ผู้ตั้ง
ข้อความ
เข้าร่วม: 14 Mar 2006
ตอบ: 2634
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Mar 20, 2018 10:01 am
ชีวิตหลังแต่งงาน
การแต่งงานไม่ใช่จุดสูงสุดของชีวิตคู่

ปีที่ผ่านมา ผมมีเพื่อนที่แต่งงานกันไปแล้ว ตัดสินใจ "หย่า" กันถึง 4 คู่

ทุกคนอายุเพียง 30 ต้นๆ และเพิ่งแต่งงานกันไปได้แค่ 1-3 ปี น่าตกใจที่หลายคู่ผมได้ไปงานแต่งงานของพวกเขาด้วย ได้เห็นภาพ Pre Wedding หวานแหวว ได้ดูพรีเซนต์งานแต่งน่ารักๆ รวมไปถึงสถานที่จัดงานในโรงแรมหรูหรา

ผมเชื่อเหลือเกินว่ามีหลายคนที่รู้สึกว่า การ "แต่งงาน" ถือเป็นความใฝ่ฝัน เป็นจุดสูงสุดของชีวิตคู่ เพราะส่วนตัวก็เคยคิดแบบนั้นเหมือนกัน

แต่งงานกันแล้ว ก็จะได้อยู่ด้วยกันไปตลอดชีวิต ...

แต่เมื่อตัวเองได้ผ่านจุดนั้นมาแล้ว ได้ผ่านการจัดงานแต่งงาน ได้ผ่านการมีเพื่อนฝูงและแขกมากมายมาร่วมยินดีในงานแต่งงานมาแล้ว ได้ผ่านการที่ใครต่างมาบอกว่าอิจฉาจังเลย เป็นคู่ที่เหมาะสมกันมากๆ มาแล้ว

บอกตามตรงว่าตื่นเช้ามาหลังวันแต่งงาน ... โลกมันก็ไม่ได้เปลี่ยนไปเลยครับ เรายังคงตื่นเช้าไปทำงาน กลับบ้านกินข้าว นอนดูทีวี เดินห้าง ดูหนัง และใช้ชีวิตแบบเดิมๆ ไม่เปลี่ยนแปลง

ย้อนกลับไปที่คู่แต่งงานที่เลิกกันไปทั้ง 4 คู่ แว่บแรกที่เรารู้ข่าวเพื่อนเลิกกันคือสงสัย ทำไมต้องเลิกกัน ถามเหตุผลว่าทำไมเพราะอะไร ? พอมันตอบมาปุ๊บเราก็ร้อง โหยแค่นี้เอง ก็ทำแบบนั้นแบบนี้สิ จะได้ไม่มีปัญหากัน ไม่เลิกกัน

แต่ในความเป็นจริงแล้ว ไม่มีใครหรอกครับที่เลิกกันด้วยเหตุผลข้อเดียว ทุกคนมีเหตุผลมากมายในการเลือกทำอะไรสักอย่าง ซึ่งเราก็เคารพการตัดสินใจของทุกฝ่ายนะ ถึงแม้จะเสียดายความรักที่เคยมีให้กัน

สิ่งนึงที่ผมได้เรียนรู้จากการได้พูดคุยกับเพื่อนๆ ที่ตัดสินใจจบชีวิตคู่หลังแต่งงานคือ
การพูดกันทุกเรื่องอาจจะไม่ใช่การแก้ปัญหา หลายคู่ที่บอกกันว่าชอบไม่ชอบอะไร แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพราะได้แค่พูด
การตัดสินใจขอแต่งงานในช่วงที่ความรักขึ้นจุดพีคสุด ไม่ได้ช่วยอะไร เมื่อความรักตกลงมาต่ำสุดและไม่เคยเจอปัญหาแบบนี้กันมาก่อน
เพื่อนและครอบครัวมีส่วนในเรื่องนี้ถึง 30% การรู้จักและเป็นมิตรกับเพื่อน หรือครอบครัวของอีกฝ่ายเป็นเรื่องที่ดี
การอยู่ก่อนแต่งช่วยให้ปัญหาน้อยลงได้ แต่ขอย้ำว่าต้องขอให้ผู้ปกครองยินยอมเสียก่อน
หลังแต่งงาน อย่าเปลี่ยนแปลงตัวเองมากเกินไป และอย่าไปบังคับให้อีกฝ่ายเปลี่ยนแปลงเช่นกัน
ทะเบียนสมรสเป็นแค่กระดาษ
ถ้าคิดเรื่องขอเลิกกัน ควรบอกอีกฝ่ายให้รู้แต่เนิ่นๆ ถึงแม้มันจะยาก แต่การทนจนถึงที่สุดแล้วค่อยบอก มักจบลงที่การไม่สามารถแก้ปัญหาได้ แล้วก็เลิกรากันไปจริงๆ
เป็นไปได้ควรแยกครอบครัวออกมาอยู่กันสองคน การอยู่บ้านฝ่ายชายหรือฝ่ายหญิง มักมีปัญหาที่ทั้ง 2 คนแก้เองไม่ได้มากมาย
เวลาทะเลาะกัน การขู่ว่าจะขอหย่า ถ้าไม่ทำแบบนั้นแบบนี้ ไม่ได้ช่วยแก้ให้ปัญหาผ่านไปได้ สุดท้ายจะมีฝ่ายหนึ่งอดทนยอม
การกอดและสัมผัสกับคนรักทุกวันช่วยได้ คู่ที่เลิกกันมักขาดสิ่งนี้
เรื่องดราม่าน้ำเน่าแบบในละคร มีอยู่จริง
ต้องยอมรับว่าสำหรับสังคมไทย ผู้หญิงเป็นฝ่ายเสียเปรียบถ้าต้องเลิกกับสามี โดยเฉพาะเมื่อต้องเริ่มต้นหาคนใหม่ เพราะฉะนั้นผู้ชายควรคิดให้ดี คุณกำลังจะทำลายชีวิตอีกฝ่ายอย่างไม่มีทางหวนกลับ
ข้อดีของการได้เห็นเพื่อนๆ เลิกรากันไปทีละคู่ ทีละคู่ ก็คือการได้กลับมามองคู่ของตัวเอง ได้กลับมาคุยกับคนที่เรารักว่า ตอนนี้เราอยู่จุดไหนกันแล้ว ยังรักกันหวานแหววเหมือนก่อน หรือกำลังเริ่มเข้าสู่จุดที่คู่อื่นกำลังจะเจอปัญหา

ถามว่าแล้วเราได้อะไรจากเรื่องนี้บ้าง ผมก็คงตอบได้แค่ว่า ..

ชีวิตคู่เป็นเรื่องของคนสองคน
การแต่งงานไม่ใช่จุดสูงสุดของชีวิตคู่

และ ...

ในเวลาที่ยังมีกัน ก็จงรักกันให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้


เครดิต


เริ่มหวั่นๆละ จริงไหมครับเนี่ย
เข้าร่วม: 06 Jun 2010
ตอบ: 13634
ที่อยู่: Forest Backyard
โพสเมื่อ: Tue Mar 20, 2018 10:03 am
[RE: ชีวิตหลังแต่งงาน]
อยู่ก่อนแต่งน่าจะช่วยให้การหย่าลดลง ผมว่ามีส่วน เหมือนเป็นห้องเรียนด้านชีวิตคู่แบบเรียล



เข้าร่วม: 15 Sep 2010
ตอบ: 7037
ที่อยู่: BKK
โพสเมื่อ: Tue Mar 20, 2018 10:06 am
[RE: ชีวิตหลังแต่งงาน]
ผมเพิ่งคบกับแฟนได้ 3 ปี และก็พาแฟนมาอยู่ด้วยที่บ้านที่ผมซื้อเองมาแล้วเกือบปี

ทุกวันนี้ทะเลาะกันมากขึ้น 555 แฟนขี้บ่น ผมก็ขี้โมโห ทุกอย่างมันต้องเรียนรู้ ปรับเปลี่ยนกันไป

เพื่อให้ชีวิตคู่มันดำรงอยู่ได้ ได้เห็นอะไรหลายๆ อย่าง ตัวเองก็ปรับ แฟนก็ปรับ และคิดว่าในอนาคตเราจะแต่งงานกันครับ ผมเองก็กำลังเก็บเงินแต่งงานอยู่

อิสระ....มาพร้อมกับความอ้างว้าง
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 12938
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Mar 20, 2018 10:07 am
[RE: ชีวิตหลังแต่งงาน]
ตั้มก่อนแต่ง น่าาจะช่วยให้การหย่าลดลง เหมือนทดลองใช้งาน ว่าฟิล หรือรสสัมผัสมันได้ไหม
0
0
เข้าร่วม: 16 Oct 2005
ตอบ: 28029
ที่อยู่: Kanagawa, Japan
โพสเมื่อ: Tue Mar 20, 2018 10:10 am
[RE: ชีวิตหลังแต่งงาน]
มะเขือม่วง พิมพ์ว่า:
ตั้มก่อนแต่ง น่าาจะช่วยให้การหย่าลดลง เหมือนทดลองใช้งาน ว่าฟิล หรือรสสัมผัสมันได้ไหม  


แล้วมัยเด็กชายบอล แต่งแล้วก็ยังไปตั้มนอกบ้าน ตั้มสาวเกะเรื่อยๆล่ะฮะ..สะเด้ยยยยย
เข้าร่วม: 11 Feb 2016
ตอบ: 9436
ที่อยู่: N/A
โพสเมื่อ: Tue Mar 20, 2018 10:11 am
[RE: ชีวิตหลังแต่งงาน]
แต่งงานแล้วใช้ความอดทนให้มากกว่าความรัก

มันยากที่จะมีคนเข้าใจเราไปทุกเรื่อง หรือเราจะเข้าใจคนอื่นไปทุกเรื่อง

มีอะไรคุยกันเยอะๆ สื่อสารกันเยอะๆ จะได้เข้าใจกันมากขึ้น

เรื่องเล็กๆ ก็ให้อภัยกัน มีไม่กี่เรื่องหรอกที่ให้อภัยกันไม่ได้ ก็อย่าไปทำ
0
0

Spoil
 
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 7100
ที่อยู่: โลกสวย
โพสเมื่อ: Tue Mar 20, 2018 10:12 am
[RE: ชีวิตหลังแต่งงาน]
หลายๆคนอาจกำลังมองหาความสมบูรณ์แบบของคนที่จะมาเป็นคู่ชีวิตมั้งครับ

แต่จริงๆแล้วคงลืมไปว่ามันไม่มีหรอก ถ้าปักใจไปแล้ว ว่าคนนี้แหล่ะใช่ ถึงขนาดแต่งงานกันแล้วล่ะก็

เวลามีปัญหาสารพัดสิ่งหลังแต่งไปแล้ว ถ้ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่โตชุดชีวิตให้เราตกต่ำ ก็ค่อยๆปรับกันไป เอาหูไปนา เอาตาไปไร่

ไม่ต้องเจ้าคิดเจ้าแค้นจับมาเป็นประเด็นซะทุกเรื่อง ชีวิตคู่ก็จะมีความสุขครับ

Spoil
ขอตัวไปล้างจานแล้วรีบไปเอากางเกงที่อีแก่มันใช้ให้เอาไปแก้เอวก่อนครับ ใช้กุจังงง  
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 12938
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Mar 20, 2018 10:16 am
[RE: ชีวิตหลังแต่งงาน]
-1-st mir@cle พิมพ์ว่า:
มะเขือม่วง พิมพ์ว่า:
ตั้มก่อนแต่ง น่าาจะช่วยให้การหย่าลดลง เหมือนทดลองใช้งาน ว่าฟิล หรือรสสัมผัสมันได้ไหม  


แล้วมัยเด็กชายบอล แต่งแล้วก็ยังไปตั้มนอกบ้าน ตั้มสาวเกะเรื่อยๆล่ะฮะ..สะเด้ยยยยย  


อย่าทำอย่างนั้น ก็เพราะว่ามันไม่ดี
เข้าร่วม: 11 Jan 2006
ตอบ: 14981
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Mar 20, 2018 10:16 am
[RE: ชีวิตหลังแต่งงาน]
ผมกับแฟนก็อยู่ก่อนแต่งนะครับ
และใครที่คิดว่า ผู้หญิงจะปรับตัวหลังงจากแต่งงานหรือมีลูกแล้วนั้น....บอกเลยว่า ไม่เสมอไปครับ

ถ้าเค้าข่มคุณยังไง แต่งไปแล้วหนักกว่าแน่นอน อะไรที่เค้าเคยได้ แต่งไปแล้วห้ามลดลงนะครับ

ในมุมมองของคนที่แต่งแล้วแบบผมนะครับ มันมองได้สองแบบ

แบบแรก คือแต่ละคนไม่ต้องปรับอะไรเลย ให้แสดงตัวตนที่แท้จริงของแต่ละคนออกมาให้อีกฝ่ายได้เห็น ส่วนจะรับได้หรือรับไม่ได้ จะเดินหน้าต่อหรือพอแค่นี้ ก็เลือกกันเอาเอง

แบบที่สองคือปรับตัวเข้าหากัน เพื่อประคับประคองชีวิตคู่ให้อยู่รอดให้ได้

ส่วนจะอยู่ก่อนแต่งหรือไม่ก็ถามพ่อแม่ด้วยก็ดีครับ เค้า happy ก็ดีไป เค้าไม่ชอบอันนี้ก็แย่หน่อย

ส่วนปัญหาที่มันหย่ากันก็มาจากเรื่องไม่กี่เรื่อง เงิน เวลา และตัวกูของกู
เงินไม่พอใช้จ่าย แต่ละคนไม่มีเวลาให้กัน และยึดตัวกูของกูเป็นที่ตั้ง ประมาณว่าฉันถูกเสมอ ข้อนี้มักไปรอดยากครับ

1
0
เข้าร่วม: 05 Sep 2013
ตอบ: 7064
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Mar 20, 2018 10:16 am
[RE: ชีวิตหลังแต่งงาน]
ตอนนี้ผมอยู่กับแฟนนะ ย้ายมาอยู่ตจว.ด้วย ตัวผมคนกทม. มาอยู่กับแฟนตจว.

ยังไม่ได้แต่งงานครับ เก็บเงินอยู่ คิดว่าไม่อยากเกิน 3 ปี

ถามว่าตอนแรกก็ไม่เคยคิดเรื่องอยู่ก่อนแต่งหรอก สังคมหรือครอบครัวก็ไม่ได้เคยพูดถึงเรื่องนี้ (คนจีนด้วย)

แต่ว่าพอมาอยู่จริงๆแล้วก็รู้สึกว่าจากเดิมที่สวีทหวานแหววกัน มันเหมือนกลายเป็นชีวิตประจำวันนะ แต่ก็ขาดกันไม่ได้ คือเหมือนเป็นอีกครึ่งชีวิตไปแล้ว

ถามว่าถ้าจัดงานแต่งแล้วจะเป้นไง ก็ไม่มีอะไรครับ อาจจะแค่เปิดเผยมากขึ้น จดทะเบียน ซื้อบ้านซื้ออะไรร่วมกันอีกหลายอย่าง

แต่ชีวิตหลักๆก็คงเหมือนเดิม จนบางทีพอคิดไปแล้ว ก็มีความคิดที่ว่า ไม่ต้องแต่งก็ได้ จูงมือกันไปจดทะเบียนก็พอมั้ง

แต่อีกใจก็ยังคิดว่าเพื่อให้มันดูไม่น่าเกลียดต่อผู้หลักผู้ใหญ่ทั้งสองฝั่ง จัดงานเล็กๆก็คงไม่มีปัญหา แต่ไม่ต้องเอิกเกริก ไม่มีประโยชน์ สิ้นเปลืองเงินโดยใช่เหตุ

ก็เริ่มรู้สึกจริงจังครับว่าการที่สั้งสองฝ่ายเปิดใจ ลองอยู่ก่อนแต่งด้วยกันเนี่ย มันช่วยให้เราเข้าใจการใช้ชีวิตคู่ และลดสาเหตุการหย่าร้างได้นะ

(จริงๆอาจจะไม่ลดหรอก เพียงแต่เลิกกันก่อนแต่งเพราะอยู่กันไม่ได้เลยไม่ได้ใช้คำว่าหย่าร้างมากกว่า)

สังคมไทยอาจจะยังไม่ค่อยเปิดใจ แต่ผมว่ามันไม่เลวนักนะวิธีนี้ ดีกว่าแต่งกันไป รีบมีลูก หรือท้องก่อนแต่งแต่ยังไม่เคยลองอยู่ด้วยกัน

สุดท้ายหย่ากัน ลูกลายเป็นพ่อแม่ไม่ได้อยู่ด้วยกันอีก

0
0
เลิกคิดไปเองเถอะ
เข้าร่วม: 16 Jul 2009
ตอบ: 624
ที่อยู่: ใชเหมี่ยง
โพสเมื่อ: Tue Mar 20, 2018 10:26 am
[RE: ชีวิตหลังแต่งงาน]
ผมไม่ได้อยู่ก่อนแต่งครับ ตอนนี้แต่งงานอยู่บ้านแฟนด้วย ถ้ามีเงินทองพอขยับขยายได้ค่อยคิดต่อ
บ้านแฟนผมไม่ค่อยจู้จี้อะไรมาก ผมก็เป็นคนอยู่ง่ายกินง่าย เลยไม่มีปัญหาอะไร
เรื่องนี้ผมเลยคิดว่ามันมีหลายปัจจัยนะ ที่ทำให้อยู่กันไม่รอด ไม่ใช่แค่เรื่องที่บทความเขาเขียนมาหรอก อยู่ที่อุปนิสัยส่วนตัวของคนที่อยู่ร่วมกันด้วยว่าเป็นจิ๊กซอว์ที่ต่อกันได้ไหม
1
0
เข้าร่วม: 12 Aug 2017
ตอบ: 2088
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Mar 20, 2018 10:31 am
[RE: ชีวิตหลังแต่งงาน]
ก่อนแต่งคนเรามักมองข้ามจุดไม่ดีของอีกฝ่ายหนึ่งไป ไปมองว่าน่ารัก ยอมรับได้ ไม่เป็นไร ยกตัวอย่างเช่น ผู้หญิงขี้งอนมองว่าน่ารักดี ผู้หญิงหึงมองว่าเพราะเขารักเรา ผู้หญิงจู้จี้ก็ไม่เป็นไร ผู้หญิงชอบค้นมือถือ ผู้หญิงเงียบไม่พูด ผู้หญิงชอบเที่ยวดึก กินเหล้า สูบบุหรี่ ฯลฯ เวลารักอะไรๆ ก็ดีไปหมด
แต่เชื่อเถอะ เอาแค่เรื่องขี้งอนเรื่องเดียวเท่านั้นก็ทำให้ชีวิตแต่งงานไปไม่รอดแล้ว นั่นก็งอน นี่ก็งอน มันคุยกันไม่รู้เรื่องครับ ดังนั้นอะไรที่คิดว่าไม่ดีแม้แค่เล็กน้อย ถ้าก่อนแต่งปรับตัวไม่ได้ก็อย่าแต่งเลย เสียเวลาเปล่า
0
0
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 11797
ที่อยู่: Ladplao Bangkapi BKK
โพสเมื่อ: Tue Mar 20, 2018 10:34 am
[RE: ชีวิตหลังแต่งงาน]
สามี-ภรรยาจะอยู่กันได้ไม่ใช่เพราะรักกันนะแต่เพราะเรายอมรับข้อดีข้อเสียของอีกฝ่ายได้นั่นแหละผมถึงคิดว่าจะอยู่ได้กันนานๆ และตลอดไป
0
0
เข้าร่วม: 16 Oct 2007
ตอบ: 9044
ที่อยู่: ไม่รู้
โพสเมื่อ: Tue Mar 20, 2018 10:38 am
[RE: ชีวิตหลังแต่งงาน]
มองพ่อกับแม่เป็นตัวอย่าง ว่าเขาอยู่ด้วยกันมาได้อย่างไร

0
0
สุดท้าย คนเราพบกันเพื่อลาจาก แค่นี้ใช่ไหม


เข้าร่วม: 01 Sep 2017
ตอบ: 1653
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Mar 20, 2018 10:43 am
[RE: ชีวิตหลังแต่งงาน]
ขนาดผมอยู่กับแฟนเก่ามาเกือบ 7 ปี ไม่ได้แต่ง ไม่ได้จด ยังเสียใจมาก ทั้งเจ็บ ทั้งอึดอัด

ผมไม่โทษหรอกว่าผมผิดหรือเค้าผิด แต่มันเจ็บจริงๆ คิดย้อนไปก็อยากจะทำให้ดีกว่าเดิม

สำหรับคนที่แต่งแล้ว จดแล้ว เลิกกัน หย่ากัน ไม่ชายก็หญิงคงเจ็บปวดกว่าผมมากมาย

ผมเพิ่งแต่งงานได้เมื่อเดือนที่แล้ว ชีวิตคู่ดูหวานเหมือนเดิม อาจจะมากกว่าเดิมนิดหน่อยตรงที่เอารูปงานแต่งมาวางให้เห็นอยู่ทุกวัน

ตั้งแต่แต่งมาก็ไม่เคยทะเลาะกันเลยนะ จริงๆแล้วอยู่กันมา 2 ปีกว่าก็ไม่เคยทะเลาะกันรุนเรง

อย่างมากก็แค่งอล ไม่คุยกันคืนนึง นอนหันหลังให้กัน ตื่นมาไม่ค่อยพูดกัน กลางวันรับไปกินข้าวก็คุยกันปกติเหมือนเดิม

ผมจะดูแลเธอไปจนกว่าผมจะหมดแรง....
เข้าร่วม: 07 Apr 2009
ตอบ: 11843
ที่อยู่: มหาวิทยาลัยรามคำแหง
โพสเมื่อ: Tue Mar 20, 2018 10:50 am
[RE: ชีวิตหลังแต่งงาน]
* ผมว่าหลักๆ ที่ควรจะจูนกันให้ดีเลย คือข้อเสียของแต่ละฝ่ายที่ต้องรับให้ได้แหละครับ


ข้อดีไม่ต้องคิดถึงมันหรอก เพราะถ้าไม่ดีจริงไม่ได้มาคบกันหรอก


ข้อเสียนี่ละ ปัญหาใหญ่ของคู่ชีวิตเลยครับ ถ้ารับข้อเสียกันและกันได้นี่ผมว่าสบายไปเยอะ
0
0
♥ LFC
เข้าร่วม: 15 Dec 2006
ตอบ: 9113
ที่อยู่: Hotspur Way, Enfield.
โพสเมื่อ: Tue Mar 20, 2018 10:55 am
[RE: ชีวิตหลังแต่งงาน]
เพื่อผมที่สนิทกันเลย

คู่แรกคบกันตอนปี 41 แต่งปี 55 ลูกสอง ตอนนี้ยังรักกันดี

คู่สองคบกันปี 47 แต่งปี 57 ลูกสอง ตอนนี้ยังรักกันดี

คู่สามคบกันตอนปี 41 แต่งปี 60 ไม่มีลูก ตอนนี้ยังรักกันดี

ของผมคบปี 47 แต่งปี 59 ลูกหนึ่ง ยังรักกันดี

สังคมรอบข้างในไลน์ในเฟสไม่ค่อยมีหย่าร้างกัน(กรณีที่แต่แล้ว) คือมีแต่น้อยมากๆ

อันนี้เล่าให้ฟังว่าบางที่คนก็ไม่ได้เลิกกันเยอะอาจจะอยู่ที่บางกลุ่มครับ
0
0
“ชนชั้นใดร่างกฎหมายก็เพื่อชนชั้นนั้น”
Cr คาร์ล มากซ์
เข้าร่วม: 28 Oct 2008
ตอบ: 10619
ที่อยู่: anfield road
โพสเมื่อ: Tue Mar 20, 2018 11:12 am
[RE: ชีวิตหลังแต่งงาน]
ผมเห็น ทั้งคนที่ อยู่รอด กับคนที่เลิกกัน
ผมเองก็เลิกกับผู้หญิง มาเยอะแยะมาก แต่คงไม่เท่ากับคนที่ ต้องไปอำเภอ ไปหย่า อันนั้นคงโคตรเจ็บ

พวกอยู่รอดเท่าที่เห็น การเงินมันดี มีแต่ขยายธุรกิจ กิจการ กิจกรรม
ไม่นอกใจกัน มีลูกให้เลี้ยง เพื่อนดี พ่อแม่พี่น้องดี ไม่ยุ ไม่พูโเหน็บแนม มีบ้าน มีห้องอยู่ของตัวเอง ร่างกายแข็งแรง

พวกที่เลิกกัน
นอกใจ มีคนมาชอบเยอะ หญิงกลับบ้านช้า งานเยอะ เจ้านายไม่ให้กลับ
ต่างคนต่างเพื่อนเยอะ ไม่เปลี่ยน ไม่ปรับตัว ยังติดสังสรรค์

การเงินไม่ดี กิจการเจ๊ง ยืมคนอื่นบ่อย ใช้เงินเยอะ แต่ไม่หา
พ่อแม่ พี่น้อง ไม่ถูกกัน พูดยุแหย่ อยู่บ้านแบบรวมๆ ครอบครัว

ใจสำคัญมาก นอกใจ ชอบแชต ค่อนข้างเสี่ยง
0
0
การไม่ได้ในสิ่งที่ปรารถนาในบางคราว ก็เป็นพรอันประเสริฐ - องค์ทะไลลามะ
Ps.
Liverpool Champions Fifa club world Cup 2019
Champions Eufa Supercup 2019
Champions Eufa Champions League 2018-2019
Champions PremierLeague 2019-2020

คุณอาจจะเปลี่ยนภรรยาได้, เปลี่ยนความคิดทางการเมืองได้, เปลี่ยนศาสนาก็ได้ แต่ไม่สามารถเปลี่ยนทีมที่คุณเชียร์ได้

(ไม่อยากจะบอกเลยว่าคนพูดคือ เอริค คันโทน่า อยากบอกว่าคิดเอง)

เข้าร่วม: 02 Feb 2010
ตอบ: 7863
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Mar 20, 2018 11:25 am
[RE: ชีวิตหลังแต่งงาน]
สำคัญที่สุดคือความเข้าใจครับ เข้าใจว่าเขาเป็นอย่างไร และยอมรับกับมัน ถ้าทำได้ก็อยู่ได้ล่ะครับ

จะอยู่กันไม่ต้องไปสนใจเหตุผลครับ เพราะแต่ละคนก็มีเหตุผลซึ่งบางเหตุผลก็ไม่มีใครผิดครับ ทะเลาะกันจนตาย ก็ไม่ได้ข้อสรุป

เรื่องเงินทอง ญาติพี่น้อง นี้ก็เรื่องใหญ่ ต้องจำกัดขอบเขตให้ชัดเจน ยุ่งกันมากก็ไปไม่รอด

ที่สำคัญคือ ถามตัวเองให้แน่ใจ ว่าใช่คนนี้นะ
0
0
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 4621
ที่อยู่: ยานอวกาศ
โพสเมื่อ: Tue Mar 20, 2018 11:27 am
[RE: ชีวิตหลังแต่งงาน]
ผมแต่งานมา 5 ปี ก่อนแต่งอยู่ด้วยกันอีก 5 ปี 10 ปี อาทิตย์นึงเถียงกัน 3-4 หน เดือนนึงจะทะเลาะใหญ่ๆ ครั้งนึง

แต่ผมกับเมียไม่เคยบอกเลิกกัน ถึงจะทะเลาะกันแต่ผมก็ยังรักเมียของผม

ผมว่าเหตุที่เลิกกันมันมีหลายสาเหตุ จนทำให้หมดรัก บางคนเรื่องเงิน บางคนเรื่องญาติ บางคนเรื่องมือที่สาม

เราไม่รู้หรอกว่าแต่งงานกันไปแล้วจะรอดหรือป่าว แต่เมื่อเราแต่งไปแล้ว และคิดว่าเราประคองชีวิตคู่ได้เท่านี้จริงๆ ยังไงก็คงต้องเลิก
0
0
เข้าร่วม: 05 Aug 2010
ตอบ: 12876
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Mar 20, 2018 11:28 am
[RE: ชีวิตหลังแต่งงาน]
ผมยังเชื่อว่า ความรักมันแก้ปัญหาในชีวิตคู่ได้แทบทุกอย่างนะ ถ้ารักกันจริงๆ มันผ่านได้หมดทุกอย่างแหละ

ผมกับเมีย ตอนนี้ก็คบกันมา 16-17 ปีได้แล้ว แต่งงานมาก็ 6-7 ปี ยังรักยังหวานกันเรื่อยๆ ไม่เคยทะเลาะกันรุนแรงเลย มีอะไรเราคุยกันได้ทุกเรื่อง ปรึกษาได้ทุกปัญหา ไม่แอบทำอะไรลับหลัง ต่อให้มีปัญหาอะไรมันก็จะถูกแก้ไขอย่างรวดเร็ว ไม่ลุกลามใหญ่โต

ที่สำคัญ เรายังบอกรักกันทุกวัน ไม่เคยขาดมาตลอดระยะเวลาที่คบกัน ผมว่าอันนี้สำคัญมาก ทำให้เราไม่ลืมว่ามีคนที่รักเรา เป็นคู่คิดเราอยู่ตลอด เราจะไม่กล้าทำอะไรนอกลู่นอกทางเลย เพราะเสียดายสิ่งดีๆ ที่ต่างได้รับจากกันและกัน
0
0
เข้าร่วม: 30 Aug 2006
ตอบ: 1683
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Mar 20, 2018 11:34 am
[RE: ชีวิตหลังแต่งงาน]
หลังแต่งงาน ความอดทน ความประนีประนอม และการลดความคาดหวังมีความสำคัญมาก
หลังแต่งงาน ความรักที่มี จะค่อยๆ แปรไปเป็นความผูกพันมากขึ้น
หลังแต่งงาน ความหวานจะค่อยๆ ลดน้อยลง กลายเป็นความเคยชิน
หลังแต่งงาน อีกฝ่ายจะเป็นเหมือนอากาศ เราไม่ตระหนักถึง แต่ขาดไปก็ตาย

ถ้าขาดไปก็ไม่ตาย ก็น่าจะเลิกกันได้ครับ ซึ่งก็แล้วแต่คู่

0
0
เข้าร่วม: 09 Apr 2010
ตอบ: 1890
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Mar 20, 2018 11:35 am
[RE: ชีวิตหลังแต่งงาน]
เพื่อนท่านตัดสินใจหย่าไปแล้ว4คู่ แล้วอีก10ๆคู่ที่เค้ายังไม่หย่ากันละครับ
0
0
เข้าร่วม: 01 Feb 2009
ตอบ: 591
ที่อยู่: Kop Stand, Anfield
โพสเมื่อ: Tue Mar 20, 2018 11:36 am
[RE: ชีวิตหลังแต่งงาน]
จริงครับ การมาอยู่ด้วยกันนี่มันยากกว่าตอนเป็นแฟนกันเยอะ

ต้องยอมรับด้านมืดของกันและกัน ที่สำคัญต้องปรับตัวให้เข้ากับอีกฝ่ายด้วยเหมือนกัน

ถ้ายังยึดติดอยู่แต่กับตัวเองก็เตรียมตัวเลิกได้เลยครับ
0
0
"การลงทุนมีความโลภ โปรดตัดสินใจให้ดีก่อนลงทุน"
เข้าร่วม: 20 Sep 2009
ตอบ: 481
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Mar 20, 2018 11:57 am
[RE: ชีวิตหลังแต่งงาน]
ก่อนผมแต่งคบกับแฟนมาเกือบ10ปี ไม่ได้อยู่ด้วยกัน ตอนนี้แต่งงานมาจะ3ปีและ
ถามว่าก่อนกับหลังแต่งเป็นยังไง หลังแต่งก็อึดอัดบ้างเพราะแฟนเป็นคนพูดเก่ง เอาแต่ใจ
ยอมคนไม่ค่อยได้ เหตุผลร้อยแปดก็สู้ไม่ได้ แต่ผมมองว่าเรื่องพวกนี้มันเล็กน้อยนักเมื่อเทียบกับสิ่งที่ดีในตัวเขานะ ตย.เช่นเป็นคนประหยัด อ่อนน้อมกับผู้ใหญ่ ทำกับข้าวได้ ไม่เจ้าชู้ รักเราคนเดียว

สรุป พอแต่งแล้วพยายามเข้าใจกันให้เหมือนเป็นเพื่อนกันมากขึ้น ไม่เชื่อลองมองย้อนไปเรามักจะยอมเพื่อนได้มากกว่าพ่อแม่หรือแฟนตัวเองอีก
0
0
เข้าร่วม: 27 May 2007
ตอบ: 2758
ที่อยู่: Mad City
โพสเมื่อ: Tue Mar 20, 2018 12:52 pm
[RE: ชีวิตหลังแต่งงาน]
ผมว่าความรัก และการแต่งงาน มันไม่ใช่เรื่องของคนสองคนเลยนะ แม่ม...ทั้งสองบ้านอะ
0
0
เข้าร่วม: 24 Jan 2008
ตอบ: 9999
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Mar 20, 2018 1:22 pm
ชีวิตหลังแต่งงาน
มะเขือม่วง พิมพ์ว่า:
-1-st mir@cle พิมพ์ว่า:
มะเขือม่วง พิมพ์ว่า:
ตั้มก่อนแต่ง น่าาจะช่วยให้การหย่าลดลง เหมือนทดลองใช้งาน ว่าฟิล หรือรสสัมผัสมันได้ไหม  


แล้วมัยเด็กชายบอล แต่งแล้วก็ยังไปตั้มนอกบ้าน ตั้มสาวเกะเรื่อยๆล่ะฮะ..สะเด้ยยยยย  


อย่าทำอย่างนั้น ก็เพราะว่ามันไม่ดี  


หยุดอยู่เพียงเท่านี้ แล้วจงไปจากกัน...
0
0
เข้าร่วม: 11 Feb 2017
ตอบ: 2413
ที่อยู่: Hold your hand 4ever
โพสเมื่อ: Tue Mar 20, 2018 1:45 pm
[RE: ชีวิตหลังแต่งงาน]
เค้าร้อนเราอุ่นพออย่าไปร้อนตามเค้า อย่าพูดอะไรแย่ๆออกไปเพราะมันเอากลับคืนมาไม่ได้แล้วก็อย่าโกรธกันข้ามวัน ของผมมีแค่นี้ครับ
0
0
เข้าร่วม: 13 Mar 2018
ตอบ: 1551
ที่อยู่: Melwood
โพสเมื่อ: Tue Mar 20, 2018 3:10 pm
[RE: ชีวิตหลังแต่งงาน]
เพื่อนรอบตัวผมแต่งงานกันกว่า 10 คู่มีเลิกกันคู่เดียวซึ่งเป็นคู่ที่ผมมองอยู่แล้วว่าต้องเลิก
เพระาเค้าแต่งเพราะ "ถึงเวลาอันสมควร" ไม่ได้แต่งเพราะอยากใช้ชีวิตร่วมกัน
คนเราวันที่แต่งงานก็คิดว่าจะคบกันจนแก่เฒ่าละครับ
แต่หลายๆคู่ไม่เป็นอย่างนั้น สาเหตุของปัญหาใหญ่ที่สุดคือ
มีปัญหาเข้าไม่ได้กับครอบครัวอีกฝ่ายไม่ได้

เรื่องอยู่ก่อนแต่งผมคงหัวโบราณมาก แต่ผมไม่เห็นด้วยซักเท่าไหร่
(ไม่ต่อต้านนะครับตัวตัวผมเองคงไม่ทำ)
จะไม่จำเป็นถ้าทั้งคู่เปิดใจจริงใจต่อกันผมว่า 2-3 ปีก็พอจะรู้แล้วล่ะ
ว่าคนที่เราจะแต่งด้วยนิสัยเข้ากับเราได้มั้ย
ผมว่าแต่งงานนี่ไม่ได้เปลี่ยนแนวคิดอะไรเท่าไหร่เลยนะ
แต่มีลูกเนี่ยเรื่องใหญ่มากๆจริงๆ
0
0
"Life's simple. You make choices and you don't look back."
เข้าร่วม: 05 Apr 2007
ตอบ: 6438
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Mar 20, 2018 8:56 pm
ชีวิตหลังแต่งงาน
คงจะจริงนะ ผมก็ใกล้ถึงจุดนั้นละ..

มีบางเรื่องที่ผมซีเรียส แต่ก็ไม่ได้รับการแก้ไข ผมเองก็เสียใจนะหากต้องจบ เพราะการเลือกขิใครสักคน การจัดงานแต่ง การใช้ชีวิตคู่ ไม่ใช่เรื่องที่ทำเล่นๆ เลย

ถึงจุดนึง ผมยอมอยู่คนเดียวดีกว่า
0
0