู้ถือหุ้นอันดับ 1 มีหุ้นมากกว่ายังไงซะก็เข้ามาบริหารไม่ได้อยู่ดี

แล้วก็ไม่มีอะไรการันตีด้วยว่าถ้าเปลี่ยนผู้ถือหุ้นใหญ่เปลี่ยนมือทีมจะมีผลงานที่ดีกว่านี้ คือมันไม่เกี่ยวข้องกันเลยครับ

เดี๋ยวนะๆอันดับ2 มัน30%นะ อุส พยายามจะซื้อหุ้นจากคนอื่น แต่คนอื่นอยากได้กำไรไม่อยากได้แชมป์ เลยขายให้ ไอ้เก้ ไป จนมันถือหุ้น51% ตอนแรก หุ้นพอๆกัน2คน ไอ้เก้ ถือมากกว่านิดเดียวเอง
แล้วอุส ก็ยอมถือมาเรื่อยๆ ทั้งๆที่ บอร์ด ไม่ให้มายุ่ง แต่พอเวงเก้อวางมือ วงก็แตก อุสจะขายหุ้น กาสิดิสก็ย้ายออก

แล้วยังไง? อะไรของคุณวะครับผมงง ...ถ้าคุณหมายถึงถ้าอุสมานอฟได้เข้ามาบริหารทีมจะทำให้ทีมได้แชมป์ อันนี้ผมตลกชิปเลยล่ะ

วงแตกบ้าบอ ไปเอามาจากไหน ฟุตบอลสไตล์เวนเกอร์ก็เก่าไปแล้ว เวนเกอร์ต้องออกเพราะถึงเวลาที่ต้องปฏิวัติองค์กรแล้ว คุณคิดว่าเจ้าของทีมที่ถือหุ้นใหญ่ที่สุดตอนนี้เขาโง่เหรอ ถ้าเขาคิดว่าอาเซน่อลจะกลับมายิ่งใหญ่หรือทำกำไรต่อไม่ได้เขาก็คงขายหุ้นทิ้งให้คนอื่นมาทำต่อแล้ว

ส่วนเรื่องใครถือหุ้นมันก็ไม่ใช่กงการอะไรของแฟนบอลครับ โยงไม่เข้าเรื่อง มีธุรกิจอะไรบ้างที่จู่ๆจะเสกเงินเอามาใช้ได้ ถ้าไม่เก็บสะสมเงินรายได้ค่อยพัฒนาทีมไปเรื่อยๆก็ต้องไปกู้ยืมเอาเงินในอนาคตมาใช้จ่ายบริหาร อาเซน่อลไม่มีเหตุผลที่จะต้องทุ่มเงินหมดหน้าตัก ถ้าไม่รู้จักการบริหารเงินก็เหมือนสามล้อถูกหวยอ่ะ อีกอย่างฟุตบอลอาชีพเขาเป็นธุรกิจครับไม่ใช่เตะการกุศล ผู้ถือหุ้นคือคนลงทุนเขาก็มีความเสี่ยง ลองคิดดูว่าถ้าสโมสรล้มเหลวเรื่องการบริหารเงินใครจะแบกรับความเสี่ยง ....แฟนบอลมีความเสี่ยงสักนิดไหม?

บอกตรงๆงงใจพี่จริงๆ

จากหลายๆรูปและหลายๆเหตุการณ์ ผมไม่เคยว่าแกเลยนะ เพราะเข้าใจถึงขีดจำกัดและแนวทางสโมสร แต่ก็แปลกกับคนที่ไม่เข้าใจเหมือนกัน

ส่วนตัวผมว่าที่เขาเลือกออก การออกของเวนเกอร์ก็มีส่วนนะ เพราะ2คนนี้เขาทำงานร่วมกันมาตลอด นั้นคือสิ่งที่เขาได้มุมมองจากเวนเกอร์ด้วยอีกส่วนนึง

เรื่องการเปลี่ยนแปลงภายใน โดยเฉพาะการถือหุ้น มันไม่ได้มีผลขนาดนั้นหรอก ถ้าสโมสรยังยึดแนวทางเดิม มันก็ไม่ต่างกันเลย
ถ้าจะว่าเรื่องที่เขาเลือกบุคลากรต่างๆเข้ามา ตามประวัติแต่ละคน ผมว่าก็ไม่ได้จะแย่นะ เห็นคอมเมนบางคนยังให้เครดิตกันเลยนิ

เรื่องอุสมานอฟ มันเดายากว่าเขากำลังทำอะไร ถ้าให้เดา คงเป็นเรื่องมองระยะยาวที่ไม่อาจรอซื้อหุ้นน่อลเพิ่มได้
เพราะถ้าโครเอนเก้วางตัวสืบทอดอำนาจไว้ นั้นก็แปลว่ามันคงหวังยากแน่ๆที่อุสจะได้ช้อนตรงนี้

เพราะถ้ามองเรื่องแกขายให้เพราะน่อลจะตกต่ำลง มันคงไม่มีข่าวว่าแกจะไปซื้อสโมสรอื่นหรอกครับ
ผมว่าแบบนั้นมันงานช้างกว่าเยอะ เพราะมูลค่าแบรนสโมสรเล็กมันไม่แข็ง หรืออาจต้องรอยุคเปลี่ยนผ่านรอให้แบรนใหญ่มันล่มโน้นเลย

แฟนน่อลที่ไม่เข้าใจการควบคุมการเงินสโมสรที่เป็นอยู่แบบนี้
ถ้าอยากได้เจ้าของทุ่มเงินที่ไม่โดนกฏการเงิน ก็ต้องไปดูแมนซิตี้ PSGแล้วละครับ โมเดล2อันนี้น่าจะพอเป็นไปได้ คือให้สปอนเซอร์เปย์เป็นท่อน้ำเลี้ยงทางลัดนั้นละ
สมองคิดแต่ว่าต้องเป็นยุคเสี่ยหมีเทคเชลซีใหม่ๆ แต่กฏการเงินไม่ได้อยู่ในหัวเลย คุยแล้วเหนื่อยใจ

แล้วแต่ ยังไงอีก10ปีก็ไม่ได้แชมป์อยู่ดี

ถ้าเป็นเหมือนทุกปีผมเข้าใจได้ แต่นี่มันไม่เหมือนทุกปี มันควรมีอะไรที่กระตุ้นทีมได้ดีกว่านี้หน่อย

ไม่ได้หวังว่าทีมจะทุ่มเป็นเศรษฐีทุกปีเหมือนปารีสอะไรแบบนั้นเหมือนที่บางเม้นที่ชอบแขวะบอก มีไล่ให้ไปดูทีมอื่นด้วยนะ หาว่าไม่รู้จักกฏอีก ทัี้งที่ปืนเราเป็นตัวตั้งตัวตีในเรื่องกฏนี้ โคตรยกตนข่มท่าน แต่ควรสนับสนุนทีมในปีนี้ให้มากหน่อยในปีนี้ เพราะเป็นช่วงรอยต่อสำคัญ

เราเห็นแล้วว่าเอาเข้าจริงๆเอเมรี่ต้องการเสริมหลายตำแหน่ง แต่ก็ต้องใช้งบอย่างจำกัดจำเขี่ย ดึงตัวฟรีอายุเยอะบ้าง ดาวรุ่งจากลีครองบ้าง ตัวที่แฟนทีมเค้าบอกว่าอย่างรั่วบ้าง จนถึงตอนนี้แข้งใหม่ยังแทบไม่ได้ลงด้วยซ้ำ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าทุกตัวเอเมรี่ต้องการเอง หรือซานเยฮีจัดมาให้

นี่เป็นเหตุผล ที่ทำไมผมบอกว่า ควรสนับสนุนทีมให้มากกว่านี้ ในปีนี้ แต่ถ้าท่านๆไม่เข้าใจก็ไม่เป็นไร เราเห็นต่างกันได้

ไอ้ที่คุณคิดว่าแขวะถูกเนี่ย คุณรู้เป็นตัวเลขคร่าวๆไหมว่า น่อลมีรายจ่ายเท่าไหร่
แล้วคุณลองร่างมาคร่าวๆดิว่า จะใช้งบยังไง แล้วจะเหลือเท่าไหร่ถ้าทุ่มแล้วล้มเหลว

หรือถ้าจะมองโมเดลหงส์ คุณก็ลองคิดภาพการบริหารเงินให้มันเห็นเรื่องความเสี่ยงหน่อย ว่าเขาวางจังหวะการเปย์ในแต่ละช่วงเป็นยังไง
แล้วทิศทางทีมตอนนี้เขาควรจะเสี่ยงมากขึ้นไหม จากให้หลังก็เห็นแล้วว่าเขาเปย์หนักมาก
นี่คือมันสะท้อนทิศทางและตำแหน่งสโมสรชัดเจนครับ และผมเชื่อว่าเราก็ต้องบริหารแบบนี้
คุณลองย้อนกลับไปดูดิว่า ตอนคลอปมา เขาใช้นักเตะยังไง เขาก็ใช้ชุดเดิมก่อน
มาเน่ ซาลาห์ ฟานไดจ์ เขาซื้อตอนไหนอะไรยังไงละครับ ลองไปวาดเล่นๆดู

ถ้าปล่อยนักเตะเก่าไม่ได้ ค่าเหนื่อยมันก็ต้องจ่ายทิ้ง
ถ้าคิดแบบขายขนมครก ไอ้ผลประกอบการตัวเขียวที่เห้นอยู่ประจำ คุณไม่ได้เห็นแบบนี้หรอกครับ
เขาต้องวางแผนรายจ่ายระยะยาวด้วย มันคือความมั่นคงทางสโมสร

เรื่องการเงิน ผมไม่เข้าใจ ทำไมเรื่องฟุตบอลกับความเป็นจริง มันคิดกันไม่เป็น
แบรนน่อลจะว่าใหญ่ไหม มันก็แค่เหมือนใหญ่
แต่ภาพลักษณ์เอาเข้าจริงแล้ว มันดูดสปอนเซอร์ไม่ได้ง่ายเหมือนพวกหัวแถวนะ
ถ้าอเมรี่ทำทีมห่วย ไอ้ตัวที่อยากให้ซื้อมาแพงๆ แล้วมันเล่นไม่ออก เปลี่ยนผู้จัดการทีมแล้วเขาไม่ชอบ เขาก็อยากซื้อใหม่อีก
พวกคุณไม่คิดหรอว่า นั้นมันภาระชัดๆ สงสัยมีเงินเก็บเป็นพันล้านละมั้งเนี่ย

รู้อยู่แล้วว่าการเงินเทียบไม่ได้กับทีมใหญ่ทีมอื่น แต่ผมอยากเห็น ปีนี้เป็นปีเปลี่ยนยุคสมัย ว่าควรจะทำอะไรได้มากกว่าแค่ มีเท่าไหร่ ใช้เท่านั้น รึเปล่า ซึ่งแฟนคนไหนไม่อยากเห็นแบบนี้ อยากให้บริหารแบบเดิม ก็แล้วแต่

อย่างแมนยูเปลี่ยนจากป๋าที่คุมทีมมานานเหมือนกันเป็นมอยส์(ซึ่งไม่ใช่ตัวเลือกแรก)การสนับสนุนทีมหรืองบก็ไม่ดี แล้วเป็นไง อาการหนักมาก

เพราะงั้นเรามองไม่เหมือนกันผมเห็นโมเดลนี้แล้วคิดว่าไม่ค่อยโอเค ส่วนท่านคิดว่าโอเค แค่นี้แหละ คิดว่าตัวเองคิดถูก คนอื่นคิดผิดอยู่ร่ำไปแบบนี้ ไม่ต้องมาโควทผมแล้วนะครับ ผมไม่อยากคุยด้วย

ก็โมเดลของคุณ มันคือมาร์คฮิวจ์ตอนคุมแมนซิตี้นิครับ
แต่คุณเอามอยส์มาอ้างเนี่ยนะ เช็คชั่วโมงบินให้หลังของมอยส์ผมว่าไม่เห็นจะรุ่งเลยนิหว่า

ไม่คุยก็ไม่เป็นไร แต่ก็น่าจะเห้นอะไรหน่อยว่า ผู้จัดการทีมไม่มีเครดิต ความเสี่ยงมันก็สูงมากกว่าพวกแนวหน้า
ขนาดอูไนได้แชมป์มา คนมันยังไม่สนใจกันเลยครับ คิดว่าเครดิตมันน่าเสี่ยงขนาดนั้นไหมละ