นี่คือบทเพลงที่สื่อความเกี่ยวกับความรู้สึกต่อกันและของสมาชิกสี่เต่าทอง, วันหนึ่งในช่วงการทำงานของวง, George นำโยคีเข้ามาสู่วงและวลีที่ว่า "Come Together right now over me" เหมือนเป็นการปลุกระดมความฮึกเฮิมของวงอีกครั้ง เพราะนี้คืออัลบั้มสุดท้ายของพวกเขายังไงละ.
Here come old flat top
He come groovin' up slowly
He got joo joo eyeballs
He one holy rollers
He got hair down to his knee
Got to be a joker
He just do what he please
ท่อนแรกของเพลงนี่ค่อนข้างชัดเจนว่าพูดถึง Ringo. Ringo มักตีกลองในท่วงทำนองแบบ old school ("Flat top" คือทรงผมแบบเก่าที่เป็นที่นิยมมากในช่วงกลางของศควรรษที่ 20) เขามักถูกมองว่าเป็นจุดอ่อนของวง, แต่แล้วเขาก็เริ่มพัฒนาฝีมือขึ้นและดีขึ้นมากขึ้นเรื่อย ๆ ("Groovin' up slowly"). "he got hair down to his knee," คือมุขตลกที่คนชอบล้อในลุค shaggy ในช่วงแรกที่เขาเข้ามาอยู่ในวงและตั้งแต่เขานักลงและเริ่มละเลงไม้กลองลงไปผมเขาก็ไม่ถึงกับยาวเฟื้อยจนถึงเข่าแต่สิ่งที่คุณจะได้รับคือทำนองกลองอันแสนไพเราะต่างหาก. "Got to be a joker he just do what he please," สื่อถึงว่า Ringo มักถูกมองเป็นตัวโจ๊กของวงเนื่องจากตัวเล็กสุดแต่เขาไม่แคร์หรอก (ฮ่า).
He wear no shoeshine
He got toe jam football
He got m finger
He shoot Coca Cola
He say I know you, you know me
One thing I can tell you is
You got to be free
เห้ย เมื่อกี้มีใครพูดถึง George รึปล่าวอ่ะ ? "He wear no shoeshine," George ไม่ค่อยชอบอะไรที่มันหรูหรามาก ชอบเดินเท้าปล่าว อย่างที่เรารู้ป๊าแกเป็นฮิปปี้. "He got toe-jam foot ball," บางคนบอกว่ากีฬาฟุตบอลมักมีสนามที่อยู่ใกล้กับวัดซึ่งเป็นที่ที่โยคีใช้ฝึกฝนจิตใจ ซึ่ง George ชอบมาก. "He got m finger," อย่างที่เรารู้กันว่า George นั้นเชี่ยวชาญและเก่งมากในเครื่องดนตรีที่ใช้นิ้วมือในการเล่น.ส่วน "Coca Cola" นั้นก็คือโคเคนนั้นเอง "He say,' i know you, you know me'etc..." น่าจะกล่าวถึงโยคีอีกเช่นเดิม
He bad production
He got walrus gumboot
He got Ono sideboard
He one spinal cracker
He got feet down below his knees
Hold you in his armchair
You can feel his disease
ท่อนนี้คือท่อนที่ชัดเจนที่สุดว่ากล่าวถึงใคร... การยอมแพ้เหรอ? ไม่มีวัน!! เพราะเขาคือ John ไง! "he bad production," สื่อถึงว่าเขาเป็นคนที่มีนิสัยใจร้อนอารมณ์เสียหงุดหงิดง่ายมาก และมักหยุดการทำเพลงเสียดื้อ ๆ ทำให้สมาชิกในวงประสาทเสียบ่อยครั้ง. "He got walrus gumboot," John เขียนเพลง 'I am the walrus" และเขียนเพลงอีกมากมายที่มีซาวด์แบบนี้และปฎิเสธที่จะเปลี่ยนแปลงสไตร์, ทำให้ทั้งวงไม่ค่อยพอใจเขามากนัก. "He got Ono sideboard," ในช่วงที่เขียนเพลงนี้ John มักนำแฟนสาวเข้ามาในสตูดิโอห้องอัดเสียงและเขามองเธอว่าเป็นเหมือนเฟอนิเจอร์หรือเครื่องประดับในห้องอัดคล้าย sideboard ในบ้านนั้นแหละ . "he one spinal cracker," อาจจะมีความหมายคล้ายคำว่า "braking my back," John มักมีเรื่องโต้แย้งและเถียงกับเพือนในวงแล้วก็ "brake thier backs." "He got feet down below his knee," John ปฎิเสธที่จะเปิดรับความคิดเห็นคนอื่น "get on his knees" และคนอย่างเขาคงไม่มีวันคุกเข่าหรือก้มหัวให้ใครแน่นอน. "Hold you in his arm chair you can feel his disease," ถ้าใครสักคนที่อยู่ใกล้เขา และอยู่กับเขาคงจะรู้สึกถึงอาการป่วย ความเศร้า หรืออะไรหลาย ๆ อย่างในตัวของเขาแน่นอน.
He roller coaster
He got early warning
He got muddy water
He one Mojo filter
He say one and one and one is three
Got to be good looking
Cause he's so hard to see
และสุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด, Paul! "He roller-coaster," Paul เป็นคนที่มีอารมณ์อ่อนไหวง่ายมาก ๆ และมันเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาคล้าย roller coaster ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเพลงหรือความรู้สึก. "He got early warning," ผู้คนมักตักเตือนเขาอยู่บ่อยครั้งเพราะกลัวว่าเขาจะสร้างปัญหา. "He got muddy water," แน่นอนจะมีอะไรอื่น เฮโรอีนยังไงละ. "he one mojo filter," Paul เป็นคนที่มีความเป็นผู้นำและชักจูงผู้คนได้เก่งมาก ๆ เขามักเกลี่ยกล่อมให้สมาชิกในวงทำในสิ่งที่เขาคิดได้. "He say 'one and on and one is three'," อาจจะหมายถึงว่าเขาบอกกันเพื่อนในวงคนอื่นว่าถึงแม้วงจะเหลือแค่ 3 คนไม่รวมเขาวงก็อยู่ได้. "Got to be good-looking because he's so hard to see," Paul คือคนที่น่าจะ "หล่อ"และ"น่ารัก" มากของวงเป็นเรื่องยากที่จะเห็นเขา และยากมากที่จะเข้าใจในตัวเขา