ผู้ตั้ง
ข้อความ
เข้าร่วม: 18 Sep 2005
ตอบ: 1509
ที่อยู่: ที่นี่ แอนด์ฟิลด์
โพสเมื่อ: Fri Mar 24, 2017 11:22 am
เผื่อวันนึงไม่มีโอกาสได้บอก Don't forget me ( Chapter 5 )
......................... บทที่ 5 ชีวิต

...................หลังจากเผาศพแม่ วันที่เก็บกระดุก กลับมาบ้าน ผมถามเตี่ยว่า เตี่ย ถ้าหนูไม่เถียงแม่ แม่จะไม่ตายใช่ไหม ตอนนัั้นผมอายุ 23 ย่าง 24 เตี่ยบอกว่า แม่รับปากกับเจ้ามือหวยว่า จะใช้หนี้เขาวันปีใหม่ แม่เครียดเรื่องนี้ด้วย น้ำตาผมร่วงมากกว่าเดิม ถ้าผมรู้สักนิด ผมจะไม่ทำอะไรให้แม่ต้องเหนื่อยหน่ายใจเพิ่มอีกเลย มันเป็นบาปที่ฝังในใจผมจนวันตายแน่ๆ จนทุกวันนี้ เวลาทำอะไรไม่ได้ดังใจ ผมก็มักจะนึกย้อนไปเป็นว่า เป็นบาปที่ผมทำไว้แน่ๆ แม่เป็นเสาหลักของบ้าน จำได้ว่า ลูกแชร์ที่ยังไม่ได้เปีย จากที่เคยรักกันดี พอแม่ตาย มาถามเตี่ยเลยว่า ที่บ้านมีสมบัติอะไรไหม เขาจะเอาเงินคืน บ้านผมไม่มีมรดกอะไรหรอกครับ ทุกวันนี้ยังเช่าบ้านเขาอยู่เลย สรุป บ้านแตก หมดตัว ไม่มีหลักอะไรเลย เตี่ยบอกให้ผมไปอยู่พิจิตรก่อน เผื่อจะมีลู่ทางหากินได้ดีกว่าที่อุทัย เพราะเป็นเมืองเล็ก ผมกอดเตี่ย ครั้งแรกในชีวิต ชายสองคน คนนึงเมียกินยาตาย อีกคน แม่กินยาตาย ผมบอกเตี่ย หนูรักเตี่ยนะ ครั้งแรกอีกเช่นกันที่บอกรักพ่อ เตี่ย ก็บอกกูก็รักมึง ผมไปอยู่บ้านเอ๋ที่พิจิตรไปแบบ ไม่มีอะไรไปเลย เรียนก็ไม่จบ ทำอะไรก็ไม่เป็น

.................ผมไปอยู่บ้านเอ๋ ท่ามกลางเสียงนินทา ถากถางต่างๆนาๆ ว่า เรียนไม่จบ ไม่มีงานทำ บอกเลยครับ ถ้าผมไม่เหี้ย เหตุการณ์ที่ว่า เรียนไม่จบ แม่กินยาตาย คงไม่เกิด อย่างน้อย แม่คงมีความหวังว่าผมคงจะแบ่งเบาท่านได้ ผมคิดได้ ก็วันที่สายมากๆแล้ว ผมไปขอทำงานกับลุงของเอ๋ ซึ่งเป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง เป็นกรรมกร ได้ค่าแรงวันละ 120 บาท ในใจนึก AFS แชมป์ scrabble ภาคเหนือ ไม่ช่วยอะไรเลย มันเป็นแค่อดีตส่วนตัวที่เอาไว้ภูมิใจคนเดียว เพราะในโลกความจริง ก็มึงมีวุฒิแค่ ม6 ทำงานหิ้วปูน ขนทราย ใครจะสนใจฟัง เล่าให้ใครฟัง ก็กลายเป็นเรื่องตลก หึๆๆ ไงล่ะ แม่ไม่ชม มึงทำไม่พอใจ แล้วเป็นไง วันนี้ โลกไม่แค่ไม่ชมมึงนะ เขามองว่าแม่งเล่านิทานให้เขา่ฟัง ตลกไปเสียอีก น้ำตาตกใน แต่ไม่เป็นไร เอาสิวะ ชีวิตมันจะเเค่ไหนกันเชียว ผมหิ้วปูนได้ 2 ปี ที่ไปรษณีย์พิจิตรก็เปิดสอบลูกจ้างจ่ายจดหมาย เป็นบุรุษไปรษณีย์ ( http://www.phichitpost.4t.com/piperson.htm ) ผมชื่อ นิพนธ์ มีเย็น ลองดูหนังหน้าตอนนั้นได้ครับ ตอนนั้นอายุประมาณ 25 - 26 ดีใจมาก สอบติด แต่ด้วยสันดานที่ติดลูกห่าม ไม่ถูกต้อง กูไม่ทำอะไรงี้ เป็นเหตุให้ทำได้แค่ 2 ปี ก็ออกมา ซึ่งก่อนผมจะออกจากไปรษณีย์ เอ๋ ก็สอบบรรจุได้เป็น ข้าราชการ อบต ในยุคแรกๆเลย ก็ถือว่าโชคดีไปเปราะหนึ่ง

...............ช่วงที่ผมว่างงาน ก็ขายของบ้าง รับจ้างนู่นนี่นั่นบ้าง ตอนนั้น MSN ดังมาก ฮิตสุดๆ ผมก็ชั่ว แชทจนมีผู้หญิงอีกคน อยู่เชียงใหม่ โห ตอนนั้น กลิ่นของใหม่เนาะ จะไม่เอาเอ๋ โวยวาย จะไปให้ได้ เอ๋ร้องไห้กล้ำกลืนจนผมนึกย้อนกลับไป ก็คิดว่า นี่กูมีความเป็นคนอยู่รึเปล่า ตอนเราล้ม เอ๋ไม่เคยทิ้ง แต่พอมีที่ไป ก็เย้วๆจะไปท่าเดียว แต่ก็มีเหตุ คือ เอ๋ตั้งท้อง ระหว่างนั้น เดือนนึงผมต้องไปเชียงใหม่ สัปดาห์นึง ถ้าไม่ให้ไป ก็เลิกกัน นอนกอดทะเบียนสมรสไป ชั่วขนาดนั้น เรื่องนี้ดำเนินมาประมาณ ปีกว่าๆ จนวันคลอด...........

...............เอ๋ปากมดลูกไม่เปิด ต้องผ่าตัดเพื่อคลอดลูกออกมา เอ๋เข้าห้อผ่าตัดไปสองทุ่ม ผมสูบบุหรี่หมดไปสองซอง ชั่วระยะเวลาสามชั่วโมง จนห้าทุ่ม พยาบาลก็อุ้มเด็ก ห่อร่างด้วยผ้าสีเขียวของโรงพยาบาล ผมลุ้นระทึก กลัว ตอนท้อง เอ๋เสียใจ เครียด กลัวลูกไม่สมประกอบ แต่แค่เพียง วินาทีแรก ที่ผมเห็นหน้าเด็กคนนั้น ทุกๆคำถาม ทุกๆข้อข้องใจในตัวแม่และเตี่ยที่ผมเคยน้อยเนื้อต่ำใจ ก็ได้รับคำตอบ

............เพียงแค่ผมเห็นหน้าลูกสาวผม ( พิตต้า ชนิสรา มีเย็น ลองดูรูปได้ใน facebook ชื่อ พิตต้า มีเย็น ) ได้ไม่กี่วินาที ผมสามารถตัดสินใจว่า จะไม่ไปเชียงใหม่อีก ผมรักเด็กคนนั้นโดยไม่มีแม้สักเงื่อนไข แล้วมีหรือ แม่ผม จะไม่รักผม ผมทนงตัวว่าเก่ง แต่ช่างโง่เหลือเกิน ที่ไม่เห็นความรักที่แม่มีต่อผม น้ำตาไหลอีกครั้ง ผมตอบแทนแม่ด้วยอะไรไปนี่ ผมแทนพระคุณแม่ด้วยสิ่งที่ไม่น่าให้อภัย โตเอ๋ย มึงพลาดแล้ว ผมโทรหาเตี่ย พรรณนาถึงความรักที่มี ผมบอกทุกๆความรุ้สึก ผมบอกทุกๆความเสียใจ ผมขอโทษทุกๆสิ่งที่ทำให้ท่านต้องเสียใจ มันแก้ไขอะไรไม่ได้หรอกครับ แต่ดีกว่า ไม่มีโอกาสได้บอก กับแม่ ผมจำได้ว่า ผมกราบตีนแม่ 2 ครั้ง ครั้งแรก คือวันแม่สมัยเด็กๆ ที่เขาให้พาแม่ไปที่โรงเรียน แล้วให้ลูกไปกราบ คือ ร้องไห้กันระงม อายเพื่อน ไม่เอา กับครั้งที่สอง คือวันที่อาบน้ำศพ ผมรับรู้ได้เลยว่า แม่ภูมิใจในตัวผม แต่แม่ไม่อยากให้ผมเหลิง แม่จ๋า หนูไม่ขอให้แม่อภัยนะ แต่ หนูขอชดใช้ในสิ่งที่หนูทำลงไป จะเมื่อไหร่ ยังไง หนูพร้อมรับ

.............นี่คือตัวอย่างแรกครับ ที่มาของชื่อเรื่องชีวิตผม เผื่อวันนึง ไม่มีโอกาสได้บอก
.......................................towen1
ต่อให้ตำนานลิเวอร์พูลจะลื่นอีกสักกี่คน ก็จะตามเชียร์จนวันตาย YNWA
เข้าร่วม: 11 Feb 2017
ตอบ: 19
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Mar 24, 2017 2:55 pm
[RE: เผื่อวันนึงไม่มีโอกาสได้บอก Don't forget me ( Chapter 5 )]
มีช่วงชีวิตครอบครัว ต่อมั้ยครับพี่โต
1
0
เข้าร่วม: 19 May 2009
ตอบ: 2157
ที่อยู่: ซูซูรัน
โพสเมื่อ: Fri Mar 24, 2017 3:49 pm
[RE: เผื่อวันนึงไม่มีโอกาสได้บอก Don't forget me ( Chapter 5 )]
ตามครับตาม รุ่นเก๋าจริงๆ ไอดี2005
1
0
เข้าร่วม: 18 Sep 2005
ตอบ: 1509
ที่อยู่: ที่นี่ แอนด์ฟิลด์
โพสเมื่อ: Fri Mar 24, 2017 6:56 pm
[RE: เผื่อวันนึงไม่มีโอกาสได้บอก Don't forget me ( Chapter 5 )]
Stratosphere พิมพ์ว่า:
มีช่วงชีวิตครอบครัว ต่อมั้ยครับพี่โต  
มีครับ ยังไม่จบครับ ตอนที่จบบทนี้ เพิ่งปี 2550 เองครับ
0
0
ต่อให้ตำนานลิเวอร์พูลจะลื่นอีกสักกี่คน ก็จะตามเชียร์จนวันตาย YNWA