สวัสดีครับ กระทู้นี้เป็นกระทู้เล่าเรื่องราวที่สองของผมในเมืองแมนเชสเตอร์ จากครั้งที่แล้วผมได้ไปเยี่ยมชม Nation Football Museum มาแล้ว ครั้งนี้จะพาทุกคนไปชมประสบการณ์ Museum Tour ณ สนาม Old Trafford นะครับ ก่อนอื่นขอบอกว่าจริงๆมี Stadium Tour และ Megastore หรือร้านค้าด้วยนะครับ แต่เนื่องจากรูปเยอะมาก จึงจะลงเกี่ยวกับทัวร์พิพิธภัณฑ์ก่อน จากนั้นจะรีบทำในส่วนของ Stadium และ Megastore ให้เสร็จครับ (สไตล์การแชร์ของผมจะเน้นการลงรูป อาจจะไม่ได้บรรยายอะไรเยอะนะครับ)



เริ่มกันที่วิธีการเดินทางไปยังสนาม Old Trafford โดยรถบัส ผมเริ่มต้นขึ้นจากในตัวเมืองของแมนเชสเตอร์ ที่ป้ายรถเมล์ Chepstow Street / Oxford Street โดยขึ้นรถสาย X50 ครับ ซึ่งจริงๆแล้วค่าเดินทางคาดว่าอยู่ประมาณ 2.50 – 4.00 ปอนด์ (หรือประมาณ 180 บาท ไม่น่าเกินนี้ครับ) แต่พอดีผมใช้บัตรรถบัสของนักศึกษาจึงสามารถขึ้นได้ไม่ต้องจ่ายเงินแล้วครับ





บรรยากาศภายในรถบัส



จากนั้นไม่นานรถบัสก็มาพอดีแล้วก็ขึ้นเพื่อมุ่งหน้าสู่สนามเลย จะใช้เวลานั่งรถไปสนามสัก 10 – 15 นาที แล้วจะพบกับสนามอยู่ด้านหน้าฝั่งซ้ายมือ ก็เตรียมตัวลงที่ป้ายหน้าสนามได้เลยครับ โดยเราจะโผล่ที่ประตูฝั่ง Sir Alex Ferguson Stand นั่นเอง









ระหว่างที่เดินก็ร้องว้าวไปตลอดทาง เมื่อได้มีโอกาสมาเองจริงๆจะสัมผัสได้ว่ามันสุดยอดมากครับ ขนาดผมไม่ได้เชียร์แมนยูนะ 555



เข้ามาแล้วจะผมกับสนามหญ้าเทียมเล็กๆอยู่ฝั่งขวามือ



พอดีผมต้องการจะสมัคร Membership แบบรายปีไว้ด้วยจึงต้องไปที่อาคาร Ticketing & Membership Services ก่อน ค่าการสมัครจะมีหลายโปรโมชั่น ส่วนตัวผมเลือก Full pack อยู่ที่ 32 ปอนด์ หรือประมาณ 1,450 บาท ครับ แล้วเดินกลับมาที่อาคารข้างใต้เซอร์ อเล็กซ์ ก็คือ Museum & Tour Centre / Red Café เพื่อทำการจ่ายเงินค่าเข้าชม









เมื่อจ่ายเงินเสร็จก็จะได้บัตรเข้าชมพร้อมสายห้อยคอมา 1 ชุด แล้วพนักงานจะบอกว่าให้เราขึ้นไปชม Museum ก่อนที่ชั้น 3 จนกว่าจะถึงเวลาที่เราจองออนไลน์เอาไว้ ผมจึงอยากแนะนำว่า เราควรจะมาถึงสนามก่อนเวลาที่เราจองไว้สัก 1 ชั่วโมง เพื่อเข้าชมพิพิธภัณฑ์ได้อย่างเต็มอรรถรส





















เครื่องทำเหรียญที่ระลึก



ต่อมาเป็นโซนถ่ายรูปกับถ้วยแชมป์ยูโรป้าลีก และ EFL ฤดูกาล 2016/2017





เข้าไปกันเลยย













Trophy Room ห้องนี้จะเห็นถ้วยและเหรียญเต็มไปทั้งห้อง







ใบนี้เพื่อระลึกและฉลองให้กับการเป็นทีมอังกฤษทีมแรกที่คว้าแชมป์ยูฟ่าได้

























ต่อมาเป็นห้องชื่อว่า Munich



ซึ่งเป็นห้องสำหรับการรำลึกถึงผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ Munich Air Disaster เมื่อปี 1958 ในปีนั้นมีผู้เสียชีวิตรวมทั้งหมด 23 คน และได้รับบาดเจ็บอีกมากมาย จากเหตุการณ์เครื่องบินตกในครั้งนี้ ถึงจะมีนักเตะบางคนที่รอดชีวิตมาได้ แต่ก็อยู่ในอาการโคม่าและต้องต่อสู้เพื่อให้มีชีวิตอยู่รอด แต่มันก็แลกมาด้วยการที่ต้องจบชีวิตเส้นทางการเป็นนักฟุตบอลของพวกเขาโดยปริยาย



















จากนั้นมาเดินห้องถัดไปครับ





แผ่นโปรแกรมใบแรก ที่เป็นจุดเริ่มต้นของประวัติศาสตร์ศึกแดงเดือด

















The Treble จำคำนี้ไว้ เพราะเดี๋ยวจะมีห้องจัดโชว์ที่เป็นของคำคำนี้โดยเฉพาะว่ามันมีที่มีอย่างไร









จากการวางมือของเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสันในปี 2013 ทำให้เหล่าแฟนบอลของปิศาจแดงรับรู้ได้ว่าทีมกำลังจะเริ่มเข้าสู่ยุคสมัยใหม่อีกครั้ง



ภายในงานก็จะมีอุปกรณ์เทคโนโลยีให้เล่นเพื่อรับฟังข้อมูลต่างๆบ้าง









ห้องนี้จะรวมชื่อของนักเตะที่เคยเล่นให้กับทีม พร้อมระบุจำนวนนัดที่ลงเล่นลงไปด้านหลังชื่ออีกด้วย







จากนั้นก็เริ่มลงมาที่ชั้น 2 สิ่งแรกที่พบก็คือตู้สิ่งของการรำลึกถึงเซอร์ แมท บัสบี้ครับ







ตามมาด้วยเสื้อพิเศษๆต่างๆ สังเกตุเบอร์ 6 ให้ดี









และในชั้นนี้จะมีห้องเก็บของที่ระลึกของตำนานต่างๆอย่าง รอย คีน, ปีเตอร์ ชไมเคิล พร้อมกับเสื้อทีมชาติต่างๆที่นักเตะของแมนยูได้มีโอกาสไปรับใช้ชาติมา

























โซนต่อมาก็น่าตื่นตาตื่นใจเล็กน้อยเมื่อให้เราได้มีโอกาสเข้าไปถ่ายรูปชูเสื้อ เหมือนเป็นนักเตะที่พึ่งย้ายมาใหม่เซ็นต์สัญญาโดยโจเซ มูริญโญ่ โดยเราสามารถระบุชื่อและเลขด้านหลังเสื้อให้พนักงานได้ จากนั้นทำการถ่ายรูปแล้วพนักงานจะปริ้นท์รูปของเราออกมาบนกระดาษอาร์ต 1 ใบ หากอยากได้ภาพหลายๆแนวจะต้องจ่าย 20 ปอนด์ หรือประมาณเกือบ 1,000 บาท เราจะได้เพิ่มอีก 5 ใบครับ (ไม่ได้จ่าย เพราะงบสำหรับทริปนี้ไม่มีแล้น )







จริงๆจะมีรูปของเราในรูปแบบของโปสเตอร์ขึ้นโชว์ในหน้าจอโฮมเธียเตอร์ด้วย แต่เขินๆเลยไม่ได้ลงนะครับ 5555 แล้วก็กลับมาเดินต่อไป

































สุดท้ายลงมาที่ชั้น G เพื่อไปสู่จุดรวมพลเพื่อเข้าชมสนามกัน แต่เราก็จะพบห้องสุดท้ายก่อนไปถึงคือ The Treble ซึ่งคงไม่ต้องอธิบายอะไรมากสำหรับแฟนแมนยู เพราะในฤดูกาล 1998/1999 เขาคว้า 3 แชมป์ได้และหนึ่งในเกมนัดชิงนั้นเป็นเกมส์ที่พลิกกลับมาชนะบาเยิร์น มิวนิคนั่นเอง









มีไทม์ไลน์ไล่ให้เลยว่าแต่ละเดือนเกิดอะไรขึ้น สกอร์เป็นยังไงบ้าง





















การพลิกเกมส์ที่สำคัญ











โดยหลังจากออกมาจากห้อง The Treble แล้วก็เข้าสู่ Relax Zone เพื่อเตรียมตัวเข้าชม Stadium กันต่อไป







รอเวลาเริ่มต้นทัวร์ Stadium



จบกันไปแล้วนะครับ สำหรับการพาทัวร์พิพิธภัณฑ์ของสนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด ใครชอบก็ช่วยโหวตกระทู้ด้วยนะครับ

ปล. กระทู้ต่อไปผมจะลงเกี่ยวกับ Stadium Tour & Megastore ของสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ณ สนาม Old Trafford ในเร็วๆนี้นะครับ
ปล.2 ค่าใช้จ่ายต่างๆที่ผมคำนวณให้คร่าวๆนั้นคิดตามค่าเงิน 1 ปอนด์ = 45 บาท ซึ่งคาดว่าน่าจะครอบคลุมสำหรับช่วงเวลานี้ครับ
ปล.3 ฝีมือถ่ายรูปไม่ได้เก่ง,ไม่ได้ใช้แอพอะไรในการแต่งภาพและใช้เพียงกล้อง Compact ธรรมดารวมถึงสปีดการเดินค่อนข้างเร็ว บางรูปจึงอาจจะไม่ได้ชัดมากนะครับ
ปล.4 สำหรับคนที่อ่านและดูจนมาถึงด้านล่าง ขอบอกเลยว่าห้ามพลาดกระทู้ต่อไปอย่างเด็ดขาด เพราะแค่ดูรูปจะรู้เลยว่าสนามมันสวยมาก และคุณจะต้องอยากมามากๆๆเลย
__________________________________________________
ติดตามผลงานได้ที่
1. 1st National Football Museum ณ เมืองแมนเชสเตอร์ http://www.soccersuck.com/boards/topic/1521500

หรือ https://www.facebook.com/pg/TSoccercrazyman/photos/?tab=album&album_id=306361203109008

อย่างเดียวที่อยากถ่ายรูปด้วยจริงๆเลย

คือเซอร์ อเล็กซ์

ท่าน Ed ก็นั่งอยู่ห้องเดียวกับท่านเซอร์อยู่แล้วนิ่

ปล.คนที่นี่เชิดชูเซอร์ อเล็กซ์มากครับ เวลาที่พูดถึงเซอร์อเล็กซ์ทุกคนค่อนข้างจะมีแพชชั่นและสัมผัสได้ว่ารู้สึกปราบปลื้มกับสิ่งที่เขาสร้างมาไว้มากๆๆเลย

อิจ #พูดเลย

สักวันต้องไปให้ได้