หลังถูกวิจารณ์อย่างหนักเกี่ยวกับเรื่องการขายหุ้น ล่าสุดทางด้านของผู้ก่อตั้งหนังสืออะเดย์ "วงศ์ทนง ชัยณรงค์สิงห์" พร้อม "นิติพัฒน์ สุขสวย" ก็ได้ประกาศลาออกจากบริษัท เดย์ โพเอทส์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

..:: โดยเกี่ยวกับเรื่องนี้เจ้าตัวได้มีการทวิตข้อความว่า..."เรียนทุกท่านทราบว่า ผม-วงศ์ทนง ชัยณรงค์สิงห์ และ นิติพัฒน์ สุขสวย สองผู้ก่อตั้ง a day ได้ตัดสินใจลาออกจากบริษัท เดย์ โพเอทส์ แล้วครับ"

..:: ทั้งนี้เจ้าตัวยังบอกด้วยว่า..."การสิ้นสุด อาจคือจุดตั้งต้นของการเริ่มใหม่"

..:: สำหรับ "โหน่ง วงศ์ทนง ชัยณรงค์สิงห์" นั้นเจ้าตัวจบการศึกษาจากคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ม.สงขลานครินทร์ เป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้ง นิตยสารอะเดย์ (A Day) ร่วมกับ นิติพัฒน์ สุขสวย และ ภาสกร ประมูลวงศ์ ภายใต้การดูแลของบริษัท "เดย์ โพเอ็ทส์ จำกัด" (Day Poets Co. Ltd.)

..:: โดยนิตยสารอะเดย์ได้มีการตีพิมพ์ครั้งแรกฉบับเดือนกันยายน 2543 ซึ่งนอกจากรูปเล่มและเนื้อหาที่ค่อนข้างจะแปลกแตกต่างแล้ว ต้นกำเนิดของนิตยสารเล่มนี้ที่เกิดจากการส่งจดหมายไปยังกลุ่มคนทั่วไปที่ชื่นชอบงานเขียนและสนใจไอเดียของตนเองเพื่อระดมทุนในการทำหนังสือก็ทำให้ทั้ง "อะเดย์" และ "โหน่ง วงศ์ทนง" นั้นกลายเป็น "ไอดอล" ของวงการหนังสือของคนรุ่นใหม่ขึ้นมาทันที

[twitter]https://twitter.com/wongthanong/status/832416795889790976[/twitter]

[twitter]https://twitter.com/wongthanong/status/832052009989607424[/twitter]







---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------










ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก Manager Online



ติดตามข้อมูลข่าวสารที่น่าสนใจ (ย้อนหลัง) ได้ที่ Germanicas

ขายได้แล้วได้ตังค์แล้ว ออกดิรออะไร

ใครรู้เล่าที

หมดความท้าทายแล้วอะดิ

บ/ช มีเงินแล้ว

ก็ออกได้

โดนด่าแลกร้อยล้านคุ้มจะตาย

หาทางลง ได้อย่างสวยงาม ตามท้องเรื่อง

หนังสือยังขายได้ แต่อุดมการณ์มันจบไปนานแล้ว กับหนังสือหัวนี้...

exit แล้วววว

นึกว่า โหน่ง ชะชะช่า

สื่อสิ่งพิมพ์มันใกล้ตายแล้ว ออกก่อนอ่ะดีแล้ว เอาเงินมาทำธุรกิจอื่นต่อ

เดี๋ยวยวเดียวก็ลืม คนไทย...

ผมนี้ติ่งเลยครับ ถ่ายเมื่องานครบรอบ 10 ปีที่ สกาล่า
วันนั้นเอาเล่ม 1 ไปให้พี่โหน่งเซ็น

ฝากอีก 1 ลิ้ง ลองอ่านกันดูครับ

http://themomentum.co/momentum-feature-wongthanong-chainarongsingha-clear-topic-a-day-stock

สงสัยวัยใกล้เคียงกันแน่เลย อ่าน A day ฟัง 104.5 fatradio 5555
เดินงาน T shirt

มาสมัยนี้มันดูเสื่อมๆแล้ว

เหมือนตันที่ออกไปเปิดอิชิตันไง

อายุองค์กรเริ่มยาวนานและใหญ่โตขึ้นก็จะมีพวกที่คอยเปลี่ยนความคิดคนแรกๆที่เข้ามาทำเพราะคนรุ่นหลังมีความคิดที่สดใหม่กว่าแต่ยังขาดประสบการณ์ และไหนจะหลายๆด้านเช่นองค์กรที่ใหญ่ขึ้นค่าจ้างพนักงานหลายหัวไหนจะประจำและfreelance การตัดภาระพวกนี้ก็มีส่วนเป็นอย่างมาก

การเริ่มต้นใหม่จากบริษัทเล็กๆมันก็ดูน่าท้าทายกว่าแต่ถามว่ายอดขายจะดีกว่าเดิมตอบเลยว่า "ไม่" แต่อยู่ที่ใหม่แล้วมันสบายใจกว่าดีกว่าวุ่นวายกว่าที่เก่า

อันนี้ประสบการณ์ตรงจากตัวเองนะครับ

เอาจริงๆผมคิดถึงอะเดย์สมัยก่อน (10ปี+) มาก


เลิกซื้อมาหลายปีแล้ว หลังๆผมว่ามันไม่ใช่อะเดย์ มันคือหนังสือจักรยาน 555+

555555 มันคือหนังสือจักรยาน แต่ก็จิงนะ กระแสจักรยานก็มาจาก Aday พอควร แต่ก็อย่างว่าครับ หนังสือมันไม่เหมือนเดิมแล้ว รอชมงานใหม่ๆ ของคุณโหน่งต่อไป

เดี๋ยวนี้ยังโดนแซะอยู่ป่าวอ่ะครับ

อ่านละก็งงๆ อยู่ดี ออกมาเพราะอะไรจากแหล่งข่าว

http://themomentum.co/momentum-feature-wongthanong-chainarongsingha-clear-topic-a-day-stock

ตามลิ้งนี้ ออกเพราะไม่อยากให้ดีลขายหุ้นเกิดขึ้นถ้าขายก็จะออก พอดีลขายเกิดขึ้นก็ออกตามที่รับปาก

นับวันธุรกิจสิ่งพิมพ์อยู่ยากขายได้แล้วโดดออกมาก็ไม่แปลก

ผมเริ่มๆอ่านจากที่พี่ชายที่บ้านซื้อมาวางๆไว้
ตอนนั้นก็ไม่รู้ที่มาที่ไป แค่เห็นพี่อ่านเลยอ่านตาม
รู้สึกว่าเท่ดี มีอะไรแปลกตาให้ดูตลอด

หลังจากนั้นก็ตามหนังสือหัวนี้มาเรื่อยๆ
จนได้มาเรียนด้านAD แล้วหนังสือเล่มนี้ก็เริ่มมีแต่AD เต็มไปหมด
หลังจากนั้นก็ไม่ค่อยได้ตามอีกเลย (ตังไม่มีซื้อด้วย555)

เพิ่งรู้ว่าพี่เขามีนิสัยแปลกๆกว่าที่ผมคาดไว้ จากกรณีที่เม้นต์บนได้กล่าวไป

ผมไม่ได้ว่าว่าเขาผิดหรอกนะ

แต่ก่อนนู้นนนนผมมองเขาเป็นคนที่ดูแนวๆดี ดูติสต์ๆ
ก็เลยไม่คิดว่าจะมีนิสัยแบบน้าน เลยเปลี่ยนมุมมองไปเลย

ที่คนเขาด่ากันส่วนนึงมาจากเรื่องหุ้นของบริษัทนี่แหละ

ประมาณว่า แกขายหุ้นบริษัทเดิม(อะเดย์)ไปให้บริษัทใหม่(โพราลิส) แล้วบอกว่า โปรดักซ์ที่จะย้ายไป(โพราลิส)คือหนังสือ อะเดย์ กะอะไรซักอย่างอีกอันนึงนี่แหละ

ซึ่งไอเจ้า สองโปรดักซ์ที่ว่าเนี่ย มันเป็นโปรดักซ์หลักของบริษัทอะเดย์ ที่ทำให้คนมาซื้อ/ถือหุ้น คือเงื่อนไขของหุ้นคือหนังสืออะเดย์ว่างั้นอ่ะครับ

และปัญหามันอยู่ที่ คนที่ถือหุ้นส่วนหรือมีส่วนร่วมในการระดมทุนของบริษัทเก่า จะไม่ได้รับการโยกย้ายตามไปถือหุ้นส่วนในโปรดักซ์ที่บริษัทใหม่ด้วย

ฉะนั้นคนที่ถือหุ้นส่วนอะเดย์เดิมอยู่ก็เท่ากับว่าถือหุ้นส่วนอยู่ในบริษัทที่ไม่มีโปรดักซ์อะไรแล้ว
แล้วหุ้นส่วนที่เหลือก็จะขายไม่ได้ เพราะหัวหลักอย่างคุณโหน่งชิงขายหุ้นส่วนและเอาโปรดักซ์หลักที่ทำเงินให้บริษัทไปไว้ที่บริษัทอื่นแล้ว บริษัทอะเดย์ก็เหลือแต่ซาก

เอาง่ายๆก็คือคุณโหน่งทิ้งผู้ร่วมหุ้นส่วนในบริษัทเก่าอ่ะครับ ไม่รับผิดชอบอะไร ได้ตังแล้วก็ไป คนอื่นก็รับกรรมกับบริษัทอะเดย์ที่เป็นซากไป

พอดีเข้าไปอ่านเรปบนที่มีคนลงลิ้งค์มา

สรุปเชื่อใครดี

ไม่ต้องเชื่อผมทั้งหมดหรอกครับ อ่านแค่ขำๆก็พอ เพราะพอผมอ่านอีกลิ้งค์ผมก็ไม่เชื่อไอที่ผมพิมพ์ครับ

คนที่ไม่รู้ปัญหาของแกก็อย่าไปพิมพ์แซะแกเลยครับ

ไม่ต้องมาถามผมนะ ผมก็ไม่รู้

ทำดีลนี้อย่างเห้ แต่ลงได้หล่อจิมๆนะคูณณณณณ

เสือกบอก ถ้าขายอะเดย์จะลาออก
ที่ไหนได้ หุ้นอะเดย์มึงชิงหายก่อนชาวบ้านเค้าเลย
ส่วนผู้ลงขันช่วยก่อตั้งก็เทแม่งดิ

ผมซื้อ a day เล่มแรกคือเล่ม 91 แถมเมล็ดพันธุ์ดอกไม้ ถ้าจะไม่ผิดมันตรงกับเดือนกุมภาด้วยรึเปล่าไม่แน่ใจ แล้วก็ซื้อเก็บมาจนถึงปัจจุบัน มีลืมซื้อบ้างประมาณ 10 เล่ม
ถ้าใครอ่านช่วงยุคที่ผมซื้อคือแบบว่าแม่งใช่มากมันสร้างแรงบัลดาลใจหลายๆอย่างให้กับผม ปัจจุบันโฆษณาเยอะมาก แต่ผมรับได้นะเพราะถ้าไม่มีโฆษณาเค้าก็อยู่ไม่ได้เหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้ชอบเหมือนแต่ก่อน แต่ก่อนผมอ่านทุกคอลั่มเลย เดี๋ยวนี้อ่านที่น่าสนใจอย่างเดียว เล่มล่าสุดเป็นญี่ปุ่นด้วยน่าเก็บมาก แต่หวังว่ายังจะมีหนังสือต่อไปนะยังไงก็ตามเอามาวางเรียงๆกันแล้วมันคนสันปกตัวเล็กๆเท่ดี แล้วที่ชอบอีกอย่างคือเล่มที่ A team junior ทำ คือเป็นเล่มที่ให้ นศ.ที่มาฝึกงานทำกันเองผมว่าแม่งเจ๋งหวะ

คือถ้าเป็นผมผมมองว่าสื่อสิ่งพิมพ์มันมีความเสี่ยง 50 50 ไม่รุ่งก็ร่วง มันต้องหาอะไรใหม่ๆมาสู่กับสื่ออื่นๆ พอมันขายได้ มีคนสื่อในราคาดี ผมก็ขายเอาไว้ก่อนแหละ เพียงแต่ต้องทำยังไงให้มันจบสวยและวินๆ จากที่ตามข่าวแกวินคนเดียว เหอะๆ

#wongthanongiswatchingyou