เรื่องซื้อเสียงนี่ก็อคติไปนะผมว่า สมัยผมเด็กๆอะใช่แบบ 20ปีที่แล้ว ผมก็เคยเห็น
แต่ประเด็นที่ทำให้ชนะบ่อยๆ เป็นพวกนโยบายมากกว่า ที่เข้าถึงคนส่วนมากของประเทศ
คนส่วนมากคือ เกษตรกร คนหาเช้ากินค่ำ นโยบายก็จะเอื้อประโยชน์ให้คนกลุ่มนี้มากกว่า
ซึ่งต่างจากคู่แข่งที่เน้นข้าราชการ คนในเมือง นโยบายก็จะเอื้อให้คนกลุ่มนี้ได้รับผลประโยชน์
เมื่อมีฝั่งที่ได้ก็ต้องมีฝั่งที่เสีย สัญชาตญานคนเราต้องเลือกเอาสิ่งที่ตัวเองได้ประโยชน์
คนที่ยังขายเสียงมีมั้ย? ก็ยังมีอยู่นะ แต่มีน้อยมากคือคนที่ไม่สนใจอะไรจริงๆ
แต่ถ้าเป็นชาวบ้านทั่วไป เรื่องเศรษฐกิจ การเมือง แม้แต่หุ้น บ้างคนรู้เยอะมากบอกเลย
เรื่องซื้อเสียงตรงๆไม่ง่ายครับสมัยนี้ เลยปรับเป็นเรื่องนโยบายประชานิยมแทน
แทนที่จะเอาเงินไปแจกตรงๆ(อาจเป็นเงินพรรคเงินนายทุน) เสี่ยงต่อการตรวจสอบการทุจริตเลือกตั้ง
สู้ตั้งเป็นนโยบายแทน ประชาชนกลุ่ม A B C D ต้องการอะไรก็จัดนโยบายให้เค้าก็เลือกเอง
เงินก็ไม่ต้องเสียเพราะเอาเงินภาษีมาจ่ายในนโยบาย ที่ประชาชนส่วนใหญ่ชอบเพราะ
นโยบายต้องทำได้จริง ไม่ใช่ดีแต่หาเสียง แล้วแต่ทำไม่ได้ ผมเชื่อว่าคนส่วนมากที่ไปเลือกตั้ง
ออกไปใช้สิทธิ์ของตัวเอง และผลประโยชน์ที่จะได้จากผู้สมัครมากกว่าไปเพราะเงินไม่กี่บาท

นักการเมืองใหม่นักการเมืองเก่ามันก็เหมือนกันเพราะหน้าที่พวกมันคือการได้มาซึ่งอำนาจรัฐ คำที่ว่าคนดีเป็นนักการเมืองที่ดีไม่ได้มันจริงนะครับเพราะการเป็นนักการเมืองมันต้องใช้อะไรที่มากกว่าความดีงาม การที่จะให้นักการเมืองมันทำงานกันใสซื่อบริสุทธิ์มันเป็นไปได้ยากเพราะมันไปฝืนกฏธรรมชาติวิชาชีพของพวกมันจะให้พวกมันทำงานภาคประชาชนต้องช่วยกันตรวจสอบเวลามันทำผิดต้องช่วยกันโวย ภาคประชาชนต้องคอยขีดเส้นให้พวกมันว่าอย่าล้ำเส้นแบบพวกประเทศที่เจริญแล้วเขาทำกัน

ไม่เอาสองพรรค นี้

ถ้ามีแค่สองพรรคนี้ ผมจะกาไม่ลงคะแนน

ผมว่าสองพรรคนี้คะแนนตกแน่ ๆ
ส่วนตัวมองไปที่ อนาคตใหม่ ส่วนตัวชอบ ปิยบุตร หัวหน้าพรรคผมเฉย ๆ

พนันได้เลยว่า เพื่อไทยชนะ และมั่นใจด้วยว่าไม่ได้ซื้อเสียงมากเท่าไร(ไม่ได้ปฏิเสธว่าไม่มี) แต่เลือกเพราะผลประโยชน์กับตัวเองล้วนๆ คนต่างจังหวัดเขาไม่ได้ไม่รู้หรอกว่าใครโกง เขารู้ดี แต่เขาต้องเลือกเพราะเขาคือคนที่ให้ประโยชน์กับพวกเขาได้ จากเรื่องจริงที่เคยพบเจอมา ยกตัวอย่างจำนำข้าว เขาก็รู้ว่ากลโกงเป็นเช่นไร แต่มีรัฐบาลไหนบ้างที่ทำให้เขาอิ่มท้องได้ ระหว่างความถูกต้องกับอิ่มท้อง ในโลกของความเป็นจริง คิดว่าคนส่วนใหญ่จะเลือกอะไรมากกว่ากัน

ปล. ผมไม่ได้ชอบพรรคเพื่อไทยนะครับ ดูได้จากประวัติการตอบกระทู้เกี่ยวกับพรรคนี้

มันมีอยู่แล้วซื้อเสียง แล้วก็มีทั้ง ปชป ทั้ง พท. ด้วย แต่ไม่ถึงครึ่งแน่นอน จะบอกว่า จาก 10m 15m ซื้อไปครึ่งนึงหรอง่ายเกินไปรึป่าว มันไม่ใช่ 20-30 ปีที่แล้วที่ช่องทางข่าวสารเข้าไม่ถึง เด๋วนี้เขาซื้อกันด้วยนโยบาย ประชาธิปไตยมันก็คือเสียงส่วนใหญ่อยู่แล้ว

เรื่องซื้อเสียงนี่ผมเห็นมากับตาเลยนะ หัวคะเเนนพรรคที่ไม่เคยชนะเลือกตั้ง คอยโจมตีแต่คนอื่นซื้อเสียง เอาเงินมาเสนอพ่อแม่ผม ให้เลือก พ่อแม่ผมก็รับเงินเค้ามา แต่2คนดันเลือกพรรคที่ชนะเลือกตั้งบ่อยๆ55 แปลกใจมั้ยละพรรคนึงที่คิดว่าตัวเองจะชนะมั่นใจถึงขนาด เลขาพรรคจะผูกคอตาย ถ้าคู่เเช่งชนะ หมดเงินไปเท่าไหร่ คิดว่าตัวเองมาเเน่ดันเงิบ

พท ซื้อเสียงครับ เชื่อผมผมอ่านเม้นมา

ปกติเอาข่าวมาลงเพื่อคอมเม้นด่ากันมัน เดี๋ยวนี้ตั้งกระทูการเมืองได้แล้วเหรอ

ไม่หรอก

เพื่อไทยชนะใสๆ เปิดเรทต่อ 1.5 เลยเอ้า

เอาเป็นว่าพวกพรรคสลิ่มไม่ชนะหรอก

ซื้อกันทั้ง2พรรค อย่าเถียงผม และให้ราคาในเรทที่เท่าๆกัน
เลือกตั้งล่าสุด2000มั้ง ต่อหัว แต่ตอนกา เขาไม่ได้ไปบังคับจับมือคนกานะ
ส่วนใครจะชนะ ยังไงก็เพื่อไทย เพราะถ้าไม่ใช่เพื่อไทยชนะ ท่านๆเขาคงปล่อยให้มีการเลือกตั้งไปนานแล้ว

บ้านผมนี่ ปชป มาครับ หัวละ 2000

ยังมีคนคิดว่าการซื้อเสียงมีผลต่อพฤติกรรมและการตัดสินใจเลือกตั้งของประชาชนอยู่อีกหรอ

คำถามที่ใช้ในการวิจัยข้อหนึ่งคือ "ท่านรู้สึกว่าการรับเงิน ผลประโยชน์ หรือ ค่าตอบแทน เป็นสิ่งผูกมัดให้ท่านต้องเลือกผู้สมัครหรือไม่?" ผลทั้งประเทศ ตอบ ต้องเลือก 10.1% ที่เหลือ ตอบไม่ต้องเลือก
นี่คือคำถามจากงานวิจัยของ อ.สิริพรรณ นกสวน สวัสดี จากคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ คำถามนี้บอกเราว่า มีแค่10คนจากก100คนที่เลือกผู้แทนคนที่จ่ายเงินให้ ดังนั้นถ้าเทียบในสเกลที่เยอะขึ้นเช่นในภาคใต้ พรรคที่มาเป็นอันดับหนึ่งในทุกเขต ชนะพรรคอันดับ 2 ด้วยคะแนนล้นหลาม เกิน 10,000 เสียง บางเขตชนะกันเกิน 80,000 คะแนนการชนะกันด้วยคะแนนเสียงจำนวนมากเช่นนี้ ชี้ว่าเงินและการซื้อเสียงไม่น่าจะเป็นปัจจัยหลักในชัยชนะ เพราะแสดงว่าคนเลือกเพราะชอบพรรค ชอบเพราะนโยบาย หรือในกรณีที่มีการจ่ายจริง คุณคิดว่านักการเมืองจะเปย์ไม่อั้น ทุ่มหมดน่าตักหรอ ระบบการเลือกตั้งมันไม่การันตีนะครับว่าคุณ all in แล้วคุณจะชนะหรือจะไม่มีคนสู้ราคา

ประเด็นต่อมา ข้อค้นพบในหลายพื้นที่คือ มีการใช้เงินจำนวนมาก แต่ผู้สมัครที่ใช้เงินมหาศาลกลับไม่ชนะ การศึกษาพบว่าปัจจัยสำคัญที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจเลือกตั้งของประชาชนส่วนใหญ่ ได้แก่ พรรคการเมือง นโยบาย และความต้องการตอบสนองผลประโยชน์และความคาดหวังของตน
จะเห็นได้ว่าปัจจัยที่สำคัญในการตัดสินใจของประชาชนคือนโยบายของพรรคการเมืองครับ ถ้าคุณอยากเป็นผู้ถูกเลือกคุณต้องออกนโยบายสร้างแคมเปญที่มันโดนใจผู้บริโภค