ผู้ตั้ง
ข้อความ
เข้าร่วม: 08 Jan 2015
ตอบ: 645
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Mar 22, 2018 8:08 am
บทความบัลลงดอร์ 2013
จากที่วันก่อนเพจ "วิเคราะห์บอลจริงจัง" ลงบทความเรื่องบัลลงดอร์ 2010 ของเมสซี่ไปแล้ว เมื่อวานเค้าก็ลงเรื่องปี 2013 ของโรนัลโด เลยแชร์มาให้อ่านครับ (เนื้อหาส่วนมากเหมือนเดิม ต่างกันแค่รายละเอียด แต่ผมขอกอปมาทั้งหมดนะครับ ให้เกียรติผู้เขียน)

ปล.ย่อหน้าเด็ดของเค้าอยู่ที่วรรคสุดท้ายครับ "บทสรุปสุดท้ายจากแอดมิน" ใครขี้เกียจอ่านน้ำเยอะข้ามไปตรงนั้นเลยก็ได้ครับ


========================================

คริสเตียโน่ โรนัลโด้ คือนักเตะหมายเลขหนึ่งของโลกอย่างไร้ข้อกังขา

เขาคือสุดยอดนักเตะในรอบศตวรรษ เป็นเจ้าของสถิติมากมาย และได้แชมป์มาแล้วทั้งหมดในระดับสโมสร

ขณะที่ทีมชาติ ก็คว้าแชมป์ยูโร 2016 ได้สำเร็จเมื่อสองปีก่อน

สำหรับบัลลงดอร์ เขาคือคนที่ได้รางวัลนี้มากที่สุด เทียบเท่ากับลีโอเนล เมสซี่ คือ 5 สมัย

ใน 5 บัลลงดอร์ที่โรนัลโด้ได้ มีอยู่ 4 ครั้งที่เขาได้มาแบบเหมาะสม ทุกคนยอมรับโดยดี

แต่มีอยู่แค่ครั้งเดียวเท่านั้น ที่เหมือนจะเป็นจุดด่างพร้อยเล็กๆ ที่ผู้คนยังพูดถึงกันอยู่จนถึงวันนี้ คือไม่ใช่ว่าโรนัลโด้ไม่เก่ง แต่เพียงแค่ ปีนั้น มีคนที่คู่ควรกว่าเขา

นั่นคือรางวัลฟีฟ่า บัลลงดอร์ในปี 2013

ความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ของบัลลงดอร์ มันนำมาสู่ความวุ่นวายในการประกาศรางวัล

เราจะย้อนไปดูอีกครั้ง ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ณ นาทีนั้น

-----------------------------------------

ตั้งแต่ปี 1956 นิตยสารฟรองซ์ ฟุตบอล แม็กกาซีนรายสัปดาห์ของฝรั่งเศส มีธรรมเนียม มอบ "ลูกบอลทองคำ" หรือ บัลลงดอร์ ให้กับนักเตะยุโรปที่มีผลงานดีที่สุดในปีนั้นๆ

จริงอยู่การมอบรางวัลนั้น มีหลายสถาบันที่มอบ แต่สาเหตุที่ทำให้ฟรองซ์ ฟุตบอล ได้รับความน่าเชื่อถือมากที่สุด คือการให้นักข่าว ในทวีปยุโรป เป็นคนโหวต โดยแต่ละประเทศ จะมีนักข่าวที่ถูกคัดเลือกแค่ 1 คนเท่านั้น

นักข่าวแต่ละคนมีความรู้ความเข้าใจในฟุตบอลเป็นอย่างดี และรู้ว่า ใครที่คู่ควรที่สุดกับการได้รางวัลนี้ที่สุด

ดังนั้น จึงไม่เคยมีปัญหาใดๆทั้งสิ้น ยิ่งเวลาผ่านไป บัลลงดอร์ ยิ่งได้รับความน่าเชื่อถือมากขึ้นเรื่อยๆ

ในปี 1991 ฟีฟ่า ได้สร้างรางวัล "ฟีฟ่า เวิลด์เพลย์เยอร์ ออฟ เดอะ เยียร์" ขึ้นมาสู้กับบัลลงดอร์ แต่ก็ไม่ได้รับความนิยมเท่า เพราะผู้คนยังคิดเสมอว่า บัลลงดอร์คือรางวัลที่ศักดิสิทธิที่สุด

มาจนถึงปี 2009 ฟีฟ่า ตัดสินใจยอมรับความจริง ว่ายังไง บัลลงดอร์ก็เป็นรางวัลที่นิยมสูงสุด ไม่มีทางที่ฟีฟ่าจะทำลายความน่าเชื่อถือนี้ได้

พวกเขา จึงทำข้อเสนอไปที่ฟรองซ์ ฟุตบอล ขอสิทธิในการประกาศรางวัล ให้อยู่ในมือของฟีฟ่า เพื่อยกระดับให้รางวัลมีความยิ่งใหญ่มากขึ้น จากเดิมเป็นสื่อเอกชนที่แจกรางวัลให้นักเตะเอง พัฒนาให้กลายมาเป็นธรรมเนียมของฟีฟ่าแทน

ในมุมของฟีฟ่า เมื่อต่อต้านไม่ได้ ก็เข้าร่วมไปเลย

ส่วนในมุมของฟรองซ์ ฟุตบอล เป็นการยกระดับนิตยสารของตัวเอง ให้ก้าวไปสู่ระดับโลกอย่างแท้จริง โดยมีฟีฟ่า เป็นแบ็กอัพอยู่ด้านหลัง

ก็ถือเป็นการสมประโยชน์ ทั้ง 2 ฝ่าย

ดังนั้น จึงมีการเซ็นสัญญากัน 6 ปี ระหว่างปี 2010-2015 และเปลี่ยนชื่อรางวัล จากบัลลงดอร์ เป็นฟีฟ่า บัลลงดอร์ ส่วนฟีฟ่า เพลเยอร์ ออฟ เดอะ เยียร์ ก็มีอันยกเลิกไป

-----------------------------------------

จุดที่น่าสนใจอยู่ตรงนี้ คือ ฟีฟ่า ไม่ได้มาแต่ชื่อ แต่ขอเข้ามาเปลี่ยนกฎเกณฑ์การมอบรางวัลด้วย

จากเดิมให้แค่นักข่าวในยุโรป มีสิทธิโหวต คราวนี้ คนที่มีสิทธิโหวต ประกอบไปด้วย นักข่าวจาก "ทั้งโลก" , กัปตันทีมชาติทุกชาติ และ โค้ชทีมชาติทุกชาติ รวมทั้งสิ้นเกือบ 6 ร้อยคน

จากเดิม มีนักข่าวของยูฟ่า ไม่เกิน 100 คนต่อปี แต่ละคนเข้าใจเป็นอย่างดี ว่า ผู้เล่นคนไหนคือนักเตะดีที่สุดแห่งปี การเลือกตัวผู้เล่น มีชื่อเสียงของสำนักพิมพ์ตัวเองเป็นเดิมพัน ดังนั้นไม่มีเลือก มั่วซั่วตามใจชอบให้เห็น

แต่พอกลายมาเป็น เกือบหกร้อยคน กัปตันทีมชาติ หรือโค้ชทีมชาติบางคน เต็มไปด้วยอคติ บางคนเลือกเพราะเป็นคนทวีปเดียวกัน บางคนเลือกเพราะว่าชอบส่วนตัว ไม่ได้อิงผลงานทั้งฤดูกาล

ในปี 2013 ฟาติห์ เตริม โค้ชตุรกี เลือกอันดับ 1 เป็นเมซุต โอซิล นักเตะเยอรมันที่มีเชื้อสายเติร์ก หรือ สตีเฟ่น เคชี่ โค้ชไนจีเรีย ก็เลือกยาย่า ตูเร่ ชาวไอวอรีโคสต์ เป็นอันดับหนึ่ง ซึ่งก็โดนวิจารณ์ว่าเฮ้ย เลือกมาเพราะอยู่ทวีปเดียวกันนี่นา

แต่ละคน ไม่ได้เข้าใจอย่างแท้จริง ว่าการเลือก ต้องดูตรงไหนบ้าง พวกเขาหลายคน เลือกใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผล

ในปี 2013 ผลงานของนักเตะทั่วโลก ไม่มีใครเด่นไปกว่าฟรองค์ ริเบรี่

ริเบรี่ เล่นได้อย่างเหลือเชื่อกับ บาเยิร์น มิวนิค เขาคว้าแชมป์ทุกแชมป์ที่ลงเล่น จะมีทีมไหนในโลกที่ขยี้บาร์ซ่าเหย้าเยือน รวม 7-0 ได้ แต่บาเยิร์นของริเบรี่ทำได้

ขณะที่ในบุนเดสลีกา 34 นัดทั้งฤดูกาล แพ้แค่ 1 เกม ได้แชมป์ไปแบบเหนือชั้นสุดๆ ส่วนเดเอฟเบ โพคาล ก็ไม่มีอะไรพลาด คว้าแชมป์ได้เหมือนกัน

ตามปกติแล้ว ในปีที่ไม่มีทัวร์นาเมนต์เมเจอร์ ส่วนใหญ่เกณฑ์การตัดสินบัลลงดอร์ จะดูผลงานในแชมเปี้ยนส์ลีกเป็นหลัก ตัวอย่างเช่น ฌอง-ปิแอร์ ปาแป็งในปี 1991 ได้แชมป์ยุโรป ก็ได้บัลลงดอร์ไปด้วย หรือกาก้า ในปี 2007 ได้แชมป์ยุโรปก็ตามด้วยบัลลงดอร์

ดังนั้น ว่ากันตรงๆ ริเบรี่ คู่ควรสุด

สถิติของริเบรี่ วิ่งในแชมเปี้ยนส์ลีก คือเฉลี่ยเกมละ 11.85 กิโลเมตร ซึ่งมากที่สุด ยิ่งกว่านักเตะคนไหน

สถิติการแอสซิสต์ของริเบรี่ ฤดูกาลนั้นคือ 29 ลูกทุกรายการ มากที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง และอย่าลืม ประตูชัย ที่ร็อบเบนยิงได้ในแชมเปี้ยนส์ลีก ปี 2013 นัดชิง คนแอสซิสต์คือริเบรี่นะ

ขณะที่โรนัลโด้ ผลงานในฤดูกาลนั้น เรอัล มาดริด จบอันดับ 2 ในลีก, ได้รองแชมป์โกปาเดลเรย์ ตกรอบรองแชมเปี้ยนส์ลีก แถมดาวซัลโวยังได้อันดับ 2 อีกต่างหาก

คือ โรนัลโด้ ไม่มีแชมป์อะไรสักอย่าง ไม่มีผลงานที่จับต้องได้เลย

ว่ากันตรงๆ ไม่มีทางที่ โรนัลโด้จะพลิกสถานการณ์มาได้บัลลงดอร์แน่ๆ

แต่ก็มีจุดเปลี่ยนเกิดขึ้น คือ ตอนแรกสุด ฟีฟ่า ประกาศปิดรับผลโหวตคะแนนเสียงบัลลงดอร์ ในวันที่ 15 พฤศจิกายน

อย่างไรก็ตาม อยู่ๆ ฟีฟ่า ก็ตัดสินใจขยาย วันโหวตบัลลงดอร์ ให้ไปสิ้นสุดวันที่ 29 พฤศจิกายนแทน อย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย

และมันช่างบังเอิญ ที่ในวันที่ 19 พฤศจิกายน เกมเพลย์ออฟไปบอลโลก ของโปรตุเกส กับสวีเดน เป็นโรนัลโด้ ยิงแฮตทริก พาโปรตุเกส ไปบอลโลกอย่างงดงาม

ซึ่งเมื่อ โรนัลโด้ มาโชว์ผลงานดีในช่วงท้าย ทำให้มันไปเข้าตา บรรดาโค้ช และกัปตันทีมชาติ จนเทคะแนนเสียง กลับมาให้โรนัลโด้กันอย่างล้นหลาม ในชั่วข้ามคืน

"ผมไม่มีคำอะไรจะพูด" ฟรานเซส อากีลาร์ นักข่าวจากมุนโด้ เดปอร์ติโบเผย

"กำหนดการแรกของฟีฟ่า คือไม่เอาผลการแข่งขัน หลังจากวันที่ 15 พฤศจิกายนมาคิด แล้วการขยายเวลาโหวต มันแปลว่า ต้องการให้โรนัลโด้ได้เปรียบ ใช่หรือไม่?"

ผลการโหวตบัลลงดอร์ ถูกประกาศออกมา ในส่วนของนักข่าว ริเบรี่ ได้คะแนนโหวตอันดับหนึ่ง 80 คน , โรนัลโด้ ได้ 48 คน ส่วนเมสซี่ได้ 31

ถ้าหากนับแค่นักข่าวอย่างเดียว ริเบรี่ จะได้บัลลงดอร์

แต่สุดท้าย เมื่อนับผลรวม จากกัปตันและ เฮดโค้ชทีมชาติด้วย อยู่ๆริเบรี่ร่วงลงไปอันดับสามเฉยเลย แพ้ทั้งโรนัลโด้ ทั้งเมสซี่

จริงอยู่โรนัลโด้ อาจเป็นยอดนักเตะแห่งยุค

แต่ถ้าถามว่า ฤดูกาล 2012-13 เขาคือนักเตะที่มีผลงานดีที่สุดอย่างนั้นหรือ?

มันอาจจะไม่ใช่อย่างนั้น

-----------------------------------------

แน่นอน นี่ไม่ใช่ความผิดอะไรของโรนัลโด้ เขาได้รับคะแนนโหวตมากที่สุด เขาก็มีสิทธิได้รับรางวัล

แต่มันก็ช่วยไม่ได้เช่นกัน ที่ไอเดียประหลาดของฟีฟ่า ทั้งให้กัปตันทีมชาติ และเฮดโค้ช ที่ไขว้เขวตามอารมณ์ได้ง่าย เลือกเทไปยังโรนัลโด้ ที่มีชื่อเสียงกว่า

ที่สำคัญ ยังมีการเปลี่ยนวันปิดโหวตอีก ทำให้ท้ายที่สุดแล้ว นี่เป็นบัลลงดอร์ที่โรนัลโด้ โดนตั้งคำถาม

สำหรับฟรองซ์ ฟุตบอล หลังจากหมดสัญญา 6 ปี กับฟีฟ่า ก็ตัดสินใจ ยุติความสัมพันธ์ และเอาบัลลงดอร์มาประกาศเอง

จากนั้นก็ปรับกฎ ยกเลิกการโหวตของกัปตันทีมชาติกับโค้ช เหลือเพียงแค่ผู้สื่อข่าว 173 ชาติ ทั่วโลกเท่านั้นที่มีสิทธิโหวต

เชื่อว่าจากนี้ไป การประกาศบัลลงดอร์ คงไร้ข้อกังขาอีก ซึ่งที่ผ่านมาสองครั้ง หลังจากที่ฟรองซ์ฟุตบอล ไม่ต่อสัญญากับฟีฟ่า ทุกฝ่ายก็ให้การยอมรับเป็นอย่างดี

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ผ่านไปแล้ว คงย้อนหวนคืนกลับมาไม่ได้ และเกียรติยศของ ฟรองค์ ริเบรี่ ที่หวังจะขึ้นไปสู่จุดสูงสุดของโลกสักครั้ง ก็ไม่มีวันมาถึง

"ผมชนะทุกอย่าง ผมเล่นดีกับทีม ผลงานส่วนตัวผมก็ดี แต่โรนัลโด้ไม่ชนะอะไรเลยแม้แต่รายการเดียว" ริเบรี่เผยความรู้สึก

"ผมชนะทุกรายการ ผมไม่สามารถชนะอะไรได้มากกว่านี้อีกแล้ว สำหรับผม มันเหมือนถูกขโมย"

"และจากนี้ไป คำว่าบัลลงดอร์ จะไม่มีความหมายอะไรกับชีวิตผมอีก"

#Ribery #Ronaldo #Ballondor

---------------------------------------

(บทสรุปส่งท้ายจากแอดมิน)

สำหรับคนที่อ่านเพจของเราทั้งสองวัน จะเห็นว่า เรื่องของเมสซี่ ในปี 2010 กับ โรนัลโด้ในปี 2013 มันไม่ต่างกันเลย

ผมตั้งใจจะเขียน เรื่องของเมสซี่ 1 วัน และ โรนัลโด้อีก 1 วัน ไม่ใช่ให้แฟนบาร์ซ่า กับ มาดริดตีกัน

แต่ผมอยากชี้ให้เห็นว่า ทั้งหมดนี้ มันไม่ใช่เรื่องที่ต้องโทษเมสซี่ มันไม่ใช่เรื่องที่ต้องโทษโรนัลโด้

สิ่งเดียวที่ต้องโทษ คือระบบ

เพราะตราบใดก็ตามที่ระบบ หรือแนวคิดหลักไม่ถูกต้อง มันย่อมนำมาซึ่งข้อผิดพลาดเสมอ

แนวคิดที่ฟีฟ่า เลือกใช้ คืออยากให้สมาชิกทุกชาติมีส่วนร่วม แต่ปัญหาคือ กัปตันหรือเฮดโค้ชเหล่านั้น ไม่มีพื้นฐานเรื่องฟุตบอลระดับโลก ผลการโหวตมันก็เลยล้มเหลว

ถ้าฟีฟ่ายังใช้ระบบเดิมๆ แน่นอนว่า มันจะมีคำถามเกิดขึ้นทุกครั้ง คือไม่ใช่แค่ 2010 และ 2013 แต่มันมีปัญหาทุกปี

ท้ายที่สุดฟรองซ์ ฟุตบอลก็ต้องเปลี่ยนกลับมาใช้ระบบเดิม คือให้นักข่าวที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญเป็นคนโหวต มันถึงจะได้ผลลัพธ์ที่ยุติธรรมอีกครั้ง

มาถึงตรงนี้ ซีรีส์ ผู้ไม่คู่ควรบัลลงดอร์ ก็จบลงแล้ว และมันสอนให้เรารู้สิ่งสำคัญ 2 เรื่อง

1) คือถ้าเราคิดจะเปลี่ยนแปลงอะไรที่มันดีอยู่แล้ว สิ่งที่เราจะนำเสนอ มันต้องดีเยี่ยมจริงๆยิ่งกว่า แบบที่ทุกคนยอมรับได้

ถ้าหากไอเดียของตัวเองห่วยกว่าของเดิมที่มี อย่าเพิ่งเสนอ ไปคิดมาใหม่ ให้มันดีกว่าของเดิมให้ได้ก่อน

คือ ฟีฟ่า ถ้าคิดได้แค่นี้ ใช้กฎเดิมของฟรองซ์ฟุตบอลเถอะ คงไม่โดนด่ายับแบบนี้

และ 2) เราต้องมองศัตรูที่แท้จริงของตัวเองให้ออก

ตอนเมสซี่ได้รางวัลในปี 2010 แฟนมาดริด ด่าเมสซี่ไอ้โกง ไปโกงสไนจ์เดอรทำไมฟะ

ตอนโรนัลโด้ ได้รางวัลปี 2013 แฟนบาร์ซ่า ด่าโรนัลโด้ไอ้โกง ไปโกงใส่ริเบรี่ทำไมฟะ

ทั้งๆที่จริงๆ คนที่ผิด ไม่ใช่เมสซี่ ไม่ใช่โรนัลโด้ แต่เป็นฟีฟ่าต่างหาก ที่ทำให้ทุกอย่างมันเพี้ยนไปแบบนี้

ในชีวิตของเราก็เหมือนกัน

ถ้าเราเจอปัญหา เราจะแก้มันไม่ได้เลย ถ้าไม่รู้ว่า ปัญหาที่แท้จริงมันเริ่มตรงไหน

เราจะเอาชนะในสงครามได้อย่างไร ถ้าไม่รู้ว่า ศัตรูตัวจริงของเราคือใคร?

-----------------------------------------

โดยรวมเค้าเขียนได้ดีนะครับ แต่ถ้าผมจำไม่ผิดปีนั้นโรนัลโดมีขู่จะไม่ไปร่วมงานด้สยมั้งครับถ้าไม่ได้รางวัล ไม่แน่ใจ แต่ดูเหมือนทางเพจไม่ได้เขียนถึงส่วนนี้นะครับ

อันนี้จริงๆผมว่าก็คล้ายของสไนเดอร์อีกและครับ ถึงบางคนจะบอกอิเนสตาควรได้มากกว่า แต่มันก็เห็นว่านับคะแนนแบบเก่าทั้งสไนเดอร์และริเบอรี่เป็นผู้ที่ได้รางวัลนะครับ (บางคนบอกมิลิโตเด่นกว่าในสโมสร แต่เค้าคิดทั้งสโมสรกะบอลโลกนะครับ)

อันนี้ผมก็แชร์มาเฉยๆครับ เห็นเค้าเขียนดี เครดิตทั้งหมดก็ของเพจ"วิเคราห์บอลจริงจัง"นะครับ เค้าเขียนเรื่องอื่นดีๆเยอะ แนะนำให้กดตามกันครับ

ปล.คนเขียนๆว่าเขียนห่างกัน 1 วันไม่ให้คนตีกัน ไม่รู้ซะแล้วว่าใน ss วอร์ยับไปละ
เข้าร่วม: 28 Dec 2017
ตอบ: 28539
ที่อยู่: จิตหงุดเงี้ยว !!!!!!!!!!!!!!!! เข้าร่วม: 30 Feb 1992
โพสเมื่อ: Thu Mar 22, 2018 8:11 am
[RE: บทความบัลลงดอร์ 2013]
เก่งสุดในรอบ 20 ปี

0
0


เข้าร่วม: 13 Mar 2018
ตอบ: 202
ที่อยู่: โลก
โพสเมื่อ: Thu Mar 22, 2018 8:43 am
[RE: บทความบัลลงดอร์ 2013]
สไนเดอร์ 1 ริเบรี่ 1

โด้ 4 เมส 4

เหมาะสม
เข้าร่วม: 28 Apr 2010
ตอบ: 1105
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Mar 22, 2018 9:03 am
[RE: บทความบัลลงดอร์ 2013]
ที่ด่าโด้ไม่ใช้เพราะ
ตอนประกาศรางวัล บัลลังดอร์ โด้บอกไม่ไปไม่ยอมไป จนถึงกับต้องเลื่อนวันประกาศไปเลยถึงได้ยอมไป
เข้าร่วม: 18 Feb 2006
ตอบ: 4059
ที่อยู่: Old Trafford , Manchester
โพสเมื่อ: Thu Mar 22, 2018 9:04 am
บทความบัลลงดอร์ 2013
แม้ติ่งไอ้โด้อย่างผม ก็ยังคิดว่า ปี 2013 แม่งคือที่สุดแห่งความไร้ยางอายของฟีฟ่าแล้ว ริเบรี่สมควรได้ทุกประการไม่ว่าจะมองมุมไหน

เข้าร่วม: 15 Sep 2013
ตอบ: 1788
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Mar 22, 2018 9:17 am
บทความบัลลงดอร์ 2013
พี่นั้นพี่รี่กดที่สามมาซะได้

0
0
Munchen for life
เข้าร่วม: 28 Apr 2010
ตอบ: 1105
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Mar 22, 2018 9:19 am
[RE: บทความบัลลงดอร์ 2013]
songiggs พิมพ์ว่า:
แม้ติ่งไอ้โด้อย่างผม ก็ยังคิดว่า ปี 2013 แม่งคือที่สุดแห่งความไร้ยางอายของฟีฟ่าแล้ว ริเบรี่สมควรได้ทุกประการไม่ว่าจะมองมุมไหน  


แต่ก้อยังมี แฟนโด้บางคนบอกว่าโด้ยิงมากกว่า สำควรได้ ยิง 55 ลูก
พูดซ่ะสงสาร บุฟฟ่อนเลย ชาตินี้คงไม่มีหวัง

ล.ปีนั้นเมสซียิง 60 ลูกมากกว่าด้วยซ้ำ
เข้าร่วม: 13 Mar 2018
ตอบ: 18432
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Mar 22, 2018 9:27 am
[RE: บทความบัลลงดอร์ 2013]
มันตลกตรงตอนแรกกระแสมา ยังไงริเบรี่ก็นอนมา
โด้มันออกมางอแง บอกจะไม่ยอมมาร่วมงานซะงั้น
0
0
เข้าร่วม: 20 May 2011
ตอบ: 3934
ที่อยู่: ตอนนี้..เพราะอยากพบเจอเธออีกสักครั้ง !!
โพสเมื่อ: Thu Mar 22, 2018 9:49 am
[RE: บทความบัลลงดอร์ 2013]
ยิ่งกว่า 2010 ก็ตรงไอ้โด้เนี่ยแหล่ะ


ถ้าไม่พูดถึงว่าโด้บอกไม่ไปงาน ผมจำไม่ได้เลยนะนั่น


ปล.ชไนเดอร์ และ ริเบรี่ คือคนที่สมควรและเหมาะสมทั้งคู่ คนที่ดูบอลจริงๆเท่านั้นแหล่ะ ที่รู้
เข้าร่วม: 07 Oct 2013
ตอบ: 775
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Mar 22, 2018 10:09 am
บทความบัลลงดอร์ 2013
ปีนั้นริเบรี่คือคนที่ชนะจริงๆ รางวัลเหมือนโดนปล้นไปเลย
0
0
เข้าร่วม: 10 Nov 2014
ตอบ: 2194
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Mar 22, 2018 10:36 am
[RE: บทความบัลลงดอร์ 2013]
Cafe1n พิมพ์ว่า:
มันตลกตรงตอนแรกกระแสมา ยังไงริเบรี่ก็นอนมา
โด้มันออกมางอแง บอกจะไม่ยอมมาร่วมงานซะงั้น
 
มั่วละ ที่โด้มันจะไม่ร่วมงาน เพราะมันเคือง แบล็ตเตอร์ ไม่เกี่ยวไรกับกระแสริเบรี่ นอนมาเลย
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 10833
ที่อยู่: G.O.A.T.
โพสเมื่อ: Thu Mar 22, 2018 11:07 am
[RE]บทความบัลลงดอร์ 2013
โรนัลโด้ขู่ว่าจะไม่ไปงานมั้ย อันนี้ผมไม่แน่ใจว่ามีคำพูดของโรนัลโด้ออกมารึป่าว หรือสื่อเขียนเอาเองนะ

แต่ปีนั้นโรนัลโด้แกเคือง เซป แบลตเตอร์จริง

ผมจำได้ว่าประธานฟีฟ่าแกให้สัมภาษณ์ได้โคตรลำเอียง

วลีเด็ดเลย คือ Messi is a good boy.

ที่สุดท้ายเมสซี่เองที่ซวย โดนเอามาล้อยันลูกบวช

ในขณะที่แกว่าโรนัลโด้เป็นเหมือนพวกนายพล มีท่าทางเยอะ ประมาณนี้

โด้แกเคืองมาก ถึงขนาดมีท่าดีใจ ตอนยิงเข้าเป็นท่าวันทยาหัตของทหารตอกกลับประธานฟีฟ่าเลยนะ
อยากเห็นบทสัมภาษณ์หรือคลิป ลองเสิจดูน่าจะหาไม่ยากครับ

ตรรกะว่าไม่ไปเพราะไม่ได้รางวัล หรืออะไร นี่ไม่เกี่ยวเลย มโนไปเรื่อย เอาอคติเข้าว่า

There will always be people who tries to pull us down no matter how good we do. Losers will see negative things in every positives!


เข้าร่วม: 13 Apr 2016
ตอบ: 1308
ที่อยู่: Anfield
โพสเมื่อ: Thu Mar 22, 2018 12:04 pm
[RE: บทความบัลลงดอร์ 2013]
มีคนยังมโนอีกว่า ที่โด้ไม่ไปงาน เพราะงอลไม่ได้รางวัล

จริงๆ มันเคือง แบล็ตเตอร์ ไม่เกี่ยวไรกับกระแสริเบรี่ เลย

ถ้าดูจริงๆ มียิงเข้า มันยังทำท่าล้อเลียน เเบล็ตเตอร์เลย
You'll Never Walk Alone

เข้าร่วม: 01 Jun 2016
ตอบ: 8636
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Mar 22, 2018 12:24 pm
[RE: บทความบัลลงดอร์ 2013]
ยกคอมเม้นเดิมมาแป้ะ เพราะผมขี้เกียจพิมพ์ใหม่55 อ่านแล้วลองคิดดูกันเอาเอง

ก่อนอื่นเลย บัลลงดอร์สมัยก่อนไม่ได้บูมอะไรขนาดนั้นหรอกครับ รางวัลที่คนให้ความสนใจที่สุดสมัยก่อนเป็นพวกดาวซัลโวมากกว่า

เมื่อครั้งรอนนี่ได้สัมผัสบัลลงดอร์เมื่อปี 2005 รอนนี่ถามว่า รางวัลอะไรนะ?

ส่วน ปี2010เป็นปีเดียวที่คนเห็นแย้งก็ไม่ได้ใกล้เคียงกับความเป็นจริงเช่นเดียวกันครับ 2013ก็มี และก่อนหน้านั้นก็มีมาให้เห็นเรื่อยๆ

ปีที่ริวัลโด้ได้ก็มีคนไม่เห็นด้วยพอสมควร เพราะเบ็คแฮมกับ3แชมป์ +ปีนี้ไม่มีรายการทีมชาติ

หรือจะปีที่r9 เจ็บยาวมันแทบทั้งปี หายเจ็บก่อนบอลโลกหน่อยนึง หลังจบบอลโลกเจ็วยาวกันต่อ จบปีr9ได้จ้า

หรือจะปี2006ที่คันนาได้ก็มีเสียงไม่เห็นด้วยอีกเช่นกัน

ผมชอบความคิดเห็นของแฟนเชลซีท่านนึง เขาว่าสุดท้ายมันก็คือการโหวต คุณจะให้เขายึดอะไรเป็นตัวอ้างอิงละ? ฟอร์มหรอ เรทติ้งเฉลี่ยหรอ ประตูหรอ แอสซิสหรอ?

สุดท้ายมันก็ตัดกันที่ความชื่นชอบนั่นแล

บัลลงดอร์ สุดท้ายแล้ววัดกันที่อะไรละ? คนที่ฟอร์มดีที่สุดหรอ? หรือคนที่ได้รางวัลใหญ่ๆ?


ถ้าวัดจากฟอร์มการเล่น คุณจะมั่นใจได้อย่างไร ว่านักข่าวที่เขาว่ากันว่าคัดมาแล้วเนี่ย จะไปตามดูฟอร์มการเล่นของนักเตะเหล่านั้นทุกนัด???? แล้วพวกนักข่าวเหล่านั้นจะตัดสินได้เที่ยงธรรมขนาดไหน?

ส่วนปีนั้น สไนจ์เดอร์เขาก็มีจุดด่างพร้อยเหมือนกัน ก็คือตอนเปิดซีซั่นใหม่10-11 เขาหลุดเป็นตัวสำรองอยู่สักพักใหญ่ๆเชียวละ

ทีนี้มันก็นำไปสู่คำถามอีกอันคือ แล้วนักข่าว"ที่เขาว่ากันว่าคัดมาแล้ว"เนี่ย จะชั่งน้ำหนักอย่างไรดีเล่า? กับนักเตะที่เทพ6-7ส่วน แต่อีก3-4ส่วนดันหลุดเป็นสำรอง? จะใช้กฎเกณฑ์อะไรมาวัด จะใช้ตรรกะอะไรมาตัดสิน?

สุดท้ายมันก็นกลับมาที่ความชื่นชอบเหมือนเดิมนั่นแหละ อย่าไปอะไรมากมายเลย
เข้าร่วม: 13 Mar 2018
ตอบ: 54
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Mar 22, 2018 12:35 pm
[RE: บทความบัลลงดอร์ 2013]
คราวก่อนบอกเมสซี่ไม่ควรได้ปี2010 เหนด้วยเลยนะ
แต่ของโด้นี่ ไม่สมควรได้สักปีเดียว คลาสก็ไม่มี รอแปบอลอย่างเดียว บัลลังดอร์มันเคยเป็นของพวกแนวรุกคลาสสูงๆอย่างเชฟเชนโก้ ซีดาน ฟิโก้ พวกนี้เลี้ยงบอลได้หมด
เขาคิดอะไรกันอยู่ให้บัลลังดอร์กับนักเตะที่เลี้ยงบอลไม่เป็น จินตนาการก็ไม่มี ก็เลยเกิดการถกเถียงถึงทุกวันนี้ ปีนี้ลองเอาไปให้เลวานดิ ไม่มีใครเถียงแน่ เพราะมันคลาสเดียวกับพวกเมสซี่
ส่วนโด้นักเตะบัลลังดอร์อะไรเลี้ยงบอลก็ไม่เป็นเล่น มิติเดียว รอแป อ่อมีมิติที่2เกือบลืม เพลนาโด้
0
0
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 10833
ที่อยู่: G.O.A.T.
โพสเมื่อ: Thu Mar 22, 2018 1:04 pm
[RE: บทความบัลลงดอร์ 2013]
โยฮัน กาบอล พิมพ์ว่า:
คราวก่อนบอกเมสซี่ไม่ควรได้ปี2010 เหนด้วยเลยนะ
แต่ของโด้นี่ ไม่สมควรได้สักปีเดียว คลาสก็ไม่มี รอแปบอลอย่างเดียว บัลลังดอร์มันเคยเป็นของพวกแนวรุกคลาสสูงๆอย่างเชฟเชนโก้ ซีดาน ฟิโก้ พวกนี้เลี้ยงบอลได้หมด
เขาคิดอะไรกันอยู่ให้บัลลังดอร์กับนักเตะที่เลี้ยงบอลไม่เป็น จินตนาการก็ไม่มี ก็เลยเกิดการถกเถียงถึงทุกวันนี้ ปีนี้ลองเอาไปให้เลวานดิ ไม่มีใครเถียงแน่ เพราะมันคลาสเดียวกับพวกเมสซี่
ส่วนโด้นักเตะบัลลังดอร์อะไรเลี้ยงบอลก็ไม่เป็นเล่น มิติเดียว รอแป อ่อมีมิติที่2เกือบลืม เพลนาโด้  


Lord Varys

เล่น 2 ไอดี ลบไอดีที่เก่ากว่า อีกไอดี เป็นอดีตนักเตะนิวคาสเซิ่ล ตอนนี้เล่นให้พาเลซ ชื่อหน้าโยฮัน แต่ชื่อหลังใช้การเล่นคำ

There will always be people who tries to pull us down no matter how good we do. Losers will see negative things in every positives!


เข้าร่วม: 15 Nov 2013
ตอบ: 5931
ที่อยู่: OLD TRAFFORD
โพสเมื่อ: Thu Mar 22, 2018 1:18 pm
[RE: บทความบัลลงดอร์ 2013]
โยฮัน กาบอล พิมพ์ว่า:
คราวก่อนบอกเมสซี่ไม่ควรได้ปี2010 เหนด้วยเลยนะ
แต่ของโด้นี่ ไม่สมควรได้สักปีเดียว คลาสก็ไม่มี รอแปบอลอย่างเดียว บัลลังดอร์มันเคยเป็นของพวกแนวรุกคลาสสูงๆอย่างเชฟเชนโก้ ซีดาน ฟิโก้ พวกนี้เลี้ยงบอลได้หมด
เขาคิดอะไรกันอยู่ให้บัลลังดอร์กับนักเตะที่เลี้ยงบอลไม่เป็น จินตนาการก็ไม่มี ก็เลยเกิดการถกเถียงถึงทุกวันนี้ ปีนี้ลองเอาไปให้เลวานดิ ไม่มีใครเถียงแน่ เพราะมันคลาสเดียวกับพวกเมสซี่
ส่วนโด้นักเตะบัลลังดอร์อะไรเลี้ยงบอลก็ไม่เป็นเล่น มิติเดียว รอแป อ่อมีมิติที่2เกือบลืม เพลนาโด้  


คอมเม้นได้โง่พอๆกับซันโต๊ส คนเดียวกันปะเนี่ย
0
0
เข้าร่วม: 15 Nov 2013
ตอบ: 5931
ที่อยู่: OLD TRAFFORD
โพสเมื่อ: Thu Mar 22, 2018 1:37 pm
[RE: บทความบัลลงดอร์ 2013]
พิจารณากันเอาเอง



ผลงานบัลลงดอร์ เป็นรางวัลที่ให้กับนักเตะที่มีผลงานส่วนตัวที่ดีที่สุดในปีนั้นๆ

แล้วก็อย่าเอาผลงานของต้นฤดูกาลมาเกี่ยวเพราะมันยังไม่ข้ามปี

พาทีมได้แชมป์ก็ขึ้นอยู่กับทีมด้วยได้นะ ไม่ใช่คนคนเดียว

ปีนั้นหรือปี 2014 เยอรมันก็พาทีมแชมป์โลก

คล้ายๆ ช่วงนักเตะสเปนพาทีมคว้าแชมป์ยูโร แชมป์โลก
เข้าร่วม: 01 Jul 2009
ตอบ: 3887
ที่อยู่: cd3t76
โพสเมื่อ: Thu Mar 22, 2018 2:36 pm
[RE: บทความบัลลงดอร์ 2013]
ก็จริงอะผมว่าริเบรี่ควรได้(ถ้านับแบบเก่าก่อนรวมฟีฟ่า) ถึงฟอร์มส่วนตัวโด้จะดีสุด แต่ริเบรี่ฟอร์มโดยรวมกับทีมดีกว่ามีแชมป์จับต้องได้ สุดท้ายถึงโด้ไม่ได้ปีนั้น ริเบรี่ก็ไม่ได้อยู่ดี เพราะเมสซี่ได้ที่ 2 สรุปในปีนั้นๆนักเตะ โค้ช นักข่าว ชอบฟอร์มของใครมากกว่ากันคนนั้นก็ได้ไปนั่นแหละ
0
0
เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 3668
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Mar 22, 2018 3:13 pm
[RE: บทความบัลลงดอร์ 2013]
เจี๊ยวเลี่ยมทอง พิมพ์ว่า:
พิจารณากันเอาเอง



ผลงานบัลลงดอร์ เป็นรางวัลที่ให้กับนักเตะที่มีผลงานส่วนตัวที่ดีที่สุดในปีนั้นๆ

แล้วก็อย่าเอาผลงานของต้นฤดูกาลมาเกี่ยวเพราะมันยังไม่ข้ามปี

พาทีมได้แชมป์ก็ขึ้นอยู่กับทีมด้วยได้นะ ไม่ใช่คนคนเดียว

ปีนั้นหรือปี 2014 เยอรมันก็พาทีมแชมป์โลก

คล้ายๆ ช่วงนักเตะสเปนพาทีมคว้าแชมป์ยูโร แชมป์โลก  
แน่นอนและคุณเปนแฟรคลับโด้คุณก็ต้องเข้าข้างโด้คุณลองอ่านความเห็นที่ไม่ใช่แฟนคลับโด้ดิ บอกริเบรี่กันหมด
0
0
เข้าร่วม: 15 Nov 2013
ตอบ: 5931
ที่อยู่: OLD TRAFFORD
โพสเมื่อ: Thu Mar 22, 2018 3:18 pm
[RE: บทความบัลลงดอร์ 2013]
Tpk พิมพ์ว่า:
เจี๊ยวเลี่ยมทอง พิมพ์ว่า:
พิจารณากันเอาเอง



ผลงานบัลลงดอร์ เป็นรางวัลที่ให้กับนักเตะที่มีผลงานส่วนตัวที่ดีที่สุดในปีนั้นๆ

แล้วก็อย่าเอาผลงานของต้นฤดูกาลมาเกี่ยวเพราะมันยังไม่ข้ามปี

พาทีมได้แชมป์ก็ขึ้นอยู่กับทีมด้วยได้นะ ไม่ใช่คนคนเดียว

ปีนั้นหรือปี 2014 เยอรมันก็พาทีมแชมป์โลก

คล้ายๆ ช่วงนักเตะสเปนพาทีมคว้าแชมป์ยูโร แชมป์โลก  
แน่นอนและคุณเปนแฟรคลับโด้คุณก็ต้องเข้าข้างโด้คุณลองอ่านความเห็นที่ไม่ใช่แฟนคลับโด้ดิ บอกริเบรี่กันหมด  


อือแฟนคลับริเบรี่แท้ๆอะน้า เคครับ
0
0
เข้าร่วม: 13 Apr 2016
ตอบ: 1308
ที่อยู่: Anfield
โพสเมื่อ: Thu Mar 22, 2018 3:56 pm
[RE: บทความบัลลงดอร์ 2013]
เจี๊ยวเลี่ยมทอง พิมพ์ว่า:
โยฮัน กาบอล พิมพ์ว่า:
คราวก่อนบอกเมสซี่ไม่ควรได้ปี2010 เหนด้วยเลยนะ
แต่ของโด้นี่ ไม่สมควรได้สักปีเดียว คลาสก็ไม่มี รอแปบอลอย่างเดียว บัลลังดอร์มันเคยเป็นของพวกแนวรุกคลาสสูงๆอย่างเชฟเชนโก้ ซีดาน ฟิโก้ พวกนี้เลี้ยงบอลได้หมด
เขาคิดอะไรกันอยู่ให้บัลลังดอร์กับนักเตะที่เลี้ยงบอลไม่เป็น จินตนาการก็ไม่มี ก็เลยเกิดการถกเถียงถึงทุกวันนี้ ปีนี้ลองเอาไปให้เลวานดิ ไม่มีใครเถียงแน่ เพราะมันคลาสเดียวกับพวกเมสซี่
ส่วนโด้นักเตะบัลลังดอร์อะไรเลี้ยงบอลก็ไม่เป็นเล่น มิติเดียว รอแป อ่อมีมิติที่2เกือบลืม เพลนาโด้  


คอมเม้นได้โง่พอๆกับซันโต๊ส คนเดียวกันปะเนี่ย  


คนเดียวกัน มันเล่น2ไอดี เลยลบไอดีเก่ากว่าทิ้ง 55555555555
0
0
You'll Never Walk Alone

เข้าร่วม: 06 Apr 2017
ตอบ: 1976
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Mar 22, 2018 4:05 pm
[RE: บทความบัลลงดอร์ 2013]
The Ballon d'Or is more to do with marketing and press than for achievements on the pitch.
0
0
เข้าร่วม: 25 May 2011
ตอบ: 20997
ที่อยู่: 1244/8
โพสเมื่อ: Thu Mar 22, 2018 4:12 pm
[RE: บทความบัลลงดอร์ 2013]
เจี๊ยวเลี่ยมทอง พิมพ์ว่า:
พิจารณากันเอาเอง



ผลงานบัลลงดอร์ เป็นรางวัลที่ให้กับนักเตะที่มีผลงานส่วนตัวที่ดีที่สุดในปีนั้นๆ

แล้วก็อย่าเอาผลงานของต้นฤดูกาลมาเกี่ยวเพราะมันยังไม่ข้ามปี

พาทีมได้แชมป์ก็ขึ้นอยู่กับทีมด้วยได้นะ ไม่ใช่คนคนเดียว

ปีนั้นหรือปี 2014 เยอรมันก็พาทีมแชมป์โลก

คล้ายๆ ช่วงนักเตะสเปนพาทีมคว้าแชมป์ยูโร แชมป์โลก  
แล้วริเบรี่ปีนั้นด้อยกว่าโด้ตรงไหน เป็นเต็ง1เลยด้วยซ้ำ ปีนั้นโด้ไม่ได้แชมป์นะ แล้วเป็นปีเดียวด้วยที่แย่สุด มีการเลื่อนโหวตเฉยให้มันขยายขึ้น หลังจากโด้แฮตทริกใส่สวีเดนนัดที่ไปเยือน บัลลงดอร์ช่วงหลังๆมามีปีไหนเลื่อนมั้งนอกจาก2013 ลองเอาประโยคที่ริเบรี่พูดยกมาให้ฟังก็ได้

ทุกอย่างเหมือนถูกจัดขึ้นมาให้โรนัลโด้อยู่แล้วทั้งการเลื่อนเดดไลน์การส่งผลออกไปอีกสองสัปดาห์ มันไม่เคยมีเหตุการณ์นี้มาก่อน ลิ้งค์ข่าวเมื่อปี2013 http://www.goal.com/th/news/4298/the-world/2014/01/20/4557430/%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%B5-%E0%B8%9A%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%9A%E0%B9%82%E0%B8%94%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%A5%E0%B9%82%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B9%81%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%A5%E0%B8%A5%E0%B8%87%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B9%84%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%B3%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B9%87%E0%B8%88
เข้าร่วม: 13 Mar 2018
ตอบ: 54
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Mar 22, 2018 4:50 pm
[RE: บทความบัลลงดอร์ 2013]
ปีนี้ถ้าโด้มันรู้ตัวว่าคะแนนตามหลังนิดๆ เตรียมเห็นข่าวบริจาคนู่นนี่นั่นได้เลย เพื่อเรียกคะแนนสงสาร หมอนี่มันฉลาดเอาเรื่องทีเดียวเรื่องปั้นหน้า,ดึงหน้า
0
0
เข้าร่วม: 12 Aug 2016
ตอบ: 8155
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Mar 22, 2018 5:03 pm
[RE: บทความบัลลงดอร์ 2013]
เอ้อ สามารถตอบแบบเดิมได้เลยแหะ

นอกจากระบบการโหวต มันมีความต่างของวิธีคิดด้วยนะ
แบบเดิมก่อนหน้านี้ มันมีลักษณะที่น่าสนใจอยู่ 2-3 อย่าง

1) เป็นในลักษณะของการสะสมผลงาน เป็นบารมี แล้วในช่วงปีนั้นก็จะมีช่วงที่ตู้ม โดดเด่น เป็นกระแส
แล้วใครจะเป็นกระแสได้ไงในยุคนั้น มันก็ต้องมาจากนักข่าว ปั่นกระแส เขียนคอลัมภ์ พูดถึงอยู่เรื่อยๆ แล้วถัดมา ใครเป็นคนโหวต ก็นักข่าวโหวต อะไรๆมันเลยดูกลมกล่อมพอสมควร

2) ทำอะไรให้ทีม สร้างความต่างอะไรให้ทีม แบบเตะตา โดยเฉพาะพวกที่นำทีมกลับมา / พาทีมกลับมาเป็นแชมป์อะไรแบบนี้

3) ถ้วยในระดับทีมชาติ มักจะมีน้ำหนักมากกว่าถ้วยระดับสโมสร

จะมีบางปีที่มันเหมือนเดธแอร์ แต่ก็แค่บางปีนะ
0
0
เข้าร่วม: 12 Aug 2017
ตอบ: 5227
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Mar 22, 2018 11:31 pm
[RE: บทความบัลลงดอร์ 2013]
ใครจะได้ปีนี้
0
0
เข้าร่วม: 11 Jul 2007
ตอบ: 4794
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Mar 23, 2018 12:00 am
[RE: บทความบัลลงดอร์ 2013]
แล้วรู้ได้ไงว่านักข่าวมันเที่ยงธรรม? รู้เรื่องฟุตบอลมากกว่าโค้ชทีมชาติหรือกัปตัน?
0
0
เข้าร่วม: 18 Oct 2010
ตอบ: 3611
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Mar 23, 2018 12:25 am
[RE: บทความบัลลงดอร์ 2013]
lazia23 พิมพ์ว่า:
ยกคอมเม้นเดิมมาแป้ะ เพราะผมขี้เกียจพิมพ์ใหม่55 อ่านแล้วลองคิดดูกันเอาเอง

ก่อนอื่นเลย บัลลงดอร์สมัยก่อนไม่ได้บูมอะไรขนาดนั้นหรอกครับ รางวัลที่คนให้ความสนใจที่สุดสมัยก่อนเป็นพวกดาวซัลโวมากกว่า

เมื่อครั้งรอนนี่ได้สัมผัสบัลลงดอร์เมื่อปี 2005 รอนนี่ถามว่า รางวัลอะไรนะ?

ส่วน ปี2010เป็นปีเดียวที่คนเห็นแย้งก็ไม่ได้ใกล้เคียงกับความเป็นจริงเช่นเดียวกันครับ 2013ก็มี และก่อนหน้านั้นก็มีมาให้เห็นเรื่อยๆ

ปีที่ริวัลโด้ได้ก็มีคนไม่เห็นด้วยพอสมควร เพราะเบ็คแฮมกับ3แชมป์ +ปีนี้ไม่มีรายการทีมชาติ

หรือจะปีที่r9 เจ็บยาวมันแทบทั้งปี หายเจ็บก่อนบอลโลกหน่อยนึง หลังจบบอลโลกเจ็วยาวกันต่อ จบปีr9ได้จ้า

หรือจะปี2006ที่คันนาได้ก็มีเสียงไม่เห็นด้วยอีกเช่นกัน

ผมชอบความคิดเห็นของแฟนเชลซีท่านนึง เขาว่าสุดท้ายมันก็คือการโหวต คุณจะให้เขายึดอะไรเป็นตัวอ้างอิงละ? ฟอร์มหรอ เรทติ้งเฉลี่ยหรอ ประตูหรอ แอสซิสหรอ?

สุดท้ายมันก็ตัดกันที่ความชื่นชอบนั่นแล

บัลลงดอร์ สุดท้ายแล้ววัดกันที่อะไรละ? คนที่ฟอร์มดีที่สุดหรอ? หรือคนที่ได้รางวัลใหญ่ๆ?


ถ้าวัดจากฟอร์มการเล่น คุณจะมั่นใจได้อย่างไร ว่านักข่าวที่เขาว่ากันว่าคัดมาแล้วเนี่ย จะไปตามดูฟอร์มการเล่นของนักเตะเหล่านั้นทุกนัด???? แล้วพวกนักข่าวเหล่านั้นจะตัดสินได้เที่ยงธรรมขนาดไหน?

ส่วนปีนั้น สไนจ์เดอร์เขาก็มีจุดด่างพร้อยเหมือนกัน ก็คือตอนเปิดซีซั่นใหม่10-11 เขาหลุดเป็นตัวสำรองอยู่สักพักใหญ่ๆเชียวละ

ทีนี้มันก็นำไปสู่คำถามอีกอันคือ แล้วนักข่าว"ที่เขาว่ากันว่าคัดมาแล้ว"เนี่ย จะชั่งน้ำหนักอย่างไรดีเล่า? กับนักเตะที่เทพ6-7ส่วน แต่อีก3-4ส่วนดันหลุดเป็นสำรอง? จะใช้กฎเกณฑ์อะไรมาวัด จะใช้ตรรกะอะไรมาตัดสิน?

สุดท้ายมันก็นกลับมาที่ความชื่นชอบเหมือนเดิมนั่นแหละ อย่าไปอะไรมากมายเลย  

ผมเห็นแย้งจากท่านจุดนึง ผมดูบอลมาตั้งแต่ปี 1992 ผมว่าตั้งแต่ปีที่ผมเริ่มดูบัลลงดอร์มันบูมมากๆ มันเป็นอะไรที่เป็นที่สุดของนักฟุตบอลแล้ว เมื่อก่อนมอบให้แต่นักฟุตบอลยุโรป ต่อมามอบให้นักเตะที่มาค้าแข้งในยุโรป คนแรกคือ จอร์จ เวอาห์ ต่อมามอบให้กับนักเตะทั่วโลก เป็นกระแสใหญ่ทุกปีตั้งแต่ยุค 90
0
0