ผู้ตั้ง
ข้อความ
เข้าร่วม: 12 Aug 2014
ตอบ: 91
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Jul 15, 2017 7:59 am
ในปี 2040 ครึ่งของตลาดรถยนต์ใหม่คือ “รถยนต์ไฟฟ้า”


ถือเป็นแนวโน้มที่มาไวกว่าที่หลายคนคาดคิดเอาไว้เหมือนกัน สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าที่กำลังจะครองสัดส่วนถึงครึ่งหนึ่งของตลาดรถยนต์ใหม่ในอีก 20 กว่าปีหลังจากนี้ ส่วนคนยุโรป เมื่อเวลานั้นมาถึง การซื้อรถยนต์จะเหลือเพียงทางเลือกเดียวคือ “รถยนต์ไฟฟ้า”


รถยนต์ไฟฟ้ามาไวกว่าที่คิด จะพิชิตครึ่งหนึ่งของตลาดในไม่ช้า

..:: หลังจากได้เห็นปรากฏการณ์ Tesla กันมาสักพัก จนกระทั่งส่ง Tesla Model 3 ที่ราคาเริ่มต้นเพียง 1.2 ล้านบาท น่าจะทำให้เห็นแนวโน้มแล้วว่ารถยนต์ไฟฟ้าจะลงมาเล่นกับตลาดรถยนต์แมสทั่วไปอย่างดุเดือดแน่ๆ แต่ใครจะรู้ว่า “รถยนต์ไฟฟ้า” จะมาไวกว่าที่คิด

..:: รายงานจาก Bloomberg New Energy Finance ระบุว่า ราคาของรถยนต์ไฟฟ้าจะถูกลงจะราคาเทียบเทียบกับรถยนต์ธรรมดาในปี 2025 หรือ 8 ปีหลังจากนี้ Brand Inside เคยรายงานเรื่องนี้ไว้ใน อนาคต EV สดใส ฟันธงปี 2025 รถยนต์ไฟฟ้า จะถูกกว่า รถยนต์ใช้น้ำมัน ด้วยราคาที่ถูกลงนี้จะทำให้ในรถยนต์ใหม่ที่ถูกผลิตออกมาในปี 2040 จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าในตลาดถึง 54% อธิบายง่ายๆ คือ ครึ่งหนึ่งของตลาดรถยนต์ทั้งหมดจะเป็น “รถยนต์ไฟฟ้า” นั่นเอง



..:: ปัจจัยสำคัญของราคารถยนต์ไฟฟ้าที่มีราคาถูกลงมาจาก “ราคาของแบตเตอรี่ไฟฟ้า” ที่ถูกลงมาก นับตั้งแต่ปี 2010 ราคาแบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออน (lithium-ion) ลดลงไปกว่า 73% ต่อกิโลวัตต์/ชม. และแน่นอนว่า ด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาทุกวัน จะทำให้ในปี 2030 แบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าจะสามารถรองรับพลังงานได้สูงขึ้น และราคาจะลดลงไปอีก 70% จากราคาในปัจจุบัน (ที่ต้องถือว่าถูกลงไปมากอยู่แล้ว)

..:: ในขณะที่ธนาคารดัตช์ คาดการณ์ว่า ในปี 2035 จะเหลือแค่รถยนต์ไฟฟ้าให้คนยุโรปซื้อเท่านั้น ถึงขนาดที่ว่านักเศรษฐศาสตร์อาวุโสจาก ING ทำรายงานออกมาบอกเลยว่า “การพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าได้คุกคามอุตสาหกรรมรถยนต์ของยุโรปอย่างมาก”



..:: ส่วนสิ่งที่น่าสนใจมากกว่านั้นคือ เมื่ออุตสากรรมรถยนต์ในยุโรปต้องเปลี่ยนจากการผลิตรถยนต์แบบเดิมๆ ไปเป็นรถยนต์ไฟฟ้า นั่นหมายความว่า รูปแบบอุตสาหกรรมต้องเปลี่ยน เพราะรถยนต์ไฟฟ้าผลิตง่ายกว่ามาก ใช้คนน้อยกว่ามาก ดังนั้น สิ่งที่ต้องติดตามคือการเปลี่ยนแปลงไปสู่รูปแบบธุรกิจในอุตสาหกรรมยุโรปที่ต้องหันไปเน้นในภาคการบริการมากกว่าภาคการขายอย่างที่เคยทำมา


สรุป

..:: ราคาที่ถูกลงของรถยนต์ไฟฟ้าจะทำให้ในปี 2040 รถยนต์ที่ผลิตและส่งออกไปสู่ตลาดจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าถึงครึ่งหนึ่งของสัดส่วนทั้งหมด และในตอนนั้นคนยุโรปจะเหลือเพียงรถยนต์ไฟฟ้าให้เลือกซื้อเท่านั้น แต่ก็มีข้อกังวลสำหรับประเทศกำลังพัฒนาเหมือนกัน นั่นคือ “จุดเติมเชื้อเพลิงไฟฟ้า” เพราะหากโครงสร้างพื้นฐานยังไม่เอื้ออำนวย ก็จะทำให้เกิดปัญหาได้ แต่ไม่รู้แน่ชัดว่าตัวแบตเตอรี่ที่จะพัฒนาต่อไปในอนาคตนั้น จะอึดและใช้งานได้นานแค่ไหน แต่ถึงอย่างไร ประเทศที่มองเห็นประเด็นนี้ ควรรีบรับมือกับแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นได้แล้ว

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------










ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก Brand Inside



ติดตามข้อมูลข่าวสารที่น่าสนใจ (ย้อนหลัง) ได้ที่ Germanicas
เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 19380
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Jul 15, 2017 8:34 am
[RE: ในปี 2040 ครึ่งของตลาดรถยนต์ใหม่คือ “รถยนต์ไฟฟ้า”]
ถ้ารถไฟฟ้าสามารถเอามาใช้ได้เป็นส่วนใหญ่ ผมว่าถึงตอนนั้นเทคโนโลยีอื่นๆคงพัฒนาไปไกลด้วยเหมือนกัน

เพราะแสดงว่าต้องมีเทคโนโลยีแบตเตอร์รี่ที่มันดีกว่าทุกวันนี้ไง

ไม่แน่ว่ามือถืออาจกลับมาเป็นแบบชาร์จครั้งเดียวโทรได้เป็นวันๆแบบสมัยก่อน
0
0
เข้าร่วม: 25 Mar 2015
ตอบ: 7326
ที่อยู่: Estadio Santiago Bernabéu
โพสเมื่อ: Sat Jul 15, 2017 9:12 am
[RE]ในปี 2040 ครึ่งของตลาดรถยนต์ใหม่คือ “รถยนต์ไฟฟ้า”
ถ้าพัฒนาเรื่องแบตกับราคาและคุณภาพได้ ก็อวสาน เครื่องยนต์ ICE แน่ๆ
เหลือแต่ jet engine ที่ยังต้องใช้
0
0
เข้าร่วม: 02 Apr 2006
ตอบ: 402
ที่อยู่: เชียงไหม่
โพสเมื่อ: Sat Jul 15, 2017 9:44 am
[RE: ในปี 2040 ครึ่งของตลาดรถยนต์ใหม่คือ “รถยนต์ไฟฟ้า”]
ปัญหามันอยู่ที่ว่า ไฟฟ้าที่ผลิตมาเติมมาจากไหน ถ้าส่วนใหญ่ยังมาจากเชื้อเพลิงฟอสซิล ก็ไร้ความหมาย ความท้าทายจริงๆคือการพัฒนาพลังงานสะอาดมากกว่า
0
0

เข้าร่วม: 22 Sep 2006
ตอบ: 3387
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Jul 15, 2017 9:45 am
[RE: ในปี 2040 ครึ่งของตลาดรถยนต์ใหม่คือ “รถยนต์ไฟฟ้า”]
ถึงตอนนั้น ค่าไฟฟ้าก็ขึ้นเอาขึ้นเอา เพราะต้นทุนการผลิตไฟฟ้า มาจากราคาก๊าซธรรมชาติซึ่งเป็นเชื้อเพลิงหลักในการผลิตไฟฟ้า
0
0
เข้าร่วม: 04 Jun 2006
ตอบ: 4535
ที่อยู่: หัวใจอันบริสุทธิ์
โพสเมื่อ: Sat Jul 15, 2017 10:03 am
[RE: ในปี 2040 ครึ่งของตลาดรถยนต์ใหม่คือ “รถยนต์ไฟฟ้า”]
อนาคตอันไกล ไม่รู้ แต่ถ้าอนาคตอันใกล้คงยาก
เบนซ์ เปลี่ยนแบตไฟฟ้า ลูกนึงเกือบล้าน
ถามว่า ถ้าลูกค้ารับผิดชอบ ส่วนนี้เอง รวยแค่ไหนก็คิดอะ
0
0
เข้าร่วม: 08 Aug 2010
ตอบ: 358
ที่อยู่: I'm Just A Visitor From Hell ~*
โพสเมื่อ: Sat Jul 15, 2017 10:06 am
[RE: ในปี 2040 ครึ่งของตลาดรถยนต์ใหม่คือ “รถยนต์ไฟฟ้า”]
แล้วผลกระทบจากการผลิตและกำจัดแบตเตอรี่ รวมทั้งผลกระทบจากการผลิตไฟฟ้าที่ต้องเพิ่มมากขึ้น จะจัดการยังไง

Unfortunately, no one can be told what the Matrix is. You have to see it for yourself.
เข้าร่วม: 05 Aug 2009
ตอบ: 61
ที่อยู่: ตะวันแดง
โพสเมื่อ: Sat Jul 15, 2017 10:07 am
[RE: ในปี 2040 ครึ่งของตลาดรถยนต์ใหม่คือ “รถยนต์ไฟฟ้า”]
มาครับ
มาไวกว่าที่คิดด้วย
ไม่ใช่เพราะเทคโนโลยีแบตเตอรี่
แต่เพราะเรากำลังจะได้ใช้ไฟฟ้าฟรีๆ
จากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟิวชั่น

สังเกตุได้จากอเมริกาขุดน้ำมันจากแหล่งน้ำมันสำรองของตัวเองออกมาขาย
ทั้งๆที่ตอนแรกตั้งใจจะเก็บไว้เป็นแหล่งสุดท้าย
ประเทศในกลุ่มโอเปคปั่นป่วน ไม่สามารถควบคุมอัตราการผลิตน้ำมันได้อย่างเคย

ทั่วโลกระงับการเพิ่มขึ้นของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟิชชั่น( แบบเดิม )
โตชิบากำลังจะเจ๊งเพราะไปลงทุนในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟิชชั่น
แล้วเยอรมันกับจีนดันประกาศว่าทำเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ฟิวชั่นได้แล้ว

และElonไม่รีรอที่จะรีบปิดดีลทำฟาร์มแบตเตอรี่ให้ภาครัฐ
เพราะเขารู้อยู่แล้วว่าเทคโนโลยีสำหรับแบตเตอรี่ในรถยนต์กำลังจะเริ่มลดคุณค่าไป

เพราะถ้าผมเป็นรัฐบาลที่ได้ไฟฟ้ามาใช้ในราคาถูกมาก
คงผลักดันให้เกิดถนนเหนี่ยวนำ ( ชาร์จแบบไร้สาย )
แทนการใช้แบตเตอรี่ที่จะสร้างขยะมีพิษจำนวนมากในอนาคต
หมายถึง รถไฟฟ้าที่วิ่งบนถนนเส้นนี้ ไม่ต้องชาร์จไฟอีกตลอดไป

จริงๆผลกระทบจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟิวชั่นนี่มาถึงบ้านเราเต็มๆ
ทั้งเรื่องเกษตร และ อุตสาหกรรม ไม่ใช่กระทบแค่วงการรถยนต์
เพราะฉะนั้นถ้าเป็นไปได้ เราควรจะตื่นตัวมากกว่านี้
เพราะผมค่อนข้างมั่นใจว่ามาเร็วกว่าที่คาด
เข้าร่วม: 22 May 2011
ตอบ: 390
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Jul 15, 2017 10:49 am
[RE: ในปี 2040 ครึ่งของตลาดรถยนต์ใหม่คือ “รถยนต์ไฟฟ้า”]
challenge ของรถ EV ในประเทศโซนที่มีสภาพอากาศร้อนแบบไทยก็คือ แบตเตอรี่ถูกดึงพลังงานไปใช้ในด้านทำความเย็นเยอะมาก ถ้าเทียบกับประเทศโซนอเมกา หรือยุโรป

ปล.ต่อไป ต้นทุนในการนำแก๊ซธรรมชาติมาผลิตไฟฟ้า ให้มันสูงขึ้นยังไง แต่โดยรวม แล้วยังไงมันก็ประหยัดและคุ้มค่ากว่าใช้ ICE ครับ
0
0
เข้าร่วม: 19 May 2011
ตอบ: 9867
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Jul 15, 2017 12:52 pm
[RE]ในปี 2040 ครึ่งของตลาดรถยนต์ใหม่คือ “รถยนต์ไฟฟ้า”
อยากให้มีเทคโนโลยี ที่ดึงเอาพลังงานจากอุณหภูมิของอากาศมาใช้แบบเต็มรูปแบบ

เช่นบ้านเรา อากาศร้อนมากก น่าจะดึงไปเป็นพลังงานได้

แบบ แค่ความร้อนที่ปลดปล่อยออกจากตัวมนุษย์ ก็น่าจะเป็นพลังงานได้ไรงี้
0
0

เข้าร่วม: 25 Jan 2010
ตอบ: 4390
ที่อยู่: ดาวนาเม็ก
โพสเมื่อ: Sat Jul 15, 2017 3:29 pm
[RE: ในปี 2040 ครึ่งของตลาดรถยนต์ใหม่คือ “รถยนต์ไฟฟ้า”]
อีก3ปี คาดว่าเทสล่าจะสร้างโรงงานในไทยเสร็จนั้นหมายถึงราคารถจะถูกลง
จริงๆแล้วมีผู้จะทำรถEVออกมานานแล้ว แต่ถูกซาอุชื้อลิขสิทธิ์ไป
แต่พอ อีลอน มัสก์ มาทำรถEVแล้วได้รับการตอบรับที่ดีมาก หลายบริษัทเลยพากันทำตาม
บางบริษัทเพิ่มสายการผลิตรถEVขึ้นมาอย่างนิสสันและมิตซู แม้แต่บีเอ็มก็ทำตาม
---ในกรุงเทพมีคนทำฟาร์มโซล่าเซลล์ขายแล้วนะครับ ผมเห็นอยู่สองที ล้าดพร้าวกับสวนหลวง
ต่างจังหวัดผมเห็นเยอะเลย ตอนต้นปีผมไปหาเพื่อนที่มุกดาหารมา เดี๋ยวนี้เปลี่ยนไปเยอะ
ปล.เราอย่าคิดว่าอะไรๆที่เราเห็นมันจะหยุดนิ่งแต่เปล่าเลย มันไม่หยุด...
0
0
________________________