เถ้าแก่ร้านขายแป้งรายหนึ่งในประเทศจีน แบกถุงพร้อมเหรียญนับแสนเพื่อไปซื้อรถที่โชว์รูม ส่งผลให้พนักงานต้องมานั่งตรวจนับเป็นเวลายาวนานกว่า 12 ชั่วโมงถึงแล้วเสร็จ

..:: วันที่ 24 พฤศจิกายน 2559 เว็บไซต์เมโทร รายงานข่าว ชาวจีนรายหนึ่งหอบเงินเหรียญแสนหยวนเพื่อมาซื้อรถ ส่งผลให้พนักงานต้องใช้เวลานับเป็นเวลายาวนานกว่า 12 ชั่วโมง

..:: เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่เมืองเจิ้งโจว มณฑลเหอหนาน ประเทศจีน โดยมีชายจีนแซ่กัวคนหนึ่ง ซึ่งทำธุรกิจขายแป้ง ได้ขับรถมายังโชว์รูมรถแห่งหนึ่งพร้อมกับครอบครัว เขาได้เเสดงความต้องการซื้อรถยนต์โตโยต้า พราโด้ ด้วยเงินสด ซึ่งก็ดูเหมือนจะไม่มีปัญหาอะไร จนกระทั่งเมื่อถึงเวลาจะต้องชำระเงิน



..:: ปรากฏว่าชาวจีนรายนี้แบกถุงพลาสติกกว่า 10 ถุง ซึ่งบรรจุด้วยเหรียญล้วน ๆ เป็นมูลค่ากว่าแสนหยวน มาเพื่อซื้อรถโดยเฉพาะ อย่างไรก็ดี เขาก็ได้นำธนบัตรมาจ่ายสมทบด้วย แต่แบงก์เหล่านั้นก็มีจำนวนเยอะเช่นกันเพราะเป็นเงิน 1 หยวนทั้งสิ้น

..:: จากเรื่องดังกล่าวส่งผลให้โชว์รูมต้องวุ่นวายเป็นการใหญ่ โดยต้องจัดพนักงานมากว่า 4 คน เพื่อมานั่งนับเหรียญเป็นการเฉพาะ และกว่าจะตรวจนับกันเสร็จก็ใช้เวลาไปกว่าครึ่งวัน หรือ 12 ชั่วโมงเลยทีเดียว





---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------








ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก Kapook



ติดตามข้อมูลข่าวสารที่น่าสนใจ (ย้อนหลัง) ได้ที่ Germanicas

ปวดตับเลยตรู

คนซื้อนี่จิตใจทำด้วยอะไร

นับกันสนุกเลย

คิดถึงสมัยเด็กๆเลย

หอบเงินเหรียญที่หยอดกระปุกสะสมไว้ไปซื้อรถกระป๋อง

พนักงานนอนหลับมีละเมอแน่นอน

ทุกวันนี้บางทีผมยังหอบเหรียญไปซื้อหนังสือการ์ตูนอยู่เลย

ทำไมข่าวทำนองนี้ออกมาบ่อยเหลือเกิน ทำไปเพราะความไม่รู้ หรือทำไปเพราะความสะใจ แต่ผมว่าอย่างหลังมากกว่า

คือถ้าบอกว่า ชาวบ้านชนบทมาซื้อรถ อันนี้ผมเชื่อว่าเพราะความไม่รู้ มันเคยเกิดเหตุการณ์นี้จริงๆ ชาวสวนหอบเงินมัดเส้นยางมาซื้อรถ ด้ำๆ เด๋อๆ นอกโชว์รูม เข้าไปคุยถึงรู้ว่ามาซื้อรถ เพราะแกไม่กล้าเข้าโชว์รูมเพราะโชว์รูมสะอาดเกินไป แต่ไม่ใช่หอบเหรียญมาแบบนี้

งานวัดใจ ระหว่างคนซื้อ กับคนขาย
ประมาณว่า ถ้าไม่นับกุไปซื้อร้านอื่นนะเออ

ที่อยากรู้คือไปเอาเงินเหรียญมาจากไหน จะเอาแบงค์ใหญ่ไปแลกเงินเหรียญมาจ่ายเหรอ ผมว่าก็ไม่น่าใช่ อาจจะเป็นเงินเก็บของเค้าจริงๆก็ได้
แล้วถ้าไปนับที่แบงค์ก็อาจเสียค่านับรึเปล่า นับเสร็จก็ต้องถือเงินที่แลกไปโชวรูมอีก สู้ไปที่เดียวเลยดีกว่าไหม

สรุปผมไม่รู้เลยว่าทำไมถึงถือเงินเหรียญไปจ่ายแต่คงมีเหตุผลนะ

เรื่องเก่า นำมาเล่าใหม่รึเปล่า

นับจนตาลาย

โชรูมไหนไม่อยากขายรถ สุดท้ายก้ได้กำไรอยู่ดี

เป็นวิธีโฆษณาหรือเปล่าครับ
คนซื้ออาจจะหวัฃได้เป็นข่าวแล้วเผื่อมีการพูดถึงโรงงานตัวเอง ได้โฆษณาแบบฟรีๆ

ให้ผมพูดตรงๆ ก็คือ แบบนี่เรียกว่าลูกค้ากวนตีนครับ สักแต่จะท่องคำว่า "ลูกค้าคือพระเจ้า" ไม่ขายกูก็ไปซื้อศูนย์อื่น เหตุผลที่ดีลเลอร์ต้องยอมลูกค้า เหตุผลหลักไม่ใช่เพราะยอดค้ำคอ แต่เพราะกลัวโดนลูกค้าร้องเรียน(ผิดถูกไม่รู้ บริษัทแม่ไม่สน) จะทำให้โดนตัดงบประมาณไปหลายอย่าง ทำให้เข้าเนื้อตัวเอง จำใจต้องขายครับ

สร้างงานสร้างอาชีพกันเลยทีเดียว

อยากรู้ว่า
สมมตนับไปแล้วยอดไม่ตรงกัน ......
เจ้าของเงินบอกเงินครบ 1 ล้าน
แต่คนนับๆ ขาดไป 300 จากล้านนี่ทำไง...นับใหม่มั้ย

มาไทยดิ เจอไม่ขายเพราะบ้านเรามี กฎหมายอยู่

เหรียญกษาปณ์เป็นเงินตราที่ชำระหนี้ได้ตามกฏหมายไม่เกินจำนวนที่กำหนดโดยกฏกระทรวง
ชนิด-ชนิดราคา จำนวนที่ชำระหนี้ได้คราวละ กฏกระทรวงที่กำหนด
ครึ่งสตางค์ , 1 สตางค์ ไม่เกิน 5 บาท ฉบับที่ 5 (พ.ศ.2506) ลว.3 ธ.ค.06
5,10,20,25,50 สตางค์ ไม่เกิน 10 บาท " "
1 บาท ไม่เกิน 500 บาท " "
2 บาท ไม่เกิน 500 บาท รก. เล่ม122 ตอน81 ก 15 ก.ย.48
5 บาท ทองขาว ไม่เกิน 1,000 บาท ฉบับที่ 15 (พ.ศ.2506) ลว.3 ธ.ค.06
10 บาท ทุกชนิด ไม่เกิน 1,000 บาท ฉบับที่ 100(พ.ศ.2533) ลว.29 พ.ย.33


http://www.royalthaimint.net/index.php?option=com_content&view=article&id=96%3Aset-amount-for-coin