ผู้ตั้ง
ข้อความ
เข้าร่วม: 08 Jan 2015
ตอบ: 3121
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Apr 21, 2018 7:27 am
[รีวิวโนสปอย] God of War [4]
เกริ่นล่วงหน้าก่อนเลยว่า ตัวผมไม่ได้เป็นแฟนของซีรี่ส์ GoW อย่างน้อยๆก็ไม่ใช่ระดับแฟนพันธุ์แท้แน่นอน แต่ได้เล่น GoW มาแล้วทุกภาคในทุกแพลตฟอร์ม

ซึ่งถ้าจะให้รีวิวสั้นๆ จากประสบการณ์การเล่นของตัวเอง

ถ้า Monster Hunter: World คือเกมมัลติเพลย์เยอร์ระดับมาสเตอร์พีชของปีนี้ God of War[4]ก็คือเกมซิงเกิ้ลเพลย์เยอร์ระดับมาสเตอร์พีชของปีนี้เช่นกันครับ และที่สำคัญทีมงานได้ตัดสินใจเปลี่ยน God of War[4]จากเกมแอคชั่นภาคต่อ ให้กลายเป็นเกมไม่ได้ให้ความสนุกเชิงสะใจเหมือนภาคเดิมๆ แต่เป็นเกมที่ให้ประสบการณ์สมบูรณ์แบบที่น้อยเกมนักสามารถจะให้ได้ครับ

และสิ่งที่ให้ประสบการณ์ที่สมบูรณ์แบบดังกล่าวนั้นก็มีอยู่ด้วยกันสามเรื่องใหญ่ๆครับ นั่นคือ เกมเพลย์ กราฟฟิก และเนื้อเรื่องครับ

เกมเพลย์

เนื้อแท้ของ God of War ภาคนี้นั้น น่าจะเรียกได้ว่าเป็นเกม Adventure-Action มากกว่า Action-Adventure

พูดง่ายๆคือมันให้ความรู้สึกของเกมอย่าง Tomb Raider หรือ Uncharted มากกว่า GoW ภาคเก่าๆ หรือ DMC หรือเกมประเภทมุโซวครับ

จากระบบเกมแพลตฟอร์มผสมแฮคแอนด์สแลชแบบล็อกมุมกล้อง ที่เน้นการต่อคอมโบกับการกดปุ่มตามจังหวะตอนที่เปลี่ยนโหมด QTE

มาในภาคนี้ระบบคอมแบตกลายมาเป็นเกมแอคชั่นมุมมองบุคคลที่สามแบบเต็มตัวที่สามารถหมุนกล้องได้อย่างอิสระแทน

ซึ่งอาจจะทำให้แบ่งคนเล่นออกได้เป็นสองฝั่ง ที่ถ้าชอบก็จะชอบไปเลย และไม่ปลื้มไปเลยเช่นเดียวกัน

เกมเน้นที่การหลบและสวนกลับมากขึ้น ซึ่งถ้าเคยเล่นภาคเก่าๆที่ในระดับความยากสุดมาตลอดก็น่าจะปรับจังหวะได้ไม่ยาก และพอจะมีความละม้ายคล้ายคลึงกับเกมที่คนออกแบบระบบคอมแบตปลื้มและน่าจะได้รับแรงบันดาลใจมาบ้างอย่าง Nioh

ระบบคอมโบไม่ได้เน้นการต่อคอมโบยาวๆจนศัตรูตายแบบเดิม แต่เพิ่มความหลากหลายในการเข้าทำและเลือกใช้มาแทน ซึ่งอาจจะดูไม่เรียบง่ายและสะใจเหมือนเก่า

แต่เมื่อใช้จนชินแล้วนำไปเทียบกับเกมแอคชั่นเกมอื่นๆแล้ว ระบบคอมแบตของ God of War[4]มีความยืดหยุ่นสูง มีความหลากหลายมากขึ้น โดยที่ไม่ได้รู้สึกว่าส่วนไหนของคลังอาวุธค่อนข้างจะไร้ประโยชน์เหมือนกับภาคก่อนๆ และแม้จำเจ แต่กลับไม่ให้ความรู้สึกซ้ำซากเหมือนภาคที่ผ่านมาครับ

แต่จุดที่รู้สึกได้ตั้งแต่ต้นเกมและต้องขอชมจริงๆคือความรู้สึกตอนใช้งานครับ

ซึ่งทุกๆท่านน่าจะเคยได้เล่นเกมแอคชั่นกันมามากแล้ว และก็น่าจะมีเกมแอคชั่นบางเกมแน่ๆที่ให้ความรู้สึกประหลาดๆในตอนที่เล่น ไม่ว่าจะเป็นเสียงกระทบของอาวุธ ความลื่นไหลของการออกท่าหรือคอมโบ หรือความรู้สึกขัดๆที่อธิบายไม่ได้

สิ่งเหล่านี้ไม่มีเลยใน God of War[4]ครับ

ตั้งแต่ขวาน หมัด โล่ห์ ทุกท่วงท่า ทุกเสียงกระทบ ทุกคอมโบ ให้ความรู้สึกที่ไหลลื่นและใกล้เคียงกับความสมจริงมากที่สุดเท่าที่เกมๆนึงน่าจะให้ได้แล้ว แม้กระทั่งตอนเรียกขวานกลับเข้ามือก็ให้ความรู้สึกที่ดีอย่างบอกไม่ถูก ความสะใจในการใช้คอมโบยาวๆที่หายไปนั้น ในความรู้สึกของผม ทีมงานได้นำมันเปลี่ยนเป็นความรู้สึกพึงพอใจในการกระทำทุกๆอย่างในเกมแทนครับ

ในภาคนี้นั้นผู้พัฒนาเคยออกมาสัมภาษณ์ไว้ว่า พวกเขาต้องการเน้นไปทางคุณภาพมากกว่าปริมาณทั้งในเรื่องของอาวุธและเรื่องอื่นๆ ซึ่งก็เป็นไปอย่างที่พวกเขาว่า ศัตรูและบอสในภาคนี้ แม้ไม่เยอะ มาในจำนวนไม่มากเท่าเก่า และไม่ใหญ่โตพร้อมเอฟเฟคอลังการเท่าเดิม แต่ในเรืื่องของคุณภาพนั้นไม่มีที่ติเลยครับ

ความเป็น RPG ที่ทีมงานใส่มานั้น ก็เปลี่ยนรูปแบบการเล่นเกมไปจากการเก็บ Orb อัพเลเวลอาวุธเพื่อปลดล็อกคอมโบหรือสกิล กลายมาเป็นการเก็บ EXP เพื่ออัพสกิลจากสกิลทรี และเก็บวัตถุดิบตามกล่องหรือดร็อปในฉากและจากศัตรูเพื่อมาอัพเกรดหรือคราฟเกราะและอาวุธแทน ซึ่งช่วยเพิ่มในด้านความหลากหลายในการเล่น ในขณะที่ไอเท็มเพิ่มหลอดเลือดและเกจต่างๆที่มักจะได้จากการแก้พัซเซิลนั้นก็ยังคงมีอยู่เช่นเดิมครับ

ซึ่งถ้าจะให้ติในเรื่องเกมเพลย์จริงๆ ก็คงจะเป็นเรื่องของมุมกล้องที่อยู่ใกล้ตัวละครไปนิดและทำออกมาได้แปลกๆไปหน่อย โดยเฉพาะมุมกล้องแบบล็อกเป้าที่ทำให้หลบหลีกการโจมตีจากข้างๆและข้างหลังได้ยาก หากไม่ได้ดูลูกศรที่แสดงทิศทางการโจมตีประกอบ และอาจจะทำให้เสียอารมณ์ได้ถ้ายังไม่ชินครับ

กราฟฟิก

ครึ่งชั่วโมงแรกของการเล่นเกมคือช่วงที่ผมบอกกับตัวเองว่า ภาพสวยดี

หลังจากนั้นเมื่อผมเริ่มได้สังเกตอะไรหลายๆอย่าง God of War[4]ก็ได้กลายมาเป็นหนึ่งในเกมที่เป็นที่สุดของ PS4 ไปโดยปริยาย

ไม่ใช่ในเรื่องของความสวยงามที่ตาเห็นผ่านๆ แต่เป็นในเรื่องของอนิเมชั่น การกำกับภาพ และรายละเอียดในทุกๆอย่างที่ทีมงานสรรสร้างขึ้นมาให้เราเห็นครับ

อนิเมชั่นของเกมนี้หากพูดสั้นๆคืออนิเมชั่นที่ทุกการขยับสามารถสื่ออารมณ์ได้ และไม่มีจังหวะไหน(นอกจากบัค)ที่รายละเอียดเหล่านี้ผลักเราออกจากเกมด้วยความรำคาญเลย

การกำกับภาพของทีมงานอยู่ในระดับท็อป ทั้งในเรื่องของระบบคัทซีนแบบวันช็อทที่ไม่ตัดเข้าจอดำ รวมถึงการกำกับฉากสำหรับบอสแต่ละตัวด้วย เพียงแค่บอสตัวแรกๆเท่านั้น เกมก็รับประกันกับคุณได้ว่าในตลอดระยะเวลาการเล่นจนจบ เกมสามารถจะปล่อยเซอร์ไพร์สคุณภาพสูงใส่คุณได้เรื่อยๆอย่างแน่นอน

และแม้จะไม่รวมอยู่ในหมวดกราฟฟิก แต่การกำกับเสียงทั้งเสียงพากษ์ เสียงแบ็คกราวน์ รวมถึงเสียงอื่นๆของตัวเกมนั้น ก็อยู่ในระดับต้นๆของตัวเครื่องเฉกเช่นเดียวกันกับกราฟฟิกนั่นแหละครับ โดยเฉพาะเสียงพากษ์ที่พูดได้คำเดียวเลยว่ายอดเยี่ยม

สุดท้ายในเรื่องของรายละเอียด ที่ทีมงานเก็บมาทุกเม็ดไม่มีเหลือ ทั้งในด้านของสถานที่ ของประกอบฉาก และตัวละครต่างๆ การจัดวางและการออกแบบจัดเต็มมาก คนที่ชื่นชอบตำนานนอร์สรวมถึงวัฒนธรรมและภูมิประเทศของทางไอส์แลนด์น่าจะเป็นปลื้มอย่างแน่นอนครับ

แต่กลับกันก็ไม่ได้เพอร์เฟคซะทีเดียว ยังมีปัญหาอย่าง Font UI ที่เล็กจนเกินไป ซึ่งน่าจะถูกแพทหลังจากนี้่ และดูกลางๆ ไม่ดีไม่แย่ซึ่งแล้วแต่รสนิยมของแต่ละคน กับเฟรมเรทที่มีตกบ้างในระดับที่พอรับได้ แม้จะรันบนเครื่องโปรในโหมดเฟรมเรทแล้ว

เนื้้อเรื่อง

จุดด้อยของเกมแอคชั่นระดับท็อปหลายๆเกมก็มักจะเป็นเรื่องของสตอรี่

ใน GoW ภาคที่ผ่านๆมาเอง แม้ว่าเนื้อเรื่องโดยรวมแล้วจะไม่แย่ แค่มีจุดติที่ค่อนข้างเรียบเรียงได้ชวนงงพอสมควร แต่ในส่วนที่ทำได้ไม่ค่อยดีจริงๆนั้นคือพัฒนาการของตัวเอกหรือตัวเครโทสเอง

ด้วยความที่ประเด็นหลักของซีรี่ส์คือการล้างแค้น ความรุนแรง ครอบครัว(ของเครโทสเอง) และเหล่าเทพเจ้า ทำให้ตัวละครอย่างเครโทสให้ความรู้สึกแบน มีมิติเดียว และไม่คงที่ ในบางภาคนั้นก็ดีขึ้นบ้างอย่างในภาค 3 และแย่ลงในอีกหลายๆภาค และด้วยความที่ไม่ใช่จุดขายของซีรี่ส์และไม่ได้พยายามปรับปรุงในตรงจุดนี้มากนัก ก็เลยทำให้ตัวเครโทสกลายเป็นตัวเอกในเกมแอคชั่นเรียบๆทั่วไปไปโดยปริยาย

จนมาถึงภาคนี้ครับ

เครโทสไม่ได้กลายเป็นตัวละครที่ดีขึ้นเพียงเพราะกลายเป็นพ่อ แต่เพราะอารมณ์ทั่วไปของมนุษย์ของเขามันมีมากขึ้นและแสดงออกมาผ่านคำพูดและท่าทางมากกว่าเดิม ไม่เหมือนภาคเก่าๆที่มักจะเป็นความคลุ้มคลั่งเพียงอย่างเดียว

ไม่ได้หมายความว่าเครโทสกลายเป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยวดาดๆนุ้งนิ้งนะครับ เครโทสยังเป็นพ่อสไตล์ฮาร์ดคอร์ที่ใช้การเลี้ยงดูแบบถึงลูกถึงคนและเน้นประสบการณ์ภาคสนามมากกว่านั่งเทศนายาวๆ

ด้วยความที่มีอายุมากขึ้น เครโทสในภาคนี้จึงสุขุมขึ้น ใช้ความคิดมากกว่าเก่า และมักจะเป็นทั้งพ่อทั้งอาจารย์ไปพร้อมๆกัน ซึ่งผมเคยได้เปรียบกับหนังอย่าง Wolverine ไปแล้ว

ถ้าเครโทสในภาคที่ผ่านๆคือวูฟเวอรีนในช่วงของ X-men เครโทสในภาคนี้ก็คือวูฟเวอรีนใน Logan ครับ

ซึ่งหากผู้เล่นเป็นพ่อคนแล้ว น่าจะมีจุดที่เข้าถึงเขาได้มากกว่าคนทั่วๆไปอย่างน้อยๆสักจุดหนึ่ง

แต่เครโทสก็ยังคงเป็นเครโทสอยู่ครับ ความโหด ความคลั่งยังอยู่ครบ เพียงแต่เปรียบเป็นเหมือนไฟที่ลุกอยู่ในตะเกียงและพร้อมจะระเบิดออกมา มากกว่าจะเป็นกองไฟที่เผาโลกอยู่ตลอดเวลาเหมือนในภาคก่อนๆครับ

พูดแบบไม่สปอยแล้ว เอเทียส(หรือเอธีอุส)เป็นอีกหนึ่งตัวละครสำคัญ ทั้งในเรื่องของเกมเพลย์และเนื้อเรื่อง ไม่ใช่เพียงแค่ตัวละครประเภทเกสน่ารำคาญในหลายๆเกมที่คอยเดินตามเราในภารกิจต่างๆ แต่เป็นตัวละครที่หลายๆคนเข้าถึงได้ โดยเฉพาะในฐานะลูกชายคนเดียว

และนอกจากเอเทียสแล้ว บรรดาตัวละครอื่นๆทั้งตัวหลักและรองในเกมภาคนี้ เมื่อเทียบกับภาคที่ผ่านๆมาแล้ว ดูมีเสน่ห์และมีความน่าสนใจมากกว่า

ซึ่งต้องขอบคุณบทพูดของภาคนี้ ที่ทำออกมาได้ดีเหลือเชื่อ ทั้งมุกตลกที่แฝงอยู่ในการตอบโต้ของสองพ่อลูก ทั้งการแสดงอารมณ์ของตัวละครแต่ละตัว รวมทั้งการผูกปมในคำพูด ทั้งหมดพร้อมจะกระชากอารมณ์หลายๆอย่าง และอาจจะมีการยิ้มมุมปากโดยไม่รู้ตัว

เพราะฉะนั้น


God of War ภาคนี้จึงอาจจะไม่ถูกใจบรรดาแฟนพันธุ์แท้และสาวกของ GoW แบบดั้งเดิมมากนัก รวมถึงคอเกมสไตล์แพลตฟอร์มเมอร์ หรือคนที่สนใจเกมแอคชั่นแบบง่ายๆก็อาจจะไม่รับกับระบบคอมแบตแบบใหม่นี้เท่าไหร่ เช่นเดียวกันกับคนที่ไม่ได้ใส่ใจในด้านของเนื้อเรื่อง และไม่ใช่ทุกคนที่จะชอบใจกับมุมกล้องมุมมองบุคคลที่สามแบบใกล้ตัวนี้ด้วย

แต่กับสาวกเกม Adventure หรือเกมเมอร์ขาจรแล้ว ถ้าหากได้เคยเห็นเกมที่โปรโมตสรรพคุณของตัวเกมหรือระบบ แล้วกลับทำออกมาไม่ได้เท่าที่พูดไว้นั้น

สามหัวข้อใหญ่ๆที่ผมพูดขึ้นมา คือสิ่งที่ God of War ไม่ได้กล่าวอวดอ้างเอาไว้ แต่สามารถสรรสร้างขึ้นมาได้และนำมามัดรวมกันไว้เป็นเกมๆเดียวได้อย่างสวยงาม

โลกที่ถูกสร้างขึ้นมาอย่างพิถึพิถัน อุดมไปด้วยประวัติและเรื่องเล่าของตำนานนอร์ส และมากด้วยปริศนาที่รอให้ไข พัซเซิลที่สร้างขึ้นมาได้สนุก ฉลาด และใช้งานได้ โดยมีระบบการต่อสู้ที่เน้นหนักในด้านจังหวะมากกว่าการแมชปุ่ม เนื้อเรื่องที่มีแง่มุมที่เข้าถึงได้ง่าย อนิเมชั่นที่เน้นรายละเอียดชนิดหาเกมไหนมาเทียบได้ยาก ซาวด์ที่แข็งแกร่งและบทพูดที่สามารถขับเคลื่อนตัวเกมได้

ย่อหน้าข้างบนนี้คือประสบการณ์ที่ผมได้สัมผัสมาจากการเล่นและเป็นคำจำกัดความของ God of War ครับ

แถม: ระดับความยาก

หลายๆคนอาจจะได้ยินกันมาแล้วว่า God of War[4]นั้น ยากระดับเอาเรื่องเลยทีเดียว ให้เทียบก็คงเหมือนเอาเกมภาคเก่าๆระดับยากมาเปลี่ยนเป็น Normal แทนครับ

ทีนี้อีกประเด็นฮอทฮิตคือการเอาเกมความยากของเกมไปเทียบกับเกมแนวโซล

ในความคิดของผมเอง ที่เล่นเกมภาคนี้ในระดับยากสุดไปได้สักพัก God of War[4] กับเกมแนวโซล มีความยากที่ไม่เหมือนกันซะทีเดียวครับ

กล่าวคือ เกมแนวโซลยากเพราะ Level Design 50% และ Mechanics 50% ส่วน God of War[4] นั้น ยากเพราะ Mechanics 80% และ Level Design 20% ครับ

ความยากของเกมแนวโซลในส่วนของ Level Design นั้นคือกับดัก จุดที่ตก จุดที่่ศัตรูออกมา หรือลูกเล่นของฉากที่ช่วยในการต่อสู้(จุดที่ผลักตกได้ หรือจุดที่ระเบิดได้) เป็นต้น ทำให้การเล่นเกมแบบโซลในรอบหลังๆนั้น ความยากจะลดหลั่นลงไปแทบจะเท่าตัว นอกเสียจากจะเป็นฉากใหม่หรือศัตรูรอบใหม่ออกมาจากจุดที่ไม่เหมือนเดิม

ดังนั้นความยากของเกมโซลในรอบหลังๆ ก็จะไปอยู่ที่ Mechanics เกมแทนครับ ที่ต้องมากะจังหวะเข้าฟันหรือกลิ้งหลบเข้าออกจากตัวศัตรู และใช้การสังเกตจังหวะของศัตรูและบอสแทน ซึ่งบางครั้งแม้จะรู้แต่ผิดพลาด ผลก็คือการตายรัวๆครับ

พูดได้ว่าถ้า Mechanics ของเกมซีรี่ส์โซลคือยากและอย่าพลาด Mechanics ของ God of War[4]คือยากและพลาดไม่ได้ครับ

คอมแบตในเกมนี้ต้องประกอบด้วยสองอย่างตลอดเวลาคือรู้ว่าศัตรูหรือบอสจะโจมตีแบบไหน กับต้องทำอะไรในตอนนั้นๆ ซึ่งต้องใช้ความว่องไวและการกดใช้ในระดับค่อนข้างเป๊ะมากกว่าเกมในแนวโซลครับ โดยเฉพาะในระดับความยากสูงๆ ที่พลาดคือตายจริงๆ

ประกอบกับการทีี่ศัตรูของเกมนี้ แม้มาเท่าไหร่เก่าแต่ก็เรียกได้ว่าเยอะและมาเป็นเวฟ ทำให้มันยิ่งบวกความยากเข้าไปใหญ่ โดยเฉพาะในตอนที่เริ่มมาคละแบบ ความยากระดับสูงสุดของเกมนี้นั้น เหมือนมีไว้ให้เฉพาะสายฮาร์ดคอร์พันธุ์แท้และมาโซติสท์เท่านั้นครับ

แต่กลับกัน God of War[4]ไม่ได้ไปยากที่ Level Design เลยครับ ไม่ได้มีกับดัก หรือเหวที่คุณกลิ้งตกตายได้เรื่อยๆจนสบถด่าหน้าทีวีได้ จะมีก็แค่จุดเติมเลือด จุดที่ผลักศัตรูตกได้บ้างแค่นั้นเองครับ

ดังนั้นในส่วนของผมแล้ว God of War[4]นั้น ยากจริงแต่ยากในส่วนของคอมแบตล้วนๆที่ไม่เหมือนเกมซีรี่ส์โซลที่ไปยากในส่วนของฉากใหม่ๆแต่ละฉากด้วยนั่นเองครับ


เกร็ดเล็กน้อย 1: คุณ Cory Balrog โปรดิวเซอร์ของเกม God of War เคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า หัวหน้าทีมออกแบบระบบคอมแบต บูชาระบบคอมแบตของ Nioh มาก และลูกทีมส่วนที่เหลือก็เป็นแฟนเดนตายของเกมแนวโซลอีกด้วยครับ ฉะนั้นคอมแบตของเกมนี้จึงออกมายากขนาดต้องร้องขอชีวิตกันเลยทีเดียว

เกร็ดเล็กน้อย 2: ดังนั้นจึงมีถ้วย Achievement ชื่อ The Speed of Jason McDonald เนื่องจากหัวหน้าทีมออกแบบระบบคอมแบต คุณ Jason นั้นเป็นเกมเมอร์ระดับฮาร์ดคอร์ขั้นเทพ และมักจะสปีดรันเกมยากๆอยู่เสมอๆครับ รวมถึง God of War[4] ในระดับความยากเกือบสุดด้วย
เข้าร่วม: 10 Jun 2007
ตอบ: 8755
ที่อยู่: Jamaica Rd. London
โพสเมื่อ: Sat Apr 21, 2018 7:41 am
[RE: [รีวิวโนสปอย] God of War [4]]
เพื่อไม่ให้ซีรี่ย์นี้มันตายไปตามสมัยนิยม การเอาชื่อ God of war มาเริ่มใหม่ในรูปลักษณ์ที่ดูร่วมสมัยขึ้น เกมเพล์ที่ดูเป็นปัจุบันมากขึ้น ทีมงานมีความเสี่ยงมาก แต่สุดท้ายก็ทำออกมาได้ดีมากทีเดียว ต้องชื่นชมอย่างมาก แต่ก็เข้าใจเสียงของอีกฝ่ายนะที่เสียดายตัว God of war ในรูปแบบเดิม แต่ก็ต้องเข้าใจด้วยว่าโลกเปลี่ยนแปลงตลอด วงการเกมก็เช่นกัน ถ้าค่ายเกมส์เอาแต่ยึดติดอะไรเดิมๆ สุดท้ายก็คงต้องแพ้ไป ซีรี่ย์นี้ก็เหมือนกันถ้ายังทำแนวทางเดิมๆ เปลี่ยนแปลงกราฟฟิคเอา เพิ่มลูกเล่นนิดหน่อย เดี๋ยวสุดท้ายคนก็เบื่อแล้วซีรี่ย์มันก็จะถูกลบเลือนหายไปตามกาลเวลา ซึ่งมันน่าเสียดายออก เปิดใจให้กับการเริ่มต้นใหม่ของ God of war ซะหน่อยแล้วจะพบว่ามันคือสุดยอดเกม เกมนึงเลย


จริงๆถ้ามันไม่ได้ใช้ชื่อ God of war กระแสอีกด้านน่าจะน้อยกว่านี้
เข้าร่วม: 08 Jan 2015
ตอบ: 3121
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Apr 21, 2018 7:51 am
[RE: [รีวิวโนสปอย] God of War [4]]
Ku_Inw พิมพ์ว่า:
Spoil
เพื่อไม่ให้ซีรี่ย์นี้มันตายไปตามสมัยนิยม การเอาชื่อ God of war มาเริ่มใหม่ในรูปลักษณ์ที่ดูร่วมสมัยขึ้น เกมเพล์ที่ดูเป็นปัจุบันมากขึ้น ทีมงานมีความเสี่ยงมาก แต่สุดท้ายก็ทำออกมาได้ดีมากทีเดียว ต้องชื่นชมอย่างมาก แต่ก็เข้าใจเสียงของอีกฝ่ายนะที่เสียดายตัว God of war ในรูปแบบเดิม แต่ก็ต้องเข้าใจด้วยว่าโลกเปลี่ยนแปลงตลอด วงการเกมก็เช่นกัน ถ้าค่ายเกมส์เอาแต่ยึดติดอะไรเดิมๆ สุดท้ายก็คงต้องแพ้ไป ซีรี่ย์นี้ก็เหมือนกันถ้ายังทำแนวทางเดิมๆ เปลี่ยนแปลงกราฟฟิคเอา เพิ่มลูกเล่นนิดหน่อย เดี๋ยวสุดท้ายคนก็เบื่อแล้วซีรี่ย์มันก็จะถูกลบเลือนหายไปตามกาลเวลา ซึ่งมันน่าเสียดายออก เปิดใจให้กับการเริ่มต้นใหม่ของ God of war ซะหน่อยแล้วจะพบว่ามันคือสุดยอดเกม เกมนึงเลย


จริงๆถ้ามันไม่ได้ใช้ชื่อ God of war กระแสอีกด้านน่าจะน้อยกว่านี้  
 


เอาจริงๆคือผมเข้าใจฝั่งที่ไม่ชอบการเปลี่ยนเกมเพลย์นะ

อย่างผมเองเป็นสาวกเกมมุโซวที่เล่นมาตั้งแต่ภาคแรกใน PS2 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งถามว่าผมชอบเกมเพลย์ของ DW9 กับการเปลี่ยนเป็นโอเพ่นเวิร์ดมั้ย? บอกเลยครับว่าไม่ชอบ

กลับกันที่ผมเล่น GoW มาทุกภาค ถามว่าชอบเกมเพลย์ของภาคนี้กับการเปลี่ยนเป็นมุมมองบุคคลที่สามแบบนี้มั้ย? บอกเลยว่าชอบมากครับ

สองซีรี่ส์นี้ตัดสินใจเปลี่ยนคอร์เหมือนกัน สิ่งที่ต่างกันคือซีรี่ส์นึงเวิร์ค อีกซีรี่ส์นึงไม่เวิร์คครับ

พอมีคนมาบอกว่าไม่ชอบเพราะซีรี่ส์นี้ไม่ควรเปลี่ยนเกมเพลย์ไปมันเลยเป็นเหตุผลที่โอเค พอฟังขึ้นอยู่ครับ

แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องยอมรับมุมมองของอีกฝั่งนึงด้วยว่าเกมมันไม่ได้โอเวอร์ไฮป์เลยเพราะเกมมันดีจริงๆ
0
0
เข้าร่วม: 21 Dec 2009
ตอบ: 3386
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Apr 21, 2018 8:06 am
[RE: [รีวิวโนสปอย] God of War [4]]
ผมว่า มันโอเคแล้วนะ ไม่ใช่แค่เล่นเอามันส์ สะใจ ไม่ใช่ฝีมือเหมือนเมื่อก่อน
หลายคนอาจจะคิดว่าตรงนี้มันคือจุดบอดที่เอาคอมโบออกไป เอาความสะใจออกไป
แต่ก็ดูตามเนื้อเรื่องด้วย ว่าภาคนี้มีเด็กเข้ามาเป็นตัวประกอบด้วย จะเอามันส์ สะใจ
ดีเดือด บ้้าคลั่งเหมือนเมื่อก่อน คงดูน่าเกียจ
0
0
เข้าร่วม: 27 Nov 2010
ตอบ: 13361
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Apr 21, 2018 8:09 am
[RE: [รีวิวโนสปอย] God of War [4]]
วันนี้บ่ายๆไปเอาแผ่น เย็นๆน่าจะได้เล่น
0
0


ฝากกดไลค์เพจหน่อยนะครับ แฮร่ๆ

https://www.facebook.com/SynysterGamingTV


เข้าร่วม: 26 Jan 2011
ตอบ: 5128
ที่อยู่: The Bridge
โพสเมื่อ: Sat Apr 21, 2018 9:07 am
[RE][รีวิวโนสปอย] God of War [4]
แค่ได้เล่นพี่เหม่งอีกครั้งก็พอแล้ว เกมเพลย์เปลี่ยนไม่เปลี่ยนช่างมัน
0
0
Chelsea-Milan-MuangthongxIZONEKimChaeWon-LOONAKimlip--WJSN L U D Axฝูงเป็ดแฟมิลี


เข้าร่วม: 13 Mar 2018
ตอบ: 2227
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Apr 21, 2018 10:38 am
[รีวิวโนสปอย] God of War [4]
ขึ้นมาว่าเป็น god of war ผมเล่นทุกภาคครับ ฝ

ผมว่ามันก้อเหมือนดูหนังภาคต่อหลายๆภาค แต่ละภาคมันก้อต่างออกไป ภาคนี้เดินฆ่ามันส์ ภาคต่อไปเข้าถ้ำฝึกวิชา สนุกดีครับ กินข้าวเรายังกินกับหลายอย่างเลย เปลี่ยนรสชาตบ้าง ดีออกครับ 555
0
0
เข้าร่วม: 21 Oct 2010
ตอบ: 1219
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Apr 21, 2018 1:10 pm
[RE: [รีวิวโนสปอย] God of War [4]]
มันยากเหมือนดาคโซลหรือบลัดบอนมั้ยครับ
ว่าจะซื้อหลังไปดูอินฟินิตี้วอ
0
0
เข้าร่วม: 08 Jan 2015
ตอบ: 3121
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Apr 21, 2018 6:55 pm
[RE: [รีวิวโนสปอย] God of War [4]]
anovation พิมพ์ว่า:
มันยากเหมือนดาคโซลหรือบลัดบอนมั้ยครับ
ว่าจะซื้อหลังไปดูอินฟินิตี้วอ  


เขียนแถมให้แล้วนะครับด้านล่างรีวิว

สรุปให้สั้นๆ มันยากที่คอมแบตเพียวๆครับ ไม่มีความยากของฉาก พวกกับดัก เหว หรือศัตรูจ๊ะเอ๋ แบบในซีรี่ส์โซล

แต่ถ้าถามเพราะชอบความยาก เกมยากจริงครับ แต่ไม่ได้ยากแบบไม่สมเหตุสมผล หรือยากโง่ๆประเภทเพิ่มเลือดมอนเข้าไปเยอะๆ ลดพลังเราลงไปน้อยๆ เพราะมอนในโหมดความยากสุดจะใช้ AI คนละแบบกับโหมดธรรมดาครับ

ซึ่งความยากระดับสูงสุดของเกมนี้ การันตีไมเกรนครับ ยากชนิดที่ว่าตายเป็นยี่สิบสามสิบครั้งในฉากสู้ฉากแรกได้เลย
เข้าร่วม: 27 Nov 2010
ตอบ: 13361
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Apr 21, 2018 8:02 pm
[RE: [รีวิวโนสปอย] God of War [4]]
ลองดูละ ขัดใจเรื่องมุมกล้อง ที่ค่อนข้างแคบไปหน่อย

ที่เหลือก็โอเคดี ยังเล่นไปไม่ไกลเท่าไร
0
0


ฝากกดไลค์เพจหน่อยนะครับ แฮร่ๆ

https://www.facebook.com/SynysterGamingTV