ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออนไลน์
หัวหน้าแมวมอง
Status:
: 1 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 01 Dec 2013
ตอบ: 36604
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Jul 15, 2018 16:24
กาลครั้งหนึ่งไฟบรรลัยกัลป์ไหม้ลุก "ปราสาทสายฟ้า" ครั้งใหญ่ในลูกหนังไทย
เมื่อวานมีคนเขียนไปว่า ดิโอโก้เจ็บยาก ทำเอาผมนึกถึงเหตุการณ์วันนั้นที่ดิโอโอโก้เจ็บหนักเลย

ขออภัยแฟนบอลบุรีรัมย์นะครับ แต่เหตุการณ์นั้น ก็ทำให้บุรีรัมย์แฟนบอลก็ไม่ได้หนีไปไหน แต่ที่หายเลยยูสไรเนี่ยผมจำชื่อไม่ได้ละ ที่อวาต้าร์เป็น มูรินโญ่












นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ เป็นประธานที่สร้างความสำเร็จมากที่สุดในไทยลีก

บุรีรัมย์ แชมป์เก่าไทยลีก ฤดูกาล 2558(2015) ที่คว้าแชมป์ไทยลีกด้วยสถิติไร้พ่ายครั้งที่ 2 (ไร้พ่ายครั้งแรก ฤดูกาล2556)
ยิงประตูไปถล่มทลายถึง 98 ประตู เสียแค่ 24 ประตูเท่านั้น รวมทั้งบอลถ้วยในประเทศอย่าง แชมป์ เอฟเอ คัพ(ชื่อเก่า "ช้าง เอฟเอคัพ") แล้วอีกแชมป์ โตโยต้า ลีกคัพ 2558 นับว่าช่วงเวลานั้นบุรีรัมย์เป็นทีมที่ใหญ่คับฟ้าเมืองไทยด้านฟอร์มการเล่นที่ดุดัน

ไม่ว่าจะมีนักเตะต่างชาติอย่าง 'ดิโอโก้' ที่เป็นแนวรุกสุดฉกาจ 'โรแบร์โต้ มาเชน่า' ตัวริมเส้นสุดอันตราย 'โก ซุลกิ' แดนกลางตัวทำเกมส์ที่สามารถเล่นได้ทั้งรุกและรับ รวมทั้งแนวรับอย่าง 'อันเดรส ตูเนซ' เซนเตอร์จอมทำประตู ที่ ณ เวลานั้น ติดทีมชาติเวเนซุเอล่า

รวมทั้งนักเตะไทยตอนนั้นอย่าง 'ธีราทร บุญมาทัน' แบ็คซ้ายที่เป็นสัญลักษณ์ของทีม ณ เวลานั้น ที่เท้าซ้ายมีความอันตราย ทั้งลูกฟรีคิก ลูกครอสทั้งยังเตะมุมเข้าประตูมาแล้ว 'สุเชาว์ นุชนุ่ม' กองกลางกัปตันทีม อดีตทีมชาติไทย ที่ ณ เวลานั้น ก็เข้าหลัก 3 แต่ยังวิ่งเหมือนหนุ่มอยู่ 'กรวิทย์ นามวิเศษ' จากนักเตะที่ไม่ใช้ตัวหลักของ "แบงคอก ยูไนเต็ด" นั้นทางบุรีรัมย์สามารถหมายมั่นปั้นมือถึงกับเป็นเซนเตอร์จอมแกร่งของไทยลีก ณ ตอนนั้น จนทำให้ถึงขั้นติดทีมชาติ 'อนาวิน จูจีน' ที่เล่นปีก แต่มักจะได้เล่นในตำแหน่งแบ็คขวา จอมลุย ทำให้ด้านขวาของบุรีรัมย์นั้นมีความอันตรายสุดๆ ขออธิบายความสามารถนักเตะไทยแค่นี้พอก่อน ขอย้อนไปเหตุการณ์ ณ วันที่ทำให้ ปราสาทสายไฟ ไฟไหม้ครั้งยิ่งใหญ่ที่ดับยังไงก็ดับไม่ลง



'ไอโมบาย สเตเดี้ยม' ชื่อเก่าของสนาม 'บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด' ณ ตอนนั้น

วันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2559(2016) ในเกมส์การแข่งขัน AFC Champions League
รอบแบ่งกลุ่ม นัดแรก "บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด" ที่วันนี้เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือน "เอฟซี โซล" ทีมดังจากแดนโสมขาว ประเทศเกาหลีใต้


รายชื่อ 11 ตัวจริง ณ วันนั้น

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด : ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน (GK) - ชิติพัทธ์ แทนกลาง , อันเดรส ตูเญซ , กรวิทย์ นามวิเศษ - ธีราทร บุญมาทัน , สุเชาว์ นุชนุ่ม(C) , โก ซิล กิ , จ้กรพันธ์ แก้วพรม , อนาวิน จูจีน - ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต , ฟิลิปเป้ ไคโอะ

เอฟซี โซล : ยู ฮุน (GK) - ทาฮาคางิ โยจิโร่ , คิม ดอง วู , ออสมาร์ อิบันเญซ(C) , จู เจ ซอง , ซิน จิน โฮ , เดยาน ดามยาโนวิช , คาร์ลอส อาเดรียโน่ , โก โย ฮาน , คิม วอน ซิค , โก ควาง มิน

เมื่อเกมส์เริ่มแล้ว "บุรีรัมย์" มาใช้ชุดเหย้าตัวเก่ง กรมท่าทั้งชุด ส่วน "เอฟซี โซล" นั้นมาในชุดเยือน สีขาวทั้งชุด เมื่อเริ่มเกมส์มาได้ 16 นาทีนั้น ทั้ง 2 ทีมยังเล่นสูสีคู่คี่กันอยู่แต่ทว่า เมื่อนาทีที่ 16 นั้น 'ดิโอโก้' ดาวยิงตัวเก่งของจริง ที่ปะทะกับ ออสมาร์ อดีตกองหลังของบุรีรัมย์ เบียดทำให้ ไหล่กระแทกพื้นเจ้าตัวทนไม่ไหวจนต้องเปลี่ยน 'อดุลย์ ลาโซะ' กองกลางป้ายแดง ทีมชาติไทยนั้นลงสนามไปแทน


จุดเปลี่ยนหนึ่งที่ทำให้บุรีรัมย์แพ้

พอเข้านาทีที่ 28 ทีมเยือนขึ้นนำจาก 'เดยาน ดามยาโนวิช' จ่ายคิลเลอร์พาส ของทีมแดนดังจากเกาหลีใต้ ไปถึง 'คาร์ลอส อาเดรียโน่' ดาวยิงสัญชาติบราซิเลี่ยนเข้าไปยิงทำให้ บุรีรัมย์ ตามหลังไป 0-1 จากนั้นก่อนหมดเวลา 5 นาที 'จู เซ จอง' ที่ตักลูกบอลไปยังเป้าหมายที่ 'คาร์ลอส อาเดรียโน่' ดาวยิงของทีม หลุดกับดักล้ำหน้ากระดกบอลเหนือตัวของ 'ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน' แล้วเป็นประตูที่ 2 ของเจ้าตัว ทำให้ผลสกอร์ครึ่งแรก บุรีรัมย์ 0-2 เอฟซี โซล



พอเกมส์ครึ่งหลังเริ่มไม่ทันไร 5 นาทีต่อมา 'เอฟซี โซล' ขึ้นนำอีกครั้ง เมื่อ 'คาร์ลอส อาเดรียโน่' หลุดกับดักล้ำหน้าอีกหนทำให้เจ้าตัวดวลตัวต่อตัวกับ ศิวรักษ์ แล้วบอลผ่านผู้รักษาประตูทีมชาติไทยไป แล้วพร้อมกับเข้ากรอบทำให้ เกมส์นี้ เจ้าตัวทำ แฮตทริก ได้สำเร็จ

แต่สถานการณ์บุรีรัมย์กลับแย่ลงเมื่อ กัปตันทีมเจ้าบ้าน 'สุเชาว์' ทำฟาวล์เสียบ 'ทาฮาคางิ โยจิโร่' ในนาทีที่ 55 ทำให้บุรีรัมย์ต้องเหลือผู้เล่น 10 คน ปลอกแขนก็เลยไปอยู่ที่ 'ตูเนซ'

ถัดมา 4 นาที 'คาร์ลอส อาเดรียโน่' ยังไม่พอใจ ก็เพิ่มสกอร์ตัวเองเพิ่มอีก ซึ่งจัดการสังหารประตูเกมส์นี้คนเดียวถึง 4 ประตู

ในเมื่อยิงแล้วก็จ่ายบ้าง ในนาทีที 67 'คาร์ลอส อาเดรียโน่' ปาดเข้ากลางให้ 'เดยาน ดามยาโนวิช' ซัดจ่อๆที่ยิงยังไงไม่มีทางออกแน่ๆ จนผลสกอร์ "ปราสามสายฟ้า" ต้องตามหลังถึง 5 ประตู

ปิดท้ายครึ่งโหล ช่วงท้ายเกม "เอฟซี โซล" ได้ประตูปิดท้าย 6-0 จากผลงานของ 'ลี ซอก ฮยุน'

ผลจบออกมา : บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 0-6 เอฟซี โซล


ไฮไลท์ เกมส์วันนั้น

หลังจากนั้น เกมส์นี้ทำให้ บุรีรัมย์แพ้คาบ้านที่สกอร์มากที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสร
รวมทั้งทำให้ ประธานสโมสรอย่าง 'คุณเนวิน ชิดชอบ' ที่บอกถึงกับนอนไม่หลับเลยทีเดียว


บทสัมภาษณ์ระบายความรู้สึกเจ็บปวดของเนวิน

เมื่อเกมส์จบแทนที่จะให้ลืมเรื่องที่ผ่านๆมา แต่ทว่าในโลกโซเชียลนั้นกลับดุเดือด เป็นเหตุทำให้ "ปราสาทสายฟ้า" จากที่ไฟไหม้เบาๆ กลายเป็นเติมเชื้อเพลิงเข้าไป
















เมื่อประโยคนี้กลับมา แล้วตอบกลับด้วยทางเพจสโมสรว่า "วิเคราะห์ถูกต้องค่ะ" วลีตำนานมาจนถึงทุกวันนี้ แล้วก็ไม่จบแค่นั้น





Spoil
 








เมื่อเริ่มไม่มีสติกัน แต่คอมเม้น คุณปกรณ์ ประวิทย์ นั้นทำให้ 'ธีราทร บุญมาทัน' กัปตันทีมชาติไทย ตอนนั้นทนไม่ไหวถึงกับต้องลงข้อความลงโซเชียล ในสปอย ขออภัยมีความหยาบ

Spoil
 


แต่ในเมื่อนักบอลโพสมาแบบนี้ แต่ก็ต้องร้อนใจคนที่เป็นถึงพ่อเป็นถึงแม่ ไม่อยากให้ลูกไม่มีความสุข พ่อของเจ้าอุ้มก็ตัดสินใจพิมพ์อะไรบางอย่างลง เฟสบุ๊ค



จากวันนั้น ทางบุรีรัมย์ โพสคลิปลงบน ยูทูบ แต่ทางเจ้าตัวจะไม่มองกล้อง ไม่มีความสุข หน้าไม่ยิ้มแจ่มใส เหตุการณ์วันนั้นผ่านไปได้ 2 เดือน เหตุการณ์กลับที่ว่าดีขึ้นกลับแย่ลง



วันที่ 27 เมษายน 2556 "บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด" ที่เจอมรสุมแต่เวลานั้นยังเป็นจ่าฝูง พบทีมคู่แค้นอย่างกิเลนผยอง "เมืองทอง ยูไนเต็ด" ที่3 ณ ตอนนั้น ที่บุรีรัมย์เจอมาไม่เคยแพ้เลยในเกมส์ทางการแม้แต่เกมส์เดียว โดยหมายว่าจะเอาชนะได้ ที่มีตัวทีมชาติอย่าง เช่น ธีรศิลป์ , อดิศักดิ์ , สารัช , ชนาธิป , กวิน เป็นต้น โดยก่อนหน้านี้ที่ฟุตบอลจะเริ่มฤดูกาล บุรีรัมย์ ก็ ชนะ เมืองทอง ในรายการฟุตบอล ถ้วย ก ไปสกอร์ 3-1



ย้อนกลับมายังเกมส์ไทยลีกนั้น 'อเล็กซานโดร กาม่า' กุนซือของ บุรีรัมย์ ก็ส่งผู้เล่นลงตัวจริง ณ ดังนี้

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด : ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน (GK) – อันเดรส ตูเญซ ,นัสตพล มาลาพันธ์ ,ธีราทร บุญมาทัน ,นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม – โก ซุล กิ ,จักรพันธ์ แก้วพรม ,สุเชาว์ นุชนุ่ม(C) – คิม ซึง ยอง ,อนาวิน จูจีน ,ไคโอะ เฟลิเป

ทางด้านทีมรวมทีมชาติ ณ เวลานั้น 'ธชตวัน ศรีปาน' ตำนานทีมชาติไทย ที่มาคุมฤดูกาลแรกกับ "เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด" ส่งขุนพลลงสนาม รายชื่อเห็นแล้ว รวมสตาร์ชัดๆ

เมืองทอง ยูไนเต็ด : กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ (GK) – มาริโอ อบรานเต้ ,นาโออากิ อาโอยามะ ,พีระพัฒน์ โน้ตชัยยา ,ทริสตอง โด – ธนบูรณ์ เกษารัตน์ ,สารัช อยู่เย็น ,ชนาธิป สรงกระสินธุ์ - ธีรศิลป์ แดงดา(C) ,อดิศักดิ์ ไกรษร ,เคลตัน ซิลวา



เมื่อเกมส์เริ่มมาได้ 9 นาที กลายเป็นทีมเยือนจากนนทบุรี ขึ้นนำก่อน เมื่อ 'เคลตัน ซิลวา' จ่ายบอลไปให้กับ 'ธีรศิลป์ แดงดา' กองหน้าหมายเลข1ทีมชาติไทย แล้วครอสไปให้ 'อดิศักดิ์ ไกรสร' โฉบเข้าใน ให้เคลตัน โหม่งจ่อๆผ่านตัว ศิวรักษ์ เข้าไปทำให้ เมืองทองบุกขึ้นนำ บุรีรัมย์

ผ่านไป 7 นาที กลายเป็นสถานการณ์เจ้าบ้านแย่ลง เมื่อ เจ้ามุ้ย บุกเดี่ยวไปดวลตัวต่อตัวกับ ศิวรักษ์ ชิพข้ามตัวแล้ววิถีบอลเข้ากรอบแต่ ทว่า ตูเนซ ตามสกัดทัน แต่ไปสกัดออกทางริมเส้น เคลตัน กวาดเอาบอลได้ ก็ลากเลื้อยเข้ามายังริมเส้น แล้วจ่ายไปให้ เจ้ากอล์ฟ 'อดิศักดิ์ ไกรสร' คนบุรีรัมย์ รวมทั้งเป็นอดีตผู้เล่นบุรีรัมย์ ซัดทำประตูใส่ทีมเก่า เป็นประตูที่ 4 ที่เจ้าตัวทำใส่ทีมเก่า นับตั้งแต่ย้ายออกมาจาก บุรีรัมย์ ไปเทโร ที่ย้ายสลับ ระหว่าง นฤบดินทร์ กับ อดิศักดิ์ ณ เวลานั้น

เกมส์ผ่านมา นาทีที่ 38 เมืองทอง ทำสกอร์ได้เพิ่มจากจังหวะ 'เจ ชนาธิป' ลากเข้ากลาง จ่ายไปที เคลตัน แล้วโยกไปทางซ้ายซัดเข้าไปเป็นสกอร์นำห่างไปถึง 3 ประตู แล้วเป็รประตูที่ 2 ของเจ้าตัวในเกมส์วันนั้น จนกระทั่งจบครึ่งแรก จากนั้นเข้าครึ่งหลังทั้งคู่ทำไรกันไม่ได้ จบเกมส์ "เมืองทอง ยูไนเต็ด" สามารถชนะบุรีรัมย์ครั้งแรกในสำเร็จ แล้วจบวลี 'งูเหลือมกับเชือกกล้วย' ไปได้สำเร็จ รวมทั้งบุรีรัมย์ แพ้เกมส์ในลีกในรอบ 44 เกมส์





หลังจบเกมส์แพ้เมืองทองคาปราสาท ทำให้ บุรีรัมย์ทรงกับทรุด แถมรูปเกมส์ก็ไม่ใช้บุรีรัมย์ ทีมที่ไม่เคยชนะบุรีรัมย์ก็สามารถบุกชนะถึงที่ได้ แล้วก็ต้องมีปัญหามาเพิ่มความปวดหัวอีก เมื่อนักเตะคนสำคัญของทีมนัดกันเจ็บเข้าโรงพยาบาลไปหาพยาบาลกัน



'อานนท์ อมรเลิศศักดิ์' ดาวรุ่งทีมชาติไทย เจ็บไหล่เหมือนดิโอโก้ พักยาว 2เดือน



กบไซเบอร์ 'สุเชาว์ นุชนุ่ม' กัปตันบุรีรัมย์ เจ็บยาวจาก เอ็นไขว้หน้าหัวเข่าข้างซ้ายฉีกขาด พพักยาว 5 เดือน










แถลงสำคัญที่ทำให้กลายเป็นตำนานทีเดียว จากนักเตะบุรีรัมย์ ย้ายตรงไปยัง เมืองทอง

จากเหตุการณ์นี้ทำเอาคนที่ไม่ได้ติดตามลูกหนังไทยนั้น ก็ตกใจทำเอาวันนั้นมู้ข่าวไทยลีก ไหลไปถึง 10 หน้าเลยทีเดียวจากที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แล้วก็เป็นจุดเริ่มต้นความยิ่งใหญ่ของเมืองทอง ตำนานจูดาสที่แฟนบุรีรัมย์บางคนกล่าวถึงอุ้ม แม้จะยังมีรักก็ตาม


วันที่ 13 พฤษภาคม 2559 "เมืองทอง ยูไนเต็ด" คว้าสัญลักษณ์ของ ทีมคู่แค้นอย่าง 'ธีราทร บุญมาทัน'แบ็คซ้ายทีมชาติไทยมายังนนทบุรี บ้านเก่าของเจ้าตัวโดยหมายเลขเสื้อเก่าที่บุรีรัมย์คือหมายเลข 2 แต่มี "พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา" ขว้างทางไว้ เจ้าตัวเลยเลือกเบอร์ 3 ให้เป็นตำนานหมายเลขใหม่ไปเลยทีเดียว




เสียแล้วก็ต้องหาตัวแทนใหม่นายเนวิน ก็หาคว้าตัว เจ้ามิ้ง "กชกร วิริยอุดมศิริ" แบ็คซ้ายจากชลบุรี มาแทนตำแหน่งที่หายไป โดยการคว้าเจ้ามิ้งมา เพราะเจ้ามิ้ง อยากกลับมาดูแลพ่อแม่ที่อายุเยอะ อยากกลับบ้าน เพราะเจ้าตัวเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขบุรีรัมย์ แล้วขายขาด "ประกิต ดีพร้อม" กองกลางทีมชาติไทยที่ซื้อมาจาก "ทีโอที" 10 ล้านบาท ที่ไม่ประสบความสำเร็จกับถิ่นปราสาทนั้น ให้กับฉลามชลไป



วันอาทิตย์ที่ 24 กรกฏาคม 2559

"เมืองทอง ยูไนเต็ด" รองจ่าฝูง ณ เวลานั้นเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ ''บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด'' ที่ช่วงนั้นตกต่ำอยู่อันดับที่ 4 แล้วเป็นการเจอทีมเก่าครั้งแรกของ ธีราทร

เริ่มเกมส์มา 18 นาที บุรีรัมย์ ที่หวังย้ำแค้น ก็เริ่มออกนำก่อนเริ่มจาก กรกช แบ็คซ้ายตัวใหม่ของปราสาทนั้น ครอสบอลให้ ดิโอโก้ ที่หายบาดเจ็บมาไม่นาน ทำประตูเข้าไป ทำวให้ ทีมเยือน ขึ้นนำเจ้าถิ่นไปก่อน

ท้ายครึ่งแรกหลังจากที่ เมืองทองบุกมานานก็ประสบผลความสำเร็จเมื่อเคลตัน จ่ายให้ 'เจ ชนาธิป' ลากเลื้อยผ่าน ตูเนซ หนี นฤบดินทร์ ซ้ายซ้ายเข้าเสาสองผ่านมือศิวรักษ์ไป ทำให้ กองเชียร์ในสนามเอสซีจีนั้น ดังไปทั่วสนาม เมื่อตีเสมอได้เป็น 1-1 จนกระทั่งจบครึ่งแรก

เริ่มครึ่งหลัง นาทีที่ 53 เจ้าถิ่นพลิกขึ้นนำเมื่อเคลตัน จ่ายให้ ชนาธิป ในกรอบบุรีรัมย์ แล้วหลอกกองหลังเมืองทอง จนจ่ายบอลไปทางสารัช ที่อยู่บริเวณหัวกระโหลกซัดเข้าไปสามเหลี่ยมส่งผลให้ กิเลนผยอง ขึ้นนำ 2-1

เกมส์ผ่านไปนาทีที่ 77 เมืองทองหนีห่างออกไป 3-1 เมื่ออานนท์ เสียบอลให้ 'ทริสตอง โด' แล้วครอสบอลพานถวายใส่ 'เคลตัน ซิลวา' ที่ชอบทำประตูใส่เมืองทองนั้น โหม่งย้อยเข้าไปเป็น 3-1

เกมส์ทำท่าจะจบที่สกอร์นั้น ในนาทีที่ 86 แต่ก็มีจุดโทษที่ไม่น่าโดนได้ เมื่อ เมื่อธีราทรเดินชนหลัง ดิโอโก้ เบาๆที่กระโดดสูงๆล้มไป แต่ผู้ตัดสินเป่าให้เป็นจุดโทษของฝั่งปราสาท แล้วก็เป็นวลีดังไปช่วงหนึ่ง 'บอดี้เช็ค' ของนักบรรยาย แล้ว ตูเนซ ก็รับหน้าที่สังหารติดเซฟกวิน แต่อานนท์ ก็ซ้ำเข้าไปทำให้ บุรีรัมย์ไล่ตามมา ติดๆ

เวลาที่เหลือบุรีรัมย์ก็พยายามโหมใส่แต่ก็เจาะไม่เข้าจบเกมส์ เมืองทอง ชนะ บุรีรัมย์ไป 3-2 พร้อมเป็นชัยชนะครั้งแรกของอุ้มที่เจอทีมเก่า แต่ทว่า ไฮไลท์สำคัญอยู่ที่อุ้มมากกว่าผลชนะ


รายชื่อนักเตะทั้ง 2 ทีมวันนั้น

เมืองทอง ยูไนเต็ด (4-1-2-3) : กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ (GK) - ทริสตอง โด , สุพรรณ ทองสงค์ , นาโออากิ อาโอยะมา , ธีราทร บุญมาทัน - ธนบูรณ์ เกษารัตน์ - สารัช อยู่เย็น , ชนาธิป สรงกระสินธ์ - ธีรศิลป์ แดงดา(C) , เคลตัน ซิลวา , อดิศักดิ์ ไกรษร

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด (4-1-3-2) : ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน (GK) - นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม , สุรีย์ สุขะ , อันเดสร ตูเญซ(C) , กรกช วิริยอุดมศิริ - อเล็กซานเดอร์ ซีกฮาร์ท - จิตปัญญา ทิสุด , จักรพันธ์ แก้วพรม - ไคโอะ ฟิลิปเป้ , บรูโน่ โมไรร่า , ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต้

Spoil
 


สุดท้าย คลิปนี้จำเป็นตำนานตลอดไป

Spoil
 


จากนั้นไม่นานทั้งคู่ก็เจอกันอีกฟุตบอลถ้วยในรอบถ้วย ช้าง เอฟเอ คัพ รอบ 16 ทีม เล่นนัดเดียวบ้านเมืองทอง
ผล เมืองทอง ก็ยังชนะไปสกอร์ที่ดีกว่าเดิม 3-1 แถมธีรศิลป์ทำประตูใส่บุรีรัมย์ได้สำเร็จ



ไฮไลท์ฟุตบอล วันที่อุ้มเจอทีมเก่าครั้งแรก เมืองทอง 3-2 บุรีรัมย์ นะจะเป็นคู่ไทยลีกที่มู้LIVE ไหลที่สุด เพราะพร้อมใจกันดู แถมมันส์ด้วย เหตุการณ์วันนั้น รู้ดีกว่าปัญหาทีมตัวเองซะอีก

ถึงแม้วันนี้ปราสาทสายฟ้าเพลิงไฟจะดับแล้ว แต่ยังไม่เป็นปราสาทที่งดงามเหมือนฤดูกาล 2557 ยังเป็นปราสาทที่มีรอยไหม้ที่กำลังบูรณะให้กลับมาสวยงามเหมือนเดิมหรืออาจจะยิ่งใหญ่กว่าเดิมก็เป็นไปได้ในอนาคต
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
ออนไลน์
คอมเมนเตเตอร์
Status: Dumb leaders. We'll all die.
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Oct 2009
ตอบ: 11740
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Jul 15, 2018 16:40
[RE: กาลครั้งหนึ่งไฟบรรลัยกัลป์ไหม้ลุก "ปราสาทสายฟ้า" ครั้งใหญ่ในลูกหนังไทย]
คิดอีกแง่ย้อนกลับ
- หากไม่มีปกรณ์คนนั้นมาเม้น อุ้มก็คงไม่น้อยใจ อุ้มก็คงไม่ย้าย อุ้มก็คงอยู่บุรีรัมย์ต่อไป เพราะเสี่ยเนคงไม่มีวันขายแน่ๆ อุ้มก็คงไม่ได้ไปเมืองทอง ไม่ได้พัฒนาฝีมือต่อที่ญี่ปุ่น เล่นกับระดับโลกอย่างโพดอลสกี้ และอินเนียสต้า. อย่าง ุกวันนี้

ผมนึกถึงแมนยูไนเต็ดเลยแฮะ เหตุการณ์คบ้ายฟแบบนี้ ถ้ายังจำได้
- หากเบ๊คแฮมไม่ทะเลาะกับป๋า (สตั๊ดบินเข้าหน้า)เบ๊คแฮมก็จะไม่ย้าย อยู่เป็นตำนานต่อ แมนยูไนเต็ดก็จะไม่ต้องหาปีกขวาใหม่
ทำให้เซอร์อเล็กไม่ต้องมองหาปีกคนใหม่จากโปรตุเกส. และอาจไม่มีชื่อของผชที่ชื่อ “โรนัลโด้”

บางทีอุ้มอาจรู้สึกขอบใจปกรณ์คนนั้นก็ได้นะ 5555
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 28 Dec 2007
ตอบ: 20306
ที่อยู่: ดินแดนคานาอัน
โพสเมื่อ: Sun Jul 15, 2018 16:44
ถูกแบนแล้ว
[RE: กาลครั้งหนึ่งไฟบรรลัยกัลป์ไหม้ลุก "ปราสาทสายฟ้า" ครั้งใหญ่ในลูกหนังไทย]
ปกรณ์คือ CT48 ที่ปลอมตัวมาเล่น
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
ดาวซัลโวฟุตบอลโลก
Status: COYS
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 05 Dec 2015
ตอบ: 31309
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Jul 15, 2018 16:58
[RE: กาลครั้งหนึ่งไฟบรรลัยกัลป์ไหม้ลุก "ปราสาทสายฟ้า" ครั้งใหญ่ในลูกหนังไทย]
วิแคะถั่วต้มคร่ะ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลลีกภูมิภาค
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 31 Jul 2009
ตอบ: 9703
ที่อยู่: In The World
โพสเมื่อ: Sun Jul 15, 2018 17:21
[RE: กาลครั้งหนึ่งไฟบรรลัยกัลป์ไหม้ลุก "ปราสาทสายฟ้า" ครั้งใหญ่ในลูกหนังไทย]
ด่าCT14 = ไม่รักบุรีรัมย์ , บล๊อค
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
คอมเมนเตเตอร์
Status: You'll Never Walk Alone
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 28150
ที่อยู่: สุสานโบราณ
โพสเมื่อ: Sun Jul 15, 2018 17:25
[RE: กาลครั้งหนึ่งไฟบรรลัยกัลป์ไหม้ลุก "ปราสาทสายฟ้า" ครั้งใหญ่ในลูกหนังไทย]
แต่ตอนนี้ มท .ผม กำลังลุกเป้นไฟเหมือนกัน จากฟอร์มการเล่นที่ผ่านๆมาของผุ้เล่นบางคน เหนื่อยใจ
แก้ไขล่าสุดโดย zerpenteer เมื่อ Sun Jul 15, 2018 17:27, ทั้งหมด 1 ครั้ง
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน


"You'll never walk alone "& SCG Redvolution

ออฟไลน์
นักเตะอบจ.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 01 Jun 2014
ตอบ: 1195
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Jul 15, 2018 18:43
[RE: กาลครั้งหนึ่งไฟบรรลัยกัลป์ไหม้ลุก "ปราสาทสายฟ้า" ครั้งใหญ่ในลูกหนังไทย]
เหมือนปีนี้เกือบจะบรรลัยอีกครั้งนะ กับกองหลังทีมชาติ ในแมตสุโขทัย
ทั้งหมดทั้งมวลแล้ว เพราะ ต้นแบบคำว่าเด็กเส้น CT14 กับ เจ๊โทรโขงของเขาผู้นั้น
แก้ไขล่าสุดโดย JourneyMan เมื่อ Sun Jul 15, 2018 18:44, ทั้งหมด 1 ครั้ง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Aug 2017
ตอบ: 384
ที่อยู่: Leo Stadium l St.James Park
โพสเมื่อ: Sun Jul 15, 2018 19:08
ถูกแบนแล้ว
[RE]กาลครั้งหนึ่งไฟบรรลัยกัลป์ไหม้ลุก "ปราสาทสายฟ้า" ครั้งใหญ่ในลูกหนังไทย
ไม่รัก CT14 ก็ออกไปจากทีมเราซะ
โพสต์บนแอป Soccersuck บน iOS
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะหมู่บ้าน
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 20 Aug 2008
ตอบ: 1090
ที่อยู่: ประเทศไทย
โพสเมื่อ: Sun Jul 15, 2018 20:19
[RE: กาลครั้งหนึ่งไฟบรรลัยกัลป์ไหม้ลุก "ปราสาทสายฟ้า" ครั้งใหญ่ในลูกหนังไทย]
เหตุการณ์หลังจาก ดิโอโก้ไหล่หลุดนี่ ตอนนั้นสุดๆจริงๆ สำหรับกองเชียร์ บุรีรัมย์
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 05 Dec 2015
ตอบ: 944
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Jul 15, 2018 20:39
[RE: กาลครั้งหนึ่งไฟบรรลัยกัลป์ไหม้ลุก "ปราสาทสายฟ้า" ครั้งใหญ่ในลูกหนังไทย]
สระไดร์ ครับ สระไดร์ !!! นีี่เด็ดสุด
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน




ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ง.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 16 Feb 2011
ตอบ: 2078
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Jul 15, 2018 20:44
[RE: กาลครั้งหนึ่งไฟบรรลัยกัลป์ไหม้ลุก "ปราสาทสายฟ้า" ครั้งใหญ่ในลูกหนังไทย]
worrapat พิมพ์ว่า:
คิดอีกแง่ย้อนกลับ
- หากไม่มีปกรณ์คนนั้นมาเม้น อุ้มก็คงไม่น้อยใจ อุ้มก็คงไม่ย้าย อุ้มก็คงอยู่บุรีรัมย์ต่อไป เพราะเสี่ยเนคงไม่มีวันขายแน่ๆ อุ้มก็คงไม่ได้ไปเมืองทอง ไม่ได้พัฒนาฝีมือต่อที่ญี่ปุ่น เล่นกับระดับโลกอย่างโพดอลสกี้ และอินเนียสต้า. อย่าง ุกวันนี้

ผมนึกถึงแมนยูไนเต็ดเลยแฮะ เหตุการณ์คบ้ายฟแบบนี้ ถ้ายังจำได้
- หากเบ๊คแฮมไม่ทะเลาะกับป๋า (สตั๊ดบินเข้าหน้า)เบ๊คแฮมก็จะไม่ย้าย อยู่เป็นตำนานต่อ แมนยูไนเต็ดก็จะไม่ต้องหาปีกขวาใหม่
ทำให้เซอร์อเล็กไม่ต้องมองหาปีกคนใหม่จากโปรตุเกส. และอาจไม่มีชื่อของผชที่ชื่อ “โรนัลโด้”

บางทีอุ้มอาจรู้สึกขอบใจปกรณ์คนนั้นก็ได้นะ 5555  


เห็นด้วยเรื่องผลที่ตามมาทั้งเรื่องอุ้มได้ย้ายไปญี่ปุ่นกับเรื่อง CR7 ครับ แต่แย้งเรื่องเหตุนิดนึงว่าอาจจะไม่ใช่จากปกรณ์คนนั้นทั้งหมดครับ ผมว่ามาจาก "วิเคราะห์ถูกต้อง" เป็นสาเหตุหลักมากกว่าครับ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
คอมเมนเตเตอร์
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 08 Aug 2009
ตอบ: 33708
ที่อยู่: Architecture l KMITL
โพสเมื่อ: Sun Jul 15, 2018 20:55
[RE: กาลครั้งหนึ่งไฟบรรลัยกัลป์ไหม้ลุก "ปราสาทสายฟ้า" ครั้งใหญ่ในลูกหนังไทย]
ตราบใดที่ลุงเนอยู่ ผมมั่นใจว่าบุรีรัมย์ก็กลับมาได้เสมออ่ะ ตอนนั้นบอกตรงๆโดดเดือดเลย ไม่รู้ว่าตัวเองผ่านมาได้ไงโดยไม่โดนแบน
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
นักเตะตำบล
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 07 Nov 2007
ตอบ: 497
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Jul 16, 2018 00:52
[RE: กาลครั้งหนึ่งไฟบรรลัยกัลป์ไหม้ลุก "ปราสาทสายฟ้า" ครั้งใหญ่ในลูกหนังไทย]
ปีนั้นเป็นปีที่แย่ที่สุดของบุรีรัมย์จริงๆครับ มันโดมิโน่กันมาตั้งแต่การปล่อยมาเชน่าออกไปแล้ว ซึ่งตัวที่เซ็นมามันไม่มีใครเข้ามาทดแทนได้เลย ยิ่งดีโอโก้เจ็บยาวไปอีกก็ไม่ต้องสืบเลยว่าทีมจะเละแค่ไหน จากนั้นทีมก็ไม่ได้พักฟื้นจากอาการเสียใจเพราะก็ไปเละใน ACL ต่มาเรื่อยๆ แถมเจออาการบาดเจ็บของนักเตะไปเรื่อยๆ เพราะขนาดทีมเล็กมาก จนเป็นที่มาของการเซ็นสัญญามั่วซั่วในครึ่งปีหลังที่ไม่ประสบความสำเร็จเลยแม้แต่น้อย

แต่มาดราม่าสุดๆก็เรื่อง อุ้ม นี่แหละ อุ้ม เป็นนักเตะสัญลักษณ์ของสโมสรและไม่มีตัวทดแทนในตำแหน่งของเขา (อานนท์พอเล่นได้แต่คุณภาพยังห่างอีกมาก) ซึ่งตอนนั้นก็คงไม่แปลกที่จะดราม่ากัน แต่ตอนนี้มองย้อนกลับไปผมคิดว่ามันเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องมากๆ
1. ทีมบริหารเริ่มลดบทบาทในโซเชี่ยลมีเดีย หรือการปฏิสัมพันธ์กับแฟนๆน้อยลง (ซึ่งดีมาก)
2. ทีมได้เริ่มต้นใหม่อย่างจริงจังกับแกงค์เด็กๆ ซึ่งไปๆมาๆ ความเป็นทีมเวิร์คและความสนิทสนมดูมีมากกว่า
3. ทีมไม่มีสตาร์ที่เป็นนักเตะไทยอีกต่อไป ผมว่ามันลดอีโก้ที่มีกันระหว่างนักเตะได้พอสมควร
4. อุ้มได้ไปญี่ปุ่นสมใจอยาก และบุรีรัมย์ก็ได้กลับมาเริ่มต้นในจุดที่สมควรอยู่ก็ถือว่าดีมากแล้ว

ส่วนผลสรุปของการเปลี่ยนแปลงในปีต่อมาที่กลับมาได้แชมป์อีกครั้ง นอกจากการที่ต้นปีไม่ต้องไป ACL แล้ว ต้องให้เครดิตกับทีมแมวมองนะ การเซ็นสัญญากับ Jaja, Rafael Bastos, พรรษา, ศศลักษณ์ และการรักษาตูเญซไว้กับทีมได้ รวมถึงแจ้งเกิดอย่างทันเวลาของนักเตะวัยรุ่นอย่าง สุภโชค, รัตนากร มันทำให้ทีมมีตัวเลือกมากขึ้น จาจ้า อย่างที่เห็นยิงกระจายสุดๆ ถึงแม้ไม่ได้สร้างสรรค์ได้แบบดีโอโก้ แต่ก็ทดแทนได้ประมาณหนึ่ง บาสโตส ก็มีลูกยิงพลิกเกมหรือช่วยเซฟแต้มให้ทีมหลายครั้ง จากนั้นมากราฟของบุรีรัมย์ก็ค่อยๆกลับมาเหมือนเดิมครับ ทีมงานหลังบ้านยังรักษาคุณภาพของทีมไว้ได้เหมือนเดิม การเสียนักเตะอย่าง โกซุลกิ เป็นทีมอื่นคงกระทบมหาศาล แต่บุรีรัมย์ก็ผ่านมาได้ ตอนนี้ผมว่าทีมงานน่าจะต้องเจอบททดสอบใหญ่กับ ดีโอโก้ ว่าจะอยู่เป็นตำนานของทีมอีกนานแค่ไหน วันใดที่ดีโอโก้ตัดสินใจลาจากบุรีรัมย์ไม่ว่าจะแขวนสตั๊ดหรือย้ายทีม วันนั้นแหละเราอาจจะได้เห็นบุรีรัมย์ผลัดใบอีกครั้งใหญ่
5
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะหมู่บ้าน
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 20 Aug 2008
ตอบ: 1090
ที่อยู่: ประเทศไทย
โพสเมื่อ: Mon Jul 16, 2018 08:48
[RE: กาลครั้งหนึ่งไฟบรรลัยกัลป์ไหม้ลุก "ปราสาทสายฟ้า" ครั้งใหญ่ในลูกหนังไทย]
Ziphirum พิมพ์ว่า:
ปีนั้นเป็นปีที่แย่ที่สุดของบุรีรัมย์จริงๆครับ มันโดมิโน่กันมาตั้งแต่การปล่อยมาเชน่าออกไปแล้ว ซึ่งตัวที่เซ็นมามันไม่มีใครเข้ามาทดแทนได้เลย ยิ่งดีโอโก้เจ็บยาวไปอีกก็ไม่ต้องสืบเลยว่าทีมจะเละแค่ไหน จากนั้นทีมก็ไม่ได้พักฟื้นจากอาการเสียใจเพราะก็ไปเละใน ACL ต่มาเรื่อยๆ แถมเจออาการบาดเจ็บของนักเตะไปเรื่อยๆ เพราะขนาดทีมเล็กมาก จนเป็นที่มาของการเซ็นสัญญามั่วซั่วในครึ่งปีหลังที่ไม่ประสบความสำเร็จเลยแม้แต่น้อย

แต่มาดราม่าสุดๆก็เรื่อง อุ้ม นี่แหละ อุ้ม เป็นนักเตะสัญลักษณ์ของสโมสรและไม่มีตัวทดแทนในตำแหน่งของเขา (อานนท์พอเล่นได้แต่คุณภาพยังห่างอีกมาก) ซึ่งตอนนั้นก็คงไม่แปลกที่จะดราม่ากัน แต่ตอนนี้มองย้อนกลับไปผมคิดว่ามันเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องมากๆ
1. ทีมบริหารเริ่มลดบทบาทในโซเชี่ยลมีเดีย หรือการปฏิสัมพันธ์กับแฟนๆน้อยลง (ซึ่งดีมาก)
2. ทีมได้เริ่มต้นใหม่อย่างจริงจังกับแกงค์เด็กๆ ซึ่งไปๆมาๆ ความเป็นทีมเวิร์คและความสนิทสนมดูมีมากกว่า
3. ทีมไม่มีสตาร์ที่เป็นนักเตะไทยอีกต่อไป ผมว่ามันลดอีโก้ที่มีกันระหว่างนักเตะได้พอสมควร
4. อุ้มได้ไปญี่ปุ่นสมใจอยาก และบุรีรัมย์ก็ได้กลับมาเริ่มต้นในจุดที่สมควรอยู่ก็ถือว่าดีมากแล้ว

ส่วนผลสรุปของการเปลี่ยนแปลงในปีต่อมาที่กลับมาได้แชมป์อีกครั้ง นอกจากการที่ต้นปีไม่ต้องไป ACL แล้ว ต้องให้เครดิตกับทีมแมวมองนะ การเซ็นสัญญากับ Jaja, Rafael Bastos, พรรษา, ศศลักษณ์ และการรักษาตูเญซไว้กับทีมได้ รวมถึงแจ้งเกิดอย่างทันเวลาของนักเตะวัยรุ่นอย่าง สุภโชค, รัตนากร มันทำให้ทีมมีตัวเลือกมากขึ้น จาจ้า อย่างที่เห็นยิงกระจายสุดๆ ถึงแม้ไม่ได้สร้างสรรค์ได้แบบดีโอโก้ แต่ก็ทดแทนได้ประมาณหนึ่ง บาสโตส ก็มีลูกยิงพลิกเกมหรือช่วยเซฟแต้มให้ทีมหลายครั้ง จากนั้นมากราฟของบุรีรัมย์ก็ค่อยๆกลับมาเหมือนเดิมครับ ทีมงานหลังบ้านยังรักษาคุณภาพของทีมไว้ได้เหมือนเดิม การเสียนักเตะอย่าง โกซุลกิ เป็นทีมอื่นคงกระทบมหาศาล แต่บุรีรัมย์ก็ผ่านมาได้ ตอนนี้ผมว่าทีมงานน่าจะต้องเจอบททดสอบใหญ่กับ ดีโอโก้ ว่าจะอยู่เป็นตำนานของทีมอีกนานแค่ไหน วันใดที่ดีโอโก้ตัดสินใจลาจากบุรีรัมย์ไม่ว่าจะแขวนสตั๊ดหรือย้ายทีม วันนั้นแหละเราอาจจะได้เห็นบุรีรัมย์ผลัดใบอีกครั้งใหญ่  


สรุปได้สุดยอดไปเลยครับ
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel