ผมอยากรู้ความแตกต่างจากท่านที่เคยใช้บริการมาแล้วทั้งสองที่อ่ะครับ ส่วนตัวไม่เคยเข้าโรงบาลรัฐ เวลาเป็นไรผมไปโรงบาลกรุงเทพฯตลอดมีประวัติที่นั่น ส่วนใหญ่อาจารย์หมอที่เก่งๆเขาจะประจำอยู่ที่โรงบาลรัฐใช่ไหมครับ ที่เห็นในโรงบาลเอกชนแค่มาเป็นบางวัน แต่การบริการอย่างอื่นผมไม่ค่อยมั่นใจโรงบาลรัฐซักเท่าไหร่ อาจจะไม่แฟร์ที่คิดงี้เพราะยังไม่เคยลอง แต่การบริการทุกอย่างมันก็สอดคล้องกับเงินที่จ่ายไปป่าวครับ จ่ายบาทเดียวบริการหลักร้อยไรงี้ไม่น่าจะมี ยอมรับว่าไม่เคยใช้บัตรทอง

หมอจาก รพ.เอกชน ส่วนใหญ่ก็ไปจาก รพ.รัฐ นี่แหละ
อย่างหมอ รพ. ผม (รพ.รัฐ) ก็ไปรับจ๊อป รพ.เอกชน

ความแตกต่างคือ รพ.รัฐ รอนานชิบหายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย


รพ.เอกชน น่าจะรอไม่นาน(ไม่เคยเข้า555555)

ก็ตามที่ท่านเข้าใจแหละ
"บริการทุกระดับประทับใจ"

จ่าย 100 บริการ 100
จ่าย 1000 บริการ 1000

ประชาชนส่วนใหญ่ในประเทศไม่ได้มีรายได้มากพอที่จะใช้บริการ รพ.เอกชน ได้ทุกครั้ง
ท่านไป รพ. กรุงเทพ ก็รู้ราคาดี แค่เฉพาะค่าธรรมเนียม วิชาชีพ ค่าอุปกรณ์ ค่ายา แตกต่างกันหลายเท่าตัวแล้ว



ตัวอย่างจากประสบการณ์ การผ่าตัด กระดูกสันหลัง
รพ. รามา แสนต้นๆ แสนคิวเป็นเดือน
รพ. บำรุงราษ ค่าผ่าตัด 300K+ ไม่รวมห้อง เข้าไปตรวจ หมอนัดวันผ่า จบ!

มันต่างกันฟ้ากับเหว คนจนป่วยเค้าไม่ต้องการโคตรแห่งบริการหรอกคับ เค้าเอาแค่อยุ่รอดก็พอในราคาที่ถูก เหมือนร้านข้าวใน terminal 21 ถูกอิ่ม แค่นี้ก็พอ ไม่ต้องเน้นเข้าร้านดีๆ ในห้าง

คนไม่มีตังก็ไปโรงบาลรัฐเนื่องจากมันถูกกว่า คนก็ไปกันเยอะแบบterminal 21 นี่แหละ ส่วนใครทนรอคิวไม่ได้ถ้ามีตังก็ไปเอกชนไง ร้านข้าวแพงๆคนก็น้อย คนน้อยเค้าก็เน้นความว่องไวได้ เน้นขายอย่างอื่นสะดวกกันไป

ว่างๆก็ไปลองสิ ไปถึงโรงบาล6โมงรอคิว 8โมงเริ่มตรวจ ได้ตรวจบางทีอาจจะ10โมง กว่าจะได้ยาเที่ยงพอดี โรงบาลที่แนะนำเพื่อประสบการณ์ จุฬา

ครับ ก็ตามนั้นอยู่แล้ว เพราะโรงบาลรัฐกับเอกชน คนที่มารักษา กับ บุคลากรทางการแพทย์มันไม่สอดคล้องกันเลย


สมมุติ เอกชน มีคนไข้ 1000 คน ต่อวัน รัฐ อาจจะมี 10000 คน ซึ่ง จะให้พยาบาลหรือเจ้าหน้าที่มาคอยเทคแคร์คุนเหมือนเอกชนมันคงเป็นไปไม่ได้


ลองคิดเล่นๆ หากคุนต้องคอยบริการคนแค่ 1 ต่อ 10 ในแต่ละวัน คุณก้จะมีเวลาที่มากพอ และความเหนื่อยล้าจากการทำงานก็จะน้อยกว่า กับของรัฐบาล คุนต้องคอยบริการเป็น 1 ต่อ 100 คุนคงจะไม่สามารถบริการได้อย่างดีเหมือนเอกชนอยู่แล้ว


ส่วนของรัฐ หากเป็นโรงบาลที่เป็นโรงเรียนแพทย์ ท่านอาจจะได้ราคาที่ถูกกว่าแต่ก็อาจจะมีนศแพทย์มาคอยรักษาท่านบ้าง และมี อ.แพทย์คอยกำกับ

ผมก็ใช้เอกชนมาตลอดคับ

ที่บ้านฝั่งใจกับรัฐบาลมาก ตอนเด็กผมเป็นไข้เลือดออก รักษาอยุที่โรงบาลเด็ก หมอบอกเป็นไข้หวัดใหญ่ รักษาอยู่สัปดาห์เศษ ไม่หายสักที

พอย้ายไปเอกชน หมอบอก"เป็นไข้เลือดออก วินิจฉัยโรคยังไงทำไมถึงปล่อยไว้นานขนาดนี้ เสียชีวิตได้นะ" จำได้ว่าหมอแก่ๆคนนึงที่โรงบาลเอกชนพูดประมานเนี้ย

ล่ะก็รักษาต่อที่นั้นสัปดาห์เดียวก็หาย

แต่ก็มีเอกชนบางแห่งนะ อยู่แถวคลองปะปา ประชาชื่น โรงบาลตั้งอยู่บริเวร4แยก ไม่ขอเอยนาม สั้นๆคือแพง ดูแลอย่างกับไพร่

ขอแทรกนิดนึง อาจไม่เกี่ยวกับกระทู้ ทุกวันนี้คนไทยดูแลสุขภาพตัวเองน้อยกว่าที่ควรจะเป็นกันมาก พอเริ่มป่วยถึงเริ่มคิดจะมาหาหมอกัน ลองเอาเวลาที่นั่งรอหมอวันละห้าหกชั่วโมง ไปหารเอาวันละหนึ่งชั่วโมงออกกำลังกายได้ตังห้าวัน ดูแลสุขภาพตัวเองจะดีกว่ามั้ย ฝากให้คิดหน่อยละกันนะวัยรุ่นทั้งหลาย ดีกว่าจะตายแล้วค่อยคิดมาออกกำลังกาย ยิ่งทำยิ่งได้กับตัวเองนะ

ถ้าโรงบาลเกษมอะไรนี่ ผมโดนหมากัดเล็บหลุดเลือดอาบเต็มมือ ไปหาหมอ เจ้าหน้าที่บอกว่ามาครั้งแรกกรอกประวัติก่อน เมียผมทนไม่ไหว ด่าเลยว่าเอาไปห้ามเลือด ทำแผลก่อน ประวัติญาติกรอกให้ก็ได้ สรุปกว่าจะได้ทำแผล เลือดออกจนใจหวิวๆ

ถ้า รพ รัฐจะไม่ว่าเลย นี่เอกชน ไม่ได้ใช้ประกันสังคมด้วยนะ

ที่ต่างคือระยะเวลา แน่นอนอยู่แล้ว ต่างกันโคตรๆ

อีกอย่างคือการบริการ เอกชนเหมือนเข้าโรงแรมอะ เค้าอยากให้คุณมาอีก อยากให้คุณพอใจ

ส่วน รพ.รัฐ คุณจะมาก็ได้ ไม่มาก็ดี เค้าแค่ทำตามหน้าที่ ตามมาตรฐานการรักษาที่ควรจะเป็น

และแน่นอน ความผิดพลาดจาก รพ.รัฐ มีโอกาสเกิดเยอะกว่า เพราะด้วยความที่ต้องรวดเร็ว ความเหนื่อยล้า

บุคลากรทางการแพทย์มีจำกัด
บางจังหวัดมีศัลยแพทย์เฉพาะทาง 1-2 หรือบางจังหวังก็ไม่มีเลย
นี่..ยังไม่รวมความพร้อมด้านอุปกรณ์ของแต่ละ รพ.นะ

รพ.รัฐ รพ.เอกชน _ หลายที่ก็แพทย์คนเดียวกัน
เพียงแต่พ้นเวร กลับจากเที่ยวลาว ก็สลับสับเปลี่ยน หมุนเวียนเช้า-เย็น รัฐ-เอกชน

มาตรฐานการรักษา คงไม่ต่างในกรณีแพทย์คนเดียวกัน
อุปกรณ์ +ความพร้อมในการรักษา นั่นละที่ต่าง
แต่.. ที่แตกต่างกันมากที่สุด คือเวลา

หากเร่งด่วน สามารถระบุคิวผ่าตัดได้ภายในวันเดียว สำหรับ รพ.เอกชน
แต่ถ้า.. ไม่เร่งด่วนวิกฤติ รพ.รัฐ อาจได้คิวฟังเตียง 2-3เดือน

เพราะ workload มันต่างกัน รัฐ-เอกชน ถึงได้ต่างกันด้านเวลา กันราวๆฟ้า-เหว แบบนี้ล่ะ

โรงพยาบาลรัฐนี่รอนานมากๆๆๆ เพราะคนเยอะมากๆ น่าจะเยอะเพราะมันถูก พยาบาลอย่างดุ หน้าจะบึ้งๆตลอดทั้งวัน

โรงพยาบาลเอกชนนี่รอไม่นาน คนก็มีน้อยยันเยอะ แต่ค่ารักษาจะแพงกว่าโรงพยาบาลรัฐพอสมควร จะเห็นถึงความแตกต่างของราคาก็พวกผ่าตัดใหญ่ๆ นอนไอซียู ไรงี้ แต่บริการดี บางโรงพยาบาลก็ให้ความรู้สึกว่าพยาบาลที่นี่เค้าคัดหน้าตารึเปล่า

ส่วนความเก่งของอาจารย์หมอ คิดว่าเก่งพอๆกัน เพียงแต่ใครออกตรวจที่ไหนบ่อยกว่ากัน หมอบางคนออกตรวจทั้งโรงพยาบาลรัฐกับเอกชนเลย แต่ก็อาจจะมีระดับอาจารย์หมออายุเยอะๆเก่งๆอยู่โรงพยาบาลรัฐมากกว่า แต่ถ้าเป็นหมอหนุ่มๆสาวๆที่เก่งๆสมัยนี้คิดว่าน่าจะไปออกตรวจตามโรงพยาบาลเอกชนเยอะ เพราะเดี๋ยวนี้โรงพยาบาลเอกชนทุนหนามากๆ ให้เงินดี หมอเก่งไปอยู่เยอะเค้าก็ดึงดูดคนมารักษาได้เยอะ แล้วยิ่งเครือโรงพยาบาลกรุงเทพนี่แทบจะครองประเทศไทยแล้ว ซื้อโรงพยาบาลเล็กใหญ่เค้าไปทั่วเลย

ต่างกันที่เวลาครับ ... เพราะติดตรงที่จำนวนคนไข้ที่เข้ารับการบริการ รพ.เอกชน สมมุติท่านเข้าฉุกเฉินตอนกลางคืน ก็อาจจะรอหมอแค่ 30 นาทีเพราะกำลังเดินทางมาจากบ้าน แต่ถ้าไป รพ.รัฐ อาจจะรอหมอ 3 ช.ม. เพราะกำลังผ่าตัดคนไข้ที่ อยู่ในระดับอาการฉุกเฉินที่มากกว่าอยู่

และแน่นอนก็พวกการบริการ ไป รพ.รัฐ พยาบาลเขาไม่มาเช็ดตัว เช็ดขี้ให้นะครับ แต่ รพ.เอกชน จะมีผู้ช่วยพยาบาลมาดูแล อะไรทำนองนี้

ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความพอใจของแต่ละคนครับ ส่วนตัวผมก็ไปรพ.รัฐตลอด เพราะนอนเอกชนคืนนึงหมดเป็นหมื่นแบบนั้น ก็ไม่ได้สะดวกกับฐานะผมเหมือนกัน

ของผมไปตรวจสุขภาพก่อนมีบุตรคับ ปกติเข้านนทเวชตลอด แต่วันนั้นไม่รู้นึกไงไปเกษมราษ พลาดอย่างแรง ราคาแพงกว่านิดนึงไม่เท่าไหร่ แต่ที่ผมโดนคือ ครอสตรวจก่อนมีบุตรจะตรวจโรคติดต่อต่างๆ ล่ะต้องรอผล2ชั่วโมง ส่วนพาหะธาราซิเมีย ต้องรอประมาน5วัน ซึ่งผมไม่รอรับผล และให้ส่งไปตามที่อยู่คับ แต่ผ่านไปประมาน10วันผลยังไม่ส่งมา ผมก็โทรไปตามผล ก็ตามฟอร์มล่ะคับ ล่าช้ารออีกประมาน4วันถึงจะได้ จุดพีคอยุตอนที่ได้ผลตรวจคับ คือชื่อใครไม่รู้ ไม่ใช่ชื่อผม แถมรูปเล่มที่ส่งมาอย่างกับกระดาษรายงานส่งคุณครูของเด็กป.4 ผมก็โทรไปโวย ล่ะต้องกลับไปที่โรงบาลใหม่ และหาผลตรวจของผมไม่เจอ ต้องเจาะเลือดตรวจใหม่อีกหน เพียงแต่ไม่มีค่าใช้จ่าย มีแต่ค่าเสียเวลาที่เราเสียไป ที่ต้องรอไปอีก5-6วัน +
กับเจอพยาบาลวัยป้าขี้หงุดหงิด ฟิลคล้ายๆพยาบาลดุๆตามโรงบาลรัฐ

รพ รัฐ จ่าย 100 ได้ 100

เอกชน จ่าย 1000 ได้ 500 ครับ

คือราคาที่เพิ่มขึ้นของ รพ เอกชน 10 เท่าไม่ได้แปลว่าจะได้รับการบริการดีกว่าที่จ่ายรัฐ 10 เท่าอะครับ แต่มันซื้อเวลาได้

ผมไม่เคย Admit มาก่อนเลย ก็เลยไม่รู้ว่าระดับนี้ต่างกันเยอะไหม
แต่กรณีผู้ป่วยนอก มันกว้างมาก ผมไป รพรัฐบางที่ไม่ตรวจเลยก็มี กับแบบตรวจค่อนข้างละเอียดก็เคยเจอเหมือนกัน เลยเปรียบเทียบลำบาก
แต่ที่ชัดเจนเลยก็คือ ไม่ต้องรอนานเหมือน รพ รัฐ

ตอนมีประกัน ผมลงไว้กับเอกชน ก็เคยไปนอน

ตอน30บาทใช้กับรัฐ ก็เคยไปนอน



เอกชนมันสะดวกกว่า ไวกว่า ไม่รู้เพราะแค่คนน้อยกว่า+คำว่าเอกชน รึเปล่านะ
โรคผมเจาะเลือดตรวจเงี้ย 10-15 นาทีผลออก แอดมิด เลยขึ้นห้องเลย

รัฐบาล เคยคิดว่าโรคเดิมจะมาอีก ตรวจเลือด เกือบชม. ผลถึงออก


แต่ผมยินดีไป รัฐบาลมากกว่านะถ้าผมไม่มีประกันสังคม
เพราะ 30 บาทเอง ขอให้หาย ให้รอดก็พอใจละ

เอกชนก็ดีกว่าจริงๆแหละ แต่ถ้าไม่มีประกันคงหนักน่าดู

รัฐทนหน่อย รอหน่อย เป็นไรหนักๆๆถ้ามั่นใจรักษาได้ ก็คุ้มกว่าเอกชนนะ