ผู้ตั้ง
ข้อความ
เข้าร่วม: 05 Nov 2008
ตอบ: 9221
ที่อยู่: ได้ก็เพราะรักที่ได้จากเธอ
โพสเมื่อ: Tue Jan 03, 2017 1:18 pm
[รีวิวคุเม#5] La La Land นครดารา


ภาพยนต์ของคนบ้าจากผู้กำกับที่เคยทำให้หัวใจเต้นเป็นเพลงแจ๊ซสุดระอุมาแล้วใน Whiplash ที่หันมาจับอะไรที่หนักแน่น และโรแมนติคแบบ Musical

และถ้าหากคุณคิดว่าหนังเพลงย้อนยุคสุดแสนคลาสสิกนี้ จะผ่านการร้อยเรียงจากผกก.สุดเก๋า และผ่านการกำกับมาอย่างยาวนานแล้วล่ะก็ คุณคิดผิดมหันต์

เพราะคนที่เขียนบท และกำกับอย่าง Damien Chazelle เพิ่งจะอายุ 31 ปีเท่านั้น !

ภาพยนต์เรื่องนี้คืองานศิลปะที่จับองค์ประกอบ Film ทั้งหมด มาใช้อย่างบ้าคลั่ง และไม่บันยะบันยัง ไม่ว่าจะเป็นแสง สี เสียง มุมกล้อง เนื้อหาที่ดูแฟนตาซี แต่จริงจัง และสมเหตุสมผล เมื่อรวมกับการแสดงของสองสุดยอดผู้ถ่ายทอดเรื่องราวอย่างไรอัน กอสลิง และเอมมา สโตน หญิงสาวที่มือข้างนึงถือรางวัลนักแสดงนำหญิงจากเวทีอคาเดมี อวอร์ดไว้แล้วในตอนนี้ เรื่องนี้เป็นภาพยนต์ที่คุณไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง



เรื่องย่อ
ลา ลา แลนด์ นครดารา ว่าด้วยเรื่องราวของสองศิลปินที่อยู่ในช่วงอุปสรรคของชีวิต มีอา (เอมมา สโตน) สาวน้อยที่ละทิ้งการเรียนมาเพื่อทำสิ่งที่ตนฝันนั่นคือการเป็นแสดง แต่ชีวิตของเธอก็ไม่ง่ายดายขนาดนั้น เมื่ออาชีพที่หญิงสาวแต่งหน้าแต่งตาสวย ๆ แล้วไปบันทึกตัวตนบนแผ่นฟิล์ม ต่างเป็นอาชีพที่ใคร ๆ ก็ไฝ่ฝันเช่นกัน ด้าน เซบ (ไรอัน กอสลิง) นักเปียโนแจ๊ซหนุ่มฝีมือยอด และมั่นใจในตัวเอง กำลังประสบปัญหา Culture Shock ที่ยากจะแก้ไข เมื่อดนตรีเพียวแจ๊ซกำลังตกยุค และไม่มีเด็กรุ่นใหม่คนไหนอยากฟังอีกแล้ว

เมื่อทุกอย่างดำดิ่งจนต่ำสุด คิวปิดก็นำทั้งสองให้พบพาน ณ ร้านอาหารแห่งหนึ่ง แล้วเรื่องราวความรัก และการไขว่คว้าหาความฝันก็เริ่มต้นขึ้น ทั้งสองต่างเป็นแรงบันดาลใจให้แก่กัน ช่วยผลักดันให้กันและกันไปสู่จุดหมายที่ตนเองเคยท้อ และต้องการจะล้มเลิกในทีแรก

แต่เมื่อเวลาผ่านไป เซบก็ยังคงไม่สามารถทำความฝันตัวเองให้สำเร็จ ข้อเรียกร้องของตนเอง และมีอา บังคับให้เขาทำบางสิ่งบางอย่าง ซึ่งต่อมามันนำทั้งคู่ไปสู่ความขัดแย้งในช่วงเวลาสำคัญของชีวิต

ช่วงเวลาของความขัดแย้งนั้น เป็นส่วนที่โดดเด่นที่สุดของเรื่องนี้ เพราะความต่อต้านที่เกิดขึ้นมันแสนจะจริง และเมื่อสายสัมพันธ์สุดท้ายขาดสะบั้นลง ก็เปลี่ยนเรื่องราวแสนโรแมนติคให้เป็นอื่น...



สำหรับองค์ประกอบต่าง ๆ ของเรื่อง สามารถแยกออกเป็นประเด็น ๆ ได้

แสง นี่เป็นหนังเรื่อนนึงที่ใช้องค์ประกอบแสงเป็นส่วนสำคัญในการเล่าเรื่อง การโปรเจคที่องค์รวม หรือตัวบุคคลใดบุคคลนึง สามารถบอกเล่าความสำคัญ ความไม่สำคัญของสิ่งที่จะเล่าได้ดี แลพสำหรับคนสนใจได้จะศึกษาเรื่องนัยยะของแสงสำหรับแสดงความรู้สึกเป็น Case Study ด้วย



สี นี่เป็นหนึ่งในหนังที่สีมากพอ ๆ กับแสงในการเล่าเรื่อง โดนทั่วไปภาพยนต์จะใช้การย้อมสีเพื่อให้มีอารมณ์ความรู้สึกตามที่ผกก.ต้องการ ผิดกับเรื่องนี้ที่จะใช้สีจริงของวัตถุในการเล่าเรื่องแทนการย้อม ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า เครื่องประดับ อุปกรณ์ประกอบฉากต่าง ๆ กระทั่งแสงจากแจกัน หรือโคมไฟ เพื่อเป็นการไม่สปอยล์ ลองไปสังเกตุดูครับ จะมีอยู่ 2-3 สี ที่ใช้บอกอารมณ์ความรู้สึกตัวละคร จะแอบซ่อนอยู่ทั้งเรื่อง

เสียง ในฐานะที่เป็นหนังมิวสิคัล พระเอกก็ต้องเป็นเพลงอย่างแน่นอน ตรงส่วนนี้ผมไม่มีความรู้มากนัก มีหลายซีนที่ทำให้คิดถึงหนังอย่างวิปแลช แต่ในส่วนเพลงบรรเลงประกอบฉากนั้น ใส่ได้ถูกจังหวะจะโคน ช่วยส่งเสริมเนื้อหาของเรื่องให้เข้มข้น แต่เวลาต้องการการแสดงอารมณ์จากตัวนักแสดง เสียงก็เงียบจนน่าใจหาย มีซีนนึงที่เพลงใส่มาไม่ยั้ง พอบทจะเงียบ เงียบจนจับขั้วหัวใจเลย



องค์ประกอบฉาก หนังพาเราย้อนไปในยุค 1930-1940 แต่ผกก.ก็ล้ำลึกพอที่จะใส่ Meterial บางอย่างเพื่อให้รู้สึกร่วมสมัย และผิดยุคไปพร้อม ๆ กัน เช่น ไอโฟน ไอแพด รถยนต์รุ่นใหม่ ( มากกว่านี้ไปหาในหนังนะครับ ) ในขณะที่พระเอกใช้โทรศัพท์รุ่นเก่า รถเก่า และฟังเพลงเก่า ๆ ขนานกันไปอย่าลงตัว

การแสดง นี่เป็นหนึ่งในหนังที่รีดศักยภาพขั้นสุดของนักแสดงทั้งคู่ออกมาได้ สัดส่วนทั่งไปของพระนางทั่วไปจะประมาณ 45-55% แต่กับเรื่องนี้ ดูเหมือนแสงไฟจะส่องไปที่เอมมา สโตนมากกว่าเล็กน้อย แต่ทั้งคู่สามารถแสดงความสามารถที่รอบด้านออกมา ไม่ว่าจะเป็นการร้อง เล่นดนตรี การเต้น และสุด ๆ กับการแสดงของทั้งคู่ หากคุณชอบกอสลิงแบบเท่ ๆ จาก Drive เรื่องนี้กอสลิงให้คุณได้มากกว่า และหากคุณติดภาพสาววัยรุ่นของเอมมาจาก Easy A หรือ Zombieland เรื่องนี้เอมมาให้คุณได้มากกว่าเช่นกัน



ท้ายสุดแล้ว หนังเรื่องนี้ไม่ถึงกับไม่มีข้อเสียอะไร แต่เป็นอะไรที่น้อยมากสำหรับผม อาจจะมีช่วงแรก ๆ ที่เนือย ๆ จนหลุดจากหนังไปบ้าง แต่พอเข้าเรื่องแล้ว คุณจะได้รับความบันเทิงอย่างเต็มที่ ส่วนตัวผมไม่ชอบหนังเพลง แวบแรกก็ลุ้นว่าจะชอบไหม แต่เรื่องนี้ไม่ทำให้เบื่อนะครับ ส่วนคนที่ไม่เชี่ยวชาญภาษาอังกฤษอาจจะมีปัญหาเล็กน้อย เนื่องจากต้องก้มอ่านตลอดเวลา อาจจะพลาดอะไร ๆ ดี ๆ และการส่งอารมณ์ผ่านไอดาล็อคบ้างพอสมควร



เรื่องนี้น่าจะเป็น 1 ในหนังที่ดีที่สุดของปี 2016 ของผม หากใครอยากเสพงานดี ๆ ซึ่งอาจจะเป็น 1 ปรากฏการณ์บนเวทีรางวัลของปีนี้ (2017) เรื่องนี้ไม่ควรพลาดครับ

หากใครชอบ อ่านกระทู้เก่า ๆ ได้ใน Locker ครับ

เข้าร่วม: 22 Oct 2009
ตอบ: 2121
ที่อยู่: Rock Bottom, Loserville, Nothing Town
โพสเมื่อ: Tue Jan 03, 2017 1:26 pm
[RE: [รีวิวคุเม#5] La La Land นครดารา]
มาบอกว่าดีอีกเสียงครับ จากคนที่ไม่ชอบ musical เป็นทุนเดิม

แต่ฉาก musical กับการร่วมฉากของ stone กับ gosling นี่ทำยิ้มไม่หุบจริงๆ

0
0
เข้าร่วม: 25 Apr 2006
ตอบ: 1122
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Jan 03, 2017 3:46 pm
[RE][รีวิวคุเม#5] La La Land นครดารา
ชอบเหมือนกันครับ
0
0