ทำไม Michael Jackson ถึงผิวขาว
เหตุเกิดเมื่อตอน ตีสามครึ่ง...
รู้สึกปวดท้องฉี่ จะไปเข้าห้องน้ำ...จังหวะนั้น คลื่นวิทยุกีฬาที่ฟังประจำ เปิดเพลงก่อนเข้ารายการเป็น Smooth Criminal...พอเพลงจบ ผู้ดำเนินรายการก็คุยเกี่ยวกับ ไมเคิล เล็กน้อย...
มีคนหนึ่งถามว่า ที่ ไมเคิล สีผิวกลายเป็นแบบนี้ เพราะว่า เขาเปลี่ยนเอง หรือว่า เป็นโรค?
คนจัดอีกคนหนึ่งก็สวนขึ้นมาเลยว่า (ถึงกับต้องไปนั่งฟังย้อนหลังถอดเทปกันเลย - -")
"เขาเป็นคนอยากขาว ตามสไตล์น่ะ ก็ศิลปินอะไรยังเงี้ย มีการไปทำศัลยกง ศัลยกรรม ทำให้มันขาว แต่พอไปทำเยอะๆปุ๊บ มันกลายเป็นว่าไปทำให้ผิวบาง...สุดท้ายก็เลยแบบ ออกแดดไม่ได้ ต้องชุบตัว ทำตัวแอบๆ หลบแดด อะไรอย่างงั้น..."
ฟังแล้วถึงกับนอนไม่หลับเลยทีเดียว...ได้แต่นั่งถอนหายใจยาวๆไป...- -"
-----------------------------------------
คือก็เข้าใจแหละ ว่ายังมีคนอีกมากที่อาจจะยังไม่ได้รู้จักเรื่องราวของผู้ชายที่ชื่อ Michael Jackson กันอย่างจริงจังมากเท่าไหร่นัก...ส่วนใหญ่มักจะรู้จักจากการฟังเพลงผ่านๆไป...ไม่ค่อยมีใครสนใจติดตามเรื่องราวชีวิตของแกเทื่าไหร่หรอก ถ้าไม่ใช่แฟนๆ...
เรื่องราวส่วนใหญ่ที่มักจะรับรู้กัน ก็มาจากสื่อทั้งหลายแหล่...และก็เพราะพวกสื่อนี่แหละ ที่เป็นส่วนสำคัญที่ทำลายชีวิตพี่แก...เพียงเพราะว่า มึงเขียนข่าวอะไรก็ได้ แค่ใส่ชื่อ Michael Jackson ลงไป ยังไงก็ขายได้...- -"
และ 1 ในเรื่องที่คนเข้าใจผิดเกี่ยวกับพี่แก ก็คือ สีผิว...
หลายๆคนอาจจะรู้ หรืออาจจะไม่รู้ ว่าแกเป็นคนดำ...แต่พอมายุค 90's...ผิวพี่แกขาวจั๊วะ...ซึ่งมันก็มีการตีข่าวออกมาว่าแกไปเปลี่ยนสีผิว เพราะว่าแกไม่ชอบในชาติพันธุ์ของตัวเองบ้าง อยากจะทำให้ดูดีบ้าง...ซึ่งเมื่อรวมกับเรื่องราวอีกมากมายที่อาจจะดูแปลกไปจากคนทั่วไปของแกนั้น มันก็ยิ่งทำให้พวกข่าวเชี่ยๆพวกนี้ มันอ่านและฟังดูมีน้ำหนัก...- -"
ตลอดเวลา ตั้งแต่เกิดจนตาย...แกยืนยันมาโดยตลอดว่า แกเป็นคนดำ และแกภูมิใจในความเป็นคนดำ ภูมิใจในชาติพันธุ์ที่มาจาก Africa...และแกไม่เคยคิดอยากที่จะเป็นคนขาวเลยแม้แต่น้อย...
แต่ที่แกต้องเป็นเช่นนี้...เป็นเพราะว่าโรค Vitiligo...มันคือ โรคด่างขาว...แล้วเสือกเป็นชนิดรุนแรงที่สุดด้วย!!
แกเริ่มจะพบเจอความผิดปกติมาตั้งแต่ต้นยุค 80's แล้ว...อยู่ๆก็มีรอยด่างสีขาวเกิดขึ้นบนตัว...และมันก็ค่อยๆลามใหญ่ขึ้น และ มากขึ้น...
ไมเคิล เป็นคนที่กังวลเกี่ยวกับ รูปลักษณ์ ของตัวเองมาก...แน่นอนว่าเขาพยายามหาทางรักษา...เคสของ คนผิวสี รักษายากกว่า คนผิวขาว ที่เป็นโรคนี้เยอะ...แค่กินยา ทาครีมปิด มันไม่อยู่...
และด้วยความที่เป็นชนิด Universal Vitiligo ที่รุนแรงที่สุด คือ มันจะลามไปทั้งตัว...ทำให้การรักษาวิธีต่างๆ มันก็ยังไม่สามารถทำให้ดีขึ้นและหายได้อย่างเด็ดขาดอยู่ดี...ยกเว้น ทางเลือกสุดท้าย...
ต้องทำลายเซลล์เม็ดสีทิ้งไปให้หมด...ซึ่งมันก็ไม่ได้หมดไป 100% อยู่ดีแหละ แค่ทำให้เหลือเซลล์เม็ดสีให้น้อยที่สุด...เพราะว่า ถ้าคนขาว เป็นโรคนี้ มันแค่ทาครีมปิดๆก็พอจะเนียนได้อยู่...และพอไม่มีเซลล์เม็ดสี มันก็เลยทำให้ สีผิวของแก กลายเป็นสีขาวขึ้นมานั่นเอง...แล้วพอเหลือส่วนไหนที่ทำลายไม่หมด ก็จะยังมีจุดกระดำกระด่างอยู่บ้างเล็กน้อย...ทาครีมปิดกันไป....
แต่พอไม่มีเซลล์เม็ดสี...ผิวก็จะบางกว่าคนทั่วไป และ ทนต่อแสงแดดได้น้อยกว่าปกติ...จำเป็นจะต้องหลีกเลี่ยงแสงแดดจัดๆ...
จึงเป็นที่มาของ การแต่งตัวด้วยชุดประหลาดๆ และ พฤติกรรมที่ดูเหมือนจะ หลบๆซ่อนๆ ของแกนั่นเอง...- -"
แกก็อุตส่าห์ออกมาเปิดเผยในรายการของ Oprah ในปี 1993 แล้วด้วยซ้ำ...แต่คนส่วนใหญ่ก็ยังไม่ค่อยจะเชื่ออยู่ดี..ไปเชื่อพวกสื่อ tabloid ต่างๆมากกว่า...- -"
จนกระทั่งแกตายไปนี่แหละ หลักฐานเริ่มชัดเจนขึ้น คนก็ถึงจะเริ่มรับรู้กันเสียที...
และเอาจริงๆนะ...Prince ลูกชายคนโตของแก ก็เป็น Vitiligo เหมือนกันด้วยซ้ำ...โรคนี้มันมักจะเกิดจากพันธุกรรม...ก็ปิดประเด็นเรื่อง ไม่ใช่ลูกแก ไปได้อีกข้อ...- -"
ในฐานะที่ตอนนี้อายุ 30 ปี...และเป็นแฟนของ ไมเคิล มาตั้งแต่ 7-8 ขวบ...กว่า 20 ปีที่ผ่านมา แม่งเจอเรื่องเหนื่อยใจมาเยอะละ...สิ่งที่แฟนๆพอจะช่วยแกได้ ก็มีแค่ ช่วยชี้แจงข้อเท็จจริงในสิ่งที่มันผิดนี่แหละ...
ไม่จำเป็นว่าจะต้องมารักมาชอบแกก็ได้...แต่อย่างน้อย อยากให้ได้รู้จักตัวตนจริงๆของแกก็ยังดี ไม่อยากให้เกิดภาพจำที่ผิดๆไปว่า Michael Jackson เป็นคนแปลกๆแบบนี้ - -"
แต่ก็นะ...ยังมีคนอีกมาก...มากกว่าด้วยซ้ำ...ที่ยังคงเชื่อว่า ไมเคิล อยากขาว...และก็กระจายข้อมูลผิดๆแบบนี้ออกไปต่อ...
แม้กระทั่ง คนที่เป็น สื่อมวลชน เองด้วยซ้ำ...-"
credit:
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=10214443742679256&id=1589702105
edit:แก้คำผิดกับลบคำหยาบจากต้นเรื่องเล็กน้อย