อ่าวเฮ้ย... ไม่ใช่ที่.. เล่าไว้นี่หน่า !!?? ปริศนา .." นางหมา ".. ถูกไขแล้ว !!
ปิดตำนานคนบาปที่ทำร้ายพ่อ-แม่ได้เสียชีวิตลง แล้ว! " ...
"นางหมา"ชาวพม่าตำนานคนบาปทำร้ายพ่อ-แม่ เสียชีวิตแล้ว !
ฮือฮานางหมา"ตำนานคนสาป"ได้ อาศัยอยู่ชานกรุงเนปิดอร์ประเทศพม่า
หรือนาง จ้อ ครั้งเด็กๆได้ทำร้ายพ่อแม่จนต้องคำสาปของ มารดา
ร่างกายค่อยๆกลางร่างเป็นหมา เห่าหอน
และคอยหลบๆซ่อนๆผู้คนใช้ชีวิตด้วยความทุกข์ ทรมาน ได้เสียชีวิตลงแล้ว
เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2556 จากเหตุการณ์เมื่อประมาณ ปี 2549
ในช่วง ที่รัฐบาลพม่าได้มีการย้ายเมืองหลวงจากกรุงร่าง กุ้งไปกรุงเนปิดอร์
และระหว่างย้ายเมืองหลวงนั้น ได้มีคนพบเห็นมนุษย์
ที่มีรูปร่างและลักษณะ เหมือนหมา ปากยื่นยาว-มีขนขึ้นทั่วตัวเดินสี่ขา
ชื่อ น.ส.จ้อ หรือนางหมา ซึ่งเคยตกเป็นข่าวดัง เมื่อประมาณ 7ปี ก่อน
โดยมีพระสงฆ์ที่วัดแห่งหนึ่ง ในหมู่บ้านสินคาน
เมืองมิทินาและเจ้าหน้าที่ภาค รัฐของพม่า
ที่ทำหน้าที่ขนย้ายสิ่งของจากกรุงร่าง กุ้งไปกรุงเนปิดอร์
หลายคนยืนยันว่า พบและเจอ มนุษย์เป็นผู้หญิงคล้ายหมาจริง
โดยมีการพบเห็น นางสาวจ้อ หรือนางหมาที่หมู่บ้านสินคานเมืองมิทินา
ระหว่างเส้นทางจากร่างกุ้งไปเนปิดอร์ โดย ในวันนี้
ได้มีชาวพม่าที่อาศัยอยู่แถบชานกรุงเนปิด อร์
และได้เดินทางมาซื้อสินค้าที่ชายแดนไทย-พม่า
จังหวัดเมียวดี กับ อ.แม่สอด จ.ตาก และเคย ได้ยินเรื่องราวนี้ได้มาแจ้งว่า
น.ส.จ้อหรือนางหมา ได้เสียชีวิตลงแล้วนับว่าเป็นการสิ้นสุดตำนานคนบาป
หรือเรื่องเล่าของนางหมา ที่แปรสภาพจากคน ธรรมดา กลายเป็นหมา
เมื่อหลายปีก่อนรายงาน ข่าวแจ้งว่า เรื่องนี้เคยเป็นข่าวโด่งดังไปทั่ว
ทั้งใน เมืองไทยและในพม่า รวมทั้งสื่อในประเทศตะวัน ตกก็เคยนำเรื่องนี้ไปเสนอ
เป็นข่าวดังเกรียวกราว ไปทั่วโลก เมื่อ ปลายปี 2549
ทั้งสื่อมวลชนทาง ด้าน อินเตอร์เน็ต-วิทยุ-หนังสือพิมพ์และโทรทัศน์
ได้มีการรายงานข่าวไปอย่างกว้างขวาง ซึ่งเรื่องนี้
ได้รับการรับรองจากพระพม่า-เจ้าหน้าที่ภาครัฐ และชาวพม่า ต่างยืนยันว่า
เป็นเรื่องจริง โดยชาว พม่าเล่าต่อๆกันว่า นางสาวจ้อหรือนางหมา
เกิดขึ้น มามีสภาพร่างกายปกติเหมือนคนธรรมดาทุก อย่างในอดีตสมัยตั้งแต่เด็กๆ
เป็นคนดื้อชอบดุด่า พ่อ-แม่เป็นประจำ เมื่อโตขึ้นก็ไม่เข้าวัดทำบุญ
และ นางหมาได้ทำกรรมอย่างหนัก มีการทำร้าย พ่อ-แม่ ค่อนข้างรุนแรงอีกด้วย
โดยตอนอายุ20ปี กรรมก็เริ่มส่อให้เห็นถึงผลกรรมที่ได้กระทำหรือ
กรรมตามทันที่เป็นคนบาป โดยร่างกายจึงได้เริ่ม เปลี่ยนแปลง
จากคนค่อยๆกลายเป็นหมา เป็นคน บาปที่มีชีวิตความเป็นอยู่
กินเหมือนสุนัขคือเดินสี่ขาและเห่าหอนเหมือนสุนัขเมื่อผู้คนพบเห็นก็ได้
ถ่ายรูปเก็บไว้และนางหมา ใช้โอกาสที่กำลังย้าย เมืองหลวงในพม่า
จึงได้ย้ายพร้อมครอบครัวไป อยู่แถบชานกรุงเนปิดอร์
และต้องใช้ชีวิตแบบ หลบ ๆซ่อนๆ ตลอดเวลา จนมาเสียชีวิตลง
เบื้องต้นน.ส.จ้อหรือนางหมา มีพ่อชื่อ นายคำ หน่อ มารดาชื่อ นางมินตาน
สมัยเด็ก พ่อ - แม่ ตามใจมาตลอด จนทำให้เสียนิสัยมี
อยู่วันหนึ่ง น.ส. จ้อ ได้เข้าไปขอเงินแม่ในห้องพระ
แม่ก็เลย บอกว่าเดี๋ยวแม่ไหว้พระเสร็จก่อนแล้วแม่จะเอา เงินให้
น.ส. จ้อ จึงโกธรที่ไม่ได้ดังใจจึงเดินไป ข้างหลังแม่
แล้วใช้เท้าถีบแม่ในขณะที่แม่ไหว้พระ อยู่จนแม่หน้าฟาดกับพื้น
ฟันหักไปสองซี่ เลือด ไหลออกจากปาก แม่ก็ร้องไห้ด้วยความเจ็บปวด
และได้สาปแช่ง จนในที่สุดได้กลายสภาพ จาก คนค่อยๆเป็นหมา ดังกล่าว
นับเป็นตำนาน คนบาป ที่ สามารถนำไปเป็นคำสอนคติเตือนใจได้ว่า
"เวร กรรมหรือผลกรรมที่ลูก ทำไม่ดี กับพ่อ-แม่ ไม่ จำเป็นต้องรอชาติหน้า
เป็นชาตินี้ เดี๋ยวนี้ ให้เห็น หรือเรียกว่า กรรมตามทัน...!!!!!!!!
.....................................................
แต่เดี๋ยวก่อนนนนน !!!!! ข้อความด้านบนนั้น
อาจจะสอนให้ เด็กๆ หรือ คน หยุดทำบาปทำกรรม กับพ่อแม่
นั่นเป็นเรื่องที่ดี ครับ แต่ ภาพของ นางหมา นั้น แท้จริงแล้ว มันไม่ใช่นะเฮ้ย !!!

ในเวลาต่อมาก็มีชาวเน็ทคนนึงออกมาแฉเบื้องหลังของภาพดังกล่าวว่าที่จริงแล้ว
มันเป็นงานศิลปะของศิลปินชาวออสเตรเลียนามว่า Patricia Piccinini
ที่จัดแสดงในหอศิลป์ Roslyn Oxley แต่กลับมีผลงานศิลปะของเธอมาปั้นเรื่อง
แต่งเรื่อง เป็นตุเป็นตะว่าเป็นภาพของนางจ้อ คำนาง ชาวพม่าอะไรนั่นซะงั้น

นี่ครับผลงานที่จัดแสดงในงาน แหม่ น่ะ สรุป ภาพนี้ก็ได้ไขปริศนา ว่าแท้จริงแล้ว
คนไม่สามารถจะกลายร่างเป็นหมาได้ แต่แท้จริงแล้ว
มันเป็นงานศิลปะที่ถูกทำขึ้นมานั่นเองครับ ส่วนเรื่องราวที่พม่า
พูดถึงเรื่องต่างๆนาๆ ที่บรรยายมา ก็น่าจะเป็นเรื่องที่แต่งขึ้นมา เช่นเดียวกันครับ.
แต่ก็ถือว่า เป็นเรื่องที่ดีครับสอนให้คน ไม่ทำบาปทำกรรม ครับ
บางคนอาจจะรู้แล้ว แต่บางคนอาจจะยังไม่รู้ ก็ถือว่า เล่าสู่กันอ่าน น่ะครับ.
...